เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2668 : ไม่คู่ควร
ตอนที่ 2668 : ไม่คู่ควร
“เซียนกระบี่สวรรค์รึ ? ” กงซุนอี้ตาเป็นประกายขึ้นมาเมื่อได้ยินชื่อนั้น
เขาไม่รู้ระดับการบ่มเพาะของเซียนกระบี่สวรรค์ แต่เซียนกระบี่สวรรค์นั้นคือผู้บ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ของที่ราบรกร้าง เขาบ่มเพาะอยู่ในเทือกเขาเทพกระบี่มาโดยตลอด เขาไม่เคยสนใ ใจเรื่องรอบตัว เขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องใด ๆ เขานั้นเก็บตัวสันโดษ
คำพูดของซูซีปิงนั้นเหมือนกับแสงคอยนำทาง มันทำให้ความคิดนับไม่ถ้วนโผล่มาในหัวของกงซุนอี้ในพริบตาทำให้เขาเกิดความคิดดี ๆ ขึ้นมาทันที
“เซียนกระบี่สวรรค์มีฐานะที่สูงส่ง แต่ข้าไม่ใช่ราชาเทพเหมือนเดิมในอดีตแล้ว ข้าเป็นลูกหลานของจอมปราชญ์สูงสุด เลือดของจอมปราชญ์สูงสุดอยู่ในตัวข้า ข้ายังเป็นถึงเจ้าของขอ องกระบี่ผู้พิทักษ์ที่ดีที่สุด กระบี่แห่งสังหารเทพ รวมถึงเป็นหัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสง เซียนกระบี่สวรรค์ต้องให้ความสำคัญกับข้าแน่” กงซุนอี้คิด มันทำให้เขาเกิดความคิดให หม่ ๆ ขึ้นมาในหัว
เช้าวันต่อมา กงซูนอี้ก็ได้เตรียมของขวัญเพื่อไปเยี่ยมเซียนกระบี่สวรรค์กับรองหัวหน้าและผู้อาวุโสของโถงเซียนธาตุแสงที่ภักดีกับเขา
เขาได้เข้าพบเซียนกระบี่สวรรค์ตามที่หวัง เซียนกระบี่สวรรค์นั่งอยู่บนยอดเขาด้านบนเทือกเขาเทพกระบี่ เขาดูราวกับพระที่ทำสมาธิ เขาไม่ได้แผ่พลังออกมาเลยแม้แต่น้อย เขานั่ง งหลังตรงเหมือนคนแก่ที่สุขภาพดีคนหนึ่ง
กงซุนอี้ค่อนข้างตื่นเต้น เขาไปยืนอยู่ด้านหลังเซียนกระบี่สวรรค์ ในอดีตนั้นเซียนกระบี่สวรรค์คือคนในตำนานสำหรับเขา ไม่ใช่แค่ไม่อาจก้าวข้ามได้ แต่แค่ตามทันสักเศษเสี้ยวห หนึ่งก็คือความฝันของกงซุนอี้แล้ว
ตอนนี้เมื่อได้อยู่ใกล้เซียนกระบี่สวรรค์ ตำนานที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเช่นนี้ มันก็ยากที่เขาจะสงบสติอารมณ์ได้
เซียนกระบี่สวรรค์ได้พูดขึ้นมาก่อน เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมยและใจเย็น “กงซุนอี้ ข้ารู้ว่าเจ้ามาทำไมกัน เจ้าต้องการให้ข้าไปจัดการกับหัวหน้าพิรุณของที่ราบสำราญสินะ ”
“ผู้อาวุโสเซียนกระบี่ช่างรอบรู้จริง ๆ แม้ว่าจะไม่เคยออกจากเทือกเขาเทพกระบี่แต่ก็รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลก ระดับการบ่มเพาะของผู้อาวุโสช่างน่าชื่นชมจริง ๆ ” กงซุนอี้เผย ความชื่นชมจากก้นบึ้งหัวใจ เขาหยิ่งทะนงแต่ก็ยังรู้สึกชื่นชมต่อเซียนกระบี่สวรรค์จากก้นบึ้งหัวใจ
