เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 254: ยั่วยุตระกูลเซีย
ตอนที่ 254: ยั่วยุตระกูลเซีย
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายวัยกลางคนก็มองไปที่เจี้ยนเฉิน “ถ้างั้นเจ้าก็คือเจี้ยนเฉิน เหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริง เจ้าดูไม่เหมือนคนที่อายุเกินกว่า 25 ปีเลย”
เจี้ยนเฉินมองไปที่เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งห้าคนที่บาดเจ็บอยู่บนพื้น ก่อนที่จะหันไปที่ชายวัยกลางคนด้วยท่าทีที่มืดมน “คนของตระกูลเซีย พวกเจ้ามีธุระอะไรกับข้า ? “
ท่าทีของเจี้ยนเฉินทำให้คิ้วของชายวัยกลางคนขมวดก่อนที่จะพ่นลมออกมาจากจมูก “เจี้ยนเฉิน นายน้อยของตระกูลเซียของพวกเราต้องการที่จะพบเจ้า รีบมาคารวะนายน้อยซะ”
ในตอนนี้เอง ประตูรถม้าก็เปิดออกในขณะที่ชายหนุ่มที่แต่งตัวหรูหราก็ก้าวออกมาจากด้านใน ชายหนุ่มผู้นี้มีรูปร่างผอมบางและอายุประมาณ 28 รูปลักษณ์ของเขาดูยิ่งใหญ่และค่อนข้างหล่อเหลา ในมือของเขา มีพัดที่ดูหรูหราซึ่งเขากำลังใช้พัดตัวเองอยู่
“นายน้อย ! “
“นายน้อย ! “
…..
เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มผู้นี้มีตำแหน่งที่สูงในตระกูลเซีย ในตอนที่ใบหน้าของเขาปรากฏขึ้นมา ทุกคนก็คารวะเขาทันที
ชายหนุ่มผู้นี้เดินไปที่ลานโดยไม่มองไปที่อื่นเลย พร้อมทั้งมีชายที่ดูแข็งแรงหลายคนตามเขาอยู่ด้านหลัง สายตาของพวกเขามองไปรอบ ๆ อย่างดุร้ายเพื่อที่จะปกป้องความปลอดภัยของนายน้อยที่อยู่ด้านหน้า
ตาของนายน้อยไปหยุดที่เจี้ยนเฉิน ในขณะที่ความตึงเครียดในสายตาของเขาก็เพิ่มขึ้นเมื่อเขาเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเจี้ยนเฉิน “ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็คือเจี้ยนเฉิน ? เจ้าดูหล่ออย่างคาดไม่ถึงเลย”
เจี้ยนเฉินมองไปที่นายน้อยของตระกูลเซียสักครู่ก่อนที่จะมองไปที่ชายที่อยู่รอบ ๆ เขา เขาสามารถบอกความแข็งแกร่งของพวกนี้ได้ทันที เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 3 คน เซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุด 5 คน และเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษธาตุน้ำที่อยู่ในขั้นสูงสุดที่สามารถต่อกรกับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 5 คนได้ นี่เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่หาเทียบไม่ได้ง่าย ๆ ในเมืองเวค
เจี้ยนเฉินเอ่ยปากถามออกมา “นายน้อยเซีย บอกเหตุผลที่เจ้ามาที่นี่”
นายน้อยหัวเราะก่อนที่จะพูดออกมา “เจ้าเป็นชายที่ตรงไปตรงมาเสียจริง ดี ข้าจะไม่อ้อมค้อมและเข้าประเด็นเลย” หลังจากนั้น นายน้อยก็หยุดพูดไปสักพักก่อนที่จะพูดต่อด้วยท่าทางเคร่งเครียด “เจี้ยนเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้ามีแกนอสูรระดับ 5 อยู่ 2 อัน ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อต้องการที่จะซื้อแกนอสูรทั้งสองจากเจ้า”
“ข้าขอโทษด้วย แต่ข้าไม่ขายแกนอสูร ! ” เจี้ยนเฉินตอบออกไปอย่างไม่ลังเล
