เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2542 : ความแข็งแกร่งที่แท้จริง
ตอนที่ 2542 : ความแข็งแกร่งที่แท้จริง
โถงศักดิ์สิทธิ์รับการโจมตีและค่อย ๆ เดินหน้าเข้ามาตามสะพานช้า ๆ มันเข้าใกล้ค่ายกลมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนนั้นพลังงานหนึ่งได้ปะทุออกมาภายในค่ายกล มังกรและวิหคเพลิงได้พุ่งออกมาจากค่ายกลพุ่งเข้าใส่โถงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเสียงคำรามของมังกรและวิหคเพลิง
พวกมันไม่ใช่มังกรและวิหคเพลิงของจริง มันเป็นมังกรที่สร้างขึ้นมาจากหมอกและเมฆ ส่วนวิหคเพลิงนั้นอัดแน่นขึ้นมาจากฝนที่มีพลังแห่งวิถี พวกมันได้เข้าโจมตีโถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยพลังอันน่ากลัว
ในตัวมังกรและวิหคเพลิงนั้นมีสายฟ้าขนาดใหญ่ที่หนาหลายร้อยเมตร มันได้เปล่งแสงอันน่ากลัวผ่ามิติที่มืดมิดเข้าโจมตีโถงศักดิ์สิทธิ์
นี่คือพลังที่เย่อี้หานได้ควบคุมผ่านตราราชวงศ์ เขาต้องการจะหยุดการเดินหน้าของโถงศักดิ์สิทธิ์
โถงศักดิ์สิทธิ์ช้าลงกว่าเดิมเมื่อรับการโจมตีจากค่ายกลนี้
ตอนแรกมันไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนักเพราะมันเป็นวัตถุเทพขั้นสูง แต่วัตถุเทพขั้นสูงนั้นไม่อาจจะแสดงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่เพราะไม่มีอัครสูงสุด มันรับการโจมตีได้เพราะความแข็งแกร่งของมัน
ยอดฝีมือทั้งหมดในจักรพรรดิเมฆทวีได้ร่วมมือกันเพื่อรับมือกับโถงศักดิ์สิทธิ์
อสรพิษทองริ้วเงิน เทียนชางเองก็อยู่ในหมู่พวกนี้ด้วย
แต่เขากลับเคร่งเครียดอย่างมาก เขามองไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้สะพานเชื่อมสวรรค์ทะลุเข้ามาในค่ายกลด้วยสายตาที่สั่นไหวด้วยความไม่แน่นอน
“บัดซบ ข้าไม่คิดว่าลัทธิปิศาจชั้นฟ้าจะมีสะพานเชื่อมสวรรค์ หากข้ารู้แต่แรกแล้วข้าคงไม่กลับมาที่เมืองหลวง” เทียนชางสบถออกมาในใจ เขามั่นใจในค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิต เขาเชื่อว่าตราบใดที่มีค่ายกลอยู่ ลัทธิปิศาจชั้นฟ้าก็ไม่มีทางเข้ามาในเมืองได้ แต่การปรากฏตัวของสะพานเชื่อมสวรรค์นี้ ทำให้เขารับรู้ได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้น่ากลัวแค่ไหน
หากเขาอยู่ด้านนอกในตอนนี้ เขาคงใช้ความสามารถในการหนีได้และออกจากที่ราบสำราญไปได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่ออยู่ในค่ายกลแล้ว เขากลับถูกจำกัด
คุณภาพของค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตนั้นยอดเยี่ยม มันคือค่ายกลระดับเทพ ตอนนี้มันถูกเปิดใช้งานเต็มที่ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะผ่านค่ายกลไปได้แม้ว่าจะใช้ทุกอย่างที่เขามีก็ตาม
ตอนนี้พลังปิศาจได้แผ่ออกมาในสะพานเชื่อมสวรรค์ โถงศักดิ์สิทธิ์ได้เข้ามาในเมืองหลวงแล้ว มันได้แผ่พลังมหาศาลออกมากดดันต่อเมืองหลวง ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ไหนก็ตาม พลังปิศาจนั้นก็จะแผ่ออกมาและย้อมที่นั่นให้ตกสู่ความมืดมิด
“จากเมฆที่ปะทุและฝนที่พัดพาจนเปลี่ยนท้องฟ้าเป็นโลก ! ” เย่อี้หานตะโกนออกมา เขาได้ยกตราราชวงศ์ขึ้นบนฟ้าพร้อมกับที่ตราได้เปล่งแสงออกมาดูเหมือนว่าจะหลอมรวมกับค่ายกล
ทันใดนั้นมิติภายในค่ายกลก็บิดเบี้ยวขึ้นมา พลังอันลึกลับได้ปรากฏขึ้นแยกมิติและสร้างอีกโลกขึ้นมา มันได้ผนึกโถงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ที่นั่น
โถงศักดิ์สิทธิ์หยุดชะงัก มิติโดยรอบตัวบิดเบี้ยวพร้อมกับเวลาที่ปั่นป่วน ค่ายกลได้สร้างเส้นแบ่งขึ้นมาเหมือนกับสร้างอีกโลกเพื่อกักขังโถงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ที่นั่น
เย่อี้หานได้ใช้พลังของค่ายกลเพื่อกักขังโถงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้
ยังไงซะโถงศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นวัตถุเทพขั้นสูง มันไม่อาจจะถูกทำลายได้ หากกเขาปล่อยให้มันเข้ามาในเมืองหลวง งั้นมันก็ไม่อาจจะมีใครหยุดโถงศักดิ์สิทธิ์นี่ได้
