เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2484: พบผู้พิทักษ์
ตอนที่ 2484: พบผู้พิทักษ์
“นี่คือที่ซึ่งข้าอาศัยอยู่ หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้าไม่มีใครสามารถเข้ามาที่นี่ได้รวมถึงสาวใช้ส่วนตัวของข้าและแม้แต่พ่อและบรรพชนของข้า ด้วยเหตุนี้เจ้าจึงไม่ต้องกังวลเลย จะไม่มีใครรู้ว่าเจ้าเป็นใคร” ตงหลินหยานเซว่กล่าวกับเจี้ยนเฉิน แก้มของนางแดงเล็กน้อยเพราะดูไม่เป็นธรรมชาติ
นี่คือห้องส่วนตัวของนาง ตอนนี้นางปล่อยให้ผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปในห้องของนาง นางรู้สึกว่าใบหน้าของนางร้อนมาก
ตงหลินหยานเซว่หยุดสักพักดูเหมือนว่าจะกลัวว่าเจี้ยนเฉินจะเข้าใจผิด นางยังกลัวว่านางอาจทำตัวเหมือนเชื้อเชิญผู้ชายเข้ามา ด้วยเหตุนี้นางจึงอธิบายว่า”พ่อและบรรพชนของข้าสามารถเข้ามาได้จนถึงเรือนด้านนอกเท่านั้น มันเลยไม่ค่อยปลอดภัยนัก”
เจี้ยนเฉินมองไปที่ตงหลินหยานเซว่อย่างลึกซึ้งและพูดติดตลก “และข้าคิดว่าหลังจากที่เจ้ากลายเป็นกระบี่ผู้พิทักษ์แล้ว คุณหนูหยานเซว่อาจจะไม่ใช่คุณหนูหยานเซว่ที่ข้าเคยรู้จัก แต่ดูเหมือนว่าความกังวลของข้าจะไม่จำเป็น”
“ข้าเป็นเพียงกระบี่ผู้พิทักษ์ พลังทั้งหมดของข้ามาจากกระบี่ผู้พิทักษ์ ถ้าข้าทำกระบี่ผู้พิทักษ์หายไปสักวัน ข้าจะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาที่อ่อนแอ ไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจ” ตงหลินหยานเซว่กล่าวช้า ๆ นางได้คิดทุกอย่างเป็นอย่างดี นางไม่เชื่อว่านางได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงของโลกเซียนเพียงเพราะนางเป็นกระบี่ผู้พิทักษ์
นางเข้าใจว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ของของนาง
“เจี้ยนเฉิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้างเร็ว ๆ นี้ ? ข้าได้ยินว่าเจ้าทำลายองค์กรชั้นสูงบนที่ราบวารี” ตงหลินหยานเซว่กล่าว ทั้งสองคนนั่งอยู่รอบ ๆ โต๊ะหยกในขณะที่นางรินชาให้กับเจี้ยนเฉินเป็นการส่วนตัว
เจี้ยนเฉินพยักหน้า เขาพูดถึงเรื่องทั้งหมดอย่างคร่าว ๆ และไม่ได้เจาะลึกนัก หลังจากนั้นเขาก็ถามตงหลินหยานเซว่เกี่ยวกับกระบี่ผู้พิทักษ์
“หลังจากที่เจ้าจากไป จิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงได้ตื่นขึ้น กระบี่ผู้พิทักษ์ล้วนมาจากจิตวิญญาณวัตถุนั้น…..” ตงหลินหยานเซว่ไม่ปิดบังอะไร นางบอกเจี้ยนเฉินทุกอย่างที่นางรู้ราวถึงกระบี่ผู้พิทักษ์
มีแสงวาบผ่านดวงตาของเจี้ยนเฉินหลังจากเรียนรู้ว่าผู้ครอบครองคนอื่นเป็นใคร เขาก็เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้คือการเตรียมการของจิตวิญญาณวัตถุ
จิตวิญญาณวัตถุไม่ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ ทุกคนที่เขามีความสัมพันธ์หรือเคยช่วยเขาในโถงเซียนธาตุแสงได้กลายเป็นกระบี่ผู้พิทักษ์แล้ว
เจี้ยนเฉินได้กล่าวถึงไป๋หยูและหานซินเป็นพิเศษ ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจเกี่ยวกับการที่พวกเขาได้ครอบครองกระบี่ผู้พิทักษ์ เจี้ยนเฉินมีสัมพันธ์กับซวนหมิงเช่นกัน ในขณะที่ได้รับความเมตตาจากซวนจ้าน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าถ้าไม่ใช้เพราะซวนจ้าน เขาจะไม่สามารถเข้าสู่โลกดวงจันทร์และดวงดาวหรือหอคอยธาตุแสงได้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่แปลกใจที่ซวนหมิงและซวนจ้านจะได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์ สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือกงซุนอี้
