เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2712: หมัดเดียว
ตอนที่ 2712: หมัดเดียว
ในโลกดาวทมิฬ คนของเผ่าดาวทมิฬไม่เคยคิดว่าคนนอกเป็นเรื่องใหญ่ พวกเขารู้ดีว่าในโลกเซียนเหล่านี้มีพลังมากเสียจนทำลายเผ่าดาวทมิฬทั้งหมดได้ด้วยลมหายใจเพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามพวกเขารู้ด้วยว่าตราบใดที่ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ ผู้ที่สามารถเข้ามาได้ต่างก็เป็นเสือกระดาษ ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม คนนอกเป็นมดที่สามารถถูกขยี้ได้ทุกเมื่อ ไม่มีผู้คนเผ่าดาวทมิฬที่จริงจังกับพวกเขา
ผลก็คือ เมื่อเจี้ยนเฉินยั่วยุราชาเทพเผ่าดาวทมิฬหลังจากที่ปลอมตัวเป็นชายกลางคน ราชาเทพคนนั้นก็โกรธเคืองในทันที เจตนาฆ่าเต็มไปด้วยดวงตาของพวกเขาโดยไม่ต้องพยายามซ่อนมัน
“กล้าดีอย่างไร ! ผู้บ่มเพาะอิสระจากภายนอกกำลังท้าทายเราจริงหรือ ? เจ้าป่วยและเหนื่อยที่จะมีชีวิต.…”
“ปรมาจารย์ศาลาเจ็ดเป็นคนที่ใจกว้าง เขามีความเมตตากรุณามากพอสำหรับเจ้า ด้วยการช่วยเหลือเจ้าเป็นคนนอกที่เป็นผู้บ่มเพาะอิสระและกลุ่มเล็ก ๆ แต่ตอนนี้เจ้ามาท้าทายเราไม่คิดห หน้าคิดหลัง โดยไม่คิดอะไรกับชีวิตของเจ้า นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย….”
“โขกหัวลงกับพื้นเดียวนี้และบอกว่าเจ้าผิดไปแล้ว เราจะปล่อยให้เจ้ามีศพที่ครบสามสิบสอง ไม่อย่างนั้นเราจะฟันเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ และให้สัตว์อสูรกลืนชีวิตกิน….”
…
ราชาเทพเผ่าดาวทมิฬตะโกนขณะที่เขามองไปที่เจี้ยนเฉินเสมือนว่าเขาได้ตายไปแล้ว
ผู้บ่มเพาะที่ถูกล่าโดยเผ่าดาวทมิฬดูเหมือนจะเห็นแสงแห่งความหวัง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข
พวกเขาทั้งแปดเป็นผู้บ่มเพาะที่ไม่ธรรมดาและมีทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังซึ่งทำให้พวกเขาแข็งแกร่งอย่างมาก พวกเขาสามารถรับมือกับราชาเทพช่วงต้นได้ถึง 3 คนด้วยตัวคนเดียว แต่ไ ไม่อาจรับมือได้ตลอดไป ในตอนนี้หากพวกเขาใช้ทักษะลับที่ทรงพลังและทักษะการต่อสู้ ค่าใช้จ่ายที่ต้องมีนั้นมากเกินไปหรือแม้กระทั่งพวกเขาต้องจ่ายมากขึ้นไปอีก หากการต่อสู้ครั้งน นี้ถูกยื้อออกไป พวกเขาจะยังคงพ่ายแพ้และในที่สุดพวกเขาก็จะตายด้วยน้ำมือของเผ่าดาวทมิฬ
ด้วยแรงกดดันของเจี้ยนเฉินและแรงกดดันของราชาเทพที่เขาสัมผัส คนนอกมองเห็นความหวังที่ริบหรี่
