เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2537 : แผนอันยิ่งใหญ่
ตอนที่ 2537 : แผนอันยิ่งใหญ่
“เจ้าคือพี่ชายที่เสี่ยวหลิงมักจะพูดถึงที่ชื่อเจี้ยนเฉินงั้นหรือ ? ” หัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้า เฉิงหมิง ถามขึ้นมา สายตาเขาดูอ่อนโยน เขายิ้มออกมาเล็กน้อยแสดงท่าทีเป็นมิตร
“ข้าเอง ผู้เยาว์ เจี้ยนเฉิน ขอคารวะ” เจี้ยนเฉินป้องมือและทักทายราวกับผู้น้อย เขาพูดด้วยท่าทีเฉยเมยโดยไม่ได้แสดงท่าทีสุภาพหรือหยิ่งทะนง
เขาเคารพต่อโมเทียนหยุนจากลัทธิปิศาจชั้นฟ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ หัวหน้าผู้อาวุโส ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเสี่ยวจินและเสี่ยวหลิงอยู่ที่ไหนกัน ? ” เจี้ยนเฉินถามต่อ เขามาที่นี่เพื่อมาพบกับเสี่ยวจินและเสี่ยวหลิง เขาอยากรู้ว่าทั้งสองเป็นยังไง
“พวกเขาอยู่ที่ที่ราบสำราญ ข้าได้ส่งคนไปดูแลพวกเขาแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล เจี้ยนเฉิน ครั้งนี้ข้าไม่ได้เรียกเจ้ามาเพราะเรื่องเสี่ยวจินและเสี่ยวหลิง” เฉิงหมิงพูดด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้แสดงท่าทีสูงส่งแบบหัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าที่สามารถสั่งการกองทัพทั้งหมดด้วยความคิด
“ไปคุยกันที่อื่นเถอะ” เฉิงหมิงพูดขึ้น เมื่อพูดจบ เขากับเจี้ยนเฉินก็ได้หายตัวไปจากที่นั่นด้วยพลังของโถงศักดิ์สิทธิ์
“ผู้นำตระกูล ! ”
การหายไปของเจี้ยนเฉินทำให้เหล่าผู้พิทักษ์ต้องกังวล พวกเขากลัวลัทธิปิศาจชั้นฟ้า ตอนนี้เมื่ออยู่ในรังของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าก็ทำให้พวกเขากลัวกันอย่างมาก
“ในเมื่อเจี้ยนเฉินกล้าพอที่จะพาเจ้ามาที่นี่ เป็นธรรมดาที่เขาจะมั่นใจว่าจะปกป้องเจ้าได้ เจ้าจะกลัวอะไร ? ” ซูหรานพูดด้วยท่าทีเฉยเมย นางทำการตรวจสอบโถงศักดิ์สิทธิ์ราวกับว่านางมองทะลุทุกอย่างได้
“ยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นหลายคนซ่อนตัวอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิแห่งนี้ มันมีหลายคนที่มีพลังถึงขั้นบรรพกาล ลัทธิปิศาจชั้นฟ้าวางแผนอะไรถึงได้ให้ยอดฝีมือมากมายมารวมตัวกันที่ที่ราบสำราญแห่งนี้ ? ”
“ยังไงซะนี่ก็เป็นหนึ่งในสาขาทั่วโลกเซียน มันไม่ใช่สำนักงานใหญ่ของพวกเขา” ซูหรานคิด นางมองไปที่จุดที่เจี้ยนเฉินหายตัวไปด้วยสายตาสั่นไหว
เจี้ยนเฉินและเฉิงหมิงได้ปรากฏตัวในห้องลับภายในโถงศักดิ์สิทธิ์
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ ก่อนจะมองไปที่ เฉิงหมิง “ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าหัวหน้าผู้อาวุโสมีเรื่องด่วนอะไรถึงได้เรียกข้ามาพบ ? ”
