เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2522 - การจัดระเบียบตระกูล (2) - novel-lucky

ตอนที่ 2522 – การจัดระเบียบตระกูล (2)

คำสั่งของเจี้ยนเฉินทำให้ฝูงชนส่งเสียงฮือฮาทันที สมาชิกระดับสูงทั้งหมดของตระกูลตกตะลึงและขั้นอสงไขยต่างก็มองหน้ากันราวกับว่าพวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าเจี้ยนเฉินจะโหดเหี้ยมขนาดนี้กับผู้พิทักษ์ทั้งสามที่ไม่ได้มา

อย่าลืมว่า พวกเขาไม่ใช่ผู้พิทักษ์ชาน ผู้พิทักษ์ชานได้ทำเกินเหตุในห้องโถง ดังนั้นการขับไล่เขาออกจากตระกูลจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

อย่างไรก็ตามผู้พิทักษ์ทั้งสามถูกไล่ออกเพราะพวกเขาไม่มาประชุม ขั้นอสงไขยไร้ค่างั้นหรือ ?

ในขณะนั้น โดยพื้นฐานแล้วทุกคนในปัจจุบันมีความคิดเช่นนั้น

อย่าลืมว่าพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นไม่ใช่ ระดับเหนือเทพหรือราชาเทพ

ในองค์กรขนาดใหญ่หลายแห่ง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นจะได้รับการเคารพในฐานะบรรพชน องค์กรจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเติมเต็มสิ่งที่พวกเขาต้องการ โดยเกรงว่าจะทำให้พวกเขาไม่พอใจ ไม่มีใครเหมือนเจี้ยนเฉินที่จะมองข้ามพวกเขาโดยตรงกับพวกเขาไม่สำคัญ

อย่าลืมว่ามีขั้นอสงไขยมากมายในตระกูลเทียนหยวนในปัจจุบัน ทุกคนมีสถานะที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งโดยไม่ต้องพูดเกินจริง

“ซีหยู เฮยหยารีบไปที่บ้านของพวกเขาพร้อมกับคนสักสองสามคนและขอให้พวกเขาออกจากตระกูลเทียนหยวน” เจี้ยนเฉินกล่าวอย่างเย็นชาและหนักแน่น เขาไม่เหลือที่ว่างสำหรับการต่อรอง

“จะ – ผู้นำ ระ-เราไม่ควรทำเช่นนั้น พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นและสองคนอยู่ที่ชั้นสวรรค์ที่ 5” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นในห้องโถงลุกขึ้นและร้องขอความเมตตา

เดิมทีเขาต้องการเรียกเจี้ยนเฉินด้วยชื่อของเขา แต่ทันทีที่เขาคิดถึงความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉินได้แสดงออกมาเมื่อเขาได้ทำให้ผู้พิทักษ์ชานได้รับบาดเจ็บ เขาจึงเปลี่ยนคำพูด

“พวกเขาเป็นขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 แล้วยังไงล่ะ ? พวกเขาใช้ทรัพยากรของตระกูลเทียนหยวนของเรา แต่พวกเขาก็ไม่สนใจกฎ นับประสาอะไรกับขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 แม้แต่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อไปหากเป็นเช่นนั้น” เจี้ยนเฉินกล่าวอย่างเย็นชา เขาได้โอบล้อมตระกูลเทียนหยวนด้วยการรับรู้ของจิตวิญญาณของเขา ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าทั้งสามคนไม่ได้บ่มเพาะ

ไม่มีเหตุผลที่เขาจะเก็บคนที่รู้ว่าขี้เกียจเอาไว้

ซีหยูและเฮยหยาออกจากห้องโถงพร้อมกับราชาเทพกว่าสิบคนและไปยังที่ที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งสามอาศัยอยู่

ได้ชัดว่า ราชาเทพนั้นไร้ประโยชน์ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น แต่พวกเขาเป็นสมาชิกระดับสูงของโถงคุมวินัยของตระกูล พวกเขารับผิดชอบในการรักษากฎ ดังนั้นจึงเหมาะสมสำหรับพวกเขาที่จะจัดการกับเรื่องนี้

