เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2536 : หัวหน้าผู้อาวุโสแห่งลัทธิปีศาจชั้นฟ้า
- Home
- เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)
- ตอนที่ 2536 : หัวหน้าผู้อาวุโสแห่งลัทธิปีศาจชั้นฟ้า
ตอนที่ 2536 : หัวหน้าผู้อาวุโสแห่งลัทธิปีศาจชั้นฟ้า
“หย่าซีเหลียน เจ้าอย่าลืมคำพูดข้าก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเจ้าจะแค้นเคืองเจี้ยนเฉินมากแค่ไหนก็ตาม แต่เจ้าต้องลืมมันให้หมด เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? ” หญิงชราที่มากับหย่าซีเหลียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ได้ อาจารย์ ! ” หย่าซีเหลียนกัดปากตัวเองและตกลงอย่างไม่เต็มใจ นางรู้สึกราวกับว่าถูกดูหมิ่น
ในอดีตนั้นนางต้องอับอายเพราะนางฟ้าเฮายู่ที่จักรวรรดิเสิ่นเตาในเขตเหนือของที่ราบเมฆา ในใจของนางเต็มไปด้วยความโกรธแค้น นางฟ้าเฮายู่นั้นแข็งแกร่งจนนางไม่อาจจะทำอะไรอีกฝ่ายได้ ผลก็คือหย่าซีเหลียนจึงโยนความแค้นทั้งหมดที่มีไปที่เจี้ยนเฉิน
นางกำลังจะได้พบกับเจี้ยนเฉินอีกครั้ง แต่อาจารย์ของนางกลับสั่งว่าให้นางลืมความโกรธแค้นทั้งหมด เป็นธรรมดาที่หย่าซีเหลียนจะรู้สึกผิดหวังอย่างมากเมื่อคิดถึงความแค้นที่เคยมีมา
แม้ว่าร่างเดิมของนางจะเป็นจิ้งจอกเก้าหางที่โด่งดังเรื่องการสำส่อน แต่นางก็ทำตัวดีผิดกับข่าวลือที่พูดถึงตัวนาง นี่เพราะตอนที่นางดูดซับแก่นของบุรุษนั้น นางแค่ใช้มือวางไว้บนหัวของอีกฝ่าย นางไม่ได้ถูกตัวอีกฝ่ายแบบใกล้ชิดเลยแม้แต่น้อย
นางต้องการตัวเจี้ยนเฉินเพราะพลังบรรพกาล นางต้องการใช้วิธีนี้ในการดูดซับพลังบรรพกาล แต่ในตอนวิกฤตนั้น นางฟ้าเฮายู่กลับเข้ามาขัดจังหวะ
“ เฮ้อ แม้ว่าข้าจะต้องการสะสางความแค้นที่มีต่อเขาแต่ข้าจะไปทำอะไรได้ ? เขาไม่ใช่เหนือเทพต่ำต้อยที่ข้าสังหารได้อีกแล้ว ข้าไม่ใช่คู่มือของเขาอีกต่อไป” หย่าซีเหลียนคิดอย่างถี่ถ้วนและถอนหายใจออกมา นางรู้สึกอับอายอย่างมาก
ลัทธิปิศาจชั้นฟ้ามีสาขาอยู่ทั่วโลกเซียน ดังนั้นพวกเขาจึงมีข้อมูลมากมายกับตัว หย่าซีเหลียนเองก็มีฐานะที่สูงในลัทธิปิศาจชั้นฟ้า ดังนั้นนางจึงรู้ข้อมูลต่าง ๆ เป็นอย่างดี
นางเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินจำนวนมาก
หย่าซีเหลียนเข้าไปในถ้ำที่เจี้ยนเฉินอยู่และข่มความรู้สึกแค้นเคืองที่มีในใจเอาไว้
“แม่ทัพหย่าซีเหลียน เราได้พบกันอีกแล้ว” เจี้ยนเฉินเดินออกมาจากถ้ำ ด้านหลังเขามีซูหรานและผู้พิทักษ์จากตระกูลเทียนหยวนมาด้วย
ตอนนั้น เจี้ยนเฉินเหมือนจะเป็นคนสำคัญ ผู้พิทักษ์ขอบเขตตั้งต้นยืนขนาบซ้าย-ขวาของเขาซึ่งทำให้เขาดูสูงส่งขึ้นไปอีก
เจี้ยนเฉินคิดถึงตอนที่เขาพบกับหย่าซีเหลียนครั้งแรกและมองไปที่นาง
ในอดีตนั้น หย่าซีเหลียนคือแม่ทัพของกองทัพที่เจ็ดจากลัทธิปิศาจชั้นฟ้า นางเป็นราชาเทพช่วงปลาย ส่วนเขาเป็นแค่เหนือเทพ หย่าซีเหลียนแข็งแกร่งซะจนเขาไม่อาจจะต่อกรกับนางได้ อันที่จริงเขาหนีจากเงื้อมมือนางไม่ได้ด้วยซ้ำ
ตอนนี้ผ่านมาหลายสิบปีเขาได้ขึ้นมาถึงขอบเขตตั้งต้นแล้ว เขามีความสามารถเพียงพอที่จะฆ่ายอดฝีมือขั้นอสงไขยช่วงปลายได้ ส่วนหย่าซีเหลียนยังเป็นแค่ราชาเทพช่วงปลาย เรื่องนี้ทำให้เจี้ยนเฉินแปลกใจ
