เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2653 : การลอบฆ่าซีหยู
ตอนที่ 2653 : การลอบฆ่าซีหยู
ตระกูลเทียนหยวนได้กลายเป็นผู้ปกครองเขตใต้ แต่ตระกูลเทียนหยวนไม่ได้รวมทั้งเขตเอาไว้ด้วยกัน หลังจากที่ได้ควบคุ มจักรวรรดิจันทราสวรรค์และจักรวรรดิตะวันโลหิต พวกเขาก็เก็บตัวเงียบอีกครั้ง ตระกูลเทียนหยวนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับ การพัฒนาของตระกูลเก่าแก่และจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในเขตใต้เช่นกัน
นี่มันไม่ได้หมายความว่าตระกูลเทียนหยวนนั้นไม่ทะเยอทะยาน มันตรงกันข้ามกันต่างหาก สมาชิกระดับสูงส่วนมากต่างก็ล้ วนแต่ทะเยอทะยาน พวกเขาต้องการรวมเขตใต้ทั้งหมดเข้าด้วยกันและเดินหน้าเข้าสู่เขตอื่น ๆ บางคนถึงกับต้องการตั้งสาข ขาที่เขตกลางก็มี
ด้วยความแข็งแกร่งและอำนาจของตระกูลเทียนหยวนในตอนนี้แล้ว พวกเขาสามารถทำมันสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
แต่ทุกข้อเสนอกับการขยายตัวนั้นต่างก็ถูกเจี้ยนเฉินปฏิเสธ มันไม่มีใครกล้าคัดค้านเขา ไม่ใช่แค่การกระทำของ เจี้ย ยนเฉินทำให้สมาชิกระดับสูงต้องสับสนแต่ผู้บ่มเพาะและปราชญ์หลายคนที่โลกด้านนอกเองก็สับสนไปด้วย เขตหวงห้ามของ ตระกูลเทียนหยวนนั้นเป็นที่ที่งดงามและเงียบงัน มันผิดกันกับที่ด้านหน้าบ้านของตระกูล
ในโถงศักดิ์สิทธิ์สีฟ้านั้นคือที่ตั้งของเขตหวงห้ามที่แผ่แรงกดดันมหาศาลออกมา
โถงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้คือโถงเมฆธาราที่เจี้ยนเฉินได้มาจากสำนักวารีทมิฬ
เจี้ยนเฉินยืนอยู่ด้านบนโถงศักดิ์สิทธิ์แล้วมองออกไปยังตระกูลเทียนหยวนที่อยู่ด้านนอกก่อนจะทำการครุ่นคิด
“เจี้ยนเฉิน มีเรื่องอะไรกวนใจเจ้ารึ ? ” ซ่างกวนมู่เอ๋อเดินมาข้าง ๆ เจี้ยนเฉินแล้วถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
“ข้าคิดว่าชื่อเสียงของตระกูลเทียนหยวนตอนนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน” เจี้ยนเฉินพูดด้วยอารมณ์ซับซ้อน หากฐานะของเ เขาถูกเปิดเผยในสักวัน ตระกูลเทียนหยวนจะไม่ถูกทั้งโลกเซียนไล่ล่ารึ ?
ยังไงซะเขาก็เป็นผู้สืบทอดกระบี่คู่ เขาคือศิษย์นิกายกระบี่สวรรค์ม่วงจากโลกอมตะ นี่ถูกตัดสินตั้งแต่ตอนที่เข ขาได้กระบี่คู่มา นี่คือสิ่งที่เขาไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ เขาไม่อาจจะปฏิเสธมันได้และได้แต่ยอมรับมัน
โลกอมตะเป็นศัตรูกับโลกเซียน เจ้าของกระบี่คู่ก่อนหน้านี้คือหนึ่งในห้าจอมปราชญ์สูงสุดของโลกอมตะ ตอนที่เกิด สงครามระหว่างทั้งสองโลกขึ้นมาในครั้งที่แล้ว อีกฝ่ายได้ใช้กระบี่คู่ฆ่ายอดฝีมือของโลกเซียนไปจำนวนมาก เขาได้ส สร้างความแค้นครั้งใหญ่เอาไว้
ผู้คนที่ตายไปเพราะกระบี่คู่ล้วนแต่ไม่ได้เป็นคนธรมดา เขาบอกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็มีฐานะที่ปกครองได้ทั้ง งเขตของโลกเซียน พวกนั้นมีศิษย์และลูกหลานอยู่มากมาย หากตัวตนของเขาถูกเปิดเผยขึ้นมา เขาคิดว่าคงเกิดผลกระทบ บอันน่ากลัวขึ้นแน่
“ตราบใดที่เจ้าอยู่ที่นี่ ข้าคิดว่าตระกูลเทียนหยวนจะยั่งยืนไปตลอดกาล” ซ่างกวนมู่เอ๋อพูดขึ้นมา
“หากข้าไม่อยู่ล่ะ ? ” เจี้ยนเฉินถอนหายใจออกมา เขามองไปที่ซ่างกวนมู่เอ๋อด้วยสายตารู้สึกผิดที่สะท้อนออกมา
เขารู้สึกหมดหนทางกับอนาคตที่รออยู่ภายหน้า เขาไม่รู้ว่าซ่างกวนมู่เอ๋อจะเป็นยังไงหากสักวันเขาจากโลกเซียนไป
นางจะไปยังโลกอมตะกับเขาหรือนางจะอยู่ในโลกเซียนต่อไป ?