อย่างไรก็ตาม นายน้อยคาดหวังคำตอบแบบนี้อยู่แล้ว เขาจึงพูดต่อ “เจี้ยนเฉิน แกนอสูรระดับ 5 พวกนั้นจะนำปัญหามาให้กับเจ้าถ้าเจ้ายังเก็บมันไว้ เจ้าจะเสี่ยงชีวิตของเจ้า และในฐานะที่เจ้าเป็นหัวหน้าของทหารรับจ้าง เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษพวกนั้นก็ไม่พอที่จะปกป้องแกนอสูรเอาไว้ได้ เซียนปฐพีคงจะสนใจในแกนอสูรระดับ 5 แล้วเจ้าคงไม่มีความสามารถที่จะหยุดพวกเขาได้ ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดกับเจ้า ถ้าเจ้าขายมันให้กับข้า แบบนี้ไม่เพียงแต่เจ้าจะได้เงินไปมากมาย แต่เจ้ายังตัดปัญหาออกไปได้อีกด้วย”
“ขอโทษด้วย แต่ข้าบอกไปแล้วว่าข้าจะไม่ขายแกนอสูร” เสียงของเจี้ยนเฉินเย็นชาในตอนที่เขาตอบกลับ
ตาของนายน้อยแข็งกร้าวไปสักพักก่อนที่เขาจะยิ้ม “เจี้ยนเฉิน ข้าจะให้เวลาเจ้าคิด 3 วัน ในวันที่สาม ข้าจะกลับมา แน่นอนว่า อย่าคิดว่าจะหนีในช่วงนี้ล่ะ ถ้าเจ้าหนี พวกเราจะถือว่านี้เป็นการยั่วยุ และหลังจากนั้น เจ้าก็จะรู้สิ่งที่ตามมาเอง” หลังจากนั้น นายน้อยก็หันหลังจากไป
เมื่อเห็นว่านายน้อยกำลังจะจากไป สายตาของเจี้ยนเฉินก็เป็นประกายเย็นชาก่อนที่จะตะโกนออกไป “หยุด ! “
นายน้อยหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มในขณะที่เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน “มีอะไรหรือ เจ้าเปลี่ยนใจเช่นนั้นหรือ ? “
เจี้ยนเฉินมองไปที่ชายทั้งห้าที่ได้รับบาดเจ็บข้าง ๆ เขาก่อนที่จะชี้ไปที่ชายวัยกลางคน “พวกเจ้าที่เหลือไปได้ แต่เจ้าต้องอยู่ก่อน ! “
เมื่อได้ยินดังนี้ ท่าทางของนายน้อยก็เปลี่ยนไปในขณะที่ชายวัยกลางคนก็มองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ
“เจี้ยนเฉิน นี่หมายความว่าอะไร ? ” นายน้อยสัมผัสได้ถึงเจตนาที่ไม่ดีของเจี้ยนเฉินซึ่งใบหน้ากำลังมืดครึ้มลงเรื่อย ๆ ภายในเมืองเวค ไม่เคยมีใครที่กล้าท้าทายอำนาจของตระกูลเซีย
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น “พวกเจ้าทำเหมือนว่าที่นี่เป็นสวนหลังบ้านของพวกเจ้า พวกเจ้าไปมาตามที่พวกเจ้าต้องการ หลังจากที่พวกเจ้าทำคนของข้าบาดเจ็บ อย่าคิดว่าเจ้าจะได้ไปจากที่นี่เลย”
“เพี้ยะ ! ” พัดพับในมือของนายน้อยหุบปิดลงเพราะเขาสูญเสียความเยือกเย็นก่อนหน้านี้ไป “โอหัง ! เจ้าน่าจะรู้ว่าเจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร เจี้ยนเฉิน”
เจี้ยนเฉินไม่สนคำพูดของนายน้อย ในขณะที่เขาจ้องชายที่ทำให้เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งห้าคนบาดเจ็บอย่างดุดัน
ชายวัยกลางคนมองไปที่เขาด้วยความสนุกในขณะที่เขาอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มออกมา แม้ว่าเขาจะได้ยินมาว่าเจี้ยนเฉินนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เจี้ยนเฉินก็หนุ่มมากจนไม่น่าแข็งแกร่งขนาดนั้น อีกทั้งชายวัยกลางคนยังมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมาก ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นเจี้ยนเฉินอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
