เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2615: เผชิญหน้า
ตอนที่ 2615: เผชิญหน้า
“ข้านี่โชคดีจริง ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า เชื้อสายนักรบวิญญาณ ข้ากังวลว่าข้าจะหาเจ้าอย่างไร แต่พวกเจ้าก็อยู่บนที่ราบเมฆา า นี่มันสุดยอดเลย ดูเหมือนว่าแม้แต่สวรรค์ก็ช่วยข้า” กงซุนจี้หัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะพูดอย่างอดใจไม่ไหว “เร็ ว เร็ว เร็ว ไปเลย อย่าปล่อยให้เขาหนีไป ไม่เพียงแค่นั้น ข้าจะสังหารเจี้ยนเฉินผู้ทรยศในครั้งนี้และนำเอาวิถี การบ่มเพาะจอมปราชญ์กลับคืนมา พร้อมกับสร้างความเสียหายให้กับเชื้อสายนักรบวิญญาณเช่นกัน”
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจี้ยนเฉินและเชื้อสายนักรบวิญญาณอยู่บนที่ราบเมฆา แต่การบ่มเพาะของกงซุนจี้ก็เทียบเท่ากับร ราชาเทพเท่านั้น สัมผัสทั้งหมดของเขาถูกจำกัด เขามองไม่เห็นอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นในศูนย์กลางของภาคใต้
โดยทั่วไปแล้วมีเพียงอัครสูงสุดและขั้นบรรพกาลไม่มากเท่านั้นที่จะทำอย่างนี้ได้
“ไม่ต้องกังวล หัวหน้า เชื้อสายนักรบวิญญาณกำลังมีการต่อสู้ที่เข้มข้นกับองค์กรอื่น ๆ บนที่ราบเมฆา เป็นไปไม่ได้ที พวกเขาจะจากไปอย่างรวดเร็ว” ชายชราชุดเทาตัวผอมที่อยู่ด้านหลังกงซุนจี้กล่าว ด้วยเหตุนี้เขาจึงโบกมือพร้อมกับ มีพลังปราณที่มองไม่เห็นโอบล้อมกงซุนจี้ทันที หลังจากนั้นทั้งสองก็หายไป
ชายกลางคน 2 คนที่มากับกงซุนจี้มองไปยังทิศทางของพื้นที่ภาคใต้ การจ้องมองที่ลึกซึ้งของพวกเขาดูเหมือนจะสามารถ ถทะลุผ่านมิติได้ พวกเขาได้เห็นการต่อสู้ที่ภาคใต้
“กงซุนจี้นี่คิดจริง ๆ หรือว่าจะได้เห็นเชื้อสายนักรบวิญญาณถูกทำลาย การกำจัดพวกเขาไม่ได้ง่ายดายนัก” ชายวัยกล ลางคนคนหนึ่งพูดอย่างไม่สนใจใยดี
เขาชื่อว่าซูซีปิงซึ่งเป็นบรรพชนจากตระกูลชั้นสูงที่มีชื่อเสียงบนที่ราบเมฆา ครอบครัวซู
“แม้ว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณจะได้รับความเสียหายมาก่อนในประวัติศาสตร์ แต่ผู้คนที่ทำเช่นนั้นก็ล้วนแต่เป็นอัครสูง งสุดชั้นสวรรค์ที่ 9 กงซุนจี้ยังเด็กเกินไป ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับเชื้อสายนักรบวิญญาณยังค่อนข้างน้อย เขากำ ำลังฝันไปหากต้องการกำจัดเชื้อสายนักรบวิญญาณ อย่างไรก็ตามกระบี่สังหารเทพของเขาอาจพอที่จะคุกคามเชื้อสายนักรบวิ ญญาณได้” ชายกลางคนอีกคนพูดอย่างผ่อนคลาย
เขาคือหวงฟู่กุ่ยยี่ซึ่งเป็นบรรพชนจากตระกูลชั้นสูงอีกตระกูลหนึ่งในที่ราบรกร้างตระกูลกลางสวรรค์
ทั้งตระกูลซูและตระกูลกลางสวรรค์ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของที่ราบรกร้าง ก่อนที่โถงเซียนธาตุ แสงจะได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์ ทั้งสองตระกูลนั้นมีพลังมากกว่าโถงเซียนธาตุแสงอย่างแน่นอน
