เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2599: ฆ่าเพิ่มอีก
ตอนที่ 2599: ฆ่าเพิ่มอีก
“พลังวิญญาณนักรบทรงพลังจริง ๆ ไม่น่าแปลกใจที่เชื้อสายนักรบวิญญาณเป็นที่รู้จักกันดีว่าไร้พ่ายในระดับเดียวกัน พลังต่อสู้ของพวกเขามันแทบน่าเหลือเชื่อ” เหลาม่านเทียนฟื้นตัวจากการโจมตีด้วยพลังวิญญาณนักรบของหุนเจิ้ง เข ขาเครียดอย่างมาก เขาตัวสั่นเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้เขาเคยตะลึงกับพลังวิญญาณนักรบแล้ว มันทำให้การรับรู้ของเขาลดลงอย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ค ครั้งเดียว แต่ก็เพียงพอที่จะจบชีวิตของเขาในการต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกลัวมากกว่าคือ เขาไม่อาจป้องกันพลังวิญญาณนักรบได้เลย เขาทำได้เพียงทำตัวเหมือนกับเป้าซ ซ้อมที่มีชีวิตและทำได้เพียงแค่อดทนในการโดยโจมตี
“ทุกคนระวัง อย่าต่อสู้กับพวกเขาเพียงลำพัง” กงจี้ตะโกนออกมา นางก็เคร่งเครียดเช่นกัน แม้ว่าคู่ต่อสู้ของนางจะเป ป็นแค่ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 แต่ภัยคุกคามที่พวกเขาให้มานั้นมากกว่าขั้นอัครสูงสุดหลายเท่า
สิ่งเดียวที่ทำให้กงจี้ไม่ต้องกังวลก็คือคนในเชื้อสายนักรบวิญญาณนั้นถูกจำกัดอยู่ที่การมุ่งเน้นไปที่พลังวิญญ ญาณนักรบของพวกเขา คน ๆ เดียวแต่มีพลังเหนือวิญญาณของอัครสูงสุด พวกเขายังสามารถทำให้วิญญาณบาดเจ็บหรือมึนงง
หากพลังวิญญาณนักรบถูกแบ่งและใช้กับอัครสูงสุด 2 คนในเวลาเดียวกันก็ไม่ต้องกังวล มันคงไม่สามารถมีอิทธิพลต่อพว วกเขามากนัก
ในตอนนี้คนอื่น ๆ ต่างก็แสดงท่าทีออกทั้งหมดนอกจากบรรพชนสายลมพลิ้ว คู่ของเหลาม่านเทียนและเหอยี่เต๋า ทั้งหม มดมีอัครสูงสุดได้ต่อสู้กับหุนเจิ้ง,จื้อเจี้ยนและเยว่เฉา
หุนเจิ้ง, จื้อเจี้ยนและเยว่เฉามีพลังที่น่าอัศจรรย์มาก ด้วยการบ่มเพาะของพวกเขาอยู่ที่ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ท ที่ 9 พวกเขาสามารถต่อสู้กับอัครสูงสุด 2 คนได้อย่างเท่าเทียม แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจมีชัยแต่พวกเขาก็ไม่แพ้เช่นกั น
ในเวลาเดียวกัน พลังวิญญาณนักรบที่พวกเขาปล่อยออกมาเป็นครั้งคราวจะสร้างปัญหาให้กับอัครสูงสุดของพันธมิตรสี่เส้า
“บัดซบ พลังแปลก ๆ นี่ เมื่อไหร่ก็ตามที่ข้าปะทะกับเขา วิญญาณของข้าจะถูกโจมตีด้วยพลังแปลก ๆ ข้าไม่อาจป้องกั นได้เลย เราไม่อาจต่อสู้กับเขาได้ด้วยพลังของเรา ไม่อย่างนั้นเราจะต้องแย่แน่ ๆ เราต้องจัดการให้เสร็จเร็ว ๆ ” เจิ้งหู่ตะโกนออกมา ใบหน้าของเขาน่าเกลียดเล็กน้อยและซีดขาว
เจิ่งหู่เพิ่งทะลวงเป็นอัครสูงสุดเมื่อไม่นานนี้ วิญญาณของเขาอ่อนแอที่สุดในบรรดาอัครสูงสุด ตอนนี้เขาจึงเป็นคน นแรกที่อ่อนแรง
ตูม !
