เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2639 - ความหวัง - novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

ตอนที่ 2639 – ความหวัง

ด้วยการหายตัวไปของหัวหน้าพิรุณ, ฟ้าครามที่น่านับถือ, กงซุนอี้, ซูซีปิง และหวงฟู่กุ่ยยี่ ทำให้มิติที่แตกสลาย ยจากการต่อสู้ของพวกเขาในที่สุดก็ได้รับความสงบ

พลังงานที่กวาดไปทั่วอวกาศค่อย ๆ สลายตัวลงและมิติที่แตกร้าวก็ได้ปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว

ในไม่ช้าพื้นที่อันมืดมิดและเย็นยะเยือกก็ฟื้นคืนความสงบสุขก่อนหน้านี้ ดวงดาวระยิบระยับก่อตัวเป็นทิวทัศน์ที่สว วยงาม มันน่าหลงใหล

ภูเขาวิญญาณลอยผ่านอวกาศอย่างรวดเร็วราวกับภูติผี มันพุ่งเข้าหาที่ราบเมฆาอย่างรวดเร็ว

บนภูเขาวิญญาณ จื้อเจี้ยน, เยว่เฉา, หยุนซื่อติง และ ซูฉีต่างก็มองไปยังทิศทางของหัวหน้าพิรุณและการต่อสู้ครั งก่อนของฟ้าครามที่น่านับถือ ทุกคนเงียบและเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมาย

พวกเขาเป็นขั้นบรรพกาล ดังนั้นทั้งการมองเห็นและประสาทสัมผัสของพวกเขาจึงมีพลังอย่างมาก พวกเขาทุกคนเห็นว่าชาหย ยุนและกงซุนอี้ต้องการจัดการกับพวกเขาอย่างไร ในขณะที่หัวหน้าพิรุณกำลังต่อสู้กับฟ้าครามที่น่านับถือ ต่อจากนั้ นหัวหน้าพิรุณละทิ้งคู่ต่อสู้ของนางโดยไม่ลังเลเพื่อที่จะจัดการกับกงซุนอี้และชาหยุน มันเหมือนกับว่านางกลัว วอะไรบางอย่างที่จะเกิดขึ้นกับเชื้อสายนักรบวิญญาณ

พวกเขารู้สึกสับสนอย่างมากว่าทำไมหัวหน้าพิรุณถึงดูแลเชื้อสายนักรบวิญญาณของพวกเขามากขนาดนี้

จากความประทับใจ เชื้อสายนักรบวิญญาณของพวกเขาไม่เคยมีการติดต่อกับหัวหน้าพิรุณมาก่อน พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ ใด ๆ กับนาง

เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน หลังจากเห็นสิ่งนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่เขาโจมตีจักรวรรดิเมฆทวี พร้อมกับลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ในท้ายที่สุด เขาก็ติดอยู่ในค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิต

ในเวลานั้น เขาและผู้อาวุโสสูงสุดของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า เฉิงหมิงได้เอากล้วยไม้เบญจธาตุที่หัวหน้าพิรุณเพาะปลูกเอ อาไว้ไป หลังจากนั้นเขาพยายามที่จะกลืนกินจักรพรรดิแมลงมิติซึ่งนำไปสู่อุบัติเหตุ เขาเกือบตายและจบลงด้วยน้ำมือข ของหัวหน้าพิรุณ

หัวหน้าพิรุณไม่ได้ตำหนิเขาเลย แต่นางกลับมอบโชคให้กับเขา ช่วยเขาในการปรับแต่งจิตวิญญาณจาก จักรพรรดิแมลง มิติ เป็นผลให้เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎแห่งมิติ

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะบุคคลลึกลับ

เจี้ยนเฉินยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับตัวตนของบุคคลลึกลับคนนี้ อย่างไรก็ตาม เขาสามารถบอกได้จากการสนทนาของเขากับหั วหน้าพิรุณและการกระทำของนางว่าบุคคลลึกลับคนนี้เกี่ยวข้องกับเชื้อสายนักรบวิญญาณ

ยิ่งไปกว่านั้นเป็นเพราะเขาที่ทำให้หัวหน้าพิรุณดูแลเชื้อสายนักรบวิญญาณเป็นพิเศษ ความเอาใจใส่นี้ล้ำค่ายิ่งกว่าก กล้วยไม้เบญจธาตุ

ในขณะนี้ หุนเจิ้งกลับไปที่ภูเขาจิตวิญญาณพร้อมกับศพของชาหยุน เขาโยนศพไปด้านข้างของเจี้ยนเฉิน

