เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2618: หุนเจิ้งบาดเจ็บ
ตอนที่ 2618: หุนเจิ้งบาดเจ็บ
ซูซีปิงใช้ความแข็งแกร่งของเขาอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้น เขาปลดปล่อยแรงออกไปทั้งหมดของเขาด้วยพลังของอัครสูงสุดช ชั้นสวรรค์ที่ 4 เพียงการฟาดฝ่ามือของเขา ดวงดาวก็มืดลงและจักรวาลก็ถูกทำลาย มิติแตกร้าว มันเป็นการทำลายอย่ างแท้จริง
ซูซีปิงรู้สึกไม่เต็มใจที่จะกลายเป็นศัตรูเต็มตัวกับเชื้อสายนักรบวิญญาณในขณะที่เขาข้ามจุดที่ไม่มีวันหวนกลับ เขา าต้องพยายามสังหารให้ได้ทันโดยมีเป้าหมายเป็นการเอาชีวิตของเยว่เฉา
“ช่างทรงพลังยิ่งนัก ! ” ตงวู่หมิง, โจวซีเตาและเลี่ยหยานหวู่จิที่ลอยอยู่บนที่ราบเมฆา พวกเขาต่างมองดูสิ่งที่ เกิดขึ้นบนอวกาศรอบนอก พวกเขาทุกคนจริงจังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจิตใจของพวกเขาสั่นสะท้านเมื่อได้เห็นความแข็งแกร่ งของซูซีปิง
เมื่อทั้งหมดนี้เกิดขึ้น ผู้เฒ่าเทียนซานได้กลายเป็นซีดเซียวอย่างสมบูรณ์บนยอดเขาเทียนซาน สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญา าณที่ชัดเจนว่าคำสาปได้แพร่กระจาย แม้ว่าผู้นำยอดเขาเทียนซานจะระงับมันได้ด้วยการบ่มเพาะของเขาในขั้นอัครสูงส สุดชั้นสวรรค์ที่ 3 แต่เขาก็ทำได้เพียงลดระดับการแพร่กระจายและซื้อเวลาให้กับตัวเองมากขึ้นเท่านั้น
ผู้เฒ่าเทียนซานยืนอยู่ยนยอดเขาเทียนซาน ขณะที่เขาจ้อมองไปนอกอวกาศ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
“ซูซีปิงผู้นั้นทรงพลังมาก พลังต่อสู้ของเขาก็มากว่าปีศาจสวรรค์เที่ยงแท้อย่างแท้จริง แม้จะเป็นอัครสูงสุดชั้นสว วรรค์ที่ 4 เหมือนกัน ซูซีปิงก็อาจจะอยู่ในระดับต้น ๆ ตอนนี้เชื้อสายนักรบวิญญาณมีปัญหาแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไร้พ่า ายในระดับการบ่มเพาะเดียวกัน แต่การบ่มเพาะของตัวพวกเขานั้นต่ำเกินไป พวกเขาไม่อาจจัดการอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ ที่ 4 ได้” ผู้เฒ่าเทียนซานกล่าวอย่างกังกวล เขาอยากช่วย แต่เขาก็ยุ่งกับตัวเอง เขาไม่อาจช่วยเหลือคนอื่น ๆ ได้ในตอนนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนี้น่าสนใจมาก ความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพันธมิตรชอบธรรมคือเชื้อสายนักรบวิญญาณ แต่ตอนนี้ดู เหมือนว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณจะไม่อาจป้องกันตัวเองได้ด้วยซ้ำ” จักรพรรดิโลหิตจ้องไปยังอวกาศรอบนอกอย่างตื่นเต้น อารมณ์ในตอนนี้ของเขาไม่อาจทำให้เขาพูดได้อีกต่อไป
