เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2658 : เผ่าดาวทมิฬ
ตอนที่ 2658 : เผ่าดาวทมิฬ
“ผู้อาวุโส เผ่าดาวทมิฬแข็งแกร่งแค่ไหนกัน ? ” เจี้ยนเฉินถามออกมา จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ถูกจับตัวไปและตกอยู่ ในอันตราย นี่ทำให้เจี้ยนเฉินกังวลอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันเขาก็คิดถึงยอดฝีมือทั้งหมดที่เขารู้จัก เขาสงสัยว่าเขาจะช่วยจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง ง แต่มันมีความจริงข้อหนึ่งที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนมากแค่ไหน เขาก็ต้องช่วยจักรพรรดิพยั คฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ให้ได้
“ในด้านความแข็งแกร่งของเผ่าดาวทมิฬ…” เด็กไร้หัวใจมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทีลึกลับ เมื่อเห็นได้ว่าเจี้ยน นเฉินเครียดแค่ไหน เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเพราะเหตุผลบางอย่าง “ข้าไม่ได้สนใจจะรู้ความแข็งแกร่งของพวกนั้น น แต่ข้ารู้เกี่ยวกับยอดฝีมือระดับสูงสุดของพวกนั้น จริง ๆ แล้วเขาคือจักรพรรดิดาวทมิฬที่ปกครองเผ่าดาวทมิฬ เขาเป็นยอดฝีมือขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ในตอนนี้”
“อะไรนะ ? ” เจี้ยนเฉินตะลึง เขาคิดว่าตัวเองหูฝาดเมื่อได้ยินถึงความแข็งแกร่งของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่า “ “ผู้อาวุโส ท่านมั่นใจรึว่านั่นคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ? ” เจี้ยนเฉินถามด้วยท่าทีเหลือเชื่อ
“เจ้าแปลกใจรึ ? ยอดฝีมือในโลกเซียนนั้นมีมากมาย ใครจะไปรู้ว่าจะมียอดฝีมือขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 กี่คนกัน น หากเผ่าดาวทมิฬอยู่ในที่ราบเมฆา พวกเขาคงไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนจักรวรรดิตะวันโลหิต งั้นพวกเขาจะสามรถปกครองโลก แห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นได้ยังไง ? ” เด็กไร้หัวใจมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยรอยยิ้ม
“มันน่าแปลกใจ “- เจี้ยนเฉิน ตอบกลับ ความกดดันที่เขารู้สกนั้นลดลงอย่างมากเมื่อรู้เกี่ยวกับเผ่าดาวทมิฬ หากเผ่ าดาวทมิฬนั้นมียอดฝีมือระดับสูง การช่วยจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ก็อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่หากเป็นแค่ยอดฝีมื อขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 แล้วล่ะก็ มันก็ไม่จำเป็นที่เจี้ยนเฉินจะต้องกังวลอะไรมาก
แน่นอนว่าเขารู้ว่าเผ่าดาวทมิฬนั้นคงซับซ้อนกว่าที่ได้ยิน ไม่งั้นแล้วจะทำให้ยอดฝีมืออย่างเด็กไร้หัวใจสนใจ จได้ยังไง
“อย่าคิดว่าเผ่าดาวทมิฬนั้นเป็นเป้าหมายง่าย ๆ แน่นอนว่ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาอยู่แค่ชั้นสวรรค ค์ที่ 9 แต่มันแทบไม่มีใครที่ช่วยคนจากโลกเซียนได้เลย” เด็กไร้หัวใจพูดขึ้น
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะแปลกใจกับเรื่องนี้แต่เขาก็ไม่ได้ตะลึง เขาถามออกมา “ผู้อาวุโส โปรดชี้แจงด้วย”
“เหตุผลก็ง่าย ๆ มันมีเงื่อนไขในการเข้าไปในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นและเวลาจำกัดที่พันปี หากคนที่แก่กว ว่านั้นต้องการเข้าไปในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น พวกเขาก็จะเผชิญหน้าการโจมตีจากโลก สัตว์อสูรโบราณที่สร้าง โลกนี้ขึ้นมานั้นแข็งแกร่งอย่างมากตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ แม้แต่อัครสูงสุดส่วนสวรรค์ชั้น 9 ก็ไม่อาจจะเป็นคู มือของมันได้ แม้ว่ามันจะตายไปแล้วแต่โลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นก็ยังมีพลังของมันอย่างสมบูรณ์ มันมีคนไม่ มากนักที่สามารถทนการโจมตีของมันได้ในโลกเซียนตอนนี้”