สถานการณ์ในโลกอมตะนั้น เขาเองก็ยังไม่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาไปถึงที่นั่น มันไม่รู้เลยว่า ามันจะดีหรือแย่
ย้อนกลับไปตอนที่อยู่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ร่างเทียมของอมตะเที่ยงแท้วัฎสงสาร ที่สร้างขึ้นจากเศษเสี้ยววิญ ญญาณได้บอกไว้ว่า “ก่อนที่เจ้าจะแข็งแกร่ง การกลับไปยังโลกอมตะนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีนัก”
แค่ประโยคเดียวแต่กลับบอกข้อมูลที่เกินกว่าเจี้ยนเฉินจะรับได้ไหว
ผลก็คือเจี้ยนเฉินไม่คิดให้ซ่างกวนมู่เอ๋อเสี่ยงชีวิตของนางไปกับเขาในโลกอมตะ มันไม่เหมาะที่นางจะไปยังที่นั่น นแต่แรก เพราะฐานะของนางคือผู้สืบทอดบรรพชนสาม
แต่หากนางยังอยู่ในโลกเซียน นางคงได้รับผลกระทบเพราะเขา นางคือผู้สืบทอดของบรรพชนสาม แต่นางได้แต่งงานกับคน จากโลกอมตะ แน่นอนว่านางต้องมีความผิดในเรื่องนี้
“หากเจ้าไม่อยู่ ข้าจะปกป้องตระกูลเทียนหยวน” ซ่างกวนมู่เอ๋อพูดขึ้นมาด้วยสีหน้ามุ่งมั่น นางมองออกไปภายนอกแล้วเผ ผยสีหน้าเด็ดเดี่ยวออกมา
เจี้ยนเฉินแอบถอนหายใจ เขาจะยอมให้นางแบกรับภาระทั้งหมดแทนเขารึ ? เขารู้สึกเสียใจเมื่อคิดถึงภาระของตระกูลทั้ง งหมดที่ถาโถมเข้าใส่สตรีอย่างซ่างกวนมู่เอ๋อ
“ข้าหวังว่าข้าจะมีโอกาสออกไปที่นี่แบบเงียบ ๆ ได้ ด้วยวิธีนั้นมันคงง่ายต่อซ่างกวนมู่เอ๋อมากกว่า” เจี้ยนเฉิน ได้แต่ภาวนาในใจ
แต่มันก็ใช่ว่าเขาไม่มีทางสำรอง เขายังมีพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนที่เป็นทางถอยสุดท้าย แต่เขาไม่มั่นใจว่าท ทางนี้จะยังใช้ได้หรือไม่เมื่อตัวตนของเขาถูกเปิดเผยออกมา
ตูม !
ตอนนั้นเองก้มีเสียงระเบิดดังขึ้นที่ด้านหน้าบ้านตระกูลเทียนหยวน พลังงานอันแข็งแกร่งแผ่ออกไปโดยรอบและทำลายโถง งประชุมเป็นชิ้น ๆ
การระเบิดนี้ทำให้เจี้ยนเฉินได้สติกลับมา สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวและเขาก็ได้ใช้เคลื่อนย้ายไปที่นั่นด้วยกฎมิติ ที่ ด้านหน้าบ้านตระกูลเทียนหยวนมีแต่ความมืดมิด นี่คือผลงานของกฎแห่งความมืดมิดของยอดฝีมือขั้นอสงไขย เมื่อถูก ขังอยู่ที่นี่แล้ว แม้แต่ราชาเทพก็ยังต้องใบหน้ามืดครึ้ม
คนที่ทำแบบนี้คือชายวัยกลางคนชุดดำ เขาซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดแล้วใช้กระบี่สีดำแทงเข้าใส่ซีหยู
ซีหยูได้ใส่เกราะวัตถุเทพกับตัว ดังนั้นนางจึงมีชั้นแสง 3 ชั้นคอยปกป้อง แต่ละชั้นนั้นมาจากสมบัติป้องกันและแข ข็งแกร่งอย่างมาก มันสามารถกันการโจมตีจากยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นได้
นี่คือสิ่งที่พ่อของนาง จักรพรรดิซี ได้ยกให้นางเพื่อปกป้องชีวิตของนางเอง
แต่ตอนนี้มันกลับเกิดรูเล็ก ๆ ขึ้นมาที่ชั้นแสงทั้ง 3 ชั้น พวกมันแตกร้าวจากการแทงของชายวัยกลางคน สุดท้ายแล้ วเขาก็ได้ทิ้งรอยบากไว้ที่เกราะของซีหยู