กงซุนอี้เป็นหลานของจอมปราชญ์สูงสุด และหลังจากที่เจี้ยนเฉินได้รับวิธีการบ่มเพาะวิถีของเซียนจอมปราชญ์ไป พวกเขาก็กลายเป็นศัตรูอย่างแท้จริง กงซุนอี้ได้เพิ่มความเกลียดชังต่อหน้าเขาอย่างมากในหอคอยธาตุแสง
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณวัตถุได้ทำให้กงซุนอี้กลายเป็นกระบี่ผู้พิทักษ์ และมันก็ยังให้กระบี่แข็งแกร่งที่สุดจากทั้งเก้าให้กับเขา นั่นคือกระบี่ของสังหารเทพ
เจี้ยนเฉินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องนี้
“จิตวิญญาณวัตถุยังคงถูกผูกมัดโดยจิตสำนึกที่หลงเหลืออยู่ของหอคอยธาตุแสงงั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินคิด มีแสงวาบผ่านดวงตาของเขา ขณะที่เขาถามตงหลินหยานเซว่ว่า “จิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงอยู่ที่ไหน ? ”
“นับตั้งแต่ที่เขามอบกระบี่ผู้พิทักษ์ ท่านจิตวิญญาณวัตถุก็ไม่ปรากฏอีกเลย” ตงหลินหยานเซว่กล่าว
เจี้ยนเฉินจมลงในความเงียบ เขาคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถาม “เยว่ฉา เชื้อสายนักรบวิญญาณได้ต่อสู้กับกระบี่ผู้พิทักษ์และได้รับบาดเจ็บหนักในโถงเซียนธาตุแสง เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนทำ ? ”
ตงหลินหยานเซว่จ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความขมขื่นเล็กน้อยและถามว่า “จุดประสงค์ของเจ้าในการมาหาคือต้องการหาคนทั้งสองที่ทำร้ายเขาใช่หรือไม่ ? ”
เจี้ยนเฉินพยักหน้า เขาไม่ได้ปกปิดมัน
ตงหลินหยานเซว่ลอบถอนใจเบา ๆ ในใจ อย่างไรก็ตามนางเข้าใจว่านางเป็นส่วนหนึ่งของโถงเซียนธาตุแสง ในขณะที่เจี้ยนเฉินเป็นเชื้อสายวิญญาณนักรบ ทั้งสององค์กรไม่ค่อยถูกกัน ดังนั้นมันจึงมีช่องว่างระหว่างนางกับเจี้ยนเฉินเสมอ
“คนที่ต่อสู้คนแรกคือกงซุนอี้ กงซุนอี้ไม่อาจกำจัดเชื้อสายนักรบวิญญาณได้ ดังนั้นซวนหมิงจึงลงมือเช่นกัน” ตงหลินหยานเซว่กล่าว
เจี้ยนเฉินรู้สึกโล่งใจ ในความเป็นจริงสิ่งที่เขากัวลจริง ๆ คือคนที่ทำให้เยว่ฉาบาดเจ็บคือตงหลินหยานเซว่หรือหานซิน
ตอนนี้เขาได้รู้ว่ามันเป็นซวนหมิงและกงซุนอี้ ทำให้เขารู้สึกโล่งใจไม่น้อย
“แล้วหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงล่ะ ? เขาไม่ได้ร่วมต่อสู้หรือ ? ” เจี้ยนเฉินถาม
“หัวหน้าสังเกตจากระยะไกลและไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม ในความเป็นจริงไม่ใช่แค่หัวหน้าเท่านั้น รองหัวหน้าซวนจ้านก็ไม่ได้ทำอะไร รองผู้นำซวนจ้านยังเป็นกระบี่ผู้พิทักษ์ แม้ว่ากระบี่ผู้พิทักษ์ของเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับสูงมาก แต่ความแข็งแกร่งส่วนตัวของเขาก็ยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ดังนั้นเขาขึงสามารถปลดปล่อยพลังจากกระบี่ผู้พิทักษ์ได้มากขึ้น หากรองผู้นำซวนจ้านเข้าร่วม เชื้อสายนักรบวิญญาณคนนั้นก็ไม่อาจหลบหนีได้” ตงหลินหยานเซว่กล่าว จากนั้นนางก็พยายามเกลี้ยกล่อมเจี้ยนเฉิน “เจี้ยนเฉิน เชื้อสายนักรบวิญญาณของเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโถงเซียนธาตุแสงอีกต่อไปแล้ว จะเป็นการดีที่สุดหากเจ้าบอกเหล่าเชื้อสายนักรบวิญญาณไม่ให้มายั่วยุโถงเซียนธาตุแสงอีกต่อไป จงอยู่ภายในภูเขาวิญญาณนักรบ ด้วยการที่มีภูเขาวิญญาณนักรบ โถงเซียนธาตุแสงก็ไม่อาจสังหารพวกเขาได้ แม้จะใช้กระบี่ผู้พิทักษ์ก็ตาม”
