เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2630 - แผนการของใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า
ตอนที่ 2630 – แผนการของใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของหัวหน้าพิรุณล้มเหลวที่จะทำลายการป้องกันของเขาและทำให้แสงรอบตัวเขามีพลังมากขึ้น กงซุ นอี้ก็สงบลงทันที ในขณะนั้นจู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนว่า หัวหน้าพิรุณไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาคิดว่านางจะเป็น
“ฮ่า ๆ ๆ หัวหน้าพิรุณ เจ้าไม่ได้อ่อนแอ แต่ความแข็งแกร่งของเจ้ายังไม่เพียงพอต่อการทำลายการป้องกันของข้า ถ้าเจ้า ามีความสามารถก็พยายามผ่านมันไปให้ได้” กงซุนอี้หัวเราะดัง ๆ การเพิ่มความแข็งแกร่งของม่านพลังป้องกันทำให้เขา มั่นใจมาก เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าม่านพลังป้องกันจะไม่เป็นอะไร ไม่ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับใครก็ตาม
เมื่อชีวิตของเขาไม่ถูกคุกคามอีกต่อไป ความหวาดของเขาที่มีต่อหัวหน้าพิรุณก็ลดลงโดยตรงจนกระทั่งมันหายไปอย่าง งสมบูรณ์
“หัวหน้าพิรุณ เจ้าเก็บความพยายามเอาไว้ดีกว่า เจ้าไม่สามารถผ่านการป้องกันของข้าได้ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันข ของเจ้า ถ้าเจ้าจากไปในตอนนี้และหลีกเลี่ยงการยุ่งเกี่ยวกับความแค้นของข้าต่อเชื้อสายนักรบวิญญาณ ข้าสามารถลืมกา ารกระทำที่ไม่เหมาะสมของเจ้าได้ในวันนี้ มิฉะนั้น เจ้าจะกลายเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้านอกเหนือจากเชื้อสายน นักรบวิญญาณ แน่นอนว่าข้าจะไปเยี่ยมชมจักรวรรดิเมฆทวีของเจ้าพร้อมกับผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ของโถงเซียนธาตุแสงในเวลาอ อื่น” กงซุนอี้กล่าวด้วยความยินดี เขาพูดอย่างหยิ่งผยองคุกคามหัวหน้าพิรุณโดยตรง
สีหน้าของซูซีปิงและหวงฟู่กุ่ยยี่มืดสนิทหลังจากได้ยินคำพูดของกงซุนอี้ ทั้งคู่สาปแช่งว่าเขาโง่งมงายแค่ไหนถึง งขนาดกล้าคุกคามผู้เชี่ยวชาญอย่างหัวหน้าพิรุณ
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนในระดับเดียวกันกับหัวหน้าพิรุณได้รับความเคารพนับถือเป็นอย่างดี จะเป็นการดีที่สุดที่จะหลีกเล ลี่ยงการล่วงเกินพวกเขา แม้ว่าจะมีความขัดแย้งเพียงเล็กน้อย ซูซีปิงและหวงฟู่กุ่ยยี่เชื่อว่าพวกเขาควรอดทนต่อมัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถทนได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะล่วงเกินหัวหน้าพิรุณได้แม้แต่น้อย เว้นแต่พวกเขาจะมีพละกำลังเ เพียงพอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาติดอยู่ในค่ายกลของหัวหน้าพิรุณ หากพวกเขาทำให้นางขุ่นเคือง โชคชะตาที่ดีจะไม่รอพวกเขา อยู่อย่างแน่นอนมาก
สำหรับกงซุนอี้ ด้วยการล่วงเกินเพียงครั้งเดียว เขาทำให้หัวหน้าพิรุณเป็นศัตรูโดยสมบูรณ์
หากพวกเขายังคงมีโอกาสคืนดีกับ หัวหน้าพิรุณก่อนหน้านี้โอกาสนั้นก็ถูกกงซุนอี้กำจัดไปหมดแล้ว
“กงซุนอี้โง่แค่ไหน ? เขาไม่ได้มองหาปัญหาหรอกหรือ ? ” หวงฟู่กุ่ยยี่และซูซีปิงสื่อสารกันอย่างลับ ๆ พวกเขาเริ มไม่พอใจกงซุนอี้แล้ว เขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกระบี่ผู้พิทักษ์ ดังนั้นหัวหน้าพิรุณจึงต้องพยายามดิ้นรนเพ พื่อทำร้ายเขา แต่พวกเขาทั้งสองคนล่ะ ?
