เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2580: สกัดกั้น
ตอนที่ 2580: สกัดกั้น
“มีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งเข้ามาในจักรวรรดิเสิ่นเตาของเราและลักพาตัวซิงเอ๋อและหลานเอ๋อไป …” เทียนชาง งอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นในไม่กี่ประโยค
“หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นข้าก็ไปยังเผ่าเทพที่ร่วงหล่นก่อนด้วยความหวังว่าพวกเขาจะยืนหยัดเพื่อ เรา แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเผ่าเทพที่ร่วงหล่นจะตัดความสัมพันธ์ของพวกเขากับจักรวรรดิเสิ่นเตาของเร ราจริง ๆ ” เทียนชางกล่าวเสริม แม้ว่านางจะหวังว่าตระกูลเทียนหยวนจะทำอะไรบางอย่างได้บ้าง แต่นาง ก็ไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหาให้กับตระกูลเทียนหยวนเช่นกัน นางจึงเปิดเผยความจริงที่ว่าศัตรูของนางม มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่
เจี้ยนเฉินก้มหัวลงใช้ความคิด เขาเอามือไพล่หลังขณะพูดช้า ๆ “ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ที่แม้แต่เผ ผ่าเทพที่ร่วงหล่นก็ยังไม่กล้าล่วงเกิน ? ข้าคิดว่าข้ารู้แล้วว่าเขาเป็นใคร มีเพียงพวกเขาที่เหลื ออยู่บนที่ราบเมฆาที่สามารถทำให้เผ่าเทพที่ร่วงหล่นวิตกกังวลได้”
“เจี้ยนเฉิน เจ้ารู้จักตัวตนของเขาหรือ ? ” ใบหน้าของเทียนชางสว่างขึ้น นางรีบถามทันที
เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อย เขาแผ่พลังไปในอากาศและสร้างภาพของมู่หลิน เขาถามว่า “ใช่เขาหรือไม่ ? ”
“ถูกต้อง นั่นคือเขา ใช่คนผู้นั้น” เทียนชางกัดฟันทันทีเมื่อนางเห็นมู่หลิน ความเกลียดชังท่วมท้นดวงต ตาของนาง ขณะที่นางถามว่า “เจี้ยนเฉิน เขาเป็นใคร ? ”
เจี้ยนเฉินมองเทียนชางอย่างลึกซึ้งและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเขาเป็นใคร สิ่งที่ต้องเข้าใจก็คื อภูมิหลังของเขานั้นน่ากลัวกว่าที่ท่านคิดไว้มาก อย่างไรก็ตาม ทั้งพันธมิตรสี่เส้าหรือพันธมิตรชอบธร รรมไม่สามารถที่จะล่วงเกินคนผู้นี้ได้ มันสมเหตุสมผลแล้วที่เผ่าเทพที่ร่วงหล่นจะถอยตัวออกห่างจากเ เรื่องนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทียนชางก็สั่นสะเทือน ใบหน้าที่ซีดเซียวของนางจางลงมาก นางพูดอย่างไร้พลัง“ ซ ซิง- ซิงเอ๋อกับหลานเอ๋อคงไม่รอดแน่”
“ผู้อาวุโสเทียนชางไม่ต้องกังวล องค์หญิงซิงเอ๋อและองค์หญิงหลานเอ๋อเป็นคนรู้จักของข้า ข้าจะไม่เฝ้า าดูและปล่อยให้พวกนางตกอยู่ในกรงเล็บของปีศาจ พันธมิตรชอบธรรมและพันธมิตรสี่เส้าไม่กล้าทำให้พวกเขาข ขุ่นเคือง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าไม่กล้าลงมือ” เจี้ยนเฉินกล่าวปลอบนาง ในตอนท้ายน้ำเสียงของเขา ก็แน่วแน่มาก
“ผู้อาวุโสเทียนชาง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานแค่ไหน ? ” เจี้ยนเฉินยังคงถามต่อไป
เปลวไฟแห่งความหวังสว่างขึ้นภายในเทียนชางอีกครั้งพร้อมกับสิ่งนั้น นางจึงตอบว่า “ไม่ถึง 1 ชั่วยามที่ ผ่านมา”
นั่นเป็นเรื่องจริง เนื่องจากแผ่นอาคมเส้นทางสวรรค์ของเทียนชางสามารถเคลื่อนย้ายทางไกลได้จากทุกที่ที นางต้องการข้ามไปยังอีกสถานที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้นางสามารถข้ามไปยังพื้นที่ภาคใต้ได้โดยตร รงในเวลาอันสั้น
“ตอนนี้พันธมิตรสี่เส้าสั่งปิดค่ายกลส่งตัวทางไกลระดับภูมิภาค เจ้าสามารถข้ามภูมิภาคได้โดยการบินเท่า านั้น ภายใน 1 ชั่วยาม ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 คงจะมาถึงเขตชายแดนของภาคเหนือเท่านั้น เขาน่าจะยัง งไม่ได้เข้ามาในพื้นที่ภาคใต้” เจี้ยนเฉินพึมพำก่อนจะตัดสินใจในไม่ช้า เขาพูดกับเทียนชางว่า “ผู้อาวุโ โสเทียนชางรักษาตัวที่นี่ก่อน ข้าจะไปนำตัวองค์หญิงทั้งสองกลับมาเอง”