พร้อมกับเสียงที่สั่นสะเทือน กงจี้ได้ลอยออกไปด้วยพลังจากหมัดของหุนเจิ้งเพียงหมัดเดียว นางกระเด็นออกไปราวกับ บดาวหางพร้อมกับมีเลือดไหลออกจากมุมปากของนาง
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้” กงจี้แพ้ ดวงตาของนางเบิกกว้าง ขณะที่นางจ้องไปที่หุนเจิ้งด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“จะ-เจ้า เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นแค่ขั้นบรรพกาล แล้ว…ทำไม พลังปราณของเจ้าถึงมากกว่าข้า มันเหมือนว่าขั้นบรรพกาล อย่างเห็นได้ชัด” กงจี้ตะโกนออกมาราวกับว่านางกำลังเสียสติ
“ความเข้าใจของพวกเขายังอยู่ที่ขั้นบรรพกาล แต่การบ่มเพาะของเขาได้เกิดกว่าอัครสูงสุดไปแล้ว นี่มันไม่สมเหตุสม มผลเลย” เหลาม่านเทียนตกตะลึง ขณะที่เขาจ้องมองไปที่หุนเจิ้งอย่างว่างเปล่า
ความเข้าใจหมายถึงกฎของโลก ในขณะที่การบ่มเพาะหมายถึงปริมาณการสะสมปราณของผู้เชี่ยวชาญ
การบ่มเพาะของโลกเซียนนั้นจะถูกจำกัดด้วยความเข้าใจของพวกเขา การบ่มเพาะของพวกเขาจะเพิ่มก็ต่อเมื่อความเข้าใจขอ องเขาเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ความเข้าใจจึงมาก่อนการบ่มเพาะเสมอ
มีคนที่มีความเข้าใจมากกว่าการบ่มเพาะของพวกเขา แต่ก็ไม่มีเคยมีใครที่มีการบ่มเพาะมากกว่าความเข้าใจ มันเป็นของ งโลก เป็นดั่งกฏเหล็ก
อย่างไรก็ตาม หุนเจิ้งได้ท้าทายสิ่งนี้อย่างเห็นได้ชัด
“เชื้อสายนักรบวิญญาณแข็งแกร่งจริง ๆ….” อีกด้าน ผู้นำยอดเขาเทียนชาน, เลี่ยหยานหวูจิ, โจวซีเตาและตงวู่หมิง ต่างตกตะลึง
แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินเรื่องเชื้อสายนักรบวิญญาณมาก่อน แต่สิ่งที่พวกเขารู้มาจากข่าวลือและบันทึกต่าง ๆ พวกเขา าไม่อาจหลีกเลี่ยงความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดได้ แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเชื้อสายนักรบวิญญาณด ด้วยตัวเอง พวกเขาต่างก็ประหลาดใจอย่างแท้จริง
“ลงมือกันเถิด คราวนี้เราจะต้องทำให้พันธมิตรสี่เส้าต้องจ่ายค่าตอบแทนราคาแพงแล้ว” ตงวู่หมิงกล่าวอย่างเย็นชา จ จิตสังหารวาบผ่านสายตาของเขา การมาถึงของเชื้อสายนักรบวิญญาณได้พลิกกระดานอีกครั้ง พวกเขากลับมาเป็นฝ่ายที่เหนื อกว่า
“เราต้องฉีกเหลาม่านเทียนและเหอยี่เต๋าเป็นชิ้น ๆ แน่นอนว่าพวกเขาต้องจ่ายค่าตอบแทนแสนแพงสำหรับการกระทำของ งพวกเขา” โจวซีเตากัดฟันของเขา เขาไม่พอใจเหลาม่านเทียนและเหอยี่เต๋าอย่างมาก
