เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2663 : ตระกูลเจียงและฟางจิง
ตอนที่ 2663 : ตระกูลเจียงและฟางจิง
ตอนที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้นใครจะไปรู้ว่าเด็กไร้หัวใจเดินทางมาถึงเขตแดนของโลกเซียนแล้ว สุดท้ายเขากับ เจี้ ยนเฉินก็ปรากฏตัวตรงหน้าอุโมงค์ที่ส่องประกายแสงหลากสีออกมา
เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ ทันทีที่มาถึง เขาไม่ได้สนใจอุโมงค์แสงเลยแม้แต่น้อย
ยานอวกาศนับไม่ถ้วนขนาดและรูปร่างต่าง ๆ จอดอยู่อวกาศโดยรอบ ทุกลำต่างก็ปิดการทำงานของค่ายกลป้องกันและจอดอยู เงียบ ๆ โดยไม่มีการป้องกันเลยแม้แต่น้อย พวกมันราวกับยานผี
กลุ่มทหารในชุดเกราะได้เดินออกมาจากยานอวกาศไปยังยานอวกาศอีกลำ มันราวกับว่าพวกเขากำลังทำการตรวจสอบบางอย่าง
มันมียอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นคอยคุ้มกันอยู่ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารที่อยู่ขอบเขตเทพ มันก็ไม่อาจจะมีใครต่ อต้านเลยแม้แต่น้อย ไม่มีใครกล้าขวางทางทหารพวกนั้น มีแค่ยานอวกาศที่ถูกตรวจสอบแล้วเท่านั้นที่จะเปิดค่ายกลป้อง งกันอีกครั้งแล้วค่อย ๆ เดินทางผ่านอุโมงค์ที่อยู่ด้านหน้า
“มันน่าจะเป็นคนที่คอยเข้าไปในซากโลกจิตวิญญาณ ข้าไม่คิดเลยว่ามันจะมีมากเช่นนี้” เจี้ยนเฉินทึ่งตอนที่มองไปยั งยานอวกาศโดยรอบ
“นี่แค่อุโมงค์นำไปสู่โลกจิตวิญญาณ อุโมงค์เดียวนี่มีไว้เพื่อพวกที่ต่ำกว่าจอมปราชญ์สูงสุด” เด็กไร้หัวใจอธิบาย ย
เจี้ยนเฉินพยักหน้ารับรู้ จากนั้นเขาก็ถามเด็กไร้หัวใจเรื่องทะเลบรรพกาลต่อ แต่เด็กไร้หัวใจไม่คิดจะพูดรายละเอีย ยดให้ชัดเจนนัก เขาแค่เตือนเจี้ยนเฉินไม่ให้สนใจมันก็เท่านั้น
“หืม ? พี่ซูเหลียน สองคนด้านหน้าเราไม่ได้อยู่ในยานอวกาศ พวกเขาต้องเป็นคนไร้หัวนอนปลายเท้าที่ผู้อาวุโสพูดถึง งแน่ พวกเขาน่าสงสารจริง ๆ พวกเขาถึงกับไม่มีที่ให้พัก พวกเขาได้แต่อยู่ในอวกาศรอบนอกที่น่ากลัวโดยไม่มีการป้องก กันจากค่ายกลใด ๆ และรับอันตรายอย่างต่อเนื่อง…”
เสียงของผู้หญิงดังขึ้นมาจากด้านหลัง ด้านหลังเจี้ยนเฉินหลายสิบกิโลเมตรมีสตรีหลายคนยืนอยู่บนยานอวกาศยาวหลายห หมื่นเมตร คนที่เด็กที่สุดดูอายุ 17-18 ปี ส่วนคนที่แก่ที่สุดนั้นดูเหมือนจะอายุ 70 ปี
คนที่พูดนั้นคือคนที่เด็กที่สุด ดูเหมือนว่านางไม่ค่อยได้ออกมาภายนอก ดังนั้นางจึงไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากเรื องโลกภายนอก นางรู้สึกสงสัยในทุกอย่างที่นางพบราวกับว่านี่มันคือเทพนิยาย ตาของนางเป็นประกายและสะท้อนความใส สซื่อของนาง
“เจียงหรัว ระวังปากเจ้าด้วย พวกที่ไม่มียานอวกาศไม่จำเป็นต้องอ่อนแอไร้หัวนอนปลายเท้า มันเป็นไปได้ที่พวกเขาจะแข ข็งแกร่งอย่างมากจนไม่ต้องใช้ยานอวกาศ เงียบ ๆ หน่อย จะได้ไม่สร้างปัญหาขึ้นมา ตระกูลเจียงของเราแข็งแกร่งก็จริง แต่ที่นี่มีตัวตนมากมายในโลกเซียนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าตระกูลเจียงของเรา” หญิงสาวข้างกายเจียงหรัวพูดขึ้น นาง งเหมือนจะอายุประมาณ 20 ปี นางดูเป็นผู้ใหญ่และรอบคอบ ใบหน้าของนางเหมือนกับตกแต่งมาอย่างดี สายตาของนางสะท้อนคว วามเย็นชาออกมาอยู่ตลอด บางครั้งสายตาของนางยังเผยความอาฆาตออกมา
แน่นอนว่าความอาฆาตนี้ไม่ได้ส่งตรงถึงใคร กลับกันแล้วมันเป็นธรรมชาติของนางที่เกิดจากสิ่งที่นางเจอมาในชีวิต มั นคือหลักฐานว่านางเป็นคนที่โหดร้าย
