เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2669 : ทวีปกำเนิดดารา
ตอนที่ 2669 : ทวีปกำเนิดดารา
เจี้ยนเฉินไม่ได้ใช้พลังของกฎใด ๆ ในโลกจิตวิญญาณ เขาพึ่งพลังบรรพกาลในการเดินทางผ่านมิติ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังกฎมิติ แต่เขาก็รวดเร็วพอ ๆ กับยานอวกาศทั่ว ๆ ไป
เขาบินไปกว่า 3 วันทิ่อวกาศรอบนอกก่อนที่สุดท้ายจะเห็นแสงดาวกระจายตัวอยู่โดยรอบรวมไปถึงกลุ่มอุกกาบาตที่ลอยเคว้งคว้างอยู่
เขาได้ออกจากมิติว่างเปล่าและไปถึงทะเลดวงดาวแต่ที่นี่ก็พบกับความเสียหายที่โลกจิตวิญญาณได้รับมากกว่าเดิม รอยแตกขนาดใหญ่มีอยู่ทั่วทุกที่คอยดูดกลืนแสงทั้งหมดอยู่
รอแยกพวกนี้ไม่ได้สมานตัวเองเหมือนในโลกเซียน พวกมันคือบาดแผลที่คงอยู่ไปตลอดกาล พวกมันไม่มีทางหายไป มันไม่มีทางปิดตัวลง พวกมันมีแต่จะใหญ่ขึ้นเมื่อได้รับความเสียหายเพ พิ่มมากขึ้นและเพิ่มจำนวนรอยแผลขึ้น
เจี้ยนเฉินเห็นเขตมิติที่พลังลง กฎที่นั่นก็ได้รับความเสียหายและธาตุของโลกที่ไม่สมบูรณ์ พวกมันได้แผ่พลังแห่งการทำลายล้างออกมาซึ่งทำให้เกิดความกลัวในใจของผู้คน
สรุปคือมิติส่วนมากที่เจี้ยนเฉินได้พบต่างก็พังทลาย มันมีน้อยที่ที่ยังสมบูรณ์ แม้แต่ตอนที่เขาบินผ่านมิติไป เขาก็ต้อระวังตัว ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาหากตกลง ไปที่นั่น
หลังจากที่บินมาได้อีก 1 วันในที่สุดเจี้ยนเฉินก็มาถึงที่หมาย ที่ดินแผ่นหนึ่งที่ได้รับความเสียหายที่ลอยอยู่ในอวกาศรอบนอก
ตราหยกของ เด็กไร้หัวใจ มีข้อมูลของที่นี่ มันคือหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของโลกจิตวิญญาณ ทวีปกำเนิดดารา
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีไม่กี่แห่งที่มีขนาดใหญ่และปลอดภัยซึ่งรอดมาได้ตอนที่โลกจิตวิญญาณแตกออกเป็นชิ้น ๆ เศษดินแดนเหล่านี้ยังคงอยู่ไม่กี่ที่แห่งที่คนสามารถบ่มเพาะได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงได้กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าของโลกจิตวิญญาณ
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นแต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้านี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่อะไร ทวีปกำเนิดดาราตรงหน้าเจี้ยนเฉินมีขนาดแค่ครึ่งเดียวของที่ราบเมฆาเท่านั้น
ทวีปกำเนิดดาราห่อหุ้มด้วยค่ายกลที่ทรงพลัง ค่ายกลนี้เหมือนกับโล่พลังโปร่งใสที่ห่อหุ้มทั้งดินแดนอยู่ มันมีทางออกและทางเข้าเพียงทางเดียว
ทหารกว่าหมื่นคนยืนประจำอยู่ที่ทางเข้า พวกนั้นคอยเก็บค่าผ่านทางจากทุกคนที่เข้าไปในทวีปกำเนิดดารา มันมีค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลบนทวีปกำเนิดดาราซึ่งสามารถส่งเจี้ยนเฉิน นไปยังโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นได้โดยเร็วที่สุด
