เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2648 - คำแนะนำ
ตอนที่ 2648 – คำแนะนำ
คราวนี้ก่อนที่ซ่างกวนมู่เอ๋อจะตอบกลับ เจี้ยนเฉินก็ปฏิเสธแทนนาง “ ขอบคุณสำหรับความตั้งใจจริงของผู้อาวุโสแต่ผู้เ เยาว์มีแผนเกี่ยวกับการบ่มเพาะในอนาคตของมู่เอ๋อแล้ว ผู้เยาว์วางแผนที่จะส่งนางไปยังพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง”
หลังจากรู้ว่า เต๋าเจี้ยมาจากตระกูลเต๋า เจี้ยนเฉินก็ตัดสินใจที่จะห้ามมู่เอ๋อไม่ให้ไปกับเขา
เขาไม่ได้ตัดสินใจเช่นนี้เพราะเขารู้สึกไม่พอใจต่อตระกูลเต๋า แต่เป็นเพราะโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่ปิดผนึกไว้ใ ในโลกมหาพิสุทธิ์
โถงศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลถูกปิดผนึกโดยเซียนผสานเต๋า จากช่วงเวลาที่ยาวนานไม่สิ้นสุดก่อนสุดท้าย พวกเขาไม่พอใจซึ่งก กันและกัน เจี้ยนเฉินมักจะคิดเกี่ยวกับโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล เขาได้ตัดสินใจแล้วที่จะกลับไปยังโลกมหาพิสุทธิ์และ กลายเป็นเจ้านายของโลกมหาพิสุทธิ์ ทันทีที่เขารวบรวมแก่นโลหิต10 หยดจากเซียน
มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่ตระกูลเต๋าซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลโบราณของโลกแห่งเซียนจะมาจากเซียนผสานเต๋า ด้วยเหตุน นี้เจี้ยนเฉินจึงกังวลอย่างยิ่งว่าความแค้นระหว่างโลกมหาพิสุทธิ์และเซียนผสานเต๋าจะถูกสืบทอดโดยเขาและตระกูลเต๋ า หากเขาได้รับโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล
แม้ว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เจี้ยนเฉินก็ต้องการรักษาระยะห่างจากตระกูลเต๋า
“พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง” เต๋าเจี้ยบ่นพึมพำและเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความไม่พอใจ เ เดิมทีเขาไม่ได้วางแผนที่จะสิ้นเปลืองคำพูดในหัวข้อนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาพิจารณาว่าซ่างกวนมู่เอ๋อเป็นผู้สืบทอ อดเพียงคนเดียวของผู้หญิงที่เขารักและเขาต้องการพาซ่างกวนมู่เอ๋อกลับไปที่ตระกูลเต๋า เพื่อดูแลนาง อย่างไรเขา าก็พูดได้เพียงว่า “พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงมีพลังมากกว่าตระกูลเต๋าของเรา และตระกูลเต๋าของเราไม่สามารถเปร รียบเทียบกับพวกเขาในแง่ของทรัพยากรได้ อย่างไรก็ตาม ซ่างกวนมู่เอ๋อ หากเจ้าไปที่พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงจริง ๆ พวกเขาจะไม่ให้ทรัพยากรกับเจ้ามากเกินไป ในทางกลับกัน ในตระกูลเต๋าของข้า ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าในฐานะศิษย์โดยตรงของ ข้า ด้วยเหตุนี้ตระกูลเต๋าจึงเหมาะสมกว่าพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง สำหรับเจ้า เจ้าจะได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้นในตร ระกูลเต๋า”
“มู่เอ๋อรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความเมตตาของผู้อาวุโส แต่มู่เอ๋อได้ตัดสินใจแล้วเกี่ยวกับการติดตามเจี้ยนเฉิน นในอนาคต มู่เอ๋อไม่ต้องการไปที่อื่น” ซ่างกวนมู่เอ๋อไม่หวั่นไหวเลย นางปฏิเสธโดยไม่ลังเล