“เจี้ยนเฉิน เจ้าต้องการจะลงโทษข้าอย่างนั้นหรือ ? แต่เจ้าคิดจะทำแบบไหนล่ะ ? ” ชายคนนั้นยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยาม
“ความตาย ! ” ทันใดนั้นเอง จิตสังหารที่หนาแน่นก็ไหลออกมาจากใบหน้าของเจี้ยนเฉิน เมื่อมีคนมาหาเรื่องเขาก่อน เขาก็จะไม่ปราณี ถ้าเขาไม่ปรากฏตัวขึ้นมาทันเวลา เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งห้าคนคงบาดเจ็บมากกว่านี้ เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าทหารรับจ้างอัคนีทั้งหมด เขาต้องไม่ยอมอ่อนข้อให้คนอื่น ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้ มันคงมีผลกระทบในความเป็นผู้นำของเขา นี่เป็นเพราะทหารรับจ้างอัคนีไม่ใช่พวกอ่อนแอ
“เจี้ยนเฉิน เจ้ามันรนหาที่ตาย ! ” ทั้งชายวัยกลางคนและนายน้อยร้องออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ใบหน้าของพวกเขาดูน่ากลัวในขณะที่พวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมทั้งจิตสังหาร
คำพูดของเจี้ยนเฉินดูเหมือนว่าเขาเห็นตระกูลเซียไม่มีความสำคัญ แบบนี้มันเป็นอะไรที่นายน้อยไม่สามารถทนยอมได้
ในตอนนี้เอง คนของทหารรับจ้างอัคนีทุกคนก็มองไปที่เจี้ยนเฉิน หลายคนซาบซึ้งกับคำพูดและการกระทำของเขาเช่นกัน ทหารรับจ้างหลายคนอยู่ในกลุ่มของเต้าคังก่อนหน้านี้ พวกเขามีชีวิตลุ่ม ๆ ดอน ๆ ก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็ยังเป็นสหายที่ดีที่สุดต่อกัน พวกเขาเป็นยิ่งกว่าพี่น้อง ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่ตามเต้าคังมาเข้าร่วมกับทหารรับจ้างอัคนี การที่เต้าคังได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจลึก ๆ แต่ด้วยการที่คู่ต่อสู้แข็งแกร่งมาก พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นความหวังทั้งหมดในการต่อสู้กลับก็ถูกวางไว้บนบ่าของเจี้ยนเฉิน
ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างโกรธก่อนที่จะกอดอก “ดี ! ดีมาก เจี้ยนเฉิน ! เจ้ามีจิตวิญญาณที่กล้าหาญอันน่าชื่นชม แต่คำพูดของเจ้านั้นมันไม่ควรที่จะพูดออกมา ระวังมันจะทำให้เจ้าต้องอับอายในตอนนี้ล่ะ ถ้าเจ้าอยากจะฆ่าข้า ก็เข้ามาเลย ให้ข้าเห็นซิว่าข่าวลือเกี่ยวกับเจ้ามันจริงหรือไม่”
“หืม ลุงลุย ดูเหมือนว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องซื้อแกนอสูรระดับ 5 จากเจี้ยนเฉินอีกต่อไปแล้ว”
“จริง นายน้อย นี่หมายความว่าพวกเราจะประหยัดเงินไปได้มากเลย” คนที่ชื่อลุงลุยเริ่มหัวเราะ แส้สีฟ้าปรากฎขึ้นในมือขวาของเขาก่อนที่จะมันจะสะบัดอยู่กลางอากาศด้วยการหักข้อมือเพียงครั้งเดียวของเขาและทำให้เกิดเสียงดังออกมา
ปากของเจี้ยนเฉินเผยให้เห็นรอยยิ้มเย็นชา แม้ว่าเขาจะต้องสู้กับจอมยุทธที่ใช้พลังเซียนธาตุน้ำ แต่เขาก็ไม่เห็นว่าคนนี้เป้นคู่มือของเขา เจี้ยนเฉินขยับและร่างของเขาก็หายไปทันทีโดยทิ้งภาพติดตาเอาไว้ เขาพุ่งไปทางชายวัยกลางคนอย่างรวดเร็วในขณะที่เอากระบี่วายุโปรยออกมาแทงไปที่คอของชายวัยกลางคนพร้อมพร้อมกัน
