เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2535 : พบกับหย่าซีเหลียนอีกครั้ง
ตอนที่ 2535 : พบกับหย่าซีเหลียนอีกครั้ง
เจี้ยนเฉินพยักหน้าและรีบมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของผู้พิทักษ์ซือพร้อมกับนูบิสทันที
ผู้พิทักษ์ซืออยู่ห่างออกไปกว่า 10 ล้านกิโลเมตร แต่ด้วยการที่มีเฮยหยาอยู่ด้วย เจี้ยนเฉินจึงพบอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้ผู้พิทักษ์ซือนั่งอยู่ในถ้ำที่ครอบคลุมไปด้วยค่ายกล เขาพยายามสยบพิษในตัวเอาไว้
สถานการณ์ของเขาย่ำแย่อย่างมาก พิษกระจายไปทั่วตัวของเขาแล้ว มันเปลี่ยนผิวของเขาเป็นสีเขียว พลังชีวิตของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว
แม้แต่วิญญาณของเขาก็ยังปนเปื้อนพิษด้วยซึ่งทำให้วิญญาณของเขาดูหม่นลง แม้ว่าเขาจะทิ้งร่างของเขาและหนีไปด้วยวิญญาณในตอนนี้ แต่มันก็ไร้ประโยชน์
“โชคดีที่เขามีหยกร้อยจิตวิญญาณ เขาลดความเร็วในการกระจายของพิษไปได้ ไม่งั้นแล้วเขาคงกลายเป็นบ่อเลือดไปแล้ว” ซูหรานจัดการกับค่ายกลได้อย่างง่ายดายและปรากฏตัวตรงหน้าผู้พิทักษ์ซือ
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพบหยกสีขาวหม่นในปากของผู้พิทักษ์ซือ
“เอายาถอนพิษทั่วไปให้เขากินก่อน” ซูหรานบอกกับเจี้ยนเฉิน ก่อนจะวางมือไว้บนหัวของผู้พิทักษ์ซือ พลังบริสุทธิ์ได้แผ่ออกมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มสยบพิษในร่างผู้พิทักษ์ซือ
เจี้ยนเฉินค้นในแหวนมิติของตัเวองและสุดท้ายก็พบยาถอนพิษทั่วไปอยู่ขวดหนึ่ง ก่อนจะป้อนมันให้กับผู้พิทักษ์ซือ
“พิษในตัวเขาอันตรายอย่างมาก ข้าไม่ได้มีความสามารถในการถอนพิษ ข้าทำได้แค่สยบมันไว้ได้ชั่วคราวและกันไม่ให้มันกระจายต่อ เราต้องหางูนั่นเพื่อถอนพิษ” ซูหรานมีสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับเอามือออกจากหัวของผู้พิทักษ์ซือ
“นูบิส เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับต้นกำเนิดอสรพิษทองริ้วเงินนั่นบ้าง ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมา
นูบิสอยู่ในสภาพอ่อนแรงอย่างมาก เขายืนได้เพราะมีเฮยหยาช่วยประคอง เขาครุ่นคิดก่อนจะพูดขึ้นมา “ข้าไม่รู้ต้นกำเนิดของเขา แต่ข้าจำได้ว่าเขาบอกว่าเขารับใช้จักรวรรดิเมฆทวี”
“จักรวรรดิเมฆทวีรึ ? ” เจี้ยนเฉินพึมพำ เขาจำจักรวรรดินี้ไม่ได้
อันที่จริงแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เขามายังที่ราบสำราญ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย
“ผู้นำตระกูล ไม่ต้องช่วยข้า ชีวิตข้าไม่มีค่าพอ ให้ข้าตายที่นี่เถอะ” ผู้พิทักษ์ซือลืมตาขึ้นมาด้วยสายตาเด็ดเดี่ยวราวกับว่าเขายอมรับความตายแล้ว
“ผู้นำตระกูล สิ่งเดียวที่ข้าไม่อาจปล่อยวางได้ก่อนที่ข้าจะตายคือนายน้อยตระกูลข้า ข้าหวังว่าผู้นำตระกูลจะดูแลนายน้อยแลกกับผลงานที่ข้าเคยสร้างให้กับตระกูล อย่าให้นายน้อยต้องตาย” ผู้พิทักษ์ซืออ้อนวอนและส่งโถงศักดิ์สิทธิ์ให้กับเจี้ยนเฉิน
เมื่อเห็นโถงศักดิ์สิทธิ์ เจี้ยนเฉินก็ตาเป็นประกายขึ้นมา ต้นกำเนิดของผู้พิทักษ์ซือทำให้เขาแปลกใจนิด ๆ จากการที่ยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นเรียกอีกฝ่ายว่านายน้อย ดูเหมือนว่าต้นกำเนิดของนายน้อยนั่นจะไม่ธรรมดา
หลังจากที่คิดสักพัก เจี้ยนเฉินก็เอ่ยออกมาว่า “ผู้พิทักษ์ซือไม่ต้องกังวล เจ้าไม่ตายหรอก ทนอีกหน่อย ข้าจะถอนพิษนั่นให้กับเจ้า”
หลังจากนั้นผู้พิทักษ์ของตระกูลเทียนหยวนก็มาถึง ทุกคนต่างก็มารวมตัวกันในถ้ำพร้อมกับเจี้ยนเฉิน
ไม่นานพวกเขาก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด แต่สีหน้าของผู้พิทักษ์ฉีเปลี่ยนไปทันทีเมื่อรู้ทุกอย่าง “อะไรนะ ? ยอดฝีมือบรรพกาลที่ทำให้ผู้พิทักษ์ซือบาดเจ็บสาหัสนั้นมาจากจักรวรรดิเมฆทวีงั้นหรือ ? ”