“อยู่แค่ในภูเขาวิญญาณนักรบ ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่ทำตาม เจ้าจะตามล่าเชื้อสายนักรบวิญญาณไปทั่วโลกเซียนเลยงั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ตงหลินหยานเซว่
ตงหลินหยานเซว่ส่ายหน้า “ไป๋หยู, หานซินและข้าได้ตกลงกันแล้ว ตราบใดที่เจ้าอยู่บนภูเขาวิญญาณนักรบ ตราบใดที่เจ้ายังคงเป็นส่วนหนึ่งของเชื้อสายนักรบวิญญาณ พวกเราทั้งสามคนจะไม่ค้นหาเจ้าอย่างเต็มใจ เราจะอยู่แค่บนที่ราบรกร้างและปกป้องโถงเซียนธาตุแสง แน่นอนว่าข้าไม่รู้ว่าอีกสามคนกำลังคิดอะไรอยู่”
“จะเกิดอะไรขึ้นหากหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงสั่งให้เจ้าโจมตีภูเขาวิญญาณนักรบ ? ” เจี้ยนเฉินถาม
“หลังจากที่เรากลายเป็นกระบี่ผู้พิทักษ์ เราก็กลายเป็นผู้พิทักษ์โถงเซียนธาตุแสง สถานะของเราสูงสุด หัวหน้าไม่อาจสั่งให้เราไปไหนมาไหนได้ ความรับผิดชอบในตอนนี้ของเราคือการปกป้องโถงเซียนธาตุแสง” ตงหลินหยานเซว่กล่าว
เจี้ยนเฉินเงียบหลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “ตงหลินหยานเซว่ เจ้าช่วยข้าได้หรือไม่ ? เจ้าบอกไป๋หยู, หานซินและซวนหมิงได้หรือไม่ ? ข้าอยากเจอพวกเขา”
…
ในเวลาเดียวกันชายกลางคนที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นกำลังอ่านหนังสืออย่างสนใจ เนื้อหาของมันคือเรื่องของตระกูลตงหลิน
ชายกลางคนนี้เป็นผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลตงหลิน และยังเป็นบิดาของตงหลินหยานเซว่ ตงหลินหาน
“ผู้นำ ฉินหานมีเรื่องบางอย่างจะรายงาน ! ” ในตอนนี้ฉินหาน สาวใช้ส่วนตัวของตงหลินหยานเซว่ได้ยืนอยู่ด้านนอก
ตงหลินหานวางหนังสือของเขาลงและให้ฉินหานเข้ามา
เขารู้ว่าทุกสิ่งที่ฉินหานรายงานจะเกี่ยวข้องกับลูกสาวที่น่าภูมิใจของเขา ตราบใดที่มันเกี่ยวข้องกับตงหลินหยานเซว่ เขาจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับมันอย่างจริงจัง
ฉินหานรีบเข้ามา นางดูกังวลและเครียดเล็กน้อย ทันทีที่นางเห็นตงหลินหาน นางก็พูดอย่างรีบร้อน “ผู้นำ ข้ามีข่าวร้าย คุณหนูได้พาผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปในห้องของนางด้วยตัวเอง ด้วยตัวตนและหน้าตาในตอนนี้ของคุณหนู หากเรื่องนี้เปิดเผยออกมา….”
“ห๊ะ ! ” ดวงตาของตงหลินหานเบิกกว้าง เขากระทืบเท้าด้วยความโกรธ “เกิดขึ้นได้อย่างไร ? หยานเซว่ประมาทเกินไป ปิดข้อมูลทันทีและป้องกันอย่างให้เรื่องมันปูดออกมา ข้าจะไปด้วยตัวเอง” ตงหลินหานโกรธและพูดไม่ออก ตัวตนของตงหลินหยานเซว่เหนือว่าอดีตอย่างมากในตอนนี้ ผู้ชายทุกคนโดยไม่ต้องคำนึงถึงตัวตนหรือภูมิหลัง เรื่องนี้จะทำให้ชื่อของตงหลินหยานเซว่ต้องแปดเปื้อนหากมันถูกเปิดเผยออกมา
ในฐานะพ่อของตงหลินหยานเซว่ ตงหลินหานไม่อาจยอมให้มันเกิดขึ้นได้