เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2671 : กลุ่มทั้งสี่
ตอนที่ 2671 : กลุ่มทั้งสี่
หลังจากที่จัดการกับเรื่องนั้นเสร็จ เจี้ยนเฉินก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทีเฉยเมยและมองไปยังชายแก่ชุดแดงที่แสดงสีหน้ากลัวและแปลกใจออกมา หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในอุโมงค์ที่ นำไปสู่ทวีปกำเนิดดารา
“ เก็บเหรียญผลึกไว้ ถือว่าเป็นของขวัญจากข้าก็แล้วกัน” เสียงของเจี้ยนเฉินดังขึ้นจากภายในอุโมงค์ เหรียญผลึกขั้นสูงสุดนั้นไม่ได้มีค่าอะไรในสายตาเขา เขาไม่สนใจจะเอามันคืน น
เขาไม่ได้ฆ่าชายชุดแดง แม้ว่าเขาจะฆ่าอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความแค้นเคืองอะไรกัน ดังนั้นแค่ลงโทษแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
แน่นอนว่ามันมีอีกเหตุผลสำคัญ เขาต้องรีบไปยังโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น เขาไม่ต้องการให้เกิดเรื่องยุ่งยากที่นี่ หากเขาชักช้า เขาอาจจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
“กะ กลับกลายเป็นว่าเขาไม่รู้กฎที่นี่เลยแม้แต่น้อย…” ชายแก่ชุดแดงเข้าใจทุกอย่างหลังจากที่เจี้ยนเฉินจากไปแล้ว เขามองไปที่แผลบนอกของตน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น นรวมถึงความยินดีด้วย
“โชคดีที่ผู้อาวุโสคนนั้นไม่ใช่คนโหดร้าย ไม่งั้นแล้วชีวิตของข้า…” ชายแก่ถอนหายใจออกมา เขาไม่คิดจะเข้าไปทวีปกำเนิดดาราในทันที กลับกันแล้ว เขาเลือกที่จะนั่งลงแล้วเอายา ฟื้นฟูออกมาเพื่อฟื้นฟูบาดแผลตัวเอง เขาย้ำกับตัวเองว่าให้ยั้งอารมณ์ของตัวเองไว้ในอนาคต
ใกล้ ๆ กันนั้นผู้บ่มเพาะที่ยืนอยู่ในแถวเห็นเหตุการณ์นี้อย่างชัดเจน หลายคนต่างก็อึ้งกับความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉินได้แสดงออกมา จากนั้นพวกเขาต่างก็เอาเรื่องนี้ไปพูดก กันต่อ
“สวรรค์ นั่นหยานโม่ผู้โด่งดังของโลกจิตวิญญาณ หยานโม่กลับพ่ายแพ้ ชายหนุ่มชุดขาวนั่นเป็นใครกัน ? เขาแข็งแกร่งแบบนี้ได้ยังไง….”
“การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็เอาชนะหยานโม่ได้ หยานโม่อยู่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนั้นต้องอยู่ขั้นบรรพกาล.…”
“ฮึ่ม หยานโม่ทำสิ่งชั่วร้ายตลอดหลายปีมานี้ในโลกจิตวิญญาณ หากเขายังมีชีวิตอยู่ ใครจะไปรู้ว่าจะมีอีกสักกี่คนที่จะต้องตาย ทำไมยอดฝีมือลึกลับนั่นไม่ฆ่าเขาซะ …”
“น่าเสียดาย หยานโม่เกือบตายแล้ว ท่านปู่ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะพยายามบ่มเพาะให้หนักเพื่อทะลวงผ่านขึ้นไปขอบเขตตั้งต้นให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อที่ข้าจะฆ่าหยานโม่และแก้แค้นให้ กับท่านเอง…”
….