เต๋าเจี้ยสามารถบอกได้ด้วยการมองเพียงแวบเดียวว่า ซ่างกวนมู่เอ๋อได้ตัดสินใจแล้วและนางไม่สนใจในผลประโยชน์ต่า าง ๆ ที่ตระกูลเต๋าสามารถเสนอได้
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะไม่บังคับเจ้า หากเจ้าคิดเปลี่ยนใจในอนาคตเพียงแค่บีบยันต์หยกนี้ ข้าจะส่งคนไปหาเจ้า ตระกูล ลเต๋าของข้ายินดีต้อนรับเจ้าทุกเมื่อ” เต๋าเจี้ยยื่นนิ้วออกมาและมุมของยันต์หยกก็ควบแน่นออกมาทันที จากมุมนั้น มันปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในไม่ช้า ยันต์ขนาดเท่าฝ่ามือก็ปรากฏต่อหน้าซ่างกวนมู่เอ๋อ ลวดลายของมันเรียบง่ายเบื้องต้นมันถูกสลักไว้ที่ด้า านหนึ่ง ในขณะที่อีกด้านหนึ่งมีคำว่า “เต๋า” ซึ่งดูเหมือนจะมีความลึกลับไม่สิ้นสุด
“สร้างบางสิ่งจากความว่างเปล่า ! ” เจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาสามารถบอกได้เพียงแวบเดียวว่ายั นต์หยกไม่ได้ถูกสร้างไว้ล่วงหน้า แต่มันถูกสร้างขึ้นโดยเต๋าเจี้ย ด้วยความสามารถของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขาสร้างไม่ใช่ยันต์หยกธรรมดา มันมีตัวตนของวิธีการบางอย่างที่พิเศษที่ซ่อนพลังที่ลึกซึ้ง
การสร้างยันต์หยกก็ไม่มีอะไรยาก แต่การสร้างสิ่งที่มีวิธีการที่ลึกซึ้งเช่นนี้ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์
เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเต๋าเจี้ยมีทักษะที่น่าอัศจรรย์เพียงใด
ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับกฎของโลกได้ถึงระดับที่น่าประหลาดใจมาก
“ถ้าเจ้าเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในอนาคต เจ้าก็สามารถเอายันต์หยกออกมาได้ มันไม่ใช่สมบัติในการป้องกัน แต่มันเป ป็นตัวแทนของข้าในระดับหนึ่ง”
“อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จำยันต์หยกนี้ได้ เจ้าจะต้องจัดการกับคนที่ไม่เป็นตัวของตัวเองให้ได้ แต่สามารถจัดการ รคนที่แสดงความเคารพต่อข้าได้”
เต๋าเจี้ยมองไปที่เจี้ยนเฉิน เขาไม่ได้ปฏิบัติต่อเจี้ยนเฉินอย่างเป็นมิตรเหมือนซ่างกวนมู่เอ๋อ เขาดูค่อนข้างเย็น นชาในขณะที่เขากล่าวว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าได้คืนหอคอยอนัตตาและได้รับอานิสงส์อย่างมากสำหรับการรับใช้ของเจ้าต่อพระร ราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์ของซ่างกวนมู่เอ๋อ ข้าขอให้คำแนะนำแก่เจ้า พระราชวังสวรรค์แห่งบิ เชิงไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่คิด การส่งซ่างกวนมู่เอ๋อไปที่พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเสมอไป สำหรับสิ่งที่เรียกว่าตระกูลเทียนหยวนของเจ้า ถ้าเจ้าต้องการให้มันเติบโตต่อไป อย่าไปที่ที่ราบรุ่งโรจน์”
“ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเกี่ยวกับใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า แต่เจ้าสามารถผ่อนคลายได้ ตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ เข ขาจะไม่กล้าทำอะไรเลย”
เมื่อนั้นเต๋าเจี้ยก็หายไป เขาจากไปอย่างเงียบ ๆ และไม่ทิ้งร่องรอยไว้ข้างหลัง เขาออกเดินทางไปแล้ว
เต๋าเจี้ยได้จากไปแล้ว แต่เจี้ยนเฉินไม่ได้รับความสงบเลย เขาจมอยู่ในความคิดของเขาหลังจากได้ยินคำพูดของเต๋าเ เจี้ยในตอนท้าย เขาก็เคร่งเครียดมาก