เมื่อกล่าวเช่นนั้นจบ เจี้ยนเฉินก็หายตัวไป เขาออกจากตระกูลเทียนหยวนและจักรวรรดิปิงเทียนผ่านกฎแห่ง งมิติ
เทียนชางกำลังอ้าปาก นางต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วนางขาดการติดต่อกับเจี้ยนเฉินไปอย่างฉับพลัน น
“กฎแห่งมิติ ! ” เทียนชางรู้สึกประหลาดใจ กฎแห่งมิติของเจี้ยนเฉินได้บรรลุถึงระดับที่ลึกซึ้งแล้วซึ่ งทำให้นางตกใจมาก
แต่ในไม่ช้านางก็เริ่มกังวลอีกครั้ง นางมาที่ตระกูลเทียนหยวนเพราะพวกเขามีขั้นบรรพกาล สถานะของพวกเ เขายิ่งใหญ่มากจนแม้แต่พันธมิตรสี่เส้าและพันธมิตรชอบธรรมก็ไม่กล้ารุกรานพวกเขา เดิมทีนางต้องการให้เ เจี้ยนเฉินขอให้ขั้นบรรพกาลดำเนินการผ่านสถานะของเขาในฐานะผู้นำ แต่นางไม่เคยคิดว่าเจี้ยนเฉินจะออกเ เดินทางเพียงลำพัง
แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเจี้ยนเฉินบ่มเพาะไปถึงระดับไหน แต่นางก็มั่นใจว่าเจี้ยนเฉินไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ สามารถเทียบขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ได้แน่
ตอนที่นางพบกับเจี้ยนเฉินในจักรวรรดิเสิ่นเตาครั้งสุดท้าย เขาเป็นเพียง ขั้นเหนือเทพ เขาจะเติบโตไป ปถึงระดับที่สามารถต่อสู้กับขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ในระยะเวลาสั้น ๆ ได้อย่างไร ?
…
บริเวณทางภาคใต้และทางภาคเหนือของที่ราบเมฆาถูกแยกออกจากกันด้วยมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ อันที่จริงมัน เป็นเพราะมหาสมุทรนี้ทำให้ที่ราบเมฆาถูกแบ่งออกเป็น 5 ภูมิภาค
ร่างของชายคนหนึ่งเคลื่อนที่ไปในอากาศด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เขาพุ่งออกไปที่ขอบฟ้าในทันทีและหายไ ไป
เขาคือมู่หลินที่กำลังกลับมาจากพื้นที่ภาคเหนือ
ด้วยความเร็วของเขาในฐานะชั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 เขาจึงใช้เวลาไม่นานในการเดินทางจากภูมิภาคหนึ งไปยังอีกภูมิภาคหนึ่ง เพราะผู้เชี่ยวชาญเช่นเขาสามารถเดินทางผ่านดวงดาวได้ ความเร็วส่วนบุคคลของเขา เทียบเท่ากับยานอวกาศบางลำ
ด้วยเหตุนี้ในเวลาเพียง 1 ชั่วยาม มู่หลินก็ออกจากภาคเหนือและมาถึงเหนือมหาสมุทรระหว่างพื้นที่ภาคเหนื อและภาคใต้ ในไม่ช้า เขาก็ข้ามมหาสมุทรและกลับไปที่ภาคใต้
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเราจะได้พบกับร่างหยินสวรรค์และร่างวิถีแรกกำเนิดในสถานที่เล็ก ๆ เช่นที่ราบ บเมฆา ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงสองคนมีเรือนร่างที่มีเสน่ห์มาก นายน้อยจะต้องมีความสุขแน่ ๆ ถ้าข้าพาพวก กนางกลับไป” มู่หลินคิด เขาถือโถงศักดิ์สิทธิ์ไว้. ซิงเอ๋อและหลานเอ๋อถูกขังอยู่ในนั้น
“ข้าจะใช้ทั้งสองคนเพื่อทำให้นายน้อยสงบลงก่อน จากนั้นเราค่อย ๆ คิดที่จะทำลายตระกูลเทียนหยวน ฮึ่ ม ตระกูลเทียนหยวนช่างกล้าแสดงความไม่เคารพต่อนายน้อย ช่างไร้ปัญญาและโง่เขลา หากไม่ใช่คำสั่งของนาย ยท่านที่ขัดขวางไม่ให้นายน้อยใช้กองกำลังของที่ราบประกายดาว นายน้อยเพียงต้องพูดมาคำเดียว ตระกูลเ เทียนหยวนอันน่าสมเพชก็จะถูกทำลาย พวกเขาคิดว่าพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงสามารถช่วยให้พวกเขาปลอดภัย ยได้หรือ ? ”
มู่หลินอารมณ์เสียทันทีที่นึกถึงตระกูลเทียนหยวน เขายังดูถูกพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงเพราะพวกเขาไม่ ได้ครอบครองจอมปราชญ์สูงสุดอีกต่อไป ในขณะที่ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้ามีจอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตคอ อยหนุนหลัง องค์หญิงใหญ่แห่งพระราชวังสวรรค์แห่งบีเชิงจะยืนหยัดต่อต้านใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าได้อ อย่างไร ?
