เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 25 : สอนพี่ใหญ่
Chaotic Sword God ตอนที่ 25 สอนพี่ใหญ่
ชั่วพริบตา สามวันก็ผ่านไป ตั้งแต่การต่อสู้ระหว่างกาดิหยุนและเจี้ยนเฉินเกิดขึ้น ทุกคนในสำนักคากัตต่างรู้ดีถึงชื่อของเขา เจียงหยางเซียงเทียน ตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะเดินไปไหนโดยไม่ได้ยินชื่อของเขาได้
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เจี้ยนเฉินใช้เวลาทุกเช้าในการสอนพี่ใหญ่ของเขาเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ในถ้ำ นอกจากนั้น เขาใช้เวลาที่เหลือของเขาหมดไปการบ่มเพาะพลัง แกนอสูรระดับสามส่งผลอย่างมากต่ออัตราการบ่มเพาะพลังของเขา เขาต้องการที่จะขึ้นไปถึงระดับสิบอย่างรวดเร็ว และเมื่อนั้นเขาจะได้ตัดผ่านไปยังระดับเซียน
เจี้ยนเฉินรู้สึกสงสัยมากเกี่ยวกับการหลอมรวมอาวุธเซียน แต่คำอธิบายจากหนังสือกล่าวว่า เมื่อเขามีพลังเซียนมากพอ ในช่วงเวลานั้น อาวุธเซียนจะถือกำเนิดขึ้น ในขณะที่มันยังคงอยู่ในร่างกายจนกว่ามันจะมีการเรียกใช้ อาวุธเซียนจะกลายเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งมาก ด้วยการใช้อาวุธเซียน การโจมตีก็จะรุนแรงขึ้นทวีคูณ
อาวุธเซียนก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง ถ้ามันแตกสลาย คนผู้นั้นจะสูญเสียการบ่มเพาะพลังของพวกเขาทั้งหมด ขณะเดียวกันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย ถ้ามันถูกทำลายมากพอ นั่นก็อาจทำให้ถึงตายได้ แต่อย่างไรก็ตาม อาวุธเซียนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มันจะไม่แตกหักอย่างง่ายดายนัก เว้นแต่ฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขาเป็นอย่างมาก
เช้าวันรุ่งขึ้นเจี้ยนเฉินลืมตาขึ้นมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการบ่มเพาะพลังเมื่อคืน หลังจากสามวันของการบ่มเพาะพลังเซียน เจี้ยนเฉินเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเขาคาดการณ์ว่า ในเมื่อเขาผ่านไปถึงขั้น 9 ได้ เขาคิดว่าในการทดสอบพลังเซียนที่จะมาถึงนั้น ไม่แน่ว่าเขาอาจจะก้าวขึ้นไปถึงระดับ 10 หรือ ระดับเซียนได้
เจี้ยนเฉินลุกขึ้นจากเตียงของเขา เขาสวมเครื่องแบบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมุ่งหน้าออกจากหอพักของเขา ท้องฟ้ายังคงมืดและนักเรียนส่วนใหญ่ก็ยังคงบ่มเพาะพลังหรือนอนหลับอยู่ สนามกีฬาค่อนข้างเงียบสงบเนื่องจากไม่มีคนอยู่ภายในนั้น เพียงแค่มองไกล ๆ เจี้ยนเฉินเห็นผู้ฝึกฝนอยู่ที่นั่นเพียงไม่กี่คน
ผ่านสนาม เจี้ยนเฉินมุ่งหน้าไปยังถ้ำทันที ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เจี้ยนเฉินจะใช้เวลาทุกเช้าจะสอนพี่ชายของเขาเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม ในโลกของเขาก่อนหน้านั้น เจี้ยนเฉินเป็นคนพเนจรและเป็นผู้เชี่ยวชาญในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์การต่อสู้อย่างนับไม่ถ้วน ประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขาไปไกลเกินกว่าอาจารย์ของสำนักนี้เสียแล้ว หากเปรียบเทียบจริง เจี้ยนเฉินมีคุณสมบัติที่จะไปสอนบรรดาอาจารย์ในสำนักคากัตได้เสียด้วยซ้ำ
เมื่อเจี้ยนเฉินมาถึงที่ถ้ำเขาพบว่าพี่ชายของเขา เจียงหยางหู่ ได้รออยู่ก่อนแล้ว และขณะกำลังนั่งอยู่บนตอไม้ เขาดูไร้จุดหมาย ในขณะที่เขากวาดสายตาไปรอบสภาพแวดล้อมของเขาด้วยความเบื่อหน่าย หลังจากเจี้ยนเฉินปรากฏตัวขึ้นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทันใดนั้นเขากระโดดขึ้นจากตอต้นไม้และลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น เขากล่าวอย่างมีความสุขว่า น้องสี่ ในที่สุดเจ้าก็มา
เจี้ยนเฉินยิ้ม พี่ใหญ่ ทำไมพี่ถึงได้มาเร็วนัก?