แม้ว่าจะอยู่ไกลแต่ก็มองเห็นยานอวกาศขนาดและรูปร่างต่าง ๆ จอดอยู่ที่ทางเข้าของโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น ผู้บ่มเพาะต่างก็ลงมาจากยานอวกาศเป็นกลุ่มภายใต้การนำของผู้อา าวุโสของพวกเขา พวกเขาต่างก็มุ่งหน้ากันไปที่ทางเข้า
มันมีทางเข้าเพียงทางเดียวแต่มันอุโมงค์กว่าสิบอันที่นั่น ส่วนมากแล้วถูกปิดเอาไว้ มีแค่ไม่กี่อันที่ถูกเปิดใช้
เจี้ยนเฉินไม่อยากดึงความสนใจของผู้คนมากนัก ดังนั้นเขาจึงซ่อนพลังของตัวเองไว้แล้วลดความเร็วลงมุ่งหน้าไปที่ทางเข้า แต่ตอนที่ผู้บ่มเพาะในแถวเห็นเจี้ยนเฉินทิ่บินอยู่ในอ อวกาศรอบนอกเพียงลำพัง พวกนั้นต่างก็มองมาที่เขาด้วยสายตาประหลาดใจและแปลกใจ
เจี้ยนเฉินสังเกตเห็นได้ว่าเขาถูกจับจ้องมากแค่ไหน ซึ่งทำให้เขาคิ้วขมวดเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าเขาโดดเด่นที่ตรงไหนอแต่เขาไม่ได้คิดอะไรมากในเรื่องนี้ กลับกันแล้วเขากลับม มองไปยังป้ายขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ที่อวกาศรอบนอก
ป้ายนั้นบันทึกต้นกำเนิดของทวีปกำเนิดดารารวมไปถึงข้อมูลและกฎต่าง ๆ
กฎของทวีปกำเนิดดารานั้นตรงไปตรงมา มันถือได้ว่าที่นี่เป็นที่ที่ไร้กฎเกณฑ์ โดยพื้นฐานแล้วแค่อธิบายถึงพลังที่ใช้ออกมาได้และที่ที่ยอดฝีมือสามารถทำทุกอย่างได้ตามต้องการ
นี่เพราะมันมีค่ายกลที่สร้างไว้โดยจอมปราชญ์สูงสุดในส่วนหลึกของทวีป ผลก็คือมันแข็งแก่รงจนรับการโจมตีใด ๆ ก็ได้จากพวกที่ต่ำกว่าจอมปราชญ์สูงสุด
ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าทวีปกำเนิดดาราจะได้รับความเสียหายจากการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือที่นี่ ยิ่งกว่านั้นไม่ว่าจะอยู่ที่นี่หรือบ่มเพาะ มันก็ไม่ได้น่าผ่อนคลายเท่าก กับโลกเซียนเลย โลกจิตวิญญาณนั้นกลายเป็นซากไปแล้ว ดังนั้นที่นี่จึงมีน้อยที่นักที่คนจะพักอาศัยอยู่ได้ ไม่ใช่แค่มันทำให้พื้นที่ทั้งหมดที่นี่ล้ำค่า แต่การอยู่ที่ทวีปกำเนิด ดดารานั้นต้องใช้ค่าธรรมเนียมรายวันเป็นเหรียญผลึกขั้นสูงสุดกว่า 100 เหรียญ มันถือว่าค่อนข้างแพงสำหรับผู้บ่มเพาะส่วนมาก
หลังจากที่จ่ายค่าธรรมเนียมแล้ว พวกเขาจึงจะเข้าไปในทวีปกำเนิดดาราได้
แต่ตอนที่เจี้ยนเฉินเห็นแถวที่ยาวเหยียด เขาก็ได้แต่ยอมแพ้ เขาต้องการไปยังโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นให้ได้โดยเร็วที่สุด เขาไม่อาจจะเสียเวลาที่นี่ได้
หลังจากนั้นเขาก็ได้มุ่งหน้าไปยังอุโมงค์อีกทาง ที่นั่นค่อนข้างเงียบ มันมีน้อยคนนักที่เข้าไปในอุโมงค์นั้นแต่มันคือทางที่เร็วที่สุดบนทวีปกำเนิดดารา
“หยุด การผ่านทางนี้ต้องจ่ายเหรียญผลึกขั้นสูงสุด 10,000 เหรียญ หากเจ้าไม่มีก็ไปต่อแถวซะ” ทหารได้หยุด เจี้ยนเฉินเอาไว้ พวกเขาได้มองไปที่เจี้ยนเฉิน แล้วบอกเขาด้วยน้ำเสียงเ เย็นชา
เจี้ยนเฉินใช้เวลาหลายวันในการเดินทาง ดังนั้นเขาจึงดูเหมือนกับนักเดินทางเร่ร่อน ตอนที่เขาผ่านอุกกาบาตนั้นเขาก็ถึงกับต้องเปื้อนฝุ่นของมัน เป็นธรรมดาที่ทหารจะไม่คิดว่าสูง งส่งอะไร พวกนี้ถึงกับดูถูกเขาด้วยซ้ำ
ในโลกที่กฎไม่สมบูรณ์อย่างโลกจิตวิญญาณแล้ว แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตบรรพกาลคงไม่เดินทางในอวกาศภายนอกเพียงลำพัง พวกเขาจะใช้ยานอวกาศเพราะมันยากอย่างมากที่พวกเขาจะฟื้นฟูพลังงาน ในการเดินทางไป มันทั้งเหนื่อยและไร้ประโยชน์กับการเดินทางเช่นนี้
พวกที่ต่ำกว่าขอบเขตตั้งต้นที่มีฐานะระดับหนึ่งจะไม่เสี่ยงในอวกาศรอบนอกเป็นอันขาด พวกเขาจะเลือกใช้ยานอวกาศ ไม่ใช่แค่จะปลอดภัยและเร็วกว่าแต่ยังช่วยประหยัดแรงและสบายอีกด้วย
มีแค่ผู้บ่มเพาะที่จนเท่านั้นที่ไม่อาจจะขึ้นยานอวกาศได้และต้องเดินทางในอวกาศรอบนอกด้วยตัวเอง
“นี่เหรียญผลึกขั้นสูงสุดหมื่นเหรียญ” แค่พลิกฝ่ามือก็มีเหรียญผลึกขั้นสูงสุดกว่าหมื่นเหรียญโผล่มา ด้วยความร่ำรวยของเขาตอนนี้แล้ว นี่ไม่ต้องนับหมื่นเหรียญเลย แม้แต่เหรียญ ผลึกก้อนใหญ่ก็ไม่ได้มีค่าอะไรกับเขา เขาไม่ได้เอาวัตถุเทพมากับตัวด้วย แต่เขาเอาเหรียญผลึกติดตัวมาด้วย
ทหารต่างก็พากันแปลกใจเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินได้เอาเหรียญผลึกขั้นสูงสุดกว่าหมื่นเหรียญออกมาทำราวกับมันไม่ได้มีค่าอะไร
โลกจิตวิญญาณต่างจากโลกเซียน เหรียญผลึกขั้นสูงสุดนั้นไม่มีอยู่ในโลกจิตวิญญาณแล้ว หมื่นเหรียญนี่ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ
เหรียญผลึกนั้นมีค่ามากกว่าเดิมในโลกจิตวิญญาณ ไม่ใช่แค่คือสิ่งที่ผู้บ่มเพาะทุกคนที่มาที่นี่ต้องใช้ในการบ่มเพาะ แต่พวกเขายังต้องการมันเพื่อฟื้นฟูพลังงานที่พวกเขาใช้ไปด้ วย เหรียญผลึกนี่สำคัญต่อทุกคนอย่างมาก หลังจากที่ส่งเหรียญผลึกให้กับทหารแล้ว เจี้ยนเฉินก็ได้เก็บตราหยกแล้วเดินเข้าไปยังทาเข้าภายใต้สายตาประหลาดใจของเหล่าทหาร
ตอนนั้นพลังอันร้อนแรงอันหนึ่งได้ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา มันคือชายแก่ในชุดแดงที่แผ่พลังอันแข็งแกร่งของขั้นอสไขยออกมา
ชัดแล้วว่าเขาเป็นยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นที่เข้าใจกฎแห่งไฟ
ชายแก่นี้ก็เหมือนกันกับเจี้ยนเฉิน เขาต้องการเข้าไปทวีปกำเนิดดาราผ่านอุโมงค์นี้ แต่เมื่อเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินนิ่งไปเมื่อเห็นเขาและไม่คิดจะหลีกทางให้กับเขาก่อน เขาขมว วดคิ้วและแสดงสีหน้าดุร้ายออกมา เขาได้ตะโกนขึ้นมาว่า “เจ้าหนูนี่มาจากไหนกัน ? เจ้าไม่รู้กฎรึไง ? ออกไปซะ ! ” เมื่อพูดจบชายแก่ก็เหวี่ยงแขนพร้อมกับมีไฟปรากฏขึ้นมา พวกมัน ได้พุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉินด้วยความร้อนอันน่ากลัว
ทันทีที่ชายแก่โจมตี เจี้ยนเฉินก็รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำ อีกฝ่ายอยู่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5
ด้วยการบ่มเพาะของชายแก่แล้ว การโจมตีจากอีกฝ่ายสามารถเผาราชาเทพช่วงปลายเป็นเถ้าได้ โดยพื้นฐานแล้วยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นเท่านั้นที่ทนมันได้
แค่เพราะเพื่อจะเข้าไปในอุโมงค์ ชายแก่ถึงกับพยายามที่จะฆ่าเจี้ยนเฉิน