เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2611: ฆ่าเหลาม่านเทียน (2)
ตอนที่ 2611: ฆ่าเหลาม่านเทียน (2)
จื้อเจี้ยนและเหลาม่านเทียนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดภายในรอยแยกมิติ ทำให้เกิดรอยแยกมิติเพิ่มขั้นเป็นระยะทาง งกว่าหลายแสนกิโลเมตรขณะที่พวกเขาต่อสู้กัน กระแสพลังที่ทรงพลังและน่ากลัวพุ่งสูงขึ้น ภายใต้อิทธิพลของพลังงาน น้ำวนก็เริ่มดึงดูดเข้าหากันและกันอย่างช้า ๆ เมื่อกระแสน้ำวนทั้งสองปะทะกัน มันอาจจะเกิดพลังทำลายล้างหรือรวม มกันเป็นกระแสน้ำวนเพียงแห่งเดียวและมีพลังมากยิ่งขึ้น
ภายในรอยแยกมิติ จื้อเจี้ยนและเหลาม่านเทียนต้องหลบกระแสน้ำวนเหล่านี้เป็นชั่วคราว ขณะที่พวกเขาต่อสู้กัน
ด้วยระดับการบ่มเพาะในตอนนี้ของพวกเขา เขาสามารถไม่สนใจพลังงานเหล่านี้ได้ แต่พวกเขาต้องระมัดระวังอย่างมากกับ บกระแสน้ำวนชั่วคราวเหล่านี้
กระแสน้ำวนชั่วคราวเหล่านี้มีกฏแห่งเวลา เวลาที่ไหลออกมานั้นแตกต่างกันไปตั้งแต่ขอบน้ำวนจนถึงกึ่งกลางน้ำวน ภา ายในกระแสน้ำวนเหล่านี้อาจมีพลังบางส่วนที่ทำให้ภายในเสี้ยววินาทีอาจจะผ่านไปหลายล้านปีหรือสิบล้านปีหรือมากกว่ านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นการไหลของเวลาไม่ได้มีเพียงเดินหน้าอย่างเดียว มันสามารถย้อนเวลาได้เช่นกัน หากมันก้าวไปด้านหน้า า มันค่อนข้างยากลำบากสำหรับพวกเขาที่จะก่อให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้รับความเป็นอมตะด้วยขอบเขตการบ่ม มเพาะที่ยอดเยี่ยมของพวกเขา แต่ถ้ามันเป็นกาลเวลาที่ไหลย้อนกลับ ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งล้านปีหรือสิบล้านปี มันก็จะ ะเทียบเท่ากับการบ่มเพาะถดถอยของพวกเขา
“เชื้อสายนักรบวิญญาณ เรื่องนี้ยังไม่ถึงจุดที่ย้อนกลับไม่ได้ ทำไมเจ้าต้องบังคับพวกเราอย่างขมขื่นเช่นนี้ พยายาม มที่จะฆ่าพวกเราทั้งหมด ? ทำไมเราไม่ถอยกันคนละก้าว ด้วยวิธีนี้เจ้าสามารถรักษาความสัมพันธ์กับนายน้อยได้” เหลา าม่านเทียนจ้องไปที่จื้อเจี้ยนอย่างไร้ความรู้สึกและตะโกนออกมา ชุดเกราะของเขาเปล่งประกายระยิบระยับเล็กน้อย ขณะท ที่พลังปราณควบแน่นรอบ ๆ เขาจนถึงจุดที่จับต้องได้
แม้ว่าการบ่มเพาะจะมากกว่าจื้อเจี้ยนมากนัก แต่เหลาม่านเทียนก็ต้องอับจนกับพลังวิญญาณนักรบอย่างสมบูรณ์
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือทุกการเคลื่อนไหวและการโจมตีของเชื้อสายนักรบวิญญาณ จะมีเศษเสี้ยวของพลังนักรบวิญญาณ แ แม้ว่ามันจะไม่เท่ากับทักษะลับของพลังวิญญาณนักรบ แต่พวกเขาก็ปะทะกันด้วยความเร็วดุจสายฟ้าด้วยการบ่มเพาะในตอ อนนี้ของเขา พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนการโจมตีได้หลายร้อยครั้งในไม่กี่วินาที ในขณะที่พลังวิญญาณนักรบจะสะสมจากกา ารโจมตีเหล่านั้นทั้งหมด เหลาม่านเทียนต้องเจ็บปวดอย่างมากแม้ว่าเขาจะมีการบ่มเพาะถึงอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 2 2 ก็ตาม มันต้องใช้เวลาอีกนานในการรักษาพลังวิญญาณของเขา
ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องอดทนกับทักษะลับจากภูเขาวิญญาณนักรบเป็นครั้งคราว
ทักษะลับเหล่านี้เป็นอะไรที่จำเพาะกับเชื้อสายนักรบวิญญาณอย่างแท้จริง ทุกทักษะสามารถทำลายหรือสังหารคู่ต่อสู้ ในระดับเดียวกันได้ทันที แม้ว่าวิญญาณของเหลาม่านเทียนจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนักในฐานะอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 2 แต่ก็สามารถทำให้เขามึนงงได้ชั่วขณะและทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก
เป็นเหตุผลทำให้ เหลาม่านเทียนหาทางยุติการต่อสู้ให้ดีที่สุด
จื้อเจี้ยนแค่นเสียงเยาะเย้ยเหลาม่านเทียน “เจ้าใช่เหลาม่านเทียนหรือไม่ ? มันคงเป็นเรื่องตลกหากเป็นเรื่องอื่น ๆ ๆ เชื้อสายนักรบวิญญาณของเราจะไม่ทะเลาะกับเจ้ามากนัก ท้ายที่สุดแล้วบิดาบุญธรรมของนายน้อยประกายดาวก็มีน้ำหนัก มากในโลกเซียน น่าเสียดายแม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่เรื่องที่เจ้าคุกคามศิษย์น้องแปดนี้ หากเรามาช้ากว่านี้เกรง งว่าผลที่ตามมาจะไม่ได้เป็นอย่างนี้”
“ใครจะรู้ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหนแล้วที่ทายาทคนที่แปดปรากฏตัวในฐานะเชื้อสายนักรบวิญญาณของเรา แต่เราก็เกือบจ จะเสียศิษย์น้องไปคนหนึ่งบนที่ราบเมฆา ความคับแค้นใจนี้ได้มาถึงจุดที่ไม่มีทางกลับแล้ว ดังนั้นแม้ว่าเราจะทำให้ นายน้อยประกายดาวไม่พอใจ แต่เราก็จะฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด”
“และแค่นายน้อยประกายดาวก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เราสนใจ ในความเป็นจริงเชื้อสายนักรบวิญญาณของเราไม่กลัวใครเลย บนที่ราบประกายดาวนอกจากใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า”
เสียงของจื้อเจี้ยนดังขึ้นอย่างรุนแรง จิตสังหารแผ่ออกมากดันเหลาม่านเทียนจนเขาต้องจริงจังมากขึ้น
“ไม่ใช่ว่าเจี้ยนเฉินยังมีชีวิตอยู่หรือ ? เขายังไม่ได้รับบาดเจ็บ ทำไมเจ้าต้องทำอย่างนี้ ? ” เหลาม่านเทียนพูดต่ อ ความสามารถในการต่อสู้ของจื้อเจี้ยนนั้นยอดเยี่ยมมากเกินไป เขามีสมบัติอยู่ไม่กี่ชิ้นเช่นกันและเขาก็มีพลังวิ ญญาณนักรบ สิ่งที่รอคอยเหลาม่านเทียนคือความพ่ายแพ้หากพวกเขายังสู้กันต่อไป
ยิ่งต่อสู้กับเชื้อสายนักรบวิญญาณมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแย่มากขึ้นสำหรับเขา
“เหลาม่านเทียน เจ้าคิดว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณของเราสามารถยั่วยุได้แบบนี้งั้นหรือ ? ” จื้อเจี้ยนหัวเราะเยาะ เข ขาใช้ทักษะทำลายวิญญาณและทำให้เหลาม่านเทียนต้องครางออกมาทันที ความเจ็บปวดจากวิญญาณของเขาทำให้เหลาม่านเทียน เหม่อลอยชั่วคราว
อย่างไรก็ตามเหลาม่านเทียนมีประสบการณ์รับมือกับการโจมตีเหล่านี้แล้ว ในช่วงเวลาที่เขาเหม่อลอย เขาก็ทนความเจ็บ บปวดบินถอยหลังไปอย่างรวดเร็วโดยสัญชาตญาณ เขาผละห่างจากจื้อเจี้ยน