เฮ้ เฮ้ มันเป็นนิสัย แค่เพียงนิสัย น้องสี่ เริ่มในตอนนี้เลย ข้าใช้เวลาทั้งวัน เมื่อวานนี้พยายามที่รวบรวมความคิด นึกถึงพลังงานที่เจ้าได้กล่าวถึงในตอนเช้าของเมื่อวาน แต่ข้าก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าใจมัน อธิบายรายละเอียดซ้ำให้พี่ชายของเจ้าฟังอีกครั้งได้หรือไม่ ? ” เจียงหยางหู่ถามขึ้นมาด้วยท่าทางเขินอาย
แน่นอน ข้าสามารถ เจี้ยนเฉินยิ้มและตอบว่า พี่ใหญ่ ข้าจะบอกท่านในวันพรุ่งนี้ แต่ในวันนี้ข้าเองจะสาธิตให้ท่านดู หลังจากพูดเช่นนี้ เจี้ยนเฉินหยิบกิ่งไม้ที่อยู่ข้างขาของเขา
พี่ใหญ่ ตั้งใจดูให้ดี จบคำพูดนี้ เจี้ยนเฉินเอากิ่งไม้ที่เบาและตวัดมันเบา ๆ ไปทางต้นไม้เล็ก ๆ ด้วยข้อมือนั้น เมื่อกิ่งไม้เล็กนั้นตัดผ่านต้นไม้เล็ก ๆ มันทะลุผ่านไปราวกับไม่มีอะไรขวางกั้น มันดูเกือบจะเหมือนว่าต้นไม้ขนาดเล็กนั้น แต่เดิมเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
ขณะที่จ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาแปลกใจ เจียงหยางหู่เริ่มที่จะมีข้อสงสัยอย่างใหญ่หลวง ในขณะที่ส่งเสียงพึมพำ ก็ได้ยินเสียงจากต้นไม้ขนาดเล็กนั้นเริ่มต้นที่จะแยกออกเป็นครึ่งหนึ่ง ขาดกลางตั้งแต่ด้านบนลงมา
เจียงหยางหู่เบิกตาของเขากว้างและรีบวิ่งไปทางต้นไม้นั้นทันที เห็นรอยตัดที่เรียบลื่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่ามันถูกฟันด้วยกระบี่ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อย่างแท้จริง มันช่างเหลือเชื่ออย่างแท้จริง ตั้งแต่การตัดต้นไม้อย่างราบรื่นนี้โดยใช้เพียงกิ่งไม้เล็ก ๆ เพียงแค่นั้นก็ตัดผ่านต้นไม้เล็ก ๆ นี้ได้
ทันใดนั้น ตาของเจียงหยางหู่เปลี่ยนไปมองกิ่งไม้ในมือเจี้ยนเฉิน เขาวิ่งไปหยิบมัน เอามันไปอยู่ในมือของเขาก่อนจะมองมันไปรอบ ๆ แต่นั่นไม่สำคัญ เมื่อเขาก็เห็นว่ามันเป็นเพียงแค่กิ่งไม้ธรรมดาเท่านั้น ในขณะที่เขากวัดแกว่งมันเบา ๆ ไปที่ต้นไม้เพียงด้วยมือของเขา
เมื่อเห็นเช่นนี้ ความสงสัยยิ่งเพิ่มมากขึ้น เขาไม่เข้าใจวิธีการดังกล่าว การที่กิ่งไม้เล็ก ๆ จะสามารถตัดต้นไม้ที่มีกิ่งก้านเท่าข้อมือของเขาลงได้ เขาออกแรงเพิ่มขึ้นและกิ่งไม้นั้นก็หักครึ่ง
น้องสี่ เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร กิ่งไม้ที่อ่อนแอนี้สามารถตัดต้นไม้ขนาดเล็กลงได้อย่างไรกัน? เจียงหยางหู่ถามออกมา ความสงสัยอยู่บนใบหน้าของเขาจนเต็มไปหมด
เจี้ยนเฉินหัวเราะ พี่ใหญ่ เพียงแค่ใช้พลังเซียนก็สามารถทำเช่นนี้ได้ อย่าได้กล่าวเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นเข็มหรือด้ายเย็บผ้า พวกมันทั้งสองก็สามารถตัดผ่านต้นไม้ได้อย่างง่ายดาย แน่นอนความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้าไม่มากพอที่จะทำอย่างนั้น.
