เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2655 : ผลกระทบ
ตอนที่ 2655 : ผลกระทบ
เจี้ยนเฉินได้กลับไปยังตระกูลเทียนหยวน ตอนนี้ตระกูลยังอยู่ในภาวะระวังตัวกันอย่างมาก พวกเขาเตรียมรับมือกับการล ลอบสังหารทุกเมื่อ เจี้ยนเฉินได้ให้เฮยหยาที่เป็นนักสู้ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 1 ได้เฝ้าซีหยูเอาไว้
โชคดีที่ซีหยูมีหลายวิธีในการป้องกันตัว ผลก็คือนางไม่ได้รับบาดแผลร้ายแรงมากนักเมื่อองค์ชายเงาลอบสังหารนาง ด้วยยาฟื้นฟูจำนวนหนึ่งก็จะทำให้นางหายดีได้ในไม่ช้า
“พี่ซีหยู เจ้าเป็นยังไงบ้าง ? แผลเจ้าเป็นยังไง ? เจ้าเจ็บหรือไม่ ? ” โม่หยัน ที่อยู่ข้างเตียงกุมมือ ซีหยู เอา าไว้แน่น ตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตาและสะท้อนความกังวลรวมถึงเจ็บปวดออกมา
“โม่หยัน ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าไม่เป็นไร ? มันแค่บาดแผลเล็กน้อย ข้าจะหายดีในไม่ช้า” ซีหยูยิ้มออกมาพร ร้อมกับยืดแขนยืดขาให้อีกฝ่ายดู
ตั้งแต่ที่นางเริ่มเข้ามาดูแลกิจการต่าง ๆ ของตระกูลเทียนหยวน นางก็ยากที่จะเผยรอยยิ้มออกมา ใบหน้าของนางมัก เคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา นางอุทิศตัวเพื่อตระกูล
นางจะเผยรอยยิ้มก็แค่ตอนที่นางได้พบกับโม่หยัน
“แม้ว่าเจ้าจะเลือดออกแต่เจ้าก็ยังบอกว่าเจ้าไม่เป็นอะไรอีกหรือ ฮึ่ม เมื่อพี่เจี้ยนเฉินกลับมา ข้าจะให้เขาไปแก้แ แค้นให้กับเจ้า” โม่หยันเหวี่ยงหมัดไปมาด้วยความโกรธ ตอนที่นางพูดจบ นางก็พบว่าเจี้ยนเฉิน ได้เดินเข้ามาในห้อง สีหน้าของนางสดใสขึ้นมาทันที นางได้ลุกขึ้นโดยไม่ลังเลและวิ่งไปหาเจี้ยนเฉิน ก่นอจะจับแขนของเขาเอาไว้ “พี่ เจี้ยนเฉิน ในที่สุดท่านก็กลับมา ท่านจับคนร้ายได้หรือไม่ ? พี่เจี้ยนเฉิน แผลของพี่ซีหยูนั้นลึก ท่านต้องแก้แ แค้นให้กับนาง”
“ไม่ต้องกังวล ข้าแก้แค้นให้กับนางแล้ว โม่หยัน เจ้าควรกลับไปก่อน มันมีเรื่องที่ข้าต้องพูดคุยกับพี่ซีหยูของ งเจ้า” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น
“ก็ได้ พวกท่านคุยกันเลย ข้าจะมาหาหลังจากที่พวกท่านคุยกันเสร็จ” โม่หยันรู้ว่าเจี้ยนเฉินมีเรื่องสำคัญต้องพูดค คุยกับซีหยู นางไม่ได้สนใจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงไม่เคยถามเกี่ยวกับเรื่องข ของตระกูล
“คนที่พยายามลอบสังหารเจ้าคือนักสู้ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 เขาคือองค์ชายเงาของจักรวรรดิตะวันโลหิต” เจี้ยนเฉ ฉินมองไปที่ ซีหยูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ข้าคิดว่าองค์กรเงาของจักรวรรดิตะวันโลหิตยังเหลือกองกำลังอยู่ พวกนั้ นเก่งเรื่องการลอบสังหาร พวกนั้นเคลื่อนไหวในความมืดมิด พวกนั้นอาจจะเป็นปัญหาแก่พวกที่ออกไปจากตระกูลเพื่อจัด ดการเรื่องต่าง ๆ “