หย่าซีเหลียนไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่หญิงชราที่อยู่ข้างนางกลับป้องมือให้กับเจี้ยนเฉินและพูดขึ้นมาด้วยความสุภาพ “ข้า ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียน 1 ใน 8 ผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้า ขอคารวะผู้นำตระกูลเทียหยวน ! ”
“ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียน ท่านมาที่นี่เพื่อพบกับข้าโดยเฉพาะ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านมาหาข้าด้วยเหตุใด ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียน เขาพอรับรู้ระดับการบ่มเพาะของนางได้ นางเป็นยอดฝีมืออสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9
“จากคำสั่งของหัวหน้าผู้อาวุโส ข้ามาที่นี่เพื่อเชิญผู้นำตระกูลไปยังสาขาของเราที่ที่ราบสำราญในฐานะแขก” ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียนเอ่ยออกมา
เจี้ยนเฉินเริ่มสนใจขึ้นมาและถามขึ้น “หัวหน้าผู้อาวุโสนั่นเป็นใครกัน ? “
“หัวหน้าผู้อาวุโสมีนามว่าเฉิงหมิง”
“เฉิงหมิง ? ข้าไม่รู้จักเขา”
“หัวหน้าผู้อาวุโสบอกว่าผู้นำตระกูลคงไม่เต็มใจที่จะมา ข้าควรแสดงสิ่งนี้ให้ผู้นำตระกูลดู” ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียนพูดขึ้นก่อนจะเอาปิ่นปักผมอันเล็ก ๆ ขึ้นมา
ใจของเจี้ยนเฉินเต้นรัวเมื่อเห็นปิ่นปักผมนั่น มันคือสิ่งที่เสี่ยวหลิงมักจะพกติดตัว นางเอามันมาจากทวีปเทียนหยวน
“เสี่ยวหลิงอยู่ที่นั่นด้วยรึ ? ” เจี้ยนเฉินพยายามควบคุมสติ
ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียนพยักหน้าตอบรับ
“งั้นไปกัน เชิญนำทาง” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นด้วยท่าทีร้อนใจ
“ผู้นำตระกูล ท่านต้องคิดทบทวนให้ดี ๆ พวกเขาคือลัทธิปิศาจชั้นฟ้า” ผู้อาวุโสด้านหลังเจี้ยนเฉินพูดขึ้นมา ชัดแล้วว่าพวกเขารู้สึกกลัว
ไม่มีใครจากที่ราบเมฆที่ไม่กลัวลัทธิปิศาจชั้นฟ้า ตอนที่จักรวรรดิเทียนรุ่งโรจน์เมื่อหลายสิบปีก่อนและกำลังจะยึดที่ราบทั้งหมดไว้ได้นั้น พวกเกลับถูกทำลายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากหัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้า
จากนั้นลัทธิปิศาจชั้นฟ้าก็กลายเป็นองค์กรที่น่ากลัวที่สุดในสายตาของยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นบนที่ราบเมฆา
ผลก็คือผู้พิทักษ์หลายคนต่างก็อึดอัดใจและกลัวเมื่อต้องเจอกับสมาชิกของลัทธิปิศาจชั้นฟ้า
“พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป” เจี้ยนเฉินปลอบทุกคน คนอื่น ๆ ไม่รู้รายละเอียดของลัทธิปิศาจชั้นฟ้า แต่เขารู้ หัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าที่ยอดฝีมือระดับสูงของที่ราบเมฆาต่างก็เกรงกลัวคือผู้อาวุโสโมเทียนหยุน หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เดินทางไปที่สาขาของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าบนที่ราบสำราญ ภายใต้การนำทางของผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียนและหย่าซีเหลียน