อย่างไรก็ตามในขณะนี้สีหน้าของมู่หลินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขามาหยุดอย่างฉับพลัน เขาลอยอยู่ในอาก กาศหมื่นเมตร ขณะที่จ้องไปข้างหน้าด้วยสีหน้าอัปลักษณ์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและจิตสั งหาร
ชายหนุ่มชุดขาวลอยอยู่บนเมฆเบื้องหน้าเขา โต๊ะเล็ก ๆ ที่ถูกบีบอัดจากก้อนเมฆตั้งอยู่ต่อหน้าชายหนุ่ ม เขานั่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะอย่างเกียจคร้าน เขากำลังดื่มชาอย่างสบายใจ
ลมพัดอย่างรุนแรงในระดับความสูงดังกล่าว ทำให้ผมของชายหนุ่มพลิ้วไหวขณะที่เสื้อคลุมสีขาวของเขาโบกสะ ะบัด เขาดูผ่อนคลายและโล่งใจ
“เจี้ยนเฉิน ! ” ใบหน้าของมู่หลินจมลงในขณะที่เขาพูดพลางกัดฟันด้วยความไม่พอใจอย่างที่สุด เขาจ้องไปท ที่ชายหนุ่มเสื้อคลุมขาวที่นั่งดื่มชาอยู่ข้างหน้า ดูเหมือนว่าเขารออยู่ที่นั่นมาระยะหนึ่งแล้ว
“องค์หญิงซิงเอ๋อและหลานเอ๋อจากจักรวรรดิเสิ่นเตาอยู่กับเจ้าหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินยังคงนั่งอยู่ เข ขาจิบชาเบา ๆ ขณะที่ถามอย่างสุขสบาย
“เจ้าหมายถึงคนที่ครอบครองร่างหยินสวรรค์และร่างวิถีแรกกำเนิดใช่หรือไม่ ? มันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า า ? ” มู่หลินส่งเสียงอย่างเย็นชาขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยจิตสังหาร เขาไม่ได้ตื่นกลัวเลย
เมื่อศัตรูประจันหน้ากัน ดวงตาของพวกเขาจะลุกโชนด้วยความเกลียดชัง เขาโกรธแค้นเจี้ยนเฉินอย่างที่สุด ส สำหรับความอัปยศอดสูที่เขาประสบในตระกูลเทียนหยวน
แม้ว่าเขาจะเคยพ่ายแพ้ให้กับเจี้ยนเฉินในอดีต แต่เขาเชื่อว่านั่นเป็นเพราะความประมาทของเขาเอง เข ขาไม่ได้คาดไว้ว่าเจี้ยนเฉินจะเข้าใจกฎแห่งมิติ ในความเป็นจริง เขาไม่รู้สึกกลัวเจี้ยนเฉิน เขามั่นใจ ว่าเขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจี้ยนเฉิน
“ข้ารู้จักมักคุ้นกับองค์หญิงซิงเอ๋อและหลานเอ๋อ การกระทำของเจ้าล่วงล้ำขอบเขต” น้ำเสียงของเจี้ยนเฉิน นยังคงเป็นกลางและมั่นคง
“ฮึ่ม เจี้ยนเฉิน ตัวเจ้าเองยังแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่เจ้ายังกังวลเกี่ยวกับคนอื่นอยู่อีกหรือ ? หากเจ จ้ามีเวลาว่างมากเช่นนี้ ทำไมเจ้าไม่เลือกที่ที่จะฝังตัวเองในอนาคต ? ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่มีที่อยู่และกลา ายเป็นอาหารของนกและสัตว์อสูร” มู่หลินยิ้มเยาะ ขณะที่พูด เขาหยิบโถงศักดิ์สิทธิ์ออกมาและพูดต่อว่า “พวกนางอยู่กับข้าจริง ๆ เจ้าจะทำอะไรรึ ? ”
มู่หลินได้โคจรพลังทั้งหมดของเขาอย่างลับ ๆ แล้ว เขาพร้อมที่จะปะทะกับเจี้ยนเฉินได้ทุกเมื่อ
“ข้าจะทำอย่างไรรึ ? ข้าสามารถ … ตัดหัวเจ้าได้ ! ” เสียงของเจี้ยนเฉินค่อนข้างดุดัน เขามองผ่านโถงศ ศักดิ์สิทธิ์ในมือของมู่หลินและในช่วงเวลาถัดมาเขาก็ระเบิดด้วยแสง เขาใช้ร่างกายของเขาเป็นกระบี่ เ เขาฉีกก้อนเมฆและหั่นผ่านอวกาศ เขาพุ่งไปทางมู่หลินด้วยพลังที่ไม่อาจหยุดยั้งได้