เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2627 - ความแข็งแกร่งของหัวหน้าพิรุณ(1)
ตอนที่ 2627 – ความแข็งแกร่งของหัวหน้าพิรุณ(1)
สีหน้าของ ซูซีปิง และ ชาหยุน กลายเป็นน่าเกลียดอย่างมากเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับน้ำเสียงที่เหมือนคำสั่งหัวหน้าพ พิรุณ พวกเขารู้สึกโกรธ
หัวหน้าพิรุณนั้นเอาแต่ใจเกินไป อย่าลืมว่าพวกเขาทั้งสองก็มีชื่อเสียงและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดบนที ราบรกร้าง แม้ว่าการบ่มเพาะของพวกเขาจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับหัวหน้าพิรุณได้ แต่นางก็ยังปฏิบัติต่อพวกเขาเ เกินไป นางปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนนางอยู่เหนือพวกเขาจริงๆ
เป็นผลให้ซูซีปิงและชาหยุนซึ่งเคยชินกับการออกคำสั่งและสามารถกำหนดสถานการณ์และทิศทางของที่ราบรกร้างทั้งหมดได้ รู้สึกอึดอัดอย่างมาก
“พี่ซู ดูเหมือนว่า หัวหน้าพิรุณแห่งที่ราบสำราญมุ่งมั่นที่จะปกป้องเชื้อสายนักรบวิญญาณ พวกเราจะทำอย่างไร ? ” ชาห หยุนลอบถามอย่างลับ ๆ เขาถูกโอบล้อมด้วยชั้นของปราณกระบี่ที่โหดเหี้ยมมากและเสียงของเขาก็เคร่งเครียดอย่างมา าก
“ การกระทำของเราในวันนี้ส่งผลให้เกิดการพัฒนาความคับข้องใจอย่างไม่อาจให้อภัยกับเชื้อสายนักรบวิญญาณ จากพฤติกรรม มในอดีตของเชื้อสายนักรบวิญญาณ พวกเขาจะหาทางแก้แค้นในอนาคตอย่างแน่นอน ควบคู่ไปกับที่พวกเขามีภูเขาวิญญาณนักรบ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับล่าถอย พวกเขาสามารถหายตัวไปพร้อมกับภูเขาวิญญาณนักรบได้ทันทีหากพวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้ วิธีการดักจับพวกเขาที่นี่ในวันนี้อาจจะใช้ไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นหากเราไม่ทำลายเชื้อสายนักรบวิญญาณได้หมดเกลี้ยง งในวันนี้ คนที่ถูกทำลายในอนาคตน่าจะเป็นตระกูลซูของเรา ตระกูลกลางสวรรค์ และสำนักกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า” ซ ซูซีปิงตอบอย่างเข้มเคร่งเครียด ตัวตนของหัวหน้าพิรุณทำให้เขาตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ชาหยุนถอนหายใจอยู่ข้างใน เขาไม่เคยคิดว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณจะได้รับการสนับสนุนจากใครบางคนที่ทรงพลังดังเช่น นหัวหน้าพิรุณ ถ้าเขารู้มาก่อนว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณอยู่ภายใต้การคุ้มครองของหัวหน้าพิรุณ เขาจะไม่มีวันต่อต้าน นพวกเขา แม้ว่ามันจะหมายถึงการเสียสละกระบี่ผู้พิทักษ์จากโถงเซียนธาตุแสงก็ตาม
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ชาหยุน กล่าวต่อว่า“ ทำไมเราไม่ลองเจรจากับหัวหน้าพิรุณดูล่ะ ? ตราบใดที่เชื้อสายนัก กรบวิญญาณสามารถให้อภัยเราในสิ่งที่เราทำในวันนี้และให้คำสาบานว่าพวกเขาจะไม่สร้างปัญหาให้กับเราในอนาคต เรา จะไม่ต่อต้านเชื้อสายนักรบวิญญาณอีกต่อไป” ชาหยุนรู้สึกแย่มาก ในอดีตทั้งสามองค์กรไม่เคยขัดแย้งใด ๆ กับเชื้อสาย นักรบวิญญาณ ทั้งหมดเป็นเพราะกงซุนอี้ทำให้พวกเขากลายเป็นศัตรูกัน
ซูซีปิงส่ายหัวเบา ๆ “ มันไม่มีประโยชน์ ดูเหมือนว่าหัวหน้าพิรุณ นางต้องการเจรจากับเราหรือ? และเมื่อพิจารณาถึงค ความดื้อรั้นของสมาชิกทุกคนในเชื้อสายนักรบวิญญาณ พวกเขาจะไม่มีทางเห็นด้วย”