สาขาที่นี่ตั้งอยู่ที่ชายแดนของเขตกลาง มันถือว่าเป็นที่ที่ห่างไกล
สาขาแห่งนี้เป็นโถงศักดิ์สิทธิ์สีดำสนิท มันมีคุณภาพที่สูงและมีพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยม ภายในระยะ 1 ล้านกิโลเมตรรอบโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังปิศาจแผ่ออกมาในรูปของเมฆดำพร้อมกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การนำทางของผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียน กลุ่มของเจี้ยนเฉินก็ได้มาถึงโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างราบรื่น
ทันทีที่มาถึงโถงศักดิ์สิทธิ์ ผู้พิทักษ์จากตระกูลเทียนหยวนต่างก็รู้สึกว่าตัวเองได้เข้ามาในท้องของสัตว์อสูร พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นใจ
เจี้ยนเฉินและซูหรานยังคงใจเย็นและเดินตามหลังทั้งคู่ไป
ระหว่างทาง หย่าซีเหลียนได้หันกลับมามองที่เจี้ยนเฉินอยู่ตลอด สายตาของนางดูซับซ้อน มันมีความแค้นเคืองแสดงออกมาผ่านสายตาของนางด้วย
“น้องชาย เจ้ามั่นใจรึ ? เจ้ามั่นใจรึว่าเราไม่ได้เดินเข้ามาในรังสัตว์อสูร ? ” นูบิสแอบถามขึ้นมา เขาเองก็กลัว แม้แต่เขาก็ยังไม่มีความมั่นใจในตอนนี้เลย
เจี้ยนเฉินมองไปที่อีกฝ่ายและบอกให้อีกฝ่ายหยุดกังวลโดยไม่พูดอะไรต่อ
กลุ่มของพวกเขาเดินหน้าจนไปถึงชั้นสูงสุดของโถงศักดิ์สิทธิ์ สุดท้ายพวกเขาก็ได้มาหยุดที่ห้องโถงอันอึมครึมแห่งหนึ่ง
“หัวหน้าผู้อาวุโส ข้าได้พาผู้นำตระกูลเทียนหยวน เจี้ยนเฉิน มาที่นี่แล้ว” ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียนพูดขึ้นมา
“เจ้าออกไปได้” เสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมา มันดังมาจากทุกทิศทางซึ่งทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าคนพูดนั้นอยู่ที่ไหน
“ได้ ! ” ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียนโค้งให้ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับหย่าซีเหลียน
หลังจากที่ผู้อาวุโสจิ้งจอกเซียนออกไปแล้ว มันก็เกิดแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นมาภายในห้องโถงแห่งนั้น
นี่คือแสงของวิญญาณ มีแค่วิญญาณที่มีความแข็งแกร่งระดับหนึ่งเท่านั้นที่จะเปล่งแสงแบบนี้ออกมาได้
ชายแก่ที่เป็นภาพลวงตาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเจี้ยนเฉิน เขาดูไม่ได้พิเศษอะไร เขาไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาเลย
ตอนนั้นสายตาของเขาจับจ้องมาที่เจี้ยนเฉิน เขาตรวจสอบเจี้ยนเฉินโดยที่ไม่สนใจคนด้านหลังเจี้ยนเฉินเลยแม้แต่น้อย รวมไปถึงซูหรานด้วย
มันราวกับว่ามีแค่เจี้ยนเฉินคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา แม้แต่ซูหรานก็ยากที่จะทำให้เขาสนใจได้แม้ว่าจะเป็นถึงยอดฝีมือบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 5 ก็ตาม
“วิญญาณรึ ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่หัวหน้าผู้อาวุโสตรงหน้าด้วยความแปลกใจ
เขาบอกได้ทันทีว่าหัวหน้าผู้อาวุโสตรงหน้าเขาไม่ได้มีร่างกาย เขาเป็นแค่วิญญาณหรืออาจจะเป็นแค่ร่างแยกวิญญาณด้วยซ้ำ