เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2679 : เผ่ากระเรียนสวรรค์
ตอนที่ 2679 : เผ่ากระเรียนสวรรค์
ตัวตนและฐานะของผู้สืบทอดจอมปราชญ์สูงสุดนั้นเพียงพอทำให้ผู้บ่มเพาะในโลกเซียนต่างก็พากันอิจฉา แม้แต่อัครสูงสุดก็ยังอยากจะได้ตัวตนแบบนั้นมา
แม้แต่อัครสูงสุดจากเผ่าหมาป่าหายนะที่ซึ่งพาเขามาที่นี่ก็ทำราวกับว่าเขาคือราชาสูงสุด
“นายน้อยจินหง ข้า เหอเฉียนเฉียน ข้ามาจากเผ่ากระเรียนสวรรค์แห่งที่ราบน้ำแข็งขั้วโลก ข้ารับหน้าที่จากผู้อาวุโสของเผ่าให้อยู่ในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นเป็นเวลา 10 ปี ข้าหวังว่านายน้อยจินหงจะดูแลข้าด้วย…” ตอนนั้นผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวตรงหน้าจินหงและพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
นางดูอายุประมาณ 20 ปีและดูงดงามอย่างมาก มันเพียงพอทำให้ทุกคนหลงไหลแต่นางได้แผ่พลังอันหนาวเย็นออกมารอบตัว มันทำให้นางดูห่างเหิน เมื่อรวมกับชุดสีขาวของนางแล้ว มันทำให้นางดูราวกับราชินีน้ำแข็ง
เหอเฉียนเฉียนบ่มเพาะกฎน้ำแข็ง เพราะวิธีบ่มเพาะของนางนั้นไม่ว่านางจะยืนอยูที่ไหนก็เหมือนจะเปลี่ยนที่นั่นให้กลายเป็นโลกน้ำแข็ง
“ที่ราบน้ำแข็งขั้วโลก ที่นั่นถูกดูแลโดยเทพธิดาน้ำแข็ง ที่ราบน้ำแข็งขั้วโลกปกคลุมไปด้วยหิมะซึ่งทำให้ที่นั่นกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่บ่มเพาะกฎน้ำแข็ง…”
“เทพธิดาน้ำแข็ง ? ฮ่าฮ่า โถงเทพธิดาน้ำแข็งอยู่ภายใต้การควบคุมของโถงเทพจันทราแล้ว ตอนนี้เจ้าจะยังพูดถึงเทพธิดาน้ำแข็งอยู่อีกรึ ? เทพธิดาน้ำแข็งนั้นอาจจะตายไปนานแล้วก็ได้…”
“อะไรนะ ? โถงเทพธิดาน้ำแข็งอยู่ภายใต้การควบคุมของโถงเทพจันทรารึ ? เป็นไปไม่ได้….”
“เทพธิดาน้ำแข็งนั้นตายไปแล้ว ไม่งั้นแล้วโถงเทพธิดาน้ำแข็งจะตกอยู่ในกำมือคนอื่นได้ยังไง…”
“เฮ้อ ในบรรดาจอมปราชญ์สูงสุดทั้งเจ็ดของโลกเซียนในอดีตนั้น เทพเจ้าสงครามของเผ่าเทพเป็นคนแรกที่ตายไปในการต่อสู้ ส่วนผู้อาวุโสมิติเวลาและอัครสูงสุดอนัตตาที่อยู่อันดับสองและสามก็ตายไปด้วย ตอนนี้แม้แต่ เทพธิดาน้ำแข็งก็ไม่อาจจะหลีกหนีจากชะตานี้ได้ ข้าสงสัยว่าจะมีจอมปราชญ์สูงสุดสักกี่คนของโลกเซียนที่ยังรอดอยู่จากสงครามตอนนั้น…”
….
เหล่ายอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นต่างก็พากันพูดคุยกันแต่หลายคนพากันถอนหายใจทันทีที่พูดถึง เทพธิดาน้ำแข็งมีไม่กี่คนที่ได้เห็นสงครามครั้งนั้นด้วยตัวเอง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะพากันถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้า
“กลับเป็นคนจากที่ราบน้ำแข็งขั้วโลก ดูเหมือนว่าข้าต้องหาโอกาสในการเข้าไปพูดคุยกับเหอเฉียนเฉียน ข้าอาจจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโถงเทพธิดาน้ำแข็งและโถงเทพจันทราจากนางก็ได้” เจี้ยนเฉินไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร เขามองไปที่เหอเฉียนเฉียนที่อยู่บนอากาศด้วยสายตาสั่นไหว
เขาเป็นห่วงนางฟ้าเฮายู่ นี่มันก็ผ่านมาสักพักแล้วตั้งแต่ที่นางฟ้าเฮายู่แยกตัวไป แต่มันก็ยังไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับนางเลย เขาจึงสงสัยว่านางทำอะไรอยู่
เขาไม่ได้ห่วงพี่สาวของเขานัก เจียงหยางหมิงเยว่ ยังไงซะน้องของเขาก็อยู่ภายใต้การปกป้องของผู้พิทักษ์ซุยซึ่งคอยซ่อนตัวอยู่เพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่ง ชัดแล้วว่านางปลอดภัยกว่านางฟ้าเฮายู่ ที่ซึ่งได้เข้าไปในรังสัตว์อสูรด้วยตัวเอง
หลังจากที่เหอเฉียนเฉียนปรากฏตัวมา มันก็มีหญิงสาวและนายน้อยจากที่ราบอื่น ๆ ของโลกเซียนเข้ามาทักทาย จินหง พวกนั้นต่างก็แสดงท่าทีเป็นมิตร บางคนถึงกับแสดงท่าทีเคารพออกมา
นายน้อยและหญิงสาวเหล่านี้ต่างก็อายุต่ำกว่าพันปี พวกเขาคือรุ่นเยาว์ที่ดูมีอนาคตแต่ชัดแล้วว่าความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้ใกล้เคียงจินหงเลย มีแค่ไม่กี่คนที่ขึ้นเป็นราชาเทพได้ ส่วนมากนั้นเป็นแค่เหนือเทพ
แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นแต่พวกเขาก็มีฐานะที่สูงส่งในตระกูลของตน
แม้ว่าการเป็นเหนือเทพได้ในพันปีนั้นจะไม่คู่ควรเรียกว่าอัจฉริยะแต่พวกนี้ก็ถือว่ามีพรสวรรค์
นี่ไม่ต้องพูดถึงหลายคนที่ก้าวขึ้นไปยังป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพได้เลย
เจี้ยนเฉินไม่ค่อยสนใจเรื่องระหว่างตระกูลมากนัก เขาได้เดินไปยังโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ลาน
โถงศักดิ์สิทธิ์อันนี้เป็นวัตถุพระเจ้าตขั้นกลาง ด้านบนทางเข้าขั้นมีตัวอักษรโบราณกำกับเอาไว้ มันแผ่พลังและปกปิดความจริงของโลกเอาไว้ — กระเรียนสวรรค์
นี่คือโถงศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นของเผ่ากระเรียนสวรรค์ มันคือจุดพักชั่วคราวบนลานนี้ ไม่ใช่แค่สะดวกที่สมาชิกของเผ่ากระเรียนสวรรค์จะเข้าไปในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นได้จากที่นี่ แต่เป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับคนของเผ่ากระเรียนสวรรค์ในการซื้อสมบัติสวรรค์ที่ได้ออกมาจากโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น
มันมีโถงศักดิ์สิทธิ์แบบนี้กระจายไปทั่วลาน ทุกอันต่างก็เป็นขององค์กรใหญ่ในโลกเซียน
เจี้ยนเฉินถึงกับเห็นโถงศักดิ์สิทธิ์ของจักรวรรดิเมฆทวีแห่งที่ราบสำราญด้วย
ทางเข้าโถงศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ากระเรียนสวรรค์เปิดอยู่ ราชาเทพ 2 คนยืนประจำอยู่ที่ทางเข้าราวกับรูปปั้น พวกนี้คือยามประจำโถงศักดิ์สิทธิ์
แต่ราชาเทพทั้งสองนี้อายุเกินพันปีแล้ว สายตาของพวกเขาบ่งบอกได้ถึงอายุ ใครจะไปรู้ว่าพวกเขามีอายุมากี่หมื่นปีแล้ว พวกนี้คือผู้บ่มเพาะที่มีพรสวรรค์จำกัด มันมีคนแบบนี้มากมายในโลกเซียน พวกนี้คือคนที่จะติดอยู่ขั้นนี้ไปตลอดชีวิตหากไม่ได้พบกับเรื่องไม่คาดฝัน
“หยุด นี่คือฐานของเผ่ากระเรียนสวรรค์ ทำไมเจ้าถึงได้มาที่นี่ ? ” ทันทีที่เจี้ยนเฉินเดินไปถึงโถงศักดิ์สิทธิ์ ราชาเทพคนหนึ่งก็หยุดเขาไว้แล้วถามขึ้นมา
“ข้าต้องการเข้าร่วมเผ่ากระเรียนสวรรค์เพื่อที่จะเข้าไปยังโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น โปรดให้ข้าผ่านเข้าไปด้วย” เจี้ยนเฉินป้องมือและพูดขึ้นมา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ส่งเหรียญผลึกขั้นสูงสุดให้กับยามแบบลับ ๆ
เจี้ยนเฉินเข้าใจกฎที่นี่แล้ว องค์กรชั้นสูงมากายในโลกเซียนได้ดูแลโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นแห่งนี้แต่เพราะมันมีเงื่อนไขยุ่งยากเกินไป จึงทำให้ไม่มีองค์กรไหนดูแลคนของตัวเองได้ดีนักในการรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง ผลก็คือพวกเขารับคนนอกเพื่อชดเชยกำลังคนที่หายไป
การรับคนนั้นไม่ใช่เรื่องจำกัด มันไม่ได้ส่งผลอะไรต่อโลกจิตวิญญาณ เมื่อคนที่ถูกรับเข้าไปนั้นกลับไปยังโลกเซียน องค์กรชั้นนำก็ไม่มีจดจำพวกเขาได้ พวกเขาจะจำได้แค่คนที่ทำผลงานได้โดดเด่นเท่านั้น
สายตาของยามทั้งสองเป้นประกายข้นมาเมื่อเห็นเหรียญผลึก พวกนั้นเปลี่ยนท่าทีเป็นมิตรขึ้นมาทันที “รอสักครู่น้องชาย ข้าจะติดต่อไปยังผู้ดูแลเดี๋ยวนี้” ในตอนที่พูดนั้นการรับรู้วิญญาณของเขาก็พุ่งเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์
ไม่นานราชาเทพช่วงสูงสุดคนหนึ่งก็ได้โผล่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ ชายแก่นี้ชัดแล้วว่ามีอำนาจอย่างมากที่นี่ ดังนั้นเขาจึงมีท่าทีหยิ่งทะนง เขายืนมือไขว้หลังและเชิดหน้าขึ้นราวกับดูถูกทุกอย่าง เขามองมาที่เจี้ยนเฉินจากด้านบนและพูดขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้าต้องการเข้าร่วมเผ่ากระเรียนสวรรค์ในการเข้าไปในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นงั้นรึ ? เจ้าชื่ออะไร ? เจ้ามาจากไหนในโลกเซียน ? เจ้าเป็นศิษย์ใคร ? ”