ในขณะนี้หวงฟู่กุ่ยยี่ซึ่งได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากทักษะตัดสวรรค์ของหุนเจิ้ง ในที่สุดก็หายดี ด้วยใบหน้าที่ ขาวซีดและมีเลือดออกบนใบหน้า เขาบินมาจากระยะที่ห่างไกลอย่างช้า ๆ
การก่อตัวของค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตของหัวหน้าพิรุณมีขนาดใหญ่มาก แม้ว่าหวงฟู่กุ่ยยี่จะค่อนข้างห่างไกลจาก ภูเขาวิญญาณ แต่เขาก็ยังอยู่ในรัศมีของค่ายกล
หวงฟู่กุ่ยยี่จ้องไปที่หัวหน้าพิรุณอย่างพร่ามัวด้วยดวงตาแดงก่ำและกล่าวอย่างเคร่งเครียดว่า “หัวหน้าพิรุณตระกู ลกลางสวรรค์ ตระกูลซู สำนักกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ และโถงเซียนธาตุแสงต่างทำงานร่วมกัน ตอนนี้เราเป็นตัวแทนขององค์กร ที่ทรงพลังที่สุดบนที่ราบรกร้าง เรายังสามารถเป็นตัวแทนของที่ราบรกร้างทั้งหมด การทำร้ายทั่วทั้งที่ราบมัน มัน ไม่ใช่เรื่องฉลาด”
“และหัวหน้าพิรุณ ดูเหมือนที่ราบสำราญของเจ้าจะไม่สงบเช่นกัน ข้าหวังว่าหัวหน้าพิรุณจะสามารถพิจารณาเรื่องทั้งหมด ดนี้ได้อย่างเหมาะสม”
หวงฟู่กุ่ยยี่รู้ค่อนข้างมากเกี่ยวกับสถานการณ์บนที่ราบสำราญ เขารู้ว่าหัวหน้าพิรุณดูเหมือนจะสนใจที่จะยึดครอง สถานที่ทั้งหมด ดังนั้นกว่าเจ็ดในสิบส่วนขององค์กรระดับสูงสุดที่นั่นจึงได้ก่อตั้งพันธมิตรขึ้นมาอย่างลับๆ พวกเ เขาพร้อมที่จะต่อต้านความพยายามของจักรวรรดิเมฆทวี ด้วยเหตุนี้เขาจึงกล่าวถึงสถานการณ์ของที่ราบสำราญโดยตรงโดยหวัง งว่า หัวหน้าพิรุณจะตระหนักถึงสิ่งที่เขาพยายามจะชี้นำให้เห็น
องค์กรท้องถิ่นจากที่ราบสำราญ เป็นงานที่มากพอสำหรับจักรวรรดิเมฆทวีแล้ว การล่วงเกินองค์กรสูงสุดบนที่ราบรกร้าง งด้วยเช่นกันจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ชาญฉลาด
จักรวรรดิเมฆทวีมีสถานะที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เนื่องจากการดำรงอยู่ของหัวหน้าพิรุณ ถ้าหัวหน้าพิรุณหายไปจักรวรรดิเมฆทวี ก็จะถดถอยลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตระกูลกลางสวรรค์
นี่เป็นเพราะจักรวรรดิเมฆทวีไม่มีขั้นอัครสูงสุดคนที่สอง
หลังจากที่พูดอย่างนั้น หวงฟู่กุ่ยยี่ก็ให้ความสนใจกับหัวหน้าพิรุณอย่างใกล้ชิด เขาหวังว่าคำพูดของเขาจะมีอิทธิ พลต่อหัวหน้าพิรุณให้ถอยห่างออกไปเนื่องจากความยากลำบากที่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง
น่าเสียดายที่พวกเขาทำอะไรไม่สำเร็จ สิ่งที่รอคอยพวกเขาคือประโยคเย็นชาจากหัวหน้าพิรุณ “เจ้ายังมีเวลาอีก 3 วินา าทีสุดท้าย”
หัวหน้าพิรุณไม่ได้พูดอะไรมาก มันเป็นเพียงไม่กี่คำ แต่มันเปิดเผยความมุ่งมั่นของนาง นางไม่เหลือที่ว่างสำหรับ บการเจรจาและนางก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับองค์กรสูงสุดบนที่ราบรกร้างเช่นกัน นางเป็นคนอวดดีและกล้าหาญอย่างที่ส สุด
“ฮึ่ม ในวันนี้ ข้าต้องการทำลายเชื้อสายนักรบวิญญาณ ไม่มีใครหยุดข้าได้ ! ” ทันใดนั้น กงซุนอี้ก็ตะโกนออกมา กระ ะบี่แห่งสังหารเทพในมือของเขาส่องแสงระยิบระยับขณะที่พลังเขย่าโลกรั่วไหลออกมา ด้วยกระบี่ในมือและแสงสว่างรอบ บตัวเขา เขาฟันไปที่หัวหน้าพิรุณโดยตรง
