เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2604: ผลของการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่
ตอนที่ 2604: ผลของการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่
“คราวนี้กล้วยไม้กลืนกินอมตะต้องไปถึงขอบเขตตั้งต้นแน่ ๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้กินศพของราชาเทพ, ขั้นอสงไขยและขั้น นบรรพกาล แต่เพียงศพของเหนือเทพและต่ำกว่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้มันทะลวงขอบเขตแล้ว” เจี้ยนเฉินอย่างตื่นเต้น
เผ่าเทพที่ร่วงหล่นเป็นตระกูลระดับสูงในที่ราบเมฆา พวกเขามีความเป็นมานับล้าน ๆ ปี หลังจากที่เติบโตมาเป็นเวลานาน น คนจากเผ่าเทพที่ร่วงหล่นนั้นก็มีจำนวนหลักแสนคนหรือมากกว่าหนึ่งล้านคน
แม้ว่าจะไม่มีผู้คนไม่มากนักที่มาถึงราชาเทพหรือสูงกว่า แต่ยังมีหลายคนที่ต่ำกว่าราชาเทพมากมายรวมถึงขอบเขตดั้ งเดิมและขอบเขตศักดิ์สิทธิ์
ถ้าคนเหล่านี้มารวมกัน มันก็เทียบเท่ากับขั้นอสงไขยได้นับสิบคน
“สำหรับศพของขั้นอสงไขย กล้วยไม้กลืนกินอมตะต้องใช้เวลาพอสมควรในการย่อยพวกมัน อย่างไรก็ตามกล้วยไม้กลืนกินอม มตะสามารถย่อยขอบเขตเซียน, ขอบเขตดั้งเดิมและขอบเขตเทพได้แทบจะในทันที แม้ว่าพลังภายในของผู้บ่มเพาะเหล่านี้จะ ะต่ำและไม่มีที่ไหนใกล้เตียงกับขั้นอสงไขยก็ตาม แต่มันมีอยู่มากมาย สำหรับกล้วยไม้กลืนกินอมตะแล้ว การมีปริมาณม มากถือเป็นเรื่องดี” เจี้ยนเฉินคิด เขาลอยอยู่บนท้องฟ้าและสังเกตการต่อสู้ของเผ่าเทพที่ร่วงหล่น ในขณะที่เขาสน นใจอย่างใกล้ชิดกับกล้วยไม้กลืนกินอมตะ หากมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามกล้วยไม้กลืนกินอมตะเป็นเพียงราชาเทพ หากต้องเผชิญหน้ากับขอบเขตตั้งต้น มันก็จะตายแน่ ๆ
“พืชชนิดนี้กล้าที่จะกินคนจากเผ่าเทพที่ร่วงหล่นของเราจริง ๆ เจ้าสมควรตาย ! ” ขั้นอสงไขยในเผ่าเทพที่ร่วงห หล่นตะโกนออกมาอย่างมีโมโห เขาใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเทพทั้นทีเพื่อล้มคู่ต่อสู่ของครอบครัวตง ก่อนที่จะพุ่งเข ข้าหากล้วยไม้กลืนกินอมตะ เขาพุ่งเข้าหาพร้อมกับจิตสังหาร
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว ชายชราคนหนึ่งก็ได้มาป้องกันเขาและโจมตีเขาด้วยพลังที่น่ากลัว
เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวตง
ท้ายที่สุดก่อนที่ขั้นอสงไขยจากเผ่าเทพที่ร่วงหล่นจะเข้าใกล้กล้วยไม้กลืนกินอมตะ เขาก็ถูกฆ่าตาย
“ผู้นำเทียนหยวน นี่ศพของเขา” ผู้อาวุโสสูงสุดมอบศพให้กับเจี้ยนเฉินทันที
“ผู้อาวุโสหลัวซีตายแล้ว โดยพื้นฐานแล้วผู้อาวุโสขั้นอสงไขยช่วงกลางและช่วงปลายของเผ่าเทพที่ร่วงหล่นตายไปแล้ ว มีเพียงข้าและผู้อาวุโสขั้นอสงไขยช่วงต้นเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน” ในสนามรบที่อื่นในตระกูล ชายหนุ่มคนหนึ่งที เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลที่รุนแรงขณะที่เขาต่อสู้กับครอบครัวตงซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีพลังมากกว่าเขาอย่างชัดเจน