ตามความจริง ตระกูลซูและตระกูลกลางสวรรค์สามารถอธิบายได้ว่าความเป็นจริงนั้นน่ากลัวเป็นรองแค่เซียนกระบี่สวรรค์ เท่านั้น
“โชคดีที่ผู้พิทักษ์ของโถงเซีนธาตุแสงไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวกัน หรือไม่อย่างนั้นมันอาจจะมีคนที่มากกว่ากงซุนจี้ อย่างไรก็ตามนั่นมันไม่ได้ดีสำหรับเรา”หวงฟู่กุยยี่พูด
บรรพชนครอบครัวซู ซูซีปิงพยักหน้า “กุ่ยยี่เพื่อนรัก เราควรไปเช่นกัน ถ้าเรามาสายเราจะทำให้เด็กคนนั้น กงซุนจี้ไ ไม่มีความสุข ถ้าเขาเปลี่ยนใจกะทันหันและไม่ยอมมอบกระบี่ผู้ทักษ์อีก 3 เล่มให้กับผู้เยาว์ของตระกูลเรา จะถือเป็น นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับตระกูลของเรา”
“ใช่ จะเป็นการดีที่สุดหากเราพยายามเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กงซุนจี้เปลี่ยนใจก่อนที่เราจะได้กระบี่ผู้พิทักษ ษ์ แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วเขาจะเหมือนคนหลอกลวง แต่เขาก็เป็นผู้สืบทอดคนเดียวของโถงเซียนธาตุแสง หากยังต้องการกร ระบี่ผู้พิทักษ์ ตอนนี้เราจะอดทนต่อไป” หวงฟู่กุ่ยยี่กล่าวทันใดนั้นทั้งสองก็หายไป
เสียงกึกก้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ พลังที่น่ากลัวสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณรอบ ๆ ทุกการโจมตีจากตง งวู่หมิง, โจวซีเตาและเลี่ยหยานหวู่จินั้นรุนแรง มีการปะทะกันของลำแสงเมื่อพวกเขาโจมตีค่ายกลป้องกันของพันธมิ ตรสี่เส้า มันเพียงแต่สั่นเล็กน้อย
ตอนนี้ สภาพรอบ ๆ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มีหลุมมากมายขนาดใหญ่และภูเขารอบ ๆ ก็แบนราบ
“ข้ารู้สึกได้แล้วว่าค่ายกลป้องกันของพันธมิตรสี่เส้ากำลังอ่อนแอลง ดูเหมือนว่าพวกมันจะอยู่ได้ไม่นานนัก”โจวซ ซีเตาตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
เขารู้ว่าเมื่อค่ายกลป้องกันถูกทำลายแล้ว พันธมิตรสี่เส้าจะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ และนับจากนั้นเป็นต้นไปที่ราบ เมฆาจะมีเพียงกลุ่มพันธมิตรชอบธรรมที่เหลืออยู่
“การโจมตีขอพวกเขาทรงพลังเกินไป พลังงานของค่ายกลหมดเร็วกว่าที่เราคาดไว้ เราคงอยู่ไม่ได้นานนัก” กงจี้ตะโก กนจากภายในพันธมิตรสี่เส้า
“อย่ากังวล ข้าจะดำเนินการในขณะที่ค่ายกลถูกทำลาย” นายน้อยประกายดาวกล่าวอย่างไร้ความรู้สึกขณะที่มีแสงวาบที่ชั วร้ายผ่านสายตาของเขา
ด้วยเหตุนี้ผู้คนที่ไม่สงบทั้งหมดในพันธมิตรสี่เส้าจึงสงบลงเล็กน้อย
นายน้อยประกายดาวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนในพันธมิตรสี่เส้าต้องพึ่งพา
“ข้าหวังว่านายน้อยประกายดาวจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้” หลายคนจากพันธมิตรสี่เส้าแอบอธิฐานอย่างลับ ๆ