การโจมตีของชายคนนี้ทรงพลัง หลังจากที่แทงทะลุการป้องกันของซีหยูไปได้ในคราวเดียว พลังที่เหลือก็เกินกว่าวั ตถุเทพจะรับได้ไหว มันมีส่วนหนึ่งที่ส่งตรงไปถึงร่างของซีหยู
เลือดได้กระจายออกมาจากปากของนาง นางได้ลอยไปในอากาศก่อนจะกระแทกกับกำแพงหินด้านหลังอย่างแรงจนบาดเจ็บหนัก
เมื่อเห็นว่าเขาไม่อาจจะฆ่าซีหยูได้ในคราวเดียว ชายวัยกลางคนก็แสดงสายตาเสียดายออกมาแต่เขาก็ไม่ลังเล เขาไม่ คิดจะทำการโจมตีครั้งที่สองและถอยกลับทันทีซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิด
ในเวลาเดียวกันก็มีมือขนาดใหญ่อัดแน่นขึ้นมาจากพลังงานยื่นออกมาจากด้านในบ้านตระกูลเทียนหยวน ไม่ว่ามันจะผ่านไป ปที่ไหนก็ทำให้มิติบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง มันได้พุ่งตรงเข้าใส่ชายวัยกลางคนด้วยพลังมหาศาล
ซูหรานเป็นคนลงมือ ก่อนที่มือของนางจะมาถึง แรงกดดันมหาศาลก็ได้แผ่ออกมาฉีกมิติที่พันรอบตัวชายชุดดำเอาไว้
แต่ซูหรานกลับจับอะไรไม่ได้ ชายชุดดำได้หายตัวไปในความมืดมิดอย่างไร้ร่องรอย
ต่อมาซูหรานก็แผ่การรับรู้วิญญาณออกไป มันได้ครอบคลุมทั้งจักรวรรดิปิงเทียนในพริบตา นางพยายามหาว่าชายชุดดำนั นซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกัน
แต่ซูหรานกลับไม่พออะไร ชายชุดดำนั้นเก่งกาจเรื่องการลอบฆ่า เขาเป็นแค่นักสู้ขั้นอสงไขยแต่ความสามารถในการซ ซ่อนตัวนั้นโดดเด่น ผลก็คือแม้แต่คนอย่างซูหรานก็ไม่อาจจะหาร่องรอยเขาพบ
กฎแห่งความมืดมิดที่ครอบคลุมทั่วทั้งตระกูลเทียนหยวนได้สลายไปจากการถอยของชายชุดดำ เจี้ยนเฉินได้ไปถึงตอนที่ มันเกิดขึ้นพอดีและตอนนี้เขาก็ยืนอยู่ในจุดที่ชายชุดดำอยู่ในตอนสุดท้าย เขาหลับตาลงราวกับตรวจสอบบางอย่าง
ตอนนั้นเองที่ผู้พิทักษ์ตระกูลเทียนหยวนแห่กันเข้ามาแต่พวกเขาก็ไม่อาจจะพบตัวนักฆ่าได้
ชายชุดดำเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว การโจมตีเพื่อทีจะถอยนั้นเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที เขาเร็วซะจนยอดฝีมือของต ตระกูลเทียนหยวนไม่อาจจะตอบโต้ได้ทัน
ร่างของซูหรานปรากฏตัวขึ้นบนฟ้า นางได้ลอยอยู่ที่นั่นพร้อมแผ่แรงกดดันมหาศาลออกมา
สีหน้าของนางบิดเบี้ยวไป นักสู้ขั้นอสงไขยแต่กลับหนีไปได้ภายใต้การตรวจสอบของนาง มันเท่ากับการดูหมิ่นนางที่เ เป็นนักสู้ขั้นบรรพกาล
โดยเฉพาะกับการที่นางเห็นชั้นแสง 3 ชั้นถูกแทงทะลุและสร้างรอยลึกไว้ที่วัตถุเทพ มันทำให้นางสีหน้าหม่นลงอย ย่างมาก
“คิดจะหนีมันคงไม่ง่าย ! ” ตอนนั้นเองที่เจี้ยนเฉินได้ลืมตาขึ้นมา สายตาเขาแสดงความอาฆาตออกมาก่อนจะหายตัวไปในทั นที เขาได้ไปอยู่เหนือบึงที่ห่างออกไปกว่า 100 กิโลเมตร ด้วยการใช้กฎมิติก่อนจะแทงอากาศว่างเปล่าตรงหน้าด้วยกร ระบี่นวดาราวิถีสวรรค์