เขาไม่รู้ว่าหัวหน้าพิรุณเป็นใครและไม่รู้ว่า หัวหน้าพิรุณทรงพลังเพียงใด อย่างไรก็ตาม เขามีกระบี่แห่งสังหารเท ทพอยู่ในมือ ภายใต้การปกป้องด้วยอำนาจของกระบี่ เขาไม่กลัวผู้เชี่ยวชาญ เขาไม่กลัวการคุกคาม
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้าจะหั่นเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ ตั้งแต่เจ้าเข้ามาขวางทางข้าเพื่อไม่ให้ทำลายเชื้อสายนักรบวิญญา าณ” กงซุนอี้ร้องออกมา กระบี่แห่งสังหารเทพเปล่งประกายเจิดจ้าเมื่อคลื่นพลังงานปะทุขึ้นราวกับสายน้ำ เขาฟันไปท ที่หัวหน้าพิรุณโดยตรง
แสงแห่งความชั่วร้ายฉายออกมาจากดวงตาของซูซีปิงทันทีเมื่อเขาเห็นกงซุนอี้โจมตี หัวหน้าพิรุณถ้ามีเพียงเขาและช ชาหยุน เขาคงไม่มีความกล้าพอที่จะชี้อาวุธของเขาไปที่ หัวหน้าพิรุณอย่างไรก็ตามเขาสามารถลองดูได้หากมีกงซุนอี้ รวมอยู่ด้วย
แม้ว่าการฝึกฝนส่วนตัวของกงซุนอี้จะขาดความแข็งแกร่ง แต่กระบี่ในมือของเขาก็ไม่สามารถมองข้ามไปได้
“หวงฟู่กุ่ยยี่มาร่วมมือกับกงซุนอี้เพื่อตรึงหัวหน้าพิรุณเอาไว้ ชาหยุน ฆ่าเชื้อสายนักรบวิญญาณโดยเร็ว” ซูซีปิง งกล่าวกับหวงฟู่กุ่ยยี่และ ชาหยุน อย่างลับๆ
ด้วยเหตุนี้ ซูซีปิงจึงเคลื่อนไหวโดยไม่ลังเลเลย กฎแห่งตะวันที่หนาแน่นรอบตัวเขาลุกเป็นไฟทันที พวกมันหลั่งไหลไปย ยังหัวหน้าพิรุณขณะที่พวกเขาพยายามที่จะกำหราบนาง
หวงฟู่กุ่ยยี่ไม่ลังเลเช่นกัน แม้ว่าจิตวิญญาณของเขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนักซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้ขอ องเขา แต่เขาก็ไม่สามารถสนใจมันได้ตลอดในเวลาเช่นนี้ เขาพุ่งออกไปอย่างแรงแม้จะเสี่ยงต่อการที่บาดแผลของจิต ตวิญญาณจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว
เขาไม่กล้าที่จะปล่อยให้เชื้อสายนักรบวิญญาณมีชีวิตอยู่ ถ้าพวกเขาไม่ถูกทำลายในวันนี้ คนที่จะถูกทำลายน่าจะเป็น นตระกูลกลางสวรรค์ของหวงฟู่กุ่ยยี่แทน
ยิ่งไปกว่านั้น หวงฟู่กุ่ยยี่ ได้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเชื้อสายนักรบวิญญาณอย่างแท้จริงผ่านการต่อสู้ครั้งนี้ เชื้อสายนักรบวิญญาณสามารถทำร้ายเขาได้ในระดับนี้ในขณะที่พวกเขารีบร้อน หากพวกเขามีเวลาเตรียมตัวมากมาย ชะตากรร รมของเขาอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าจิตวิญญาณที่บาดเจ็บ
แม้ว่าเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ แต่ชะตากรรมของตระกูลกลางสวรรค์ของเขาจะดำเนินไปโดยไม่ต้องพูดถึง
แม่น้ำมายาถูกร่ายขึ้นเหนือศีรษะของหวงฟู่กุ่ยยี่ มันปะทุขึ้นเป็นคลื่นยักษ์ จิตสังหารที่น่ากลัวและหนาแน่นพุ งออกมาจากแม่น้ำทำลายพื้นที่ตรงนั้น
นี่เป็นทักษะลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่หวงฟู่กุ่ยยี่มีอยู่ เขาใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีแห่งการสังหารเพื่อปลุก กระแสแห่งการเข่นฆ่า มันบดขยี้ลงบนอวกาศระหว่างทางและพุ่งเข้าหาหัวหน้าพิรุณพร้อมกับพลังสังหารที่ดูเหมือนจะลบล ล้างอะไรได้ทุกอย่าง
เมื่อเขาใช้ทักษะลับนี้ หวงฟู่กุ่ยยี่อดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาสองสามคำ มันเป็นอันตรายต่อเขามากที่จะใช ช้ทักษะลับที่ทรงพลังเช่นนี้ในสถานะปัจจุบันของเขา
ทันใดนั้น กงซุนอี้, ซูซีปิง และหวงฟู่กุ่ยยี่ ก็เข้าปะทะกับหัวหน้าพิรุณพร้อมกัน
สำหรับชาหยุน เขาพุ่งไปที่เชื้อสายนักรบวิญญาณ