พวกเขาไม่สามารถทนต่อความโกรธเกรี้ยวของหัวหน้าพิรุณได้
ถ้าไม่ใช่เพราะการล่อลวงของกระบี่ผู้พิทักษ์ที่เหลืออีก 3 เล่มของโถงเซียนธาตุแสง พวกเขาคงไม่เต็มใจที่จะมาหาเรื่ องพร้อมกับกงซุนอี้
“แม้แต่ราชาเทพก็ยังกล้าขู่เข็ญข้า มันน่าประทับใจมาก ! มันน่าประทับใจมากจริง ๆ ! ” เสียงของหัวหน้าพิรุณดังข ขึ้นอย่างเย็นชา
ด้วยเหตุนี้ ค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตก็สั่นสะท้าน กลุ่มเมฆหนาที่ก่อตัวเป็นคุกเขตแดนก็เริ่มพุ่งขึ้นมา ทำให้ ค่ายกลทั้งหมดหดตัวลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อค่ายกลหดตัวลง ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของค่ายกลที่เพิ่มขึ้น
หลังจากนั้นพลังอันมหาศาลก็ปะทุขึ้นจากค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตเช่นเดียวกับคลื่นยักษ์ที่พัดผ่านพื้นที่ทั้งห หมดภายในค่ายกล ในที่สุดเม็ดฝนก็ก่อตัวขึ้นที่นั่น
ฝนทุกหยดมีกฎอันบริสุทธิ์ของโลก
ละอองฝนทุกหยดมีคลื่นพลังงานที่น่าอัศจรรย์
หลังจากนั้นละอองฝนก็รวมตัวกันจากทุกทิศทางรอบ ๆ กงซุนอี้ด้วยพลังงานที่พลุ่งพล่าน
ทันใดนั้น กงซุนอี้ก็ถูกห้อมล้อมด้วยลูกบอลขนาดใหญ่ที่ควบแน่นจากละอองฝนนับไม่ถ้วน พลังสั่นสะเทือนโลกและกฎอัน นบริสุทธิ์ของโลกกดทับแสงป้องกันของกงซุนอี้เหมือนหนอนกัดแทะทีละนิด
การกระทำของหัวหน้าพิรุณนั้นง่ายมาก เนื่องจากนางไม่สามารถทำลายมันได้ นางจึงครอบมันลงทีละนิด
ทันใดนั้น ม่านแสงป้องกันรอบ ๆ กงซุนอี้ถูกบีบอัดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชั้นนอกค่อย ๆ ถูกแทะออกไป
แม้ว่ากระบวนการจะช้ามาก แต่การป้องกันของเขาก็หายไปอย่างแน่นอน
กงซุนอี้ไม่สามารถหัวเราะได้อีกต่อไป สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้งและลางร้ายก็ผุดขึ้นจากใจของเขา
เขาถูกหัวหน้าพิรุณขังไว้แน่นหนาแล้ว เขาไม่สามารถขยับได้ เขาสามารถทนได้เพียงแค่การป้องกันของกระบี่ผู้พิทักษ ษ์เท่านั้น ไม่มีอะไรอื่นที่เขาสามารถทำได้
“หวงฟู่กุ่ยยี่, ซูซีปิง เจ้ากำลังรออะไรอยู่ ? รีบทำอะไรสักอย่าง ! ” กงซุนอี้ร้องเรียกออกมา
อย่างไรก็ตาม หวงฟู่กุ่ยยี่ และ ซูซีปิง ทำเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ยินอะไรเลย พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย พวกเขารู้สึกไ ไร้พลังอย่างสมบูรณ์ต่อหน้าพลังของหัวหน้าพิรุณ พวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้อีกต่อไป
พวกเขาเข้าใจว่าหากพวกเขายังคงต่อสู้ต่อไปชะตากรรมที่รอพวกเขาทั้งสองคนคือความตาย
ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าสถานการณ์ต่อสู้ของกงซุนอี้ พวกเขาก็ไม่ได้พยายามทำอะไร
พวกเขายังคงมีความหวังเล็กน้อยหวังว่าหัวหน้าพิรุณจะไว้ชีวิตพวกเขา