“เจ้าคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วง้นหรือ ? ” จื้อเจี้ยนหัวเราะอย่างเย็นชา จู่ ๆ เขาก็พุ่งออกไป กระบี่ในมือของเขา าก็ระเบิดปราณกระบี่ออกมาขณะที่เขาเหวี่ยงไปที่เหลาม่านเทียน
เหลาม่านเทียนอยู่ห่างจากเขาหลายสิบกิโลเมตร กระแสน้ำวนชั่วคราวขนาดใหญ่ไหลไปทิศทางนั้น ในตอนแรกน้ำวนได้ไหล อยู่ห่างจากเหลาม่านเทียนอย่างมาก ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถูกน้ำวน
อย่างไรก็ตาม เมื่อจื้อเจี้ยนฟันออกไปพร้อมกับพลังที่ปะทุออกมาทำให้การไหลของน้ำวนเปลี่ยนไป มันพุ่งเข้าหาเหลา ม่านเทียนอย่างรวดเร็ว
ถ้าเขายังมีสติครบถ้วน เหลาม่านเทียนก็จะสามารถหลบกระแสน้ำวนได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามเขาสูญเสียความรู้สึกจา ากโลกภายนอกชั่วคราว เนื่องจากทักษะทำลายวิญญาณ เขาไม่รู้สึกถึงทิศทางของกระแสน้ำวนชั่วคราวเหล่านี้เลย
นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อเหลาม่านเทียนกำลังจะเข้าไปในกระแสน้ำวน จื้อเจี้ยนก็ใช้ทักษะลับอีกอย่างหนึ่ง ทันใดนั้น เขาก็กดนิ้วลงบนหน้าผากของเขาและดวงตาของเขาก็กลายเป็นดำสนิทฉับพลัน
ในเวลาเดียวกันพลังนักรบวิญญาณของจื้อเจี้ยนก็หมดลงในระดับที่น่าตกใจ เพียงการใช้ครั้งเดียวก็กินพลังจื้อเจี้ ยนไปกว่าครึ่ง แม้ว่าเขาจะอยู่ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ก็ตาม
แม้แต่จื้อเจี้ยนก็ทำได้อย่างยากลำบากในการที่จะอดทนต่อการสูญเสียพลังนักรบวิญญาณไปกว่าครึ่งทันที มีความอ่อนแ แรงบนใบหน้าของเขา
อย่างไรก็ตามในความอ่อนแรงของเขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่น่ากลัวปรากฏขึ้น มันเพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิดความสิ้นหว วังสำหรับขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ที่แม้แต่อัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 1 ก็ต้องมือไม้ปั่นป่วนเมื่อพวกเขาเผชิญ ญหน้ากับมัน
“ทักษะทำลายสวรรค์ ! ”
จื้อเจี้ยนชี้ไปทางเหลาม่านเทียนด้วยนิ้วที่กดลงบนหน้าผากของเขา
จากนั้น พลังนักรบวิญญาณครึ่งหนึ่งของจื้อเจี้ยนก็พุ่งออกมาทันที มีแสงวาบออกไปที่มีเพียงนักรบวิญญาณเท่านั้นที่ จะมองเห็นได้ปรากฏขึ้น มันกลายเป็นใบมีดล่องหนพุ่งเข้าไปยังศีรษะของเหลาม่านเทียนในพริบตา มันเข้าไปสู่วิญญา าณของเขาตรง ๆ
การฟันครั้งนี้ดูเหมือนจะทำให้โลกแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ซึ่งแม้แต่กฏทั้งหมดของโลกก็ไม่อาจหยุดยั้งมันได้ ผลก็ค คือมันฟันทะลุการป้องกันพลังปราณทั้งหมดของเหลาม่านเทียนตรง ๆ โดยไม่สนใจวัตถุเทพที่เหลาม่านเทียนสวมใส่และฟ ฟันลงไปที่จิตวิญญาณของเขาเหลาม่านเทียนอย่างโหดร้าย
มันไม่ง่ายเหมือนกับการสั่นและฮึดฮัดสำหรับเหลาม่านเทียนอีกต่อไป ในตอนนี้ที่เขาได้ใช้ทักษะการทำลายสวรรค์ แต่ เขากลับร้องออกมาอย่างน่าสังเวช ใบหน้าของเขาซีดเซียวทันทีโดยไม่มีร่องรอยของเลือดเหลืออยู่ เลือดพุ่งออกมาจาก กส่วนบนร่างกายทั้งหมดของเขา