“ยิ่งกว่านั้นนี่แค่อันตรายส่วนแรกในหมู่อันตรายหลาย ๆ อย่าง ภัยที่น่ากลัวที่สุดนั้นอยู่ส่วนหลัง…” มันราวกับ บว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องต้องห้าม เด็กไร้หัวใจไม่ได้พูดรายละเอียดมากนัก “ยังไงซะแม้แต่อัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 9 ก็ไม่คิดจะบุกเข้าไปในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น ทางเดียวที่เข้าไปได้ก็ต้องทำตามกฎของมัน”
“พันปี…พันปี…มีกี่คนกันที่ขึ้นเป็นยอดฝีมือขั้นอสงไขยได้ในพันปี ? ผลก็คือแม้ว่าจักรพรรดิดาวทมิฬนั้นจะเป ป็นแค่ยอดฝีมือขั้นอสงไขยชั้น 9 แต่ก็ไม่มีใครนอกจากจอมปราชญ์สูงสุดที่เป็นภัยต่อพวกนั้นได้เมื่อพวกนั้นมีกา ารปกป้องจากโลกอยู่”
“ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าจะมีอัจฉริยะที่ทะลวงผ่านขึ้นไปขอบเขตตั้งต้นได้ในพันปี แต่แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่อาจจะเป็นคู มือของจักรพรรรดิดาวทมิฬได้ จักรพรรดิดาวทมิฬ ก็เป็นอัจฉริยะระดับสูงที่มีพรสวรรค์มากมายและได้รับการสืบทอด ที่น่าประทับใจ ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 รึอาจจะขึ้นไปถึงขั้นบรรพกาลก็ว่าได้”
“ผลก็คือตั้งแต่เผ่าดาวทมิฬได้ขัดกับวิถีและเปลี่ยนแปลงชะตาของตัวเอง มันก็ไม่มีใครที่เข้าไปในโลกแห่งสัตว์ อสูรที่ร่วงหล่นที่สามารถเป็นคู่มือของจักรพรรดิดาวทมิฬได้”
“ขัดกับวิถีและเปลี่ยนแปลงชะตาของตัวเองรึ ? ผู้อาวุโส ข้าขอถามได้รึไม่ว่ามันหมายถึงอะไรกัน ? ” เจี้ยนเฉินถาม มออกมาด้วยความสับสน
ชัดเจนแล้วว่าเด็กไร้หัวใจต้องการให้เจี้ยนเฉินรับรู้เรื่องเผ่าดาวทมิฬ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บอกปัดคำถามของเจี้ย ยนเฉิน “นี่ต้องย้อนกลับไปในอดีตแสนนาน นานมาแล้วเผ่าดาวทมิฬนั้นเป็นเผ่าระดับสูงในโลกจิตวิญญาณ มันมีวีรบุรุษษ ษปรากฏตัวขึ้นระหว่างยุคที่พวกเขารุ่งโรจน์ที่สุด มันเพราะวีรบุรุษผู้นั้นที่ทำให้เผ่าดาวทมิฬจึงรุ่งโรจน์ขึ้นมา าได้จนกลายเป็นหนึ่งในตัวตนที่ไม่กล้ามีใครหาเรื่องด้วยในโลกจิตวิญญาณ”
เสียงของเด็กไร้หัวใจเต็มไปด้วยความแปลกใจราวกับว่าเชื่นชมต่อความแข็งแกร่งของเผ่าดาวทมิฬในตอนนั้น โดยเฉพาะตอนท ที่เขาพูดถึงวีรบุรุษผู้นั้น เขาถึงกับแสดงแววตาหวาดกลัวออกมา
สิ่งที่เรียกว่าวีรบุรุษทีว่านั้นคือจอมปราชญ์สูงสุด เพราะจอมปราชญ์สูงสุดผู้นั้นเข้าใจวิถีจนถึงขีดสุดและควา ามเข้าใจที่ว่าก็สมกับตำแหน่งที่เขาได้มา
“แต่ไม่ว่าเผ่านั้นจะรุ่งโรจน์แค่ไหนแต่มันก็ต้องมีสักวันที่ตกต่ำลงไป แม้แต่วีรบุรุษก็ต้องมีวันที่พวกเขาต้อง งตาย หลังจากที่วีรบุรุษของเผ่าดาวทมิฬตายไป ความรุ่งโรจน์ก็ต้องพบกับจุดจบ เมื่อไม่มีวีรบุรุษแล้ว จิตวิญญาณไม้ ที่เป็นศัตรูกับเผ่าดาวทมิฬก็ได้เริ่มลงมือ”
“จิตวิญญาณไม้คือองค์กรระดับสูงในโลกจิตวิญญาณ พวกเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าเผ่าดาวทมิฬเลยตอนที่รุ่งเรือง พวกเขามีวีรบ บุรุษ ยกเว้นแค่ตอนที่เผ่าดาวทมิฬมีวีรบุรุษอยู่ พวกเขาถือว่าเท่าเทียมกัน ดังนั้นจึงไม่ได้มีความขัดแย้งระหว่างทั้ง งสองมากนัก ไม่มีใครเหนือกว่าใครเลยเมื่อเกิดสงคราม “
“หลังจากที่วีรบุรุษของเผ่าดาวทมิฬตายไป จิตวิญญาณไม้ก็เริ่มลงมือกับเผ่าทมิฬ พวกเขาได้ฆ่ายอดฝีมือของเผ่าดาวท ทมิฬแทบทั้งหมด สุดท้ายแล้วก็มีแค่ส่วนน้อยที่หนีไปซ่อนตัวในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น”
“โลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นจริง ๆ แล้วคือผลงานของวีรบุรุษของเผ่าดาวทมิฬ เขาได้ฆ่าสัตว์อสูรโบราณนั่นตอนที เขายังมีชีวิตอยู่และใช้มันสร้างโลกขึ้นรวมถึงจัดแจงองค์ประกอบด้านใน เขาได้เปลี่ยนที่นั่นเป็นที่หลบภัยบของ เผ่าดาวทมิฬ ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ตั้งเงื่อนไขในการเข้าไปซึ่งคือการจำกัดอายุ”
“บางทีเพราะการจัดแจงนี้หรือบางทีเพราะวีรบุรุษของจิตวิญญาณไม้นั้นเมตตาและไม่ได้ต้องการทำลายเผ่าดาวทมิฬทั้งหม มด ถึงอย่างนั้นไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไร เขาก็ไม่ได้ลงมือกับโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น ถึงอย่างนั้นวีรบุรุษของ จิตวิญญาณไม้ก็ได้ทิ้งเศษเสี้ยวจิตของเขาไว้ที่นั่น”