ผู้บ่มเพาะกว่าครึ่งต่างก็พากันสาปแช่งหยานโม่เมื่อพวกเขายืนต่อแถวกัน มันก็ชัดแล้วว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ขอบเขตตั้งต้นหรือไม่ได้มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่อะไร
นี่คือคนที่หยานโม่ไม่เคยแสดงความเมตตาให้ เขาจะฆ่าทุกคน หากพวกนั้นทำให้เขาไม่พอใจแม้แต่เพียงเล็กน้อยก็ตาม
อัครสูงสุดนั้นคงไม่คิดมายังซากโลกนี้ ดังนั้นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดที่พบได้ที่นี่ก็คือขั้นบรรพกาล แต่โดยพื้นฐานแล้วทุกคนต่างก็แค่เดินทางมากับผู้เยาว์ของตน พวกเ เขาไม่ได้อยู่นานนัก
ผลก็คือด้วยระดับการบ่มเพาะของหยานโม่แล้ว เขาก็ทำอะไรโดยไม่ต้องคิดถึงผลกระทบที่ตามมาในที่แห่งนี้ได้ ตอนนั้นยานอวกาศขนาดกลางได้ค่อย ๆ ร่อนเข้ามาก่อนจะหยุดอยู่ใกล้ ๆ
ผู้บ่มเพาะทุกคนต่างก็มองไปแลพบว่ายานอวกาศนั้นเป็นยานการค้า มันคือยานที่จ้างได้ด้วยเหรียญผลึกจำนวนหนึ่ง มันไม่ได้เป็นขององค์กรใหญ่
ยานอวกาศได้หยุดตัวลงและมีผู้บ่มเพาะมากมายบินออกมา พวกเขาราวกับกลุ่มแมลงสาป มันน่าจะมีกว่าแสนคนเป็นอย่างต่ำ
ยานอวกาศนี้ด้านในมีขนาดใหญ่ หนึ่งลำนั้นเท่ากับโลกย่อย มันสามารถจุคนได้เป็นล้านคน
โดยพื้นฐานแล้วผู้บ่มเพาะที่มาจากยานอวกาศนี้ได้มาต่อแถวกันที่ปลายแถว ชัดแล้วว่าพวกเขาเองก็ต้องการเข้าไปในทวีปกำเนิดดาราเช่นกัน
ยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นไม่กี่คนได้เดินลัดแถวเข้าไปในอุโมงค์พิเศษ
“นั่น หยานโม่ หยานโม่ได้รับบาดเจ็บ ….” – เมื่อยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นเห็นชายแก่ชุดแดงนั่งฟื้นฟูอยู่ พวกเขาก็พากันสีหน้าเคร่งเครียดกันขึ้นมา ทุกคนต่างก็พากันเดินอ้อ อมเขาไป
ส่วนมากแล้วเป็นยอดฝีมือขั้นอสงไขยช่วงต้น มันมียอดฝีมือขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 4 เพียงคนเดียวในหมู่พวกนี้ แต่มันก็ยังห่างไกลจากชั้นสวรรค์ที่ 5 ในด้านความแข็งแกร่ง
ตอนนั้นชายแก่สี่คนในชุดดูธรรมดาได้บินออกมาจากยานอวกาศ พวกเขาต่างก็แผ่พลังขั้นราชาเทพช่วงปลายออกมา
ราชาเทพช่วงปลายนั้นหาพบได้ทั่วไปที่นี่ ดังนั้นทั้งสี่คนจึงไม่ได้ทำให้ใครสนใจแต่สิ่งที่ทำให้คนอื่น ๆ สนใจคือกระบี่ที่อยู่บนหลังพวกเขา
กระบี่แต่ละเล่มนั้นห่อด้วยหนังสัตว์ มันเผยให้เห็นแค่ด้ามจับ
พวกเขาทำให้คนสนใจอย่างมากเพราะมันหายากที่คนเราจะสะพายกระบี่ไว้ที่หลังทั้งในโลกเซียนและโลกจิตวิญญาณ
ชายแก่ทั้งสี่ไม่ได้สนใจสายตาของคนโดยรอบ พวกเขาบินผ่านผู้คนเข้าไปราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่และไปต่อแถวเพื่อเข้าไปยังทวีปกำเนิดดารา