กระบี่วายุโปรยกลาเป็นเหมือนแสงสีเงินที่พุ่งไปที่ชายวัยกลางคนอย่างเร็วมาก ก่อนที่ชายคนนั้นจะรู้ตัว กระบี่ก็อยู่ห่างจากเขาเพียง 1 ฟุต
เพื่อพี่น้องทหารรับจ้างอัคนี ชัยชนะครั้งนี้ต้องเด็ดขาด ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่ลังเลที่จะใช้พลังมากกว่าก่อนหน้านี้
“เขาช่างเร็วอะไรเช่นนี้ ! ” ชายวัยกลางคนขวัญหาย ในขณะที่ท่าทางเยาะเย้ยของเขาก็หายไปและแทนที่ด้วยท่าทีเคร่งเครียดแทน เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเจียนเฉินนั้นจัดการไม่ได้ง่ายเหมือนที่เขาคิดเอาไว้เสียแล้ว
ชายวัยกลางคนพุ่งถอยหลังไปและแกว่งแส้ของเขาให้ลอยไปที่เจี้ยนเฉินเหมือนงูพิษ มันเริ่มขดรอบกระบี่วายุโปรยที่กำลังแทงมาที่เขากลางอากาศ
เขาประเมินความเร็วของกระบี่วายุโปรยต่ำเกินไป ในตอนที่แส้กำลังจะพันรอบกระบี่วายุโปรย ความเร็วของกระบี่วายุโปรยก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบี่ที่รวดเร็ว ชายวัยกลางคนก็ไม่สามารถหลบหรือป้องกันตัวเองได้ทันเวลา ดังนั้นในตอนท้าย กระบี่วายุโปรยจึงแทงไปที่คอของชายคนนั้นด้วยความเร็วที่น่ากลัว
แม้ว่าการที่มีพลังเซียนธาตุน้ำจะทำให้เขาเหนือกว่าในบางด้าน แต่ต่อหน้าเจี้ยนเฉินแล้ว ความได้เปรียบนี้ก็ไม่มีอะไร แม้ว่าชายคนนี้จะมีทักษะการต่อสู้ เขาก็ไม่มีเวลาพอที่จะใช้มัน
ชายวัยกลางคนจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเหลือเชื่อสุดขีด แม้ว่าเขาจะใช้กำลังทั้งหมดของเขา เขาก็ไม่สามารถหลบกระบี่ของเจี้ยนเฉินได้
“ท่านลุงลุย…” ใบหน้าของนายน้อยเปลี่ยนไปในขณะที่เขามองออกไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาเข้าใจในความแข็งแกร่งของลุงของเขาดี และภายในตระกูล ลุงลุยมีความแข็งแกร่งเป็นอันดับที่สาม นอกเหนือไปจากเซียนปฐพีแล้ว ก็ไม่มีใครสักคนที่สามารถสู้และเอาชนะลุงลุยได้ แม้จะเป็นอย่างนั้น เจี้ยนเฉินก็สามารถฆ่าเขาได้ด้วยการโจมตีในครั้งเดียว ผลลัพธ์แบบนี้เป็นอะไรที่เขารับไม่ได้
“ปกป้องนายน้อย ! “
เมื่อชายวัยกลางคนถูกฆ่า องครักษ์ทุกคนก็ระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที พวกเขาคว้าตัวนายน้อยเอาไว้และถอยออกจากตระกูลไคด้วยสายตาที่เคร่งเครียดและพวกเขาก็ระวังตัวเผื่อว่าเจี้ยนเฉินเกิดเข้ามาโจมตีอีกครั้ง
“ข้าบอกไปแล้ว นี่ไม่ใช่ลานของตระกูลเซีย ในนี้ เข้าไม่สามารถเข้าออกได้ตามใจชอบ ทุกคน ล้อมพวกนั้นไว้ ! ” เจี้ยนเฉินสั่ง
“ขอรับ หัวหน้า ! “
พี่น้องของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเชื่อฟังคำสั่งทันทีและกั้นประตูเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลเซียออกไป
“เจี้ยนเฉิน เจ้ากำลังจะทำอะไรกันแน่ ? ” นายน้อยของตระกูลเซียหน้าซีดในขณะที่เขาตะโกนออกมาอย่างแกล้งทำเป็นกล้า ความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉินเปิดเผยออกมาทำให้นายน้อยรู้สึกกลัวอย่างมากในใจ