เขาเป็นผู้อาวุโสขั้นอสงไขยของเผ่าเทพที่ร่วงหล่น หลัวเฟยเย่
สายตาของหลัวเฟยเย่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ขั้นบรรพกาลของครอบครัวตงนั้นกล้าถึงขั้นสังหารคนที่มีระดับการบ่มเพา าะขั้นอสงไขยที่ต่ำกว่าของเผ่าเทพที่ร่วงหล่นด้วยตัวเอง ทำให้พวกเขาไร้พลังสิ้นเชิง
ตอนนี้ ผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งกว่าทั้งหมดของเผ่าเทพที่ร่วงหล่นได้ตายไปหมดแล้ว ผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวตงได ด้ให้ความสนใจกับผู้บ่มเพาะที่ต่ำกว่าเขาและไล่ฆ่าทีละคน ๆ
หลัวเฟยเย่รู้ว่าเขาไม่อาจมีชีวิตได้อีกต่อไป เพราะมันจะถึงตาของเขาแล้วในไม่ช้า
ครอบครัวตงได้ปิดผนึกเผ่าเทพที่ร่วงหล่นแล้ว ทำให้มีคนเข้ามาได้เท่านั้น แต่ไม่อาจออกไปได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่ เขาจะหนี
“ไปจัดการกับราชาเทพของเผ่าเทพที่ร่วงหล่น คนนี้ปล่อยไว้ให้ข้า” ขั้นบรรพกาลจากครอบครัวตงมาถึงด้านหน้าหลัวเ เฟยเย่ เขาต้องมองไปที่หลัวเฟยเย่อย่างเย็นชา ขณะที่เขาพูดกับผู้อาวุโสที่ต่อสู้กับเขา
“ขอรับ ผู้อาวุโสสูงสุด ! ” ขั้นอสงไขยของครอบครัวตงคำนับอย่างสุภาพก่อนที่จะบินไปที่อื่น
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้า หลัวเฟยเย่ ข้าดีใจที่ได้ตายด้วยน้ำมือของผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวตง มันเป็นสิ่งที่ข้าภูมิใ ใจมาก” หลัวเฟยเย่พูดอย่างอนาถ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด ในขณะที่เขาหัวเราะเสียงดัง พร้อมกับเลือดที่ไหลออก มาจากมุมปากของเขาอย่างต่อเนื่อง
“ฮึ่ม” ผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวตงแค่นเสียงอย่างเย็นชาและแทงกระบี่ไปที่หลัวเฟยเย่
“หยุด ! ” ในเวลานี้ มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้น เทียนซวงในชุดขาวบินมาจากระยะไกล นางมุ่งหน้ามายังเผ่าเทพที่ร่ว วงหล่นและตะโกนหยุดไปยังผู้อาวุโสสูงสุดที่กำลังจะฆ่าหลัวเฟยเย่
ผู้อาวุโสสูงสุดครอบครัวตงขมวดคิ้ว ทันในั้นเขาก็มองไปที่เทียนซางและดวงตาของเขาก็ค่อนข้างเย็นชา
เทียนซางรู้สึกอึดอัดใจ นางตอบสนองกับสถานการณ์ทันทีและพูดกับเจี้ยนเฉินว่า “ผู้นำ ท่านช่วยปล่อยหลัวเฟยเย่ได้ ไหม? แม้ว่าเขาจะเป็นคนของเผ่าเทพที่ร่วงหล่น แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่คนไม่ดี”
“เทียนซวง เขาเป็นสหายเจ้าหรือ ? ” เจี้ยนเฉินเหลือบมองไปที่หลัวเฟยเย่ เขาเป็นขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 3 เขาไ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เจี้ยนเฉินต้องให้ความสนใจ
“หลัวเฟยเย่เป็นสหายข้ามาหลายปี เขายังช่วยเหลือข้ามากในอดีต” เทียนซวงกล่าว นางดูเหมือนกำลังอ้อนวอนเล็กน้อย
ผู้อาวุโสสูงสุดที่กำลังจะฆ่าหลัวเฟยเย่หยุดลงหลังจากเห็นเทียนซวงขอร้องเจี้ยนเฉิน เขามองไปที่เจี้ยนเฉินจากระย ยะไกล ๆ และรอการตัดสินใจของเจี้ยนเฉิน