“ฮึ่ม ข้าจะทำให้วิญญาณของเขาต้องทรมาณด้วยการแผดเผาเป็นเวลาหมื่นปี ข้าจะให้พวกเขาตายหลังจากที่พวกเขาถูกทรมาน นไปแล้ว” เลี่ยหยานหวูจิพูดอย่างจริงจัง
เจี้ยนเฉินได้เก็บศพของกูหลี ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของผู้เชี่ยวชาญทั้งสาม เขาก็เอ่ยทันทีว่า “ผู้อาวุโสทั้ง สามจะดีที่สุดที่ท่านจะพักผ่อนเล็กน้อย เชื้อสายนักรบวิญญาณจะจัดการกับพันธมิตรสี่เส้าเอง” ด้วยเหตุนี้เขาจึงบินไป ปยังภูเขานักรบวิญญาณที่อยู่ใกล้ ๆ
บนภูเขาวิญญาณนักรบ ศิษย์พี่สี่ หยุนซื่อติง, ศิษย์พี่หญิงห้าซูฉี, ศิษย์พี่หกไป่หรูเฟิงและศิษย์พี่เจ็ดฉิงฉ ฉาน ยืนอยู่พร้อมหน้า พวกเขาให้ความสนใจกับการต่อสู้ที่อยู่ด้านล่าง
พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ระดับอัครสูงสุดนี้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในขั้นบรรพกาลก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่มีพลังมา ากเท่ากับหุนเจิ้ง,จื้อเจี้ยนและเยว่เฉา
“คารวะศิษย์พี่สี่ ศิษย์พี่ห้า ศิษย์พี่หก ศิษย์พี่เจ็ด” เจี้ยนเฉินป้องมือให้กับคนทั้งสี่
“เจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนี้ ข้าเห็นเจ้าเก็บศพของอัครสูงสุดก่อนหน้านี้ ครั้งล่าสุดศพจากศิษย์พี่ห้ายังไม่ เพียงพออีกหรือ ? ” หยุนซื่อติงถาม
“เรื่องปกติ ยิ่งมาก ยิ่งดี ข้าต้องการพวกมันมาก” เจี้ยนเฉินตอบ
“นั่นไม่มีปัญหา ศพของผู้เชี่ยวชาญตั้งต้นนั้นง่ายต่อการรวบรวม มีพวกเขาอยู่ที่นั่นไม่ใช่หรือ ? ศิษย์น้องแปดเข้ าร่วมข่ายวิญญาณนักรบกับพวกเขา เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือพี่ชายทั้งสามคม มาลองฆ่าคนอื่นกันเถอะ” ซูฉีกล่าว แม้ว่า านางเป็นผู้หญิง แต่นางก็ไม่ได้ใจอ่อนเลย
“ได้ ! ”
เจี้ยนเฉินรู้เกี่ยวกับข่ายวิญญาณนักรบแล้ว มันเป็นเพียงค่ายกลของภูเขานักรบวิญญาณเท่านั้น
หลังจากตอบออกไป เจี้ยนเฉินก็เข้าร่วมค่ายกลทันที หยุนซื่อติง, ซูฉี, ไป่หรูเฟิงและฉิงฉาน พวกเขาสร้างข่ายวิญญา าณนักรบจากพลังของพวกเขา
ไม่นานข่ายวิญญาณนักรบก็ปรากฏขึ้น เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าวิญญาณของเขา,พลังวิญญาณนักรบและแม้แต่พลังชีวิตของเขา ก็ได้หลอมรวมกับศิษย์พี่ทั้งสี่อย่างสมบูรณ์ พวกเขาไม่อาจแยกออกจากกันได้
จิตใจและชีวิตของพวกเขาเชื่อมโยงกันในสภาวะนี้ พวกเขาสามารถควบคุมพลังได้ตามต้องการและรู้สึกไปในทางเดียวกัน โดยไม่ต้องสื่อสารใด ๆ เลย