ไม่เพียงแต่เซียนกระบี่สวรรค์คือยอดฝีมือระดับสูงของที่ราบรกร้าง แต่ชื่อเสียงของเขาบนที่ราบก็ไม่มีใครเทียบได้ เขาคือคนที่ยืนอยู่จุดสูงสุด
ในอีกความหมายคือผู้บ่มเพาะบนที่ราบรกร้างที่รู้จักเซียนกระบี่สวรรค์ต่างก็ต้องเคารพเขา
“ข้าไม่อาจจะช่วยเจ้าเรื่องนี้ได้ ข้าต้องบอกเจ้าว่าหัวหน้าพิรุณนั้นแข็งแกร่งกว่าข้ามากกว่าที่เจ้าคิดเอาไว้ มันจะดีกว่าหากโถงเซียนธาตุแสงไม่ไปหาเรื่องนาง” เซียนกระบี่สวรรค ค์พูดขึ้น เขาเหมือนกับรู้ทุกอย่าง เขาปฏิเสธคำขอของกงซุนอี้ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้พูด
กงซุนอี้ตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก วิธีขอร้องทั้งหมดที่เขาเตรียมมาก่อนหน้านี้กับไร้ค่าเมื่อได้ยินคำตอบของ เซียนกระบี่สวรรค์
นิ่งอยู่ได้ไม่นาน กงซุนอี้ก็พูดขึ้นมา “เซียนกระบี่สวรรค์ ท่านกลัวหัวหน้าพิรุณรึ ? ”
“ข้าบอกเจ้าก็เพราะกระบี่แห่งสังหารเทพในมือของเจ้า เจ้าไม่ได้ผลดีจากการหาเรื่องหัวหน้าพิรุณของที่ราบสำราญ นั่นคือทั้งหมดที่ข้าต้องพูด ดูแลตัวเองด้วย” เซียนกระบี่สวรรค์ ไม่ได้หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิมราวกับหินที่ไม่อาจจะขยับได้ มันมีแค่เสียงของเขาที่ดังออกมา
เขาไม่แม้แต่จะมอง กงซุนอี้ ราวกับว่าเขาไม่ได้เห็นหัวของกงซุนอี้เลยแม้แต่น้อย ที่เขาให้กงซุนอี้พบก็เพราะกระบี่แห่งสังหารเทพ
คำตอบตรง ๆ ของเซียนกระบี่สวรรค์ได้ทำให้กงซุนอี้ไม่พอใจ เขารู้สึกเหมือนกับโดนดูหมิ่น
กงซุนอี้เป็นใครกัน ? เขาคือลูกหลานของจอมปราชญ์สูงสุดผู้แข็งแกร่ง หัวหน้าที่เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์ของโถงเซียนธาตุแสงและผู้ใช้กระบี่ผู้พิทักษ์ที่ดีที่สุด กระบี่แห่ง สังหารเทพ ทั้งหมดนี้ทำให้กงซุนอี้มั่นใจและหยิ่งทะนงขึ้นมา เขาไม่ยอมให้ใครมาดูหมิ่นเขาได้
“เซียนกระบี่สวรรค์ ข้าเคารพท่านก็เพราะท่านเป็นผู้อาวุโสแต่อย่าคิดเกินไปหน่อย ท่านอาจจจะกลัวหัวหน้าพิรุณ แต่ข้าไม่ กระบี่แห่งสังหารเทพอาจจะไม่สามารถปลิดชีวิตหัวหน้าพิร รุณได้ แต่ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะไม่สามารถจัดการกับหัวหน้าพิรุณได้หากมีหอคอยธาตุแสงด้วย”