ในไม่ช้าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งสามก็ถูกเรียกออกมา และเมื่อพวกเขารู้ว่าพวกเขาถูกขับออกจากตระกูลโดยผู้นำ พวกเขาก็โกรธแค้น

“อะไร ? เจี้ยนเฉินกำลังขับไล่พวกเราออกจากตระกูลเทียนหยวน ? แค่เขา ? ฮึ่ม เราคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น เรามารับใช้นายน้อยหมิง เจี้ยนเฉินคิดว่าเขาเป็นใคร ? เขามีสิทธิอะไรที่จะขับไล่เราออกจากตระกูล” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งสามร้องเสียงดังขณะที่พวกเขาเดินตรงไปที่ห้องโถงเพื่อเผชิญหน้ากับเจี้ยนเฉิน

แน่นอนว่า แม้ว่าพวกเขาทั้งสามจะโกรธ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเริ่มต่อสู้เหมือนผู้พิทักษ์ชาน อย่าลืมว่าตระกูลเทียนหยวนมีขั้นบรรพกาล พวกเขาสามารถล้มเจี้ยนเฉินได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขาต้องพิจารณาถึงตัวตนของขั้นบรรพกาลทั้งสอง

“ไปกันเถอะ ไปหานายน้อยหมิงและให้เขาไล่เจี้ยนเฉินออกจากตำแหน่งผู้นำ เขาคิดว่าจะสั่งเราได้โดยตรงเพราะเขาเป็นผู้นำงั้นหรือ ? เขายังไม่มีสิทธิ์นั้น”

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งสามออกจากห้องโถงอย่างโกรธแค้นเพื่อตามหาหมิงตง

หมิงตงเดินผ่านสวนดอกไม้แปลกตาภายในบริเวณต้องห้ามของตระกูลเทียนหยวนกับหยุนเสี่ยวหยาน พวกเขายังคงอยู่ในโลกอันเงียบสงบของตัวเอง พวกเขาสบายใจและผ่อนคลายไม่ให้ความสนใจกับเรื่องใด ๆ ของตระกูลราวกับว่าพวกเขาไม่สนใจเลย

ในขณะนี้ ผู้ดูแลหญิงคนหนึ่งรายงานว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งสามต้องการพบหมิงตง

หมิงตงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาบอกไปแล้วว่าไม่ให้รบกวนเขาเว้นแต่จะมีบางอย่างที่สำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเขาไม่ชอบที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าว

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ เจี้ยนเฉินกลับมาแล้ว แม้ว่าจะมีอะไรที่สำคัญเป็นพิเศษ เขาก็อยู่ที่นั่นเพื่อจัดการกับพวกเขา เหตุใดผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งสามจึงมาหาเขา

“หมิงตง ผู้พิทักษ์ทั้งสามกำลังตามหาเจ้าเพราะเจี้ยนเฉิน น้องชายของเจ้าหรือไม่ ? ” หยุนเสี่ยวหยานกล่าวเบา ๆ จากด้านข้างของหมิงตง

แววตาทอประกายผ่านดวงตาของหมิงตงจากนั้น เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินได้ดังนั้นเขาจึงได้พบกับผู้พิทักษ์ทั้งสามในทันที

“คำนับนายน้อยหมิง ! ” ในไม่ช้าผู้พิทักษ์ทั้งสามก็ปรากฏตัวต่อหน้าหมิงตง พวกเขาละทิ้งความหยิ่งผยองและแสดงความเคารพอย่างสูง

หลังจากนั้นพวกเขาก็ระบายความทุกข์ทั้งหมดโดยอธิบายอย่างคร่าว ๆ ถึงการกระทำที่หยาบคายของเจี้ยนเฉิน ในขณะที่บิดเบือนแง่มุมบางอย่างทำให้เขาเป็นปรปักษ์กัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะพูดจบ หมิงตงก็ขมวดคิ้วและหยุดพวกเขาด้วยการยกมือขึ้น สีหน้าของเขามืดครึ้มลงเล็กน้อยและเขากล่าวว่า “เจ้ากำลังบอกว่าเจี้ยนเฉินกำลังขับไล่พวกเจ้าทั้งสามคนออกจากตระกูล ? ”