เขาไม่รู้ว่าเต๋าเจี้ยคือใคร อย่างไรก็ตาม ด้วยการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมของชายคนนี้ เขาสามารถพาซางกวนมู่เอ๋อไปได ด้อย่างง่ายดาย แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ แต่เขาเคารพการตัดสินใจของซ่างกวนมู่เอ๋อ เพียงอย่างเดียวนั้นทำให้เจี้ยน นเฉินเปลี่ยนความคิดเห็นที่มีต่อเต๋าเจี้ยเล็กน้อย
คนแบบนั้นคงไม่โกหกแน่นอน เนื่องจากเขาได้กล่าวว่าการส่งซ่างกวนมู่เอ๋อไปที่พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงนั้นไม่จำ ำเป็นต้องเป็นความคิดที่ดี แต่ก็มีเหตุผลที่แน่นอน เจี้ยนเฉินต้องไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับคำพูดของเขาเกี่ย ยวกับตระกูลเทียนหยวน
คำพูดของเต๋าเจี้ยเผยให้เห็นความจริงอย่างชัดเจน – ที่ราบรุ่งโรจน์ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อตระกูลเทียนหยวน
ในขณะนี้การแสดงที่ทรงพลังหลายอย่างสืบเชื้อสายมาจากตระกูลเทียนหยวนซึ่งทำลายความคิดของเจี้ยนเฉิน
การต่อสู้ในอวกาศได้สิ้นสุดลงแล้ว หุนเจิ้ง, จื้อเจี้ยน และเยว่เฉา ได้กลับมาที่ตระกูลเทียนหยวนด้วยกัน ตงวู่ห หมิง, โจวซีเตา, เลี่ยหยานหวูจิ และผู้เฒ่าเทียนซานได้แยกจากกัน การต่อสู้ในภูมิภาคอื่น ๆ ยังคงต้องการพวกเขา
เจี้ยนเฉินทิ้งคำพูดของเต๋าเจี้ยไว้ชั่วคราวและมาถึงด้านหน้าพร้อมกับซ่างกวนมู่เอ๋อ เขาเห็นซากศพหลายศพในพริบตา า
พวกมันเป็นศพของวูหลู, กงจี้ และฉางเฟิงหยุน
“น่าเสียดายที่ข้าปล่อยให้บรรพชนสายลมพลิ้วหนีไปได้” หุนเจิ้งกล่าวด้วยความเสียดาย บรรพชนสายลมพลิ้วเป็นผู้เชี่ย ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของพันธมิตรสี่เส้า ก่อนการต่อสู้ของพวกเขา หุนเจิ้งได้ใช้พลังวิญญาณนักรบของเขาไปครึ่งหนึ งด้วยทักษะตัดสวรรค์ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก มันยากมากสำหรับเขาที่จะหยุดยั้งบรรพชนสายลมพลิ้วจากการ หลบหนีในขณะที่ไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด
“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง ศิษย์พี่สาม ทุกคน ข้าต้องขอขอบคุณพวกท่านที่ช่วยให้ชนะสงครามนี้ มิฉะนั้นข้าคงไม ม่สามารถรักษาตระกูลเทียนหยวนให้ปลอดภัยได้ กรุณาเข้ามาพักผ่อน” เจี้ยนเฉินคำนับ
“เรากลับไปที่ภูเขาวิญญาณแทนดีกว่า เราสามารถพักผ่อนและรักษาให้ดีขึ้นได้ที่นั่น อย่างไรก็ตาม ใต้เท้าประกายดาว วทั้งเก้าจะโกรธเกรี้ยวกับการตายของนายน้อยประกายดาวอย่างแน่นอน เจ้าไม่สามารถอยู่บนที่ราบเมฆาได้อีกต่อไป เจ้าต ต้องกลับไปที่ภูเขาวิญญาณนักรบพร้อมกับพวกเราทันที” หุนเจิ้งกล่าวอย่างเข้มงวด พวกเขารู้สึกกดดันอย่างมากจากใต้เ เท้าประกายดาวทั้งเก้า
อย่าลืมว่าเขาเป็นอัครขั้นสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 9 ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ พวกเขาสามารถพึ่งพาภูเขาวิญญาณนักรบ บได้เท่านั้น
“ถ้าเรามี 7 คนเหมือนเมื่อก่อน การหยุดใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าอาจจะค่อนข้างยาก แต่ตอนนี้เรามี 8 คนแล้ว เป็นผ ผลให้พลังของภูเขาวิญญาณนักรบ จะยิ่งมีพลังมากขึ้น ภูเขาวิญญาณนักรบควรจะสามารถหยุดใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าได ด้แล้ว” เยว่เฉากล่าว