“ในเมื่อเขาเป็นสหายเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าในคราวนี้” เจี้ยนเฉินพูด เพราะเทียนซวงได้ขอร้องเขาและเขาก็ไม่ได้ทำให ห้นางผิดหวัง เขาอธิบายกับผู้อาวุโสสูงสุดของครอบครัวตงให้ทราบทันที
พรสวรรค์ของหลัวเฟยเย่ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้น เป็นไปไม่ได้ที่คนแบบนี้จะมาคุกคามเจี้ยนเฉินหรือครอบครัวตง
“เนื่องจากผู้นำออกปาก ครอบครัวตงของเราจะไว้ชีวิตของคนผู้นี้” ผู้อาวุโสสูงสุดหัวเราะเบา ๆ และเห็นด้วยตรง ๆ เ เขาทำตัวกับเจี้ยนเฉินแตกต่างไปจากเทียนซวง
“เทียนซวง ทะ-ทำไมเจ้าถึงช่วยข้า ? ” หลัวเฟยเย่กระอักเลือด ขณะที่ดวงตาของเขาเหม่อลอย เขาได้รับผลกระทบอย่างนั กจากสิ่งที่เผ่าเทพที่ร่วงหล่นกำลังเผชิญ
ในเวลาเดียวกัน รากของกล้วยไม้กลืนกินอมตะที่อยู่ใต้ดินก็หยุดดูดซับเลือด ดอกไม้ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยหมอกแดงหนาแน่ น ขณะที่ส่งพลังจิตออกไป
ในช่วงเวลาสั้น กล้วยไม้กลืนกินอมตะได้ดูดซับเลือดและพลังปราณของเผ่าเทพที่ร่วงหล่นหลายแสนคน แม้ว่าคนที่เ เก่งที่สุดจะเป็นแค่เหนือเทพ แต่พลังปราณที่สะสมไว้นั้นก็เทียบเท่ากับขั้นอสงไขยหลายคน หลังจากที่กินซากศพจำน นวนมากเช่นนี้ กล้วยไม้กลืนกินอมตะก็มาถึงขีดจำกัด
กล้วยไม้กลืนกินอมตะไม่สามารถดูดซับศพได้ทั้งหมด มันทำได้เพียงปล่อยให้ศพกระจัดกระจายไปทั่วพื้นดินและปล่อยให้ เลือดไหลรินก่อนที่จะทำให้กลายเป็นละออง
“คราวนี้น่าจะเพียงพอแล้ว” เจี้ยนเฉินจ้องไปที่กล้วยไม้กลืนกินอมตะขณะที่เขาบ่มพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเขาก็มาถ ถึงด้านหน้ากล้วยไม้กลืนกินอมตะในพริบตาและเฝ้าดูมันด้วยตัวเอง
ไม่กี่ชั่วยามหลังจากการต่อสู้ในเผ่าเทพที่ร่วงหล่น มันก็ได้จบลงอย่างสมบูรณ์ เผ่าเทพที่ร่วงหล่นที่เคยยืนอ อยู่บนจุดสูงสุดของที่ราบเมฆาได้หายไปอย่างแท้จริงแล้วตอนนี้
เจี้ยนเฉินไม่ได้รวบรวมทรัพย์สินใด ๆ จากการต่อสู้ เขาเฝ้ามองกล้วยไม้กลืนกินอมตะอย่างอดทน ผู้คนในครอบครัวตงได ด้รวบรวมซากศพของราชาเทพที่กระจัดกระจายมาให้เขา
“ผู้นำตระกูลเทียนหยวน ซากศพของราชาเทพเผ่าเทพที่ร่วงหล่นอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้วในแหวนมิติอันนี้ มันมีมากกว่า าสี่ร้อยศพ” ตงเซียว หนึ่งในสี่ผู้ผู้อาวุโสสูงสุดได้ส่งแหวนมิติให้กับเจี้ยนเฉินด้วยตัวเอง
ดวงตาของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสุข
ราชาเทพกว่า 400 ศพ ขั้นอสงไขยมากกว่า 20 ศพ และขั้นบรรพกาล 5 ศพ มันเป็นการเก็บเกี่ยวที่ใหญ่มากจากเผ่าเทพที ร่วงหล่น
“เป็นเจ้าที่ได้รับผลประโยชน์จากเหตุการณ์นี้เพียงคนเดียว กล้วยไม้กลืนกินอมตะ ข้าได้เลี้ยงดูเจ้าด้วยความพยายาม อย่างมาก อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ” เจี้ยนเฉินจ้องไปที่กล้วยไม้กลืนกินอมตะและพูดอย่างอ่อนโยน
“เจี้ยนเฉิน ข้าได้ติดต่อกับคนที่ไปจัดการสำนักเต๋าฉุกเฉินและสำนักปฐพีสะเทือนแล้ว ศพของทั้งสองสำนักกำลังจะม มาหาเจ้า” ตงวู่หมิงมาถึงด้านหน้าเจี้ยนเฉินและพูดแกมหัวเราะเบา ๆ