“ก็ได้ ข้าเข้าใจแล้ว พี่ซูเหลียน” เจียงหรัวพูดขึ้นโดยมีท่าทีไม่ได้สนใจอะไรมากนัก นางเติบโตมาในตระกูลเจีย ยงซึ่งนางเข้าใจว่าตระกูลนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน อย่างน้อย ๆ คนนอกทั้งหมดที่นางเห็นตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมานี้ล้ว วนแต่แสดงความเคารพและกลัวต่อตระกูลของนาง แม้ว่านางจะรู้ว่ามีหลายตัวตนที่ยิ่งใหญ่กว่าตระกูลเจียงในโลกเซียน แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะพบกับพวกนั้น
“ลดยานลงและถอยกลับไปพันกิโลเมตร” ตอนนั้นหญิงชราบนดาดฟ้ายานก็ได้พูดขึ้น นางได้มองไปยังเด็กไร้หัวใจด้วยส สีหน้าเคร่งเครียด
“ท่านย่า มีอะไรกัน ? เราไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมเราต้องถอยกลับไปด้วย ? หากเราถอยกลับไปพันกิโลเมตร มันหมายความว่ าเราต้องต่อแถวไปอีกหลายวันน่ะสิ” เจียงหรัวถามด้วยความสับสนจ
หญิงชราอยู่ขั้นบรรพกาล นางคือคนที่ฐานะสูงส่งที่สุดบนยานนี่ หลังจากที่นางพูดแล้ว ยานอวกาศก็เริ่มถอยกลับไปท ทันที
“ข้าไม่อาจจะรับรู้ได้ตอนที่สองคนมาถึงที่นี่ พวกเขาปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไร้ร่องรอย คนที่ทำแบบนี้ได้ไม่ใช่คนที่ เราหาเรื่องด้วยได้” หญิงชราไม่กล้าพูดออกมาดังนัก กลับกันแล้ว นางได้ส่งข้อความให้กับคนโดยรอบแบบลับ ๆ นาง ถึงกับใช้ม่านพลังครอบคลุมตัว เจียงหรัว เอาไว้เพื่อกันไม่ให้คนอื่นได้ยินเสียงของนาง ชัดแล้วว่านางระวังตัวอ อย่างมาก
เจียงหรัวเงียบไปทันที นางกระพริบตาที่ใส่ซื่อและสงสัยของนางมองมายังเจี้ยนเฉินและเด็กไร้หัวใจที่อยู่ห่างออก กไปเรื่อย ๆ
ตอนนั้นผู้หญิงอีกคนก็โผล่ออกมาจากยานของตระกูลเจียง นางอายุประมาณ 20 ปี แม้ว่าจะไม่ได้งดงามจนน่าหลงใหล แต่น นางก็ยังถือว่าไร้ที่ติ
แต่ใบหน้าของนางค่อนข้างเย็นชา นางดูห่างเหิน สายตาอันเย็นชาของนางเป็นประกายแสงที่ทำให้รู้สึกเฉยเมยซึ่งทำให้ไ ไม่มีใครเข้าหานาง
“หืม ? พี่ฟางจิง ทำไมเจ้าต้องออกมาด้วย ? ” เจียงหรัวยินดีขึ้นมาเมื่อเห็นผู้หญิงในชุดขาวและรีบวิ่งเข้าไปหา ตอนนั้นทุกคนบนดาดฟ้ายานต่างก็หันไปมองผู้หญิงที่ชื่อฟางจิง รวมถึงหญิงชราที่อยู่ขั้นบรรพกาลด้วย หลายคนต่าง ก็แสดงความเคารพต่อนาง
ฟางจิงไม่ได้เป็นคนของตระกูลเจียง กลับกันแล้ว นางเป็นผู้ช่วยชีวิตพวกนั้น
ยานอวกาศนี้ได้พบกับการโจมตีครั้งใหญ่จากสัตว์อสูรมิติ ตอนที่พวกนางตกอยู่ในอันตรายนั้น ฟางจิงก็ได้มาช่วยพวก นางเอาไว้ นางถึงกับช่วยผู้อาวุโสสูงของตระกูลเจียงในการฆ่าสัตว์อสูรบรรพกาล นี่ทำให้พวกนางรอดมาได้
ผลก็คือฟางจิงได้รับความเคารพจากทุกคนบนยานอวกาศ
ในเวลาเดียวกัน ฟางจิงก็กำลังเดินทางมายังซากโลกจิตวิญญาณเช่นกัน ดังนั้นนางจึงได้อยู่กับคนของตระกูลเจียง
“ข้าแค่ออกมาดู” ฟางจิงพูดด้วยท่าทีเฉยเมย นางดูไร้อารมณ์ไม่ยิ้มเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่คนตระกูลเจียงจดจำนา างได้คือลมหายใจอันเย็นชาของนาง
แต่คนของตระกูลเจียงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เพราะพวกนางต่างก็ได้เห็นความแข็งแกร่งของฟางจิงแล้ว
“ ท่านหญิงฟาง” หญิงชราที่เป็นผู้อาวุโสสูงของตระกูลเจียงทักทายฟางจิงด้วยท่าทีเป็นกันเอง
ฟางจิงแค่พยักหน้าตอบรับ นางยังคงเย็นชาและห่างเหินเช่นเคยราวกับว่ายอดฝีมือบรรพกาลไม่ได้มีค่าในสายตาของนาง
นางได้ไปถึงที่หัวยานและมองออกไปด้านหน้า นางเห็นเจี้ยนเฉินและเด็กไร้หัวใจอยู่ที่นั่น
แต่เมื่อนางเห็นแผ่นหลังของเจี้ยนเฉิน ร่างที่คุ้นเคยของเขากลับเหมือนกระบี่อันคมพริบที่กรีดเปิดรูในความ มทรงจำที่นางได้ผนึกเอาไว้
ฟางจิงหรี่ตาลงทันที นางได้นึกถึงเจี้ยนเฉินทันที