ผู้พิทักษ์ทั้งสามต่างชื่นชมยินดีภายในเมื่อเห็นสีหน้าของหมิงตงเปลี่ยนไป พวกเขาคิดว่าหมิงตงรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำอันหยาบคายของเจี้ยนเฉิน พวกเขาจึงป้องมือคำนับ “ใช่แล้ว นายน้อยหมิงโปรดทวงความยุติธรรมให้พวกเราด้วย”

สีหน้าของหมิงตงมืดครึ้มลง “เจี้ยนเฉินเป็นผู้นำของตระกูลเทียนหยวน สิ่งที่เขาพูดคือการตัดสินใจสูงสุดของตระกูล เนื่องจากเขาขับไล่เจ้าออกจากตระกูล เจ้าจึงไม่ได้อยู่ในตระกูลเทียนหยวนอีกต่อไป”

สีหน้าของผู้พิทักษ์ทั้งสามเปลี่ยนไป “ นายน้อยหมิง…”

“หุบปาก เจี้ยนเฉินร่วมทุกข์ร่วมสุขมาพร้อมกับข้า การทำให้เขาขุ่นเคืองแย่ยิ่งกว่าการทำให้ข้าขุ่นเคือง แต่เจ้าพูดถึงเขาไม่ดีต่อหน้าข้า เจ้าต้องการให้ข้าปลดเขาออกจากตำแหน่งผู้นำด้วยซ้ำ เจ้าคิดว่าตัวเองเหนือกว่าผู้นำเพียงเพราะเจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นงั้นหรือ ? เจ้าสามารถเพิกเฉยต่อคำสั่งของผู้นำได้หรือ ? ” หมิงตงส่งเสียงอย่างเย็นชา

ทัศนคติของหมิงตงทำให้สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป พวกเขามองไปที่กันและกันและสีหน้าของพวกเขาก็น่าเกลียดมาก พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า หมิงตงจะโปรดปรานเจี้ยนเฉินมากขนาดนี้

พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น แม้จะอยู่ในตระกูลสูงสุด พวกเขาก็ยังมีสถานะอยู่ในระดับหนึ่ง เมื่อพวกเขาพูดอย่างอ่อนน้อมแล้ว พวกเขากลับถูกปฏิเสธอย่างหนักแน่นแทน มันเป็นความรู้สึกที่น่าสยดสยองทีเดียว

“ลุงหมิง ไล่พวกเขาทั้งสามคนออกจากตระกูลเทียนหยวน”

ด้วยเหตุนี้ หมิงเซียจึงปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ ทำให้ผู้พิทักษ์ทั้งสามหน้าซีดด้วยความตกใจ

ในท้ายที่สุด ขั้นอสงไขยทั้งสามก็ได้ออกจากตระกูลเทียนหยวนด้วยจิตวิญญาณที่ตกต่ำ

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดที่นั่งอยู่ในห้องโถงกลายเป็นคนเคร่งเครียด พวกเขาให้ความสนใจกับผู้พิทักษ์ทั้งสามมาโดยตลอดด้วยการรับรู้ของจิตวิญญาณ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต้องห้ามเนื่องจากค่ายกล แต่พวกเขาก็เห็นผู้พิทักษ์ทั้งสามเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามและโผล่ออกมาอย่างน่าอนาถ หลังจากนั้นพวกเขาก็เก็บรวบรวมสิ่งของและออกจากตระกูลด้วยจิตวิญญาณที่ตกต่ำ

เดิมทีผู้พิทักษ์ทุกคนเชื่อว่าพวกเขาสามารถทำให้หมิงตงจัดการกับเจี้ยนเฉินได้ แต่ชะตากรรมของผู้พิทักษ์ทั้งสามทำให้หัวใจของพวกเขาจมดิ่งลง แสงแห่งความหวังสุดท้ายของพวกเขาดับลง