“เจี้ยนเฉิน เจ้าอาจจะต้องการฆ่าอสรพิษทองริ้วเงินในจักรวรรดิเมฆทวีสินะ ? ” เฉิงหมิงถามขึ้นมา
เจี้ยนเฉินพยักหน้าตอบรับ ไม่ว่าจะเพื่อการปกป้องแก่นของนูบิส หรือเพื่อถอนพิษให้กับผู้พิทักษ์ซือ เขาต้องตามล่าอสรพิษทองริ้วเงินนั่น
แน่นอนสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออสรพิษทองริ้วเงินสามารถทำให้ความแข็งแกร่งของนูบิสพัฒนาได้เร็วกว่าเดิม อสรพิษทองริ้วเงินนั้นเป็นสายพันธุ์พิเศษ วิธีการพัฒนาของมันนั้นดูโหดร้าย พวกเขาต้องฆ่าคนในสายพันธุ์ตัวเองและดูดซับแก่นเพี่อการพัฒนา
เมื่อต้องฆ่ากันเองเพื่อการพัฒนา เจี้ยนเฉินก็หวังว่านูบิสจะได้รับประโยชน์ทั้งหมด
นั่นเพราะหากนูบิสไม่กินพวกนั้นให้หมด มันก็จะกลายเป็นนูบิสนี่แหละที่จะถูกกิน
ด้วยมิตรภาพที่มีกับนูบิส เขาจะปล่อยให้นูบิสต้องกลายเป็นอาหารของอสรพิษทองริ้วเงินได้อย่างไร ?
“อสรพิษทองริ้วเงินในจักรวรรดิเมฆทวีนั่นไม่ได้จัดการได้ง่าย ๆ เหมือนที่เจ้าคิด อย่างแรกเลยเขามีฐานะในจักรวรรดิเมฆทวี เขาเป็นอาจารย์ขององค์ชายหลายคนและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจักรพรรดิของจักรวรรดิเมฆทวีในตอนนี้ ผลก็คือสถานะของเขาสูงส่งอย่างมาก มากกว่าที่คนอื่นคิดเอาไว้”
“ยิ่งกว่านั้นความสามารถในการหนีของเขาก็น่าประทับใจ แม้วาเขาจะเป็นแค่ยอดฝีมือบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 2 แต่ยอดฝีมือบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 6 หรือ 7 ก็ไม่อาจจะยื้อเขาได้” เฉิงหมิงพูดขึ้น เขาเข้าใจความสามารถของอสรพิษทองริ้วเงินเป็นอย่างดี
“ข้ารู้ว่ามียอดฝีมือบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 5 อยู่ข้างกายเจ้า ยกโทษให้ข้าด้วยที่ข้าพูดตรงไปหน่อย แต่หากเจ้าจะออกตามหาอสรพิษทองริ้วเงินด้วยความแข็งแกร่งที่เจ้ามีตอนนี้แล้ว สุดท้ายเจ้าจะพ่ายแพ้และต้องหนี อสรพิษทองริ้วเงินนั่นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลายฝ่าย เขาสามารถขอให้คนอื่น ๆ มาจัดการกับเจ้าได้ นอกซะจากว่าเจ้าจะเรียกยอดฝีมือบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ในตระกูลเทียนหยวนมา ไม่งั้นเจ้าก็ไม่อาจจะจัดการอะไรในเรื่องนี้ได้”
เจี้ยนเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่เคยคิดเลยว่ายอดฝีมือบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 2 จะจัดการได้ยากถึงเพียงนี้
“หัวหน้าผู้อาวุโสคงมีความคิดบางอย่างถึงได้บอกเรื่องนี้กับข้า” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นมา