สำหรับชาหยุน เขากระตุกขณะล่องลอยไปในอวกาศหลังจากได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากสายฟ้าฟาด เขายังไม่หายดี
ในเวลาเดียวกัน บนภูเขาประกายดาวที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดซึ่งเป็นตัวแทนของความรุ่งโรจน์และเกียรติยศของที่ราบประกายด ดาว ชายวัยกลางคนในชุดเสื้อคลุมที่เต็มไปด้วยดวงดาวนั่งอยู่ในห้องลับดูเหมือนกำลังบ่มเพาะ
เขาคือใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าที่มีชื่อเสียง
ทันใดนั้น ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดวงดาวนับไม่ถ้วนดูเหมือนจะหมุนวนในดวงตาของเขาซึ่งส่อง ประกายด้วยแสงดาว
“ข้าคาดว่าจะมีการทรยศขององค์กรท้องถิ่นบนที่ราบเมฆา ข้ายังคาดการณ์ว่าราชาสวรรค์สีฟ้ากระจ่างจะไม่พลาดโอกาสอัน ยอดเยี่ยมนี้ รวมถึงวิธีที่กงซุนอี้จะลงมือ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่เคยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของการสังหารของหัวหน้า าพิรุณจากที่ราบสำราญ”
“ความสงสัยของข้า อะไรคือสาเหตุที่หัวหน้าพิรุณช่วยเหลือเจี้ยนเฉินหรือข้าควรจะพูดว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณ ตามคว วามเข้าใจของข้า ดูเหมือนว่านางจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเชื้อสายนักรบวิญญาณหรือ เจี้ยนเฉินเลย มีเรื่องราวอีก กด้านหนึ่งหรือไม่ ? ”
“อย่างไรก็ตาม ตัวตนของนางทำให้แผนของข้าเสียหาย ส่งผลให้ข้าต้องหาทางทำให้นางยุ่ง เมื่อหัวหน้าพิรุณถูกดึงอ ออกจากเรื่องนี้ กลุ่มของกงซุนอี้ก็เพียงพอที่จะฆ่าเจี้ยนเฉินได้ บางทีเหยาเอ๋ออาจสามารถอยู่รอดได้”
ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าพึมพำกับตัวเอง หลังจากนั้นด้วยการพลิกมือของเขา ยันต์หยกสื่อสารก็ปรากฏขึ้น “ ฟ้าครา าม เจ้าขาดวัสดุหลักสำหรับวัตถุเทพขั้นสูงของเจ้า เหล็กเมฆวารี ไม่ใช่หรือ ? หัวหน้าพิรุณเพิ่งจะมีชิ้นส่วนของมัน ”
หลังจากส่งข้อความไปแล้ว ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าก็เก็บยันต์หยกไว้และพูดกับตัวเองว่า“ เมื่อฟ้าครามเข้าร่วม หัวหน้าพิรุณก็จะยุ่งมาก ตอนนี้ไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดกับสถานการณ์ ยิ่งไปกว่านั้นข้าส่งข้อมูลเพียงช ชิ้นเดียวไปยังฟ้าครามเพื่อกำหนดเป้าหมายไปที่หัวหน้าพิรุณ มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจี้ยนเฉิน”
“อย่างไรก็ตาม ข้ายังไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ ถ้าข้าทิ้งร่องรอยอะไรบางอย่างไว้และจอมปราชญ์สูงสุดอนัตตาจับได ด้ ข้าจะต้องเดือดร้อนแน่ ๆ การตัดทางของบุคคลจะนำไปสู่ความแค้นที่ไม่อาจให้อภัยได้”