“ผู้พิทักษ์ฉี ท่านรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับจักรวรรดิเมฆทวี ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมาทันที เขาบอกได้ทันทีว่าผู้พิทักษ์ฉีรู้เกี่ยวกับจักรวรรดิเมฆทวี
เขารีบมาจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่ราบสำราญ มันต้องมีสักคนอธิบายเรื่องนี้ให้เขาฟัง
ยังไงซะเมื่อรู้ถึงข้อมูลของศัตรู เขาถึงจะยืนยันความสำเร็จได้
“ผู้นำตระกูล จักรวรรดิเมฆทวีนั้นใช่ว่าจะไปยุ่งได้ง่าย ๆ พวกเขาคือองค์กรที่แข็งแกร่งที่สุดบนที่ราบสำราญ พวกเขาคือผู้ปกครองของที่ราบสำราญ พวกเขาแข็งแกร่งจนว่ากันว่าพวกเขาสามารถยึดทั้งที่ราบเอาไว้ได้” ผู้พิทักษ์ฉีเผยสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อพูดถึงจักรวรรดิเมฆทวี ในสายตาเขาแสดงความกลัวออกมา
เจี้ยนเฉินขมวดคิ้ว “ความแข็งแกร่งโดยรวมของที่ราบสำราญ เมื่อเทียบกับที่ราบเมฆาของเราแล้วเป็นยังไงกัน ? ”
“ที่ราบสำราญแข็งแกร่งกว่าที่ราบเมฆา ! ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของที่ราบเมฆตอนนี้คือผู้เฒ่าเทียนซาน บอกกันว่าเขาเป็นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 3 แต่ที่ที่ราบสำราญนี้มีอย่างน้อย 5 คนที่มีฝีมือทัดเทียมกับเขาได้ “
“จักรวรรดิเมฆทวีแข็งแกร่งถึงเพียงนี้” เจี้ยนเฉินแปลกใจกับเรื่องนี้ ที่ราบสำราญแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาคิด
“ผู้นำตระกูล จริง ๆ แล้วมันมียอดฝีมือในจักรวรรดิเมฆทวีไม่มากนัก มันมีองค์กรหลายสิบแห่งในที่ราบสำราญและก็มีแค่ 3-4 แห่งที่ทัดเทียมกับจักรวรรดิเมฆทวี เหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงได้แข็งแกร่งก็เพราะจักรวรรดิเมฆทวีนั้นมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างหัวหน้าพิรุณ ! ”
ผู้พิทักษ์ฉีได้แสดงท่าทีชื่นชมออกมาและพูดต่อ “ที่จักรวรรดิเมฆทวีนั้นมีสถานะผู้ปกครองได้ก็เพราะหัวหน้าพิรุณ ว่ากันว่านางเพียงคนเดียวก็มีพลังทัดเทียมกับยอดฝีมือทั้งหมดของที่ราบสำราญรวมกัน”
“ข้าเองก็เคยได้ยินเรื่องหัวหน้าพิรุณ นางแข็งแกร่งจริง ๆ และค่อนข้างมีชื่อเสียงในโลกเซียน ข้าไม่คิดว่านางจะมาจากที่ราบสำราญ” ซูหรานพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “งูนั่นเป็นขั้นบรรพกาลและมีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นองค์กรระดับสูงไหนก็ตาม ขั้นบรรพกาลก็มีค่าอย่างมาก ดังนั้นเราจึงคงทำให้ยอดฝีมือของจักรวรรดิเมฆทวีตื่นตัวหากเราต้องการฆ่างูนั่น แม้ว่าหัวหน้าพิรุณจะไม่ได้อยู่ที่ที่ราบสำราญ แต่มันก็ไม่ใช่ที่ที่เราจะจัดการได้ ดูเหมือนว่าเราต้องเรียกหมิงเซียมาที่นี่”
ทันใดนั้นซูหรานก็มองไปนอกถ้ำและพูดขึ้นมา “มีคนกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่และจากพลังของพวกเขาแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาจากลัทธิปีศาจชั้นฟ้า”
เจี้ยนเฉินเริ่มสนใจขึ้นมาเมื่อเขาได้ยินซูหรานพูดถึงลัทธิปีศาจชั้นฟ้า เขาได้แผ่การรับรู้วิญญาณออกไปทันที แต่สีหน้าของเจี้ยนเฉินกลับเปลี่ยนไปหลังจากนั้น เขาคิดกับตัวเอง “ทำไมนางถึงได้มาที่นี่ ? ”
การรับรู้วิญญาณเขาล็อคเป้าไปยังผู้หญิงที่หน้าตางดงามคนหนึ่ง
เจี้ยนเฉินคุ้นเคยกับนางเป็นอย่างดี เขาเคยมีความแค้นกับนางในอดีต นางคือแม่ทัพของกองทัพที่เจ็ดของสาขาลัทธิปีศาจชั้นฟ้าบนที่ราบเมฆา หย่าซีเหลียน
หย่าซีเหลียนเป็นราชาเทพช่วงสูงสุด ใบหน้าที่น่าหลงใหลของนางเต็มไปด้วยความอึดอัดและรู้สึกผิด นางได้มุ่งหน้ามาหากลุ่มของเจี้ยนเฉินด้วยความโกรธราวกับถูกดูหมิ่น
นางไม่ได้มาเพียงลำพัง มันมีหญิงชราในชุดขาวมากับนางด้วย
หญิงชราผู้นั้นไม่ได้ซ่อนตัว แต่นางปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้อย่างดี และทำตัวราวกับคนธรรมดา
แต่ความเร็วในการเดินทางของนางนั้นทำให้เจี้ยนเฉินต้องตกตะลึง