วิญญาณของเขาริบหรี่อย่างมาก ดูเหมือนว่ามันจะหายไป
ทักษะทำลายสวรรค์ของจื้อเจี้ยนนั้นทรงพลังเกินไป ไม่มีใครในระดับการบ่มเพาะเดียวกันสามารถทนได้ แม้แต่อัครสูงสุ ดสวรรค์ชั้นหนึ่งยังต้องเผชิญกับความตาย แม้ว่าเหลาม่านเทียนจะสามารถทนได้ด้วยวิญญาณของชั้นสวรรค์ที่ 2 ของเ เขา แต่เขาก็ยังคงต้องจ่ายค่าตอบแทนราคาแพง
หลังจากนั้น เหลาม่านเทียนก็กุมหัวของเขาไว้แน่นและตกลงไปในกระแสน้ำวนขนาดใหญ่
หากเขาอยู่ในสภาพสูงสุดของเขา สามารถใช้การบ่มเพาะที่ทรงพลังของเขาเพื่อแยกออก อย่างไรก็ตามตอนนี้วิญญาณของเ เขาได้รับบาดเจ็บมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อนที่จะสิ้นสติ จิตใจของเขาตกอยู่ในความวุ่นวายดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเตรีย ยมตัวได้เลย เมื่อเขาตกลงไปในกระแสน้ำวน
กระแสน้ำวนหมุนอย่างรวดเร็ว กฎกาลเวลาในนั้นวุ่นวายมาก วัตถุเทพของเหลาม่านเทียนจางลงอย่างรวดเร็วและแม้แต่พ พลังจิตจากการบ่มเพาะของเขาก็อ่อนแอลงเรื่อย ๆ
เพียงไม่กี่วินาที วัตถุเทพของเขาก็กลับคืนสู่สภาพเดิม เห็นได้ชัดว่าไม่มีพลังงานเหลืออยู่ในชุดเกราะเลย
ใครจะรู้ว่าเหลาม่านเทียนก้าวหน้าหรือถอยหลังในช่วงเวลาไม่กี่วินาทีนั้น พลังงานทั้งหมดในวัตถุเทพหายไปและแม้ แต่การบ่มเพาะของเขาก็หายไป
ในเวลานี้ เชือกปรากฏในมือของจื้อเจี้ยนมันเป็นวัตถุเทพระดับต่ำ เขาโยนมันเข้าไปในกระแสน้ำวนและพันรอบ ๆ ตั วของเหลาม่านเทียน
ทันทีที่เชือกเข้าสู่กระแสน้ำวน มันก็เริ่มสลัว ๆ ในระดับที่มองเห็นได้ทันที พลังงานภายในเชือกรั่วไหลออกไป ใน นอัตราที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
จื้อเจี้ยนเคร่งเครียดขณะมองดูเชือกในมือ โดยไม่มีลังเลใด ๆ เขาดึงมันออกมาอย่าวงแรงและดึงเหลาม่านเทียนออกจ จากกระแสน้ำวน
เหลาม่านเทียนเป็นอัครสูงสุด เขามีชีวิตอมตะ ดังนั้นเขาจึงไม่สูญเสียอะไรที่มองเห็นได้มากนักในกระแสน้ำวน
อย่างไรก็ตามวัตถุเทพได้หมดพลังอย่างสมบูรณ์ แม้แต่พลังแห่งการบ่มเพาะของเขาก็ถูกทำลาย
การบ่มเพาะของเขาไม่ได้ถดถอย อย่างไรก็ตามมันชัดเจนมากว่ามันมีพลังมหาศาลอยู่ในตัวของมันได้ถูกสูบออกไปทั้งห หมดราวกับว่าเขาเพิ่งผ่านประสบการณ์ไม่รู้จบมา
อย่างไรก็ตามวสิญญาณของเขายังคงเหมือนเดิม เมื่อเขาตกลงไปในน้ำวน มันไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ชัดเจน
“วิญญาณของเจ้ามีร่องรอยของวิถี เห็นได้ชัดว่ากระแสน้ำวนชั่วคราวอันนี่ยังไม่ถึงระดับที่สามารถทำลายวิญญาณอัครส สูงสุดได้ งั้นมันคงเป็นไปไม่ได้วิญญาณของเจ้าจะคงอยู่ถึงตอนนี้” จื้อเจี้ยนจ้องไปที่เหลาม่านเทียน
เหลาม่านเทียนยังคงไม่ฟื้นตัว หากไม่มีการป้องกันจากวัตถุเทพของเขาและพลังของเขาที่ได้ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ เขาก็ไม่ได้เป็นภัยกับจื้อเจี้ยนอีกต่อไป
ฟุ่บ !
ในเวลาต่อมา จื้อเจี้ยนแทงกระบี่ออกไปและเจาะหน้าผากของเหลาม่านเทียนเพื่อฆ่าเขาทันที