“พี่ชาย เรามาจากตระกูลเฮา โปรดช่วยเราสังหารศัตรูและตระกูลเฮาจะซาบซึ้งอย่างยิ่ง” ราชาเทพตระกูลเฮาคนหนึ่งตะโกนทันที เขากำลังเผาผลาญแก่นโลหิตของเขาเพื่อต่อสู้กับคนทั้งสา ามในคราวเดียว ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมาก พลังงานดั้งเดิมของเขาหมดลงและเขาไม่มีเวลาเติมเต็มผ่านเหรียญศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน เขาเกือบจะหมดแล้ว เขาไม่อาจลากมันนานกว่า านี้ได้
การที่มีราชาเทพเพิ่มขึ้นครั้งนี้จะไม่เพิ่มโอกาสชนะให้มากขึ้นสักเท่าไร แต่พวกเขาก็มีโอกาสที่จะใช้ทักษะลับเพื่อทำร้ายพวกมันอย่างหนักหรือแม้กระทั่งฆ่าราชาเทพของเผ่าดาวท ทมิฬ ตราบที่พวกเขาทำให้เผ่าดาวทมิฬวุ่นวายได้ ผลลัพธ์ดังกล่าวก็จะเพิ่มโอกาสในการหลบหนี
เจี้ยนเฉินถูกเล็งโดยราชาเทพทั้งห้าจากเผ่าดาวทมิฬ เขาไม่ได้สนใจกับคนของตระกูลเฮามากนัก
เขาปรากฏตัวเพราะเขากำลังช่วยให้คนเหล่านี้หนีไปได้ เขาไม่เคยคิดที่จะเกี่ยวข้องกับตระกูลเฮา
ทั่วทั้งที่ราบทั้งสี่สิบเก้าแห่งและดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ทั้งแปดสิบเอ็ดดวงของโลกเซียนมีองค์กรชั้นนำมากมายเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วทุกที่ มีแม้แต่องค์กรชั้นสูงบางแห่งที่ยังไม่พบ สำนักลับหรือตระกูลลับต่าง ๆ บนที่ราบและดาวเคราะห์เหล่านั้น แต่ในพื้นที่นอกโลกได้กลายเป็นสถานที่ที่สามารถรองรับผู้คนได้
โดยรวมแล้วมีองค์กรระดับสูงจำนวนมากอยู่ในโลกเซียน
ตราบใดที่องค์กรมีอัครสูงสุด พวกเขาก็ถือเป็นองค์กรชั้นสูง
ด้วยการที่มีองค์กรชั้นสูงมากมาย จึงไปเป็นไปไม่ได้ที่เจี้ยนเฉินจะรู้จักเขาทั้งหมด
เมื่อราชาเทพตระกูลเฮาบอกถึงตัวตนของเขาอย่างภาคภูมิใจว่าตระกูลเฮาของเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงทั่วโลกเซียน เป็นตระกูลที่เกือบทุกคนต้องรู้จัก
แม้แต่ในบรรดาองค์กรระดับสูงที่รวมตัวกันในเมืองร้อยเซียน ตระกูลเฮาของเขาก็เป็นตระกูลที่ทรงอำนาจ เกือบองค์กรทั้งหมดจะทำตัวกับพวกเขาอย่างสุภาพ เมื่อผู้บ่มเพาะอิสระคนใดไ ได้ยินว่าพวกเขามาจากตระกูลเฮา พวกเขาทุกคนจะเกิดความเคารพอย่างสูงและไม่ดูถูกพวกเขา
อย่างไรก็ตามเมื่อเขามองไปที่เจี้ยนเฉิน เขารู้สึกประหลาดใจเพราะเขาไม่พบอาการตกใจอย่างที่คิดไว้ คนในตระกูลเฮาค่อนข้างน่าแปลกใจเมื่อเห็นความเฉยชาของเขา
อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก ในโลกเซียนมีหลายองค์กรที่ใช้ชื่อ “ตระกูลเฮา” ท้ายที่สุดโลกเซียนก็มีขนาดใหญ่เกินไปและมีคนมากเกินไป การมาเป็นองค์กรที มีชื่อเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ตามความเป็นจริงแม้ในเผ่าดาวทมิฬองค์กรขนาดเล็กบางแห่งก็ใช้ชื่อเดียวกับองค์กรขนาดใหญ่ที่พวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกันด้วย