“อย่าลืมว่าข้าคือลูกหลานจอมปราชญ์สูงสุด หอคอยธาตุแสงนั้นได้มาจากบรรพชนของข้า ดังนั้นข้าจึงเป็นคนเดียวที่สืบทอดมันได้ หอคอยธาตุแสงจะยอมรับข้าเป็นเจ้านายของมันในไม่ช้า า” มันราวกับว่ามีใครมาเหยียบเท้า กงซุนอี้ เขาฮึดฮัดออกมาใส่เซียนกระบี่สวรรค์ด้วยความเดือดดาล
“ไม่ เจ้าคิดผิดแล้ว เจ้าจะไม่ได้ครอบครองหอคอยธาตุแสง” เซียนกระบี่สวรรค์พูดขึ้น
“อะไรนะ ? ท่านบอกว่าข้าจะไม่ได้ครอบครองหอคอยธาตุแสงรึ ? ฮ่าฮ่าฮ่า ” กงซุนอี้หัวเราะออกมาด้วยความโกรธ เขาพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย “ทั่วโลกนี้ไม่มีใครคู่ควรกับหอคอยธาตุแสง งของบรรพชนข้าไปมากกว่าข้าแล้ว “
“หอคอยธาตุแสงนั้นไม่ใช่วัตถุเทพทั่วไป มันไม่เหมือนกระบี่ผู้พิทักษ์ของโถงเซียนธาตุแสง มันคือสมบัติสูงสุดที่จอมปราชญ์สูงสุดสร้างขึ้นด้วยตัวเอง เจ้าต้องผ่านเงื่อนไขก่อนจะได ด้รับการยอมรับจากมัน โชคร้ายที่เจ้าไม่อาจจะทำได้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงจะไม่มีโอกาสจะเป็นเจ้าของของมัน” เซียนกระบี่สวรรค์พูดขึ้น
“เซียนกระบี่สวรรค์ อย่าพูดไร้สาระ หอคอยธาตุแสงนั้นเป็นสมบัติสูงสุดของโถงเซียนธาตุแสง ไม่มีใครเข้าใจมันดีไปกว่าโถงเซียนธาตุแสงได้ สิ่งที่ท่านรู้ เราจะไม่รู้ได้ยังไง ? ” ก กงซุนอี้ตะคอกอกมา ในใจเขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด หากไม่ใช่เพราะคนตรงหน้าเขาคือคนที่มีชื่อเสียงสูงสุดในที่ราบรกร้าง งั้นเขาคงแกว่งกระบี่ใส่อีกฝ่ายไปแล้ว
เขาถือว่าหอคอยธาตุแสงนั้นสำคัญอย่างมาก สำคัญยิ่งกว่ากระบี่ในมือเขาเสียอีก และนี่ก็เพราะมันคือสมบัติที่ทัดเทียมกับระดับจอมปราชญ์สูงสุด
ตราบใดที่เขาได้หอคอยธาตุแสงมา งั้นมันก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ นอกจากจอมปราชญ์สูงสุด
ผลก็คือเขาไม่อาจจะรับที่คนอื่นพูดได้ว่าเขาไม่คู่ควรกับหอคอยประกายแสง มันจี้ใจดำเขา
สุดท้าย กงซุนอี้ก็ไม่อาจจะขอให้เซียนกระบี่สวรรค์ลงมือได้ เขาได้ออกมาจากเทือกเขาเทพกระบี่ด้วยสีหน้าหม่น
หลังจากที่กงซุนอี้กลับไปแล้ว เซียนกระบี่สวรรค์ก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เขามองไปที่โถงเซียนธาตุแสงด้วยสายตาซับซ้อน
สายตาเขาแทงทะลุค่ายกลรอบโถงเซียนธาตุแสงและมองเข้าไปยังโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่เหนือเมฆ เขาได้พึมพำออกมา “เจี้ยนเฉินคือคนที่ไม่อาจจะมองทะลุได้ แต่หากเขายังไม่ปรากฏต ตัว หอคอยธาตุแสงอาจจะกลายเป็นหอคอยธาตุแสงในอดีต…”