อะไรคือ เข็มหรือด้ายเย็บผ้าก็สามารถตัดผ่านต้นไม้ได้? น้องสี่ เจ้ามีไข้หรือไม่? นี่มันไม่สามารถเป็นไปได้ เจียงหยางหู่ร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาไม่สามารถเชื่อในสิ่งที่เจี้ยนเฉินกล่าวได้ นับตั้งแต่เขาเกิดมา เขาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน นี่มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ
เจี้ยนเฉินยิ้มตั้งแต่เจียงหยางหู่ระเบิดคำพูดของเขาออกมา ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เขาไม่ได้คาดหวังปฏิกิริยาที่ต่างไปจากนี้ แต่เจี้ยนเฉินไม่ได้รำคาญที่จะอธิบาย เมื่ออธิบายผ่านไปกว่าค่อนวัน เจียงหยางหู่ก็เริ่มที่จะเข้าใจ
เจี้ยนเฉินหยิบกิ่งไม้อีกอันขึ้นมาจากพื้นดินและกล่าวว่า พี่ใหญ่ ท่านยังคงสงสัยว่า ข้าสามารถใช้กิ่งไม้ตัดผ่านต้นไม้ได้จริงหรือ? ลองดูอีกครั้ง ข้าจะสาธิตให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง
เจียงหยางหู่เงียบไปในขณะที่เขาให้ความสนใจไปยังกิ่งไม้ในมือเจี้ยนเฉิน เขาไม่กล้าที่จะฟุ้งซ่านตอนนี้ เพราะเพียงแค่นั้น มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาพลาดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปได้
โบกกิ่งไม้ในมือของเขา ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายอีกครั้งก่อนกิ่งไม้นั่นจะเปลี่ยนรูปทรงไป ทำให้กิ่งไม้นั้นโค้งงอตัวค่อยจะค่อย ๆ ยืดตรง มันบิดงอราวกับมันมีชีวิตขึ้นมา การเคลื่อนไหวของมันคล้ายกับงู มันลอยไปในอากาศอย่างช้า ผู้ที่มองเห็นเท่านั้นที่จะสามารถจะอธิบายได้ว่ามันแปลกประหลาด
ตาของเจียงหยางหู่เบิกกว้างขึ้น จากฉากที่แปลกประหลาดตรงหน้า ในขณะนี้เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้เห็น ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับเห็นผี เขาไม่อยากจะเชื่อเลย มันเป็นเพียงกิ่งไม้และไม่คาดคิดว่ามันจะเคลื่อนที่ไปได้ด้วยตัวของมันเอง
ตาของเจี้ยนเฉินเริ่มที่จะเปล่งประกายที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในขณะที่เขาร้อง พี่ใหญ่ ดูให้ดี เจี้ยนเฉินคว้ากิ่งไม้นั้นได้อย่างสมบูรณ์ก่อนจะเดินตรงไปยังต้นไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
การเคลื่อนไหวของเขาไม่ได้รวดเร็วนัก ในความเป็นจริงเรียกได้ว่ามันช้ามาก เคลื่อนไปยังต้นไม้ทีละน้อย เขาสัมผัสกับต้นไม้ กิ่งไม้ซึมผ่านเข้าไปในต้นไม้อย่างช้า ๆ จนกระทั่งมันเสียบลึกผ่านทะลุต้นไม้ไป
เจียงหยางหู่ได้แต่ตกตะลึง ในความเงียบ ขณะที่เขามองไปยังต้นไม้ที่ทะลุผ่าน เขาอ้าปากกว้างชนิดที่ว่าพอจจะยัดไข่ไก่เข้าปากได้เลยทีเดียว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยท่าทีเหลือเชื่อ
น้องสี่ เจ้าทำเช่นนั้นได้อย่างไร? เจียงหยางหู่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แม้หัวใจของเขาจะเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรงขณะที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปยังต้นไม้
ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ เจี้ยนเฉินตอบว่า พี่ใหญ่ ความจริงแล้วมันไม่ได้ยากที่จะทำเช่นนี้ ตราบใดที่ท่านผสานพลังเซียนของท่านกับกิ่งไม้แล้ว แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่กิ่งไม้ปกติมันก็สามารถเป็นอาวุธที่คมได้ ถ้าหากเราแข็งแกร่งมากพอ กิ่งไม้นั้นก็สามารถตัดผ่านอย่างง่ายดายราวกับใช้กระบี่เหล็ก
ผสานพลังเซียนและกิ่งไม้ … ” คิ้วของเจียงหยางหู่ขมวดเข้าหากัน ท่ามกลางความสนใจนั้น เขาพึมพำ ทันทีที่เขาคว้ากิ่งไม้บนพื้นและทำตามคำแนะนำของเจี้ยนเฉิน เริ่มที่จะผสานพลังเซียนลงบนกิ่งไม้
ปัง
ในเวลานี้เอง ขณะที่พลังเซียนสัมผัสกับกิ่งไม้ กิ่งไม้นั้นก็ระเบิดออกและแตกออกเป็นชิ้น ๆ กลางอากาศ
พี่ใหญ่ พลังเซียนของท่านรุนแรงมากเกินไป ดังนั้นกิ่งไม้ที่เปราะบางจึงไม่สามารถทนทานได้ นอกจากนี้ท่านยังไม่เชี่ยวชาญในการควบคุมพลังเซียนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โปรดจำไว้ว่า เมื่อท่านผสานพลังเซียนเข้าไปในต้นไม้ ท่านจะต้องเปลี่ยนพลังเซียนให้กลายเป็นพลังงานที่ไม่รุนแรง เจี้ยนเฉินเอ่ยสอน
ได้ยินเช่นนั้น เจียงหยางหู่เต็มไปด้วยปริศนา น้องสี่ มีวิธีอะไรที่สามารถเปลี่ยนพลังเซียนให้กลายเป็นพลังที่อ่อนหยุ่น?