“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน อย่าพึ่งกล่าวเช่นนี้ เรายังไม่รู้ว่าใครจะชนะในท้ายที่สุด บางทีจักรวรรดิตะวันโลหิตของ เราจะกลายเป็นจักรวรรดินิรันดร์เพียงแห่งเดียวบนที่ราบเมฆาอีกไม่นาน” จักรพรรดิโลหิตหยุดคนของเขาที่กำลังทำการเ เคลื่อนย้ายออกไป เขาจ้องมองไปที่จักรพรรดิซีด้วยท่าทีที่ยั่วยุ ขณะที่เขาหัวเราะเสียงดัง เขามีความสุขอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน ในจักรวรรดิซีทางถาคเหนือ จักรพรรดิบรรพชนทั้งสอง เขาคือซีห้าวซวนและซีห้าวหมิงลอยอยู่บนอากาศ พ พวกเขาจ้องมองไปยังอวกาศรอบนอกอย่างเคร่งเครียด
นอกเหนือจากทั้งสองคนแล้วจักรวรรดิจือฮ่าวในภาคตะวันออก จักรวรรดิจินเจี้ยนในภาคตะวันตกและองค์กรอื่น ๆ รวมถึง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นคนอื่น ๆ ทั้งห้าภาคต่างให้ความสนใจอวกาศรอบนอก
พวกเขาทั้งหมดเข้าใจว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่อาจนำอะไรมาวัดได้ง่าย ๆ ด้วยพลังทั้งหมดในอนาคตของที่ราบเมฆา มันกำ ำหนดชะตากรรมของพวกเขาเช่นกัน
นอกจากจักรวรรดิปิงเทียนและจักรวรรดิจันทราสวรรค์บนที่ราบเมฆาแล้ว ตอนนี้องค์กรทั้งหมดเข้าร่วมพันธมิตรสี่เส้าหรือ พันธมิตรชอบธรรมทั้งหมด ทันทีที่หนึ่งในพันธมิตรล่มสลาย องค์กรทั้งหมดที่อยู่ภายใต้พันธมิตรนั้นจะต้องเผชิญกับภัย ยคุกคามจากการทำลายล้าง
ในอดีตไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกคนกังวล เนื่องจากสี่ในห้าภาคเป็นของพันธมิตรชอบธรรม พันธมิตรชอบธรรมทีข้อได้เปรียบเ เหนือพันธมิตรสี่เส้า
แต่ตอนนี้แตกต่างไปแล้ว ด้วยการเข้ามาจากผู้เชี่ยวชาญบนที่ราบรกร้าง พันธมิตรชอบธรรมที่ควรจะได้รับชัยชนะต้องเผ ผชิญหน้ากับอันตรายครั้งใหญ่ สิ่งนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจของพวกเขาทั้งหมดเป็นธรรมดา
สีหน้าของทุกคนจากเชื้อสายนักรบวิญญาณ เปลี่ยนไปเมื่อซูซีปิงโจมตีเยว่เฉา
“ข่ายวิญญาณนักรบ ! ”
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญของเชื้อสายนักรบวิญญาณ หุนเจิ้งตะโกนออกมาทันที ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็พุ่งออกไปราวกับสาย ยฟ้า พลังแห่งการมีอยู่ของเขาเพิ่มขึ้นขณะที่เขาพุ่งเข้าหาซูซีปิง
พลังปราณของเขาหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขา แม้แต่พลังวิญญาณนักรบก็เริ่มไหลเวียนอย่างลับ ๆ
ตอนนี้ หุนเจิ้งพร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตเรื่องจากข่ายนักรบวิญญาณต้องใช้เวลาในการบรรลุเป้าหมาย แม้ว่ามันจะใช้เวลาส สั้นมาก แต่เขาก็ไม่อาจรอได้
ทำให้หุนเจิ้งต้องใช้ความแข็งแกร่งของเขาเพื่อเผชิญหน้ากับซูซีปิงด้วยพลัง
เขาเผชิญหน้ากับอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 4 ด้วยขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9