ผู้คนในเชื้อสายนักรบวิญญาณทั้งหมดค่อนข้างเงียบเมื่อมองไปที่ศพของชาหยุน เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ห่างเพียงไม่ กี่ก้าวจากชั้นสวรรค์ที่สี่ของขั้นอัครสูงสุด ใครจะรู้ว่าเขามีพลังมากกว่าขั้นอัครสูงสุดจากที่ราบเมฆาที่พวก กเขาสังหารไปแล้วมากแค่ไหน

ในที่สุดศพของชาหยุนก็เข้ามาอยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน มันจะทำหน้าที่หล่อเลี้ยงกล้วยไม้กลืนกินอมตะในอนาคต อย่าง งไรก็ตาม เจี้ยนเฉินไม่ได้เอาสิ่งของแม้แต่สิ่งเดียวจากแหวนมิติของชาหยุน

ภูเขาวิญญาณเคลื่อนที่ผ่านอวกาศด้วยความเร็วสูง ที่ราบเมฆาขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่มันลอยอยู่ในอวกาศ

ในเวลาเดียวกัน ในอีกพื้นที่หนึ่งของอวกาศใกล้กับที่ราบเมฆา ขั้นอัครสูงสุดของพันธมิตรสี่เส้าถูกตรึงไว้ด้วยการ รต่อสู้กับตงวู่หมิง, เลี่ยหยานหวูจิ, โจวซีเตา และผู้เฒ่าเทียนซาน

การต่อสู้ของพวกเขารุนแรงมาก ผู้เชี่ยวชาญทั้งสี่ของกลุ่มพันธมิตรชอบธรรมสูญเสียความได้เปรียบโดยสิ้นเชิงเมื่อพวกเข ขาเผชิญหน้ากับความพยายามร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญของพันธมิตรสี่เส้า พวกเขาซึ่งเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลที่สาหัสถูก บังคับให้ล่าถอย

สถานการณ์ของผู้เฒ่าเทียนซานนั้นสาหัสที่สุด คำสาปแพร่กระจายเข้าไปในกระดูกของเขาและตอนนี้เข้าสู่จิตวิญญาณของ เขา เป็นผลให้ร่างกายของเขาเริ่มเน่าเปื่อยและถูกปกคลุมไปด้วยคำสาปที่ทรงพลัง

ตอนนี้เขากำลังแผดเผาเปลวไฟแห่งชีวิตของเขา เขาทุ่มเทพลังชีวิตทั้งหมดในร่างกายที่เน่าเปื่อยของเขาเข้าสู่การ รต่อสู้

เมื่อพลังชีวิตของเขาหมดไป พลังตัวตนแห่งความตายอันหนักหน่วงก็ปรากฏขึ้นบนตัวผู้เฒ่าเทียนซาน

แม้ว่าเขาจะสามารถอยู่รอดจากการต่อสู้ครั้งนี้ได้ แต่เขาอาจไม่สามารถรักษาร่างกายของเขาได้อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยังเป็นเพราะผู้เฒ่าเทียนซานที่เสียสละ ทำให้ตงวู่หมิง, เลี่ยหยานหวูจิ, โจวซีเตา สามารถต่อสู้กั บผู้เชี่ยวชาญทั้งห้าของพันธมิตรสี่เส้าได้ในระดับหนึ่ง

“ข้าจะพัวพันพวกเขาเอาไว้ เจ้าออกไปก่อน เจ้ายังมีหนทางข้างหน้า ตราบใดที่เจ้าอยู่รอด เจ้าจะสามารถลุกขึ้นมาได้อีกคร รั้งในอนาคต” ผู้เฒ่าเทียนซานต่อสู้กับบรรพชนสายลมพลิ้ว ในขณะที่เขาสื่อสารอย่างลับ ๆ กับขั้นอัครสูงสุดทั้งสาม มของพันธมิตรชอบธรรม

พวกเขาจะต้องประสบกับความพ่ายแพ้ไม่ช้าก็เร็วหากยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไป หากพวกเขาไม่จากไป พวกเขาอาจต้องตายที่น นี่

ในการต่อสู้ระหว่างขั้นอัครสูงสุดโดยพื้นฐานแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนจะทำให้คู่ต่อสู้ติดอยู่ หากพวกเขาต้องการจ จากไป โดยธรรมชาติแล้วนี่เป็นเพียงกรณีที่มีความแตกต่างในเรื่องความแข็งแกร่งไม่มาก