“พวกเราคือตระกูลเฮาจากที่ราบรุ่งโรจน์ พี่ชาย ถ้าท่านช่วยเรา เราสามารถแนะนำท่านให้กับตระกูลของเราได้เมื่อเรากลับไป บนที่ราบรุ่งโรจน์ ตระกูลเฮาของเขาเป็นองค์กรชั้นสูงกว ว่าคนอื่น ๆ โดยไม่เป็นสองรองใคร” ราชาเทพกล่าว เขากลัวว่าเจี้ยนเฉินไม่เข้าใจความแข็งแกร่งของตระกูลเฮา ในฐานะผู้บ่มเพาะอิสระเขาจึงต้องเพิ่มรายละเอียดลงไปเล็กน้อย
ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังเช่นนี้ เขาทำงานอย่างหนักเพื่อดึงเจี้ยนเฉินเข้ามา
เจี้ยนเฉินยังคงไม่หวั่นไหว แต่เมื่อเขาได้ยินว่าเป็นที่ราบรุ่งโรจน์ เขาก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้สึกไวต่อที่ราบรุ่งโรจน์มากเพราะที่นั้นคือที่ที่พระราชวังสวรรค ค์แห่งบิเชิงอยู่
เขายังคงเป็นหนี้บุญคุณพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงอย่างมาก
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะมองไปที่คนเหล่านี้ด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะมาจากที่ราบรุ่งโรจน์ เนื่องจากมันเป็นอย่างนี้เขาต้องช่วยคนเหล่านี้ในตอนนี้
ราชาเทพเผ่าดาวทมิฬหมดความอดทน หนึ่งในนั้นตะโกนว่า “เจ้าจะพูดอะไรมากมายก่อนที่เจ้าจะตายกัน ? สตาร์ก ฆ่าเขาซะ”
สตาร์กเป็นหนึ่งในราชาเทพเผ่าดาวทมิฬ เขาไม่สนใจราชาเทพจากตระกูลเฮาเลย เขาพุ่งเข้าไปหาเจี้ยนเฉินทันที
ดวงตาของราชาเทพที่กำลังต่อสู้ทั้งสามได้เบิกตากว้าง เขาเปลี่ยนจากหนึ่งต่อสามเป็นหนึ่งต่อสองซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อเขาลงอย่างมาก เขาพูดกับเจี้ยนเฉินอย่างลับ ๆ ว่า”พี่ชา าย ช่วยพัวพันเขาไว้สัก 5 นาที” ด้วยเหตุนี้แรงกดดันของเขาจึงเพิ่มสูงขึ้น แต่ใบหน้าของเขาซีดลง
“5 นาที ? ไม่จำเป็น” เจี้ยนเฉินส่ายหัวเบา ๆ เขาสามารถบอกได้ว่าราชาเทพคนนี้กำลังเผาผลาญแก่นวิญญาณของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาเต็มใจที่จะสละชีวิตของเขาไป
“เจ้าหน้าโง่ ข้าจะเอาร่างเจ้าให้สัตว์กลืนชีวิตกินเพราะว่าเจ้ากล้าที่จะยุ่งเรื่องราวของเผ่าดาวทมิฬของเรา” อีกด้าน สตาร์กได้พุ่งเข้ามาหาเจี้ยนเฉิน มีเข็มที่ยาวกว่าหนึ่ งเมตรปรากฏขึ้นในมือของเขาและแทงไปที่หน้าผากของเจี้ยนเฉินอย่างเต็มกำลัง
เจี้ยนเฉินไม่ได้พยายามหลบหลีกหรือหลีกเลี่ยง เจ็มของสตาร์กปักลงบนหน้าผากของเจี้ยนเฉินโดยไม่มีอะไรมาขวางเลย
“โอ้ ไม่นะ ผู้บ่มเพาะอิสระทำอย่างนั้นทำไม เฮ้อ ทำไมเขาอ่อนแอจัง เขาถูกฆ่าแทบจะทันที….”
“เราจะทำอย่างไร และข้าก็คิดว่าเขาสามารถจะทำให้หนึ่งในนั้นวุ่นวายได้ ปรากฏว่าเขาอ่อนแอมาก.…”
ราชาเทพคนอื่น ๆ ของตระกูลเฮาและเหนือเทพกลายเป็นซีดเผือดทันทีเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งนี้ ความหวังอันริบหรี่ของพวกเขาได้ดับวูบลงทันที