ในขณะนี้มี 2 คนปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ด้านหลังกลุ่มพันธมิตรชอบธรรม พวกเขาคือกงซุนจี้และชายชราผอมแห้งในชุดเ เทา
ทันทีที่กงซุนจี้มาถึง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะมีพลังที่น่ากลัวสั่นสะเทือนไปรอบ ๆ เขาไม่เคยเห็นกา ารต่อสู้ที่รุนแรงและพลังงานที่ปั่นป่วนเช่นนี้
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่ ? ” กงซุนจี้คิด เขาสงบลงในไม่ช้าและเริ่มมองไปรอบ ๆ เขาเหลือบมองผ่านพันธมิตรสี่เส้าและพ พันธมิตรชอบธรรมโดยตรง ก่อนที่จะจ้องไปที่ภูเขาวิญญาณนักรบที่เป็นภาพลวงตาที่ลอยอยู่บนอวกาศรอบนอก
ในเวลาเดียวกัน ตงวู่หมิง, โจวซีเตาและเลี่ยหยานหวู่จิ ก็รู้สึกได้ถึงการมาถึงของกงซุนจี้ พวกเขาหยุดการโจมตี โดยไม่รู้ตัวและทุกคนจ้องไปที่ชายชราร่างผอม ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“อัครสูงสุดสวรรค์ชั้นสวรรค์ที่ 3 ! ” ตงวู่หมิง, โจวซีเตาและเลี่ยหยานหวู่จิมองหน้ากันและกัน พวกเขาค่อยข้างเ เครียด พวกเขาสามารถบอกได้ถึงความแข็งแกร่งของชายชรา เขาอยู่ในระดับเดียวกับผู้เฒ่าเทียนซาน
“แท้จริงแล้วนี่คือ ชาหยุนจากสำนักกระบี่ศักดิ์สิทธิ์” นอกอวกาศ หุนเจิ้ง จื้อเจี้ยนและเยว่เฉา ก็ค้นพบการมาถึ งของกงซุนจี้ ทันใดนั้นพวกเขาจ้องไปที่ชายชราและขมวดคิ้ว
ในเวลาเดียวกัน ซูซีปิงและหวงฟู่กุ่ยยี่ก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ โดยยืนอยู่ข้าง ๆ ชายชราร่างผอม
พลังแห่งการมีอยู่ของพวกเขาทำให้ หานเจิ้ง, จื้อเจี้ยนและเย่เฉากลายเป็นคนเคร่งขรึม
“ซูซีปิงจากตระกูลซูและหวงฟู่กุ่ยยี่จากตระกูลกลางสวรรค์ พวกเขาทั้งสองคนมาทั้งคู่” คราวนี้เสียงของหุนเจิ้งค่อน นข้างดุร้าย ซูซีปิงและหวงฟู่กุ่ยยี่ทำให้พวกเขากดดันมากกว่าชาหยุน
ด้วยเหตุนี้เจี้ยนเฉินจึงมองข้ามไป เขาไม่เคยเห็นชาหยุน, หวงฟู้กุ่ยยี่และซู่ซีปิง แต่เขาจำกงซุนจี้ได้เพียงจาก การมองแว่บเดียวและรู้สึกได้ว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปเป็นในทางที่แย่ลง
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจี้ยนเฉิน นี่เป็นหัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสง นอกจากนี้ข้าก็หาเจ้าและเชื้อสายนักรบวิญญาณเจอ ! เจ้าไม่ อาจหลบหนีได้ในคราวนี้” กงซุนจี้ตะโกนออกมาจากด้านล่าง ทันใดนั้นกระแสแสงที่ทรงพลังก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเ เขา มันสว่างเหมือนดวงอาทิตย์ แสงของมันสว่างออกไปรอบ ๆ
กระบี่ผู้พิทักษ์ที่เยี่ยมที่สุด กระบี่ของสังหารเทพปรากฏในมือของเขา พลังของกระบี่ปะทุขึ้นพร้อมกับพลังจิตที สั่นสะเทือนโลก มันทรงพลังมากทันทีที่มันปรากฏขั้นมันทำให้อวกาศสั่นและบิดเบี้ยวด้วยความรุนแรงอย่างมาก สีหน้ าของตงวู่หมิง,โจวซีเตาและเลี่ยหยานหวู่จิทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างมาก