โถงศักดิ์สิทธิ์เปล่งแสงออกมา มันได้ระเบิดพลังอันน่ากลัวออกมาพร้อมกับพลังปิศาจที่แผ่ออกไปโดยรอบย้อมรอบตัวของมันให้ตกสู่ความมืดมิด
โถงศักดิ์สิทธิ์เริ่มทำการโต้กลับ มันได้เข้าปะทะกับค่ายกลทันที
ค่ายกลเริ่มสั่นไหว มิติที่กักขังโถงศักดิ์สิทธิเอาไว้เองก็เริ่มสั่นไหวเช่นกัน มันเริ่มไม่มั่นคงราวกับว่าจะพังลงตอนไหนก็ได้
“การบ่มเพาะของข้าต่ำเกินไป ข้าใช้พลังของค่ายกลได้แค่ส่วนหนึ่ง” เย่อี้หานแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา เขามองไปที่ตราราชวงศ์ในมือ ก่อนจะกัดลิ้นขอตัวเองพ่นแก่นเลือดของตัวเองลงบนตราราชวงศ์
ทันใดนั้นตราราชวงศ์ก็เปล่งแสงออกมา พลังของค่ายกลเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยในพริบตา
เมื่อเป็นเช่นนั้นหัวหน้าผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าอย่างเซิ่งหมิงที่นั่งอยู่ภายในโถงศักดิ์สิทธิ์ก็เผยสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
มือของเขาขยับไปมาพร้อมกับสร้างผนึก เขาได้ใช้ทักษะลับที่อาจารย์ส่งต่อมาให้กับเขาในการควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์
หยดเลือดหยดหนึ่งลอยอยู่เหนือหัวของเขา พลังงานในหยดเลือดนี้แข็งแกร่งอย่างมาก ตอนนั้นพลังงานส่วนหนึ่งได้กระจายออกมาจากหยดเลือดหลอมรวมกับผนึกของเซิ่งหมิง ก่อนจะหลอมรวมเข้ากับโถงศักดิ์สิทธิ์
พลังงานหลักที่ให้พลังกับโถงศักดิ์สิทธิ์คือพลังจากหยดเลือดนี่ !
“หยดเลือดจากอาจารย์นี้เป็นแหล่งพลังงานให้กับโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ 3 วัน เราต้องถอยกลับใน 3 วัน” เซิ่งหมิงคิด เวลาที่พวกเขามีนั้นน้อยอย่างมาก
“น่าเสียดายที่เจ้าของโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ตายไปเพราะมืออาจารย์ไป จิตวิญญาณวัตถุเองก็ปฏิเสธที่จะร่วมมือด้วย สุดท้ายเขาก็ถูกอาจารย์ฆ่าเขา หากข้ามีจิตวิญญาณวัตถุคอยช่วย การควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์นี่คงง่ายกว่าเดิมอย่างมาก” ทันทีที่คิดแบบนั้น เซิ่งหมิงก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา เขาได้ตะโกนอกอมาหลังจากที่สร้างผนึกด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นเขาก็ได้ใช้มือทั้งสองข้างกดลงไปที่พื้น
ทันใดนั้นลำแสงสีดำก็พุ่งออกจากโถงศักดิ์สิทธิ์ มันเกิดจากข้อความจารึกมามายที่หลอมรวมกันยิงเข้าใส่ค่ายกล มันได้เข้าห้ำหั่นกับค่ายกลที่ทำการป้องกันเมืองหลวงแห่งนี้
“ท่าไม่ดีแล้ว ค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตเสียแปรียบ ข้าไม่อาจจะควบคุมมันผ่านตราราชวงศ์ได้อีกแล้ว” สีหน้าของเย่อี้หานเปลี่ยนไปทันที
ในเวลาเดียวกันกองทัพของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าก็ได้ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเหมือนกับเมฆดำ พวกเขามีจำนวนนับไม่ถ้วน
ด้วยการที่ค่ายกลถูกกดเอาไว้ กองทัพของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าจึงสามารถเดินหน้าออกมาได้ พวกเขาต่างก็เป็นพวกระดับสูง พวกเขาต่างก็เป็นยอดฝีมือขอบเขตเทพ
พวกเขาได้รับการฝึกมาอย่างดี ทันทีที่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็ได้ใช้พลังของตัวเองออกมาจนถึงขีดสุดโดยมีราชาเทพเป็นผู้นำ จากนั้นพวกเขาก็พากันเดินหน้ากันต่อ
บนท้องฟ้านั้นมียอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าปรากฏตัวขึ้นมา พวกเขามีกันหลายคนจนทำให้ยอดฝีมือของจักรพรรดิเมฆทวีต้องแปลกใจ
“มันมียอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นกว่า 200 คน ลัทธิปิศาจชั้นฟ้ามียอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นมากแบบนี้ได้ยังไง ? ” สีนห้าของรองผู้ปกครองหลายคนเปลี่ยนไป จำนวนยอดฝีมือนั้นมากกว่าที่จักรวรรดิพวกเขามีกว่าสองเท่า
“ฮึ่ม พวกเขาเป็นแค่ยอดฝีมืออสงไขย กว่า 7 ใน 10 เป็นยอดฝีมืออสงไขยช่วงต้น มันมียอดฝีมือบรรพกาลไม่ถึง 10 คน จักรวรรดิของเราไม่ได้อ่อนแอกว่าพวกเขา”