“องค์ชายเงา มันเป็นเขาจริง ๆ ” ซีหยูพึมพำออกมาเบา ๆ สายตาของนางสะท้อนความเคียดแค้นออกมา จากนั้นนางก็พูดขึ้ น “ไม่ต้องกังวล ผู้นำ ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง “
เจี้ยนเฉินพยักหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา “จริง ๆ แล้วมีคนบริสุทธิ์หลายคนจากจักรวรรดิตะวันโลหิต หากคนแบบนั้นรอดม มาได้ก็ไว้ชีวิตพวกเขา นี่มันก็หลั่งเลือดกันมามากพอแล้วสำหรับสงครามครั้งนี้ที่ครอบคลุมไปทั่วที่ราบ”
เจี้ยนเฉินรู้ว่าการทำลายจักรวรรดิตะวันโลหิตนั้นไม่ใช่ความผิดของตระกูลเทียนหยวนทั้งหมดเพราะคนเดียวที่พวกเขาแค้ นจริง ๆ คือองค์ชายเก้า การทำลายจักรวรรดิตะวันโลหิตนั้นคือผลลัพธ์ของความพ่ายแพ้ของพันธมิตรสี่เส้า
จักรวรรดิตะวันโลหิตคือส่วนหนึ่งของพันธมิตรสี่เส้า เป็นธรรมดาที่จักรวรรดิตะวันโลหิตจะไม่สามาถหลีกเลี่ยงโชคชะตาเดีย ยวกับพันธมิตรสี่เส้าได้และต้องถูกทำลาย แม้ว่าตระกูลเทียนหยวนจะไม่ทำอะไร แต่พันธมิตรชอบธรรมก็ไม่มีทางปล่อยพวก กนั้นไป”
มันแค่ว่าคนที่ถูกมองว่าผิดก็คือตระกูลเทียนหยวน มันได้กลายเป็นซีหยูที่ตกเป็นเป้าหมาย
หลายวันต่อมาตระกูลเทียนหยวนก็ได้กำจัดกองกำลังที่เหลือของจักรวรรดิตะวันโลหิต โดยพื้นฐานแล้วพกเขาได้ใช้อำนาจ จที่พวกเขามีตรวจสอบทั้งเขตใต้เพื่อหาร่องรอยขององค์กรเงา
องค์กรทั้งหมดในเขตใต้ต่างก็ใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อร่วมมือกับตระกูลเทียนหยวน พวกเขาถึงกับพลิกแผ่นดินหาพวกนั้น การกระทำของตระกูลเทียนหยวนครั้งนี้ได้แสดงถึงอำนาจในเขตใต้ที่ไม่อาจจะประเมินได้ แค่สั่งการเพียงครั้งเดียวก ก็ทำให้ทั้งโลกตอบรับจนไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง
ในเวลาเดียวกันการแก้แค้นจากองค์กรเงาก็เริ่มต้นขึ้นจริง ๆ สมาชิกตระกูลเทียนหยวนที่ออกไปทั่วเขตใต้ต่างก็เผชิญห หน้ากับการลอบสังหาร สมาชิของตระกูลได้ตายไปแต่สมาชิกขององค์กรเงาก็ตายเช่นกัน
มันไม่ใช่แค่ตระกูลเทียนหยวน แม้แต่ตระกูลที่ควบคุมจักรวรรดิตะวันโลหิตก็ยังเผชิญหน้ากับการลอบสังหารทำให้เกิดการ รสูญเสียอย่างมาก
แต่การลอบสังหารขององค์กรเงาสุดท้ายก็หยุดลงในเวลาไม่กี่วันเพราะเป้าหมายของพวกเขาทั้งตระกูลเทียนหยวนและตระกู ลที่ควบคุมจักรวรรดิตะวันโลหิตต่างก็พากันตื่นตัวอย่างมาก องค์กรเงาต้องเสียคนไปไม่ว่าจะเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ก็ตา าม ดังนั้นพวกเขาเองก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน
ระหว่างนั้นจำนวนผู้พิทักษ์ขอบเขตตั้งต้นในตระกูลเทียนหยวนก็ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้ตระกูลมีขนาดใหญ่ เพื อที่จะเติมเต็มกับการพัฒนาของตระกูล พวกเขาจึงได้รับผู้พิทักษ์และผู้บ่มเพาะขอบเขตเทพเข้ามาเพิ่มเพื่อเป็นการขย ยายกองกำลังของตระกูล
พันธมิตรชอบธรรมได้ติดต่อมายังเจี้ยนเฉินเช่นกัน พวกเขาต้องการยกเขตเหนือและตะวันตกใหกับตระกูลเทียนหยวนเพื่อที่ จะให้ตระกูลเทียนหยวนควบคุมเขตเหล่านั้น
เบื้อหลังของตระกูลเทียนหยวนนั้นมีเชื้อสายวิญญาณนักรบอยู่ พันธมิตรชอบธรรมได้เห็นความแข็งแกร่งของเชื้อสายวิญญา าณนักรบด้วยตัวเองมาแล้ว ในเวลาเดียวกันสุดท้าแล้วพวกเขาเป็นผู้ชนะที่สามารถกำจัดพันธมิตรสี่เส้าได้ก็เพราะเชื้อสา ายวิญญาณนักรบ
ผลก็คือพันธมิตรชอบธรรมต้องการยกเขตตะวันตกและเหนือเป็นของขวัญให้กับตระกูลเทียนหยวนเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ ดีเอาไว้
แต่เจี้ยนเฉินปฏิเสธทางอ้อม เขาได้จำกัดการพัฒนาของตระกูลเทียนหยวนเอาไว้แล้ว ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่คิดจะ ะให้ตระกูลขยายไปยังทั้งสองเขต
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจระดับอำนาจที่ตระกูลเทียนหยวนมีบนที่ราบเมฆาหรือขนาดอาณาเขต เขาหวังแค่ว่าคนของตระกูลเทีย ยนหยวนจะยังรวมตัวกันอยู่ในตำแหน่งเดียว เพื่อที่เขาจะได้สามารถพาพวกนั้นหนีได้โดยเร็วที่สุดเมื่อจำเป็น
แต่หลังจากที่เจี้ยนเฉินปฏิเสธเขตตะวันตกแล้ว จักรวรรดิจินเจี้ยนก็ได้มายังตระกูลเทียนหยวน ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ พาองค์หญิงหน้าตางดงามจำนวนมากมาด้วยเพื่อหวังว่าจะได้เข้าร่วมกับตระกูลเทียนหยวน
ระหว่างสงครามไม่นานมานี้ จักรวรรดิจินเจี้ยนของเขตตะวันตกนั้นสั่นคลอนซึ่งทำให้พันธมิตรชอบธรรมไม่พอใจ ทันทีที่สง งครามจบลง จักรวรรดิจินเจี้ยนก็ได้รับการยกระดับจากพันธมิตรเป็นพวกแรก ท่าทีของพันธมิตรชอบธรรมต่อจักรวรรดิทำให ห้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในจักรวรรดิ หลายองค์กรเริ่มวางแผนการและพวกเขาก็ได้แสดงท่าทีว่าจะร่วมมือกันเพื่อก่ อกบถ ตอนแรกจักรวรรดิจินเจี้ยนต้องการสยบพวกนั้น แต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่าพวกเจะได้เห็นว่าผู้อยู่เบื้องหลังพวกนั้ นคือจักรวรรดิซีแห่งเขตเหนือและจักรวรรดิจือเห่าแห่งเขตตะวันออก เมื่อสองจักรวรรดิได้เผยเขี้ยวเล็บออกมา จักรวร รรดิจินเจี้ยนจึงกลัวขึ้นมาทันที