“ระวังตัวด้วย ศิษย์พี่ใหญ่ ! ” เยว่เฉาเตือนทันทีเมื่อเห็นการกระทำของหุนเจิ้ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
ความแข็งแกร่งของซูซีปิงไม่อาจเทียบได้กับอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 4 ปกติได้ เขาและหวงฟู่กุ่ยยี่ต่างก็เป็นผ ผู้เชียวชาญที่ติดอันดับต้น ๆ ในระดับการบ่มเพาะเดียวกันของพวกเขา พวกเขาเป็นอัจฉริยะสูงสุดเมื่อพวกเขายังเด็ก ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาไร้พ่ายในระดับเดียวกัน แต่พวกเขาก็อยู่ไม่ไกลจากมันเช่นกัน
“นั่นก็ดีเหมือนกัน หุนเจิ้ง ให้ข้าได้เห็นว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดของเชื้อสายนักรบวิญญาณนั้นทรงพลังเพียงใด” ซูซีปิงยังคงสงบราวกับว่าเขาไม่ได้กลัวเชื้อสายนักรบวิญญาณมากนัก เขากังวลเพียงเพราะเขามีตระกูลขนาดใหญ่อยู่ด้า านหลัง ซึ่งกลายเป็นบ่วงผูกเขาไว้
ด้วยเหตุนี้ฝ่ามือโจมตีของซูซีปิงซึ่งเดิมจะฟาดไปยังเยว่เฉาก็เปลี่ยนไปฟาดหุนเจิ้ง
เสียงกึกก้อง มิติแตกเป็นเสี่ยง ๆ การฟาดฝ่ามือนี้ดูเหมือนจะแช่แข็งมิติทั้งหมดและห่อหุ้มหุนเจิ้งไว้อย่างสมบูรณ ณ์จนเขาไม่อาจหลบได้
ทันใดนั้น หุนเจิ้งรู้สึกเหมือนมีแรงกดดันจากภูเขาราวกับว่าโลกทั้งใบได้ถ่วงเขาเอาไว้
อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ทั่วไป ความเข้าใจของเขายังคงอยู่ที่ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 แต่การบ่มเพาะของเขาได้ทำลายตรรกะอย่างสมบูรณ์และมาถึงอัครสูงสุด
แม้ว่าจะเป็นเพียงอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 1 แต่ก็มีความแตกต่างอย่างมากกับขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9
หุนเจิ้งก็ฟาดฝ่ามือของเขาออกไปเช่นกัน
การโจมตีของฝ่ามือเต็มไปด้วยพลังที่รวมตัวกันและพลังที่สูงสุดจากการโจมตี ทันทีที่โจมตีออกไป โลกจะเลือนลางและ ะวิญญาณสั่นสะท้าน พลังวิญญาณนักรบส่วนใหญ่ได้รวมตัวกันภายในฝ่ามือ ทำให้มันส่งผลกระทบต่อวิญญาณของผู้คน
ปัง !
เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ มิติแตกเป็นเสี่ยง ๆ มือของซูซีปิงและหุนเจิ้งปะทะกันราวกับมีดาวเคราะห์ 2 ดวงมาชนกันทำ ำให้เกิดพลังทำลายล้างขนาดใหญ่และอวกาศสั่นไหว
พรวด !
เลือดพ่นออกมาจากปากของหุนเจิ้งขณะที่เขากระเด็นออกไปราวกับสายฟ้าฟาด เสื้อคลุมสีน้ำเงินของเขาถูกทำลายจนกลาย ยเป็นผุยผงจากพลังงานที่รุนแรงจนเห็นเกราะสีดำด้านใน
เกราะกระพริบอย่างรวดเร็วและอับแสงลงอย่างเห็นได้ชัด
เกราะนี้เป็นวัตถุเทพและมันเป็นวัตถุเทพขั้นกลางที่ดีกว่าหลาย ๆ อันมาก มันมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น หุนเจิ้งก็ยังได้รับบาดเจ็บจากฝ่ามือของซูซีปิง