แน่นอนว่า วิธีการพิเศษในการกักขังเป็นข้อยกเว้น

“ถ้าข้าหลบหนี ตระกูลของข้าจะถูกพวกเขาทำลายอย่างแน่นอน ข้าจะเฝ้าดูลูกหลานจำนวนมากของข้าตายด้วยน้ำมือของพันธ ธมิตรสี่เส้าได้อย่างไร ? ” ตงวู่หมิงตอบ

“วันนี้ ข้ายอมตายในสนามรบมากกว่าวิ่งหนี แม้ว่าข้าจะต้องตาย ข้าก็ต้องลากพวกเจ้าไปตายกับข้าด้วย ! ” เลี่ยห ยานหวูจิร้องออกมา เปลวไฟบนตัวเขาลุกโชนขึ้นทันที เขาเริ่มเสี่ยงชีวิตอย่างแท้จริง เผาแก่นโลหิตและใช้พลังชีว วิตโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา

บรรพชนของนิกายจักรวาล โจวซีเตาอาจได้รับอิทธิพลจากคำพูดของเลี่ยหยานหวูจิในขณะที่เขาตัดสินใจในทันที เขากำลัง งจะเผาผลาญแก่นโลหิตของเขาเช่นกัน แต่ในขณะนั้น เขาเห็นบางสิ่งบางอย่างที่หางตาของเขา เขามองไปทันที

เขามีความสุขขึ้นทันทีด้วยความยินดีกับสิ่งนั้น มันเหมือนกับว่าเขามองเห็นความหวังในส่วนลึกของความสิ้นหวัง เขาอ อดไม่ได้ที่จะร้องขึ้นว่า “ดูนั่นสิ ! ภูเขาวิญญาณนักรบ ! มันคือภูเขาวิญญาณนักรบ ! ภูเขาวิญญาณนักรบกำลังจะมา… …”

เลี่ยหยานหวูจิ, ตงวู่หมิงและผู้เฒ่าเทียนซานมองตรงไป เป็นไปตามที่คาดไว้ พวกเขาค้นพบภูเขามายาที่พุ่งเข้าหา าพวกเขาจากระยะอันห่างไกลอย่างรวดเร็ว

“ยอดเยี่ยมมาก ในที่สุดสหายเชื้อสายนักรบวิญญาณก็มาแล้ว” ราวกับว่าภาระอันใหญ่หลวงได้ถูกปลดเปลื้องไปจากเขาแล้ว ผู้เฒ่าเทียนซานก็ยิ้มออกมา

เขารู้ว่าตั้งแต่เชื้อสายนักรบวิญญาณมาถึง ผลของการต่อสู้ก็ย่อมตัดสินได้โดยธรรมชาติแล้ว

“สหายเชื้อสายนักรบวิญญาณ เราอยู่ที่นี่แล้ว มาจัดการกับไอ้สารเลวพวกนี้…” เลี่ยหยานหวูจิร้องออกมา เขาตื่นเต้ นมากจนเกือบจะถึงจุดที่เขาจะเต้นด้วยความสุข

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านยังได้รับบาดเจ็บอยู่ ปล่อยศึกนี้ให้กับพี่สามและข้า” จื้อเจี้ยนกล่าวจากภูเขาวิญญาณ

“ใช้ข่ายวิญญาณนักรบและยุติการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด” ซูฉีแนะนำ นางต้องการจัดการกับฝ่ายตรงข้ามด้วยวิธีที่ปลอ อดภัยที่สุด

ไม่มีใครอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อีกต่อไป ทักษะตัดสวรรค์ได้ดูดพลังวิญญาณของพวกเขาไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้นความสามารถใ ในการต่อสู้ของพวกเขาจะได้รับอิทธิพลในระดับหนึ่ง

การใช้จิตวิญญาณมากเกินไปจะส่งผลโดยตรงต่อทักษะลับของพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับพลังวิญญาณนักรบ

หุนเจิ้งเหลือบตามองไปที่ที่ราบเมฆาและส่ายหน้า “ ตระกูลเทียนหยวนของศิษย์น้องแปดกำลังตกอยู่ในอันตราย เราไม่สามา ารถใช้ข่ายวิญญาณนักรบได้ เราต้องแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่ม ศิษย์น้องสอง ศิษย์น้องสาม เราจะจัดการกับขั้นอัครสู งสุดของพันธมิตรสี่เส้า พวกเจ้าที่เหลือไปยังที่ราบเมฆา”

“แต่ศิษย์พี่ใหญ่ บาดแผลของท่าน…”

“บาดแผลของข้าไม่ใช่ปัญหา พอแล้ว อย่าพูดอีกต่อไป มาลงมือกันเถอะ ผู้คนจากกลุ่มพันธมิตรชอบธรรมทนอยู่ได้ไม่นาน นัก”