การเปลี่ยนพลังเซียนเป็นพลังงานอ่อนหยุ่น ก็เพียงแค่หนทางต่าง ๆ ที่ใช้มัน พยายามที่จะอธิบายความลึกลับนี้ ต่อไปมันก็ไร้ประโยชน์ ท่านจะเข้าใจด้วยตัวของท่านเอง พี่ใหญ่ เริ่มต้นจากวันนี้ เมื่อใดก็ตามที่พี่มีเวลาว่างลองผสานกิ่งไม้ด้วยพลังเซียนของพี่ วิธีนี้จะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับพลังเซียน ในอนาคต หากพี่สามารถเข้าถึงระดับที่ข้าแสดงให้พี่เห็นในวันนี้ได้ มันจะเป็นประโยชน์มากต่อการบ่มเพาะพลังของพี่ เจี้ยนเฉินอธิบายราวกับว่าเขาเป็นอาจารย์ที่กำลังสอนลูกศิษย์ของเขา
อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินรู้ว่าถ้าเจียงหยางหู่ต้องการที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาได้แสดงให้เห็น เพียงแค่พยายามที่จะทำให้กิ่งไม้ที่อ่อนแอนั้นแข็งแกร่งพอที่จะทะลุต้นไม้เล็ก ๆ มันชี้ชัดว่าย่อมไม่อาจสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น นี่คือความลึกลับของพลังเซียน และหากปราศจากการฝึกฝนที่เพียงพอ เจียงหยางหู่ไม่มีทางที่จะสามารถผสานทั้งสองเข้าด้วยกันได้ การที่จะเปลี่ยนกิ่งไม้ธรรมดาให้กลายเป็นกระบี่เหล็กนั้นมันไม่ง่ายเลย การผสานพลังเซียนกับกระบี่เหล็กมันจะง่ายกว่า ขณะที่กระบี่เหล็กจะสามารถรองรับพลังเซียนได้มากกว่า ในขณะที่กิ่งไม้นั้นไม่ และมันต้องอาศัยการควบคุมพลังให้กลายเป็นอ่อนหยุ่น
เจียงหยางหู่พยักหน้าและหลังการทำสมาธิ บางครั้งก็หยิบกิ่งไม้ขึ้นเพื่อลองอีกครั้ง อย่างไรก็ตามโดยไม่มีข้อยกเว้น ทุกครั้งที่เขาได้พยายามมันจะกลับกลายเป็นความล้มเหลว เขาไม่ประสบความสำเร็จแม้แต่ครั้งเดียว จนที่สุดแล้วเขาก็ยังไม่สามารถผสานพลังลงไปในกิ่งไม้ได้ ทุกครั้งที่ถ่ายเทพลังลงบนกิ่งไม้นั้น มันจะระเบิด ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทนแรงพลังเซียนของเขาได้
เจี้ยนเฉินยืนอยู่บริเวณด้านข้างและเฝ้าดูการฝึกฝนของเจียงหยางหู่ และในเวลาเดียวกันเขาก็ยังคงที่จะสอนพี่ชายของเขาเป็นระยะ ตลอดจนกระทั่งดวงอาทิตย์ขึ้นมาเหนือกว่าพวกเขา เจี้ยนเฉินก็เพียงแค่เดินออกมา โดยมีเพียงเจียงหยางหู่คนเดียว ในขณะที่เขายังคงพยายามที่โดยไม่หยุด ถัดจากเขาแล้วบนพื้นดินก็มีกองกิ่งไม้ที่หักอยู่จำนวนมาก