เฉิงหมิงพยักหน้าและพูดขึ้นมา “อันที่จริงข้าก็มีเป้าหมายอยู่ ข้าหวังว่าเจ้าจะร่วมมือกับเราและโจมตีพระราชวังของจักรวรรดิเมฆทวี ตอนนั้นแหละที่เจ้าจึงสามารถฆ่าอสรพิษทองริ้วเงินได้”
“อะไรนะ ? ท่านต้องการโจมตีพระราชวังของจักรวรรดิเมฆทวีรึ ? ” เจี้ยนเฉินแปลกใจ จักรวรรดิเมฆทวีคือองค์กรที่ยิ่งใหญ่ของที่ราบสำราญ พวกเขาแข็งแกร่งจนแม้แต่องค์กรชั้นนำอื่น ๆ ร่วมมือกันก็ไม่อาจจะต่อกรกับจักรวรรดิเมฆทวีได้
นั่นเพราะจักรวรรดิเมฆทวีมีบุคคลที่ร้ายกาจซึ่งสามารถจัดการทุกขุมกำลังบนที่ราบแห่งนี้ได้อย่างหัวหน้าพิรุณ
“จักรวรรดิเมฆทวีมีบางอย่างที่เจ้านายข้าต้องการ รวมไปถึงบางอย่างที่สามารถสร้างร่างของข้าขึ้นมาได้ เราจะโจมตีจักรวรรดิเมฆทวีในไม่ช้า ยิ่งกว่านั้น หัวหน้าพิรุณก็มีกล้วยไม้เบญจธาตุอยู่ มันมีพลังของธาตุทั้งห้า – เหล็ก, ไม้, น้ำ, ไฟและดิน ยิ่งกว่านั้นกล้วยไม้เบญจธาตุก็ได้มาจากโลกจิ๋วหยานหวง ดังนั้นมันจึงมีปราณหยานหวง มันมีพลังแห่งจักรวาล” เฉิงหมิงมองไปที่เจี้ยนเฉินและพูดขึ้นมา “เจ้าคงรู้แล้วว่าเสี่ยวหลิงบาดเจ็บเพราะความผิดพลาดเพราะปัญหาด้านร่างกาย กล้วยไม้เบญจธาตุที่มีปราณหยานหวงอาจจะกำจัดปัญหาเหล่านั้นได้”
“นอกจากนั้นเสี่ยวจินก็เป็นจิตวิญญาณโลหะ ดังนั้นกล้วยไม้ห้าธาตุนี้จึงส่งผลดีต่อเสี่ยวจินอย่างมากเช่นกัน มันสามารถกระตุ้นให้เขาพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด”
“ผู้อาวุโสโมเทียนหยุนก็คิดจะลงมือด้วยรึ ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมา พวกเขาต่างก็เป็นคนของโลกอมตะ ไม่ใช่แค่ว่าเขาเคารพโมเทียนหยุน แต่เขายังถือว่าอีกฝ่ายเป็นคนจากที่เดียวกัน เขารู้สึกผูกพันกับอีกฝ่ายโดยไม่มีเหตุผล
เฉิงหมิงส่ายหน้า “นายท่านมีเรื่องสำคัญกว่าต้องไปจัดการ ดังนั้นเขาจึงไม่ลงมือด้วย อัครสูงสุดทุกคนของลัทธิปิศาจชั้นฟ้านั้นต่างก็ออกจากที่ราบสำราญเพราะเรื่องที่พวกเขาต้องไปจัดการ ดังนั้นจึงไม่มีอัครสูงสุดเลยแม้แต่คนเดียวที่ดูแลจักรวรรดิเมฆทวี เราต้องการให้ยอดฝีมือบรรพกาลชั้นสวรรค์ชั้น 5 ของเจ้าลงมือ แล้วเราจึงจะสามารถโจมตีพระราชวังได้”
“ค่ายกลป้องกันในพระราชวังนั้นสร้างขึ้นโดยหัวหน้าพิรุณ มันรู้จักกันในชื่อค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิต แต่เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ตราบใดที่ไม่มีอัครสูงสุดดูแลค่ายกลนี้ มันก็ไม่อาจจะเป็นภัยต่อเราได้ด้วยสมบัติที่นายท่านให้ไว้กับเรา”
“และเมื่อค่ายกลนั้นทำงาน มิติทั้งหมดจะถูกผนึก ไม่ว่าอสรพิษทองริ้วเงินจะมีความสามารถในการหนีมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่อาจจะทลายการป้องกันที่หัวหน้าพิรุณสร้างไว้ได้ เขาจะไม่มีที่ให้หนี จากนั้นการฆ่าเขาก็เป็นเรื่องง่ายดาย”