แต่ตอนนั้นเองพวกเขาก็พบกับหยานโม่ที่ฟื้นฟูตัวเองอยู่ พวกเขาพากันหรี่ตาลงพร้อมกับเจตจำนงกระบี่ที่แผ่ออกมาจากตัว
“นั่นหยานโม่ เขาอยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย…”
“กางค่ายกลและฆ่าเขาซะ …”
ทั้งสี่คนตะโกนกันออกมาพร้อมกับพลังขั้นราชาเทพช่วงปลายได้ปะทุออกมา ด้วยการชี้นิ้วของพวกเขาทำให้เกิดเสียงกลองดังขึ้น กระบี่เหล็กทั้งสี่ได้พุ่งขึ้นมาส่องแสงแวววาวและแผ ผ่เจตจำนงกระบี่ออกมา
ทั้งสี่ได้ยืนอยู่ในค่ายกล มือของพวกเขายื่นไปที่หน้าอกตนเองสร้างผนึก พวกเขาได้ตะโกนออกมา “ โลกกว้างใหญ่เป็นหนึ่งเดียว ด้วยค่ายกลกระบี่นิพพาน เราคือผู้สูงสุด ด้วยกระบ บี่ทั้งสี่ที่รวมเป็นหนึ่ง โลกจะถูกกำจัด ! ”
เมื่อพูดจบกระบี่ทั้งสี่ได้ส่องแสงเรืองรองออกมากลายเป็นเสาแสงขนาดใหญ่ให้แสงสว่างกับโดยรอบ เสาแต่ละต้นนั้นครอบคลุมตัวแต่ละคนเอาไว้ และเมื่อพวกเขาท่องเกือบจบ เสาแสงทั้งสี่ไ ได้หลอมรวมกันและเปล่งแสงที่เจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม
ทั้งสี่คนได้หายไปในเสาราวกับว่าได้หลอมรวมตัวเองกับเสานั่นพร้อมกับกระบี่ของตน
มันทำให้ผู้บ่มเพาะโดยรอบแตกตื่น ตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นที่เพิ่งจะลงจากยานอวกาศหรือผู้บ่มเพาะขอบเขตเทพที่ต่อแถวอยู่ต่างก็มองไปที่นั่น
“คนประหลาดทั้งสี่นั่น พวกเขาจะทำอะไร ? ”
“ หือ ? ดูเหมือนว่าพวกเขาจะโจมตีหยานโม่ไม่ใช่รึ ? ราชาเทพช่วงปลาย 4 คนกลับกล้าท้าทายยอดฝีมืออสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 รึ ? พวกเขาเป็นอะไรกัน…..”
…
เมื่อรู้ความคิดของพวกนั้น ทุกคนต่างก็ต้องตะลึงรวมไปถึงยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นด้วย
หยานโม่เองก็รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ด้านหลัง เขาหยุดฟื้นฟูตัวเองและลุกขึ้นยืน เขามองไปยังเสาแสงทั้งสี่ด้วยสีหน้าหม่น
“ พวกเจ้านี่เอง ! ข้าตามหาพวกเจ้ามานานแต่ไม่คิดว่าพวกเจ้าจะมาพบกับข้าในวันนี้ เมื่อพวกเจ้าอยู่ที่นี่กันแล้ว พวกเจ้าอาจจะตาย ส่งมอบทักษะลับของพวกเจ้ามาอย่างเชื่อฟัง” ห ยานโม่แค่นเสียงออกมา สายตาเขาแสดงความตื่นเต้นออกมาพร้อมกับไฟที่ปะทุออกมาจากตัว
“มันมียอดฝีมือบรรพกาลอยู่บนทวีปกำเนิดดารา ดังนั้นข้าต้องพาทรั้งสี่คนนี้ออกไปก่อนที่พวกนั้นจะมาถึง” หยานโม่คิด ทั้งสี่คนตรงหน้าเขานั้นเข้าใจทักษะลับที่แข็งแกร่ง มัน แข็งแกร่งซะจนเขาที่เข้าใจกฎแห่งไฟก็ยังอยากได้มัน
เขาได้เห็นกับตาว่าทั้งสี่คนนี้ฆ่ายอดฝีมืออสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 3 ได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นราชาเทพช่วงต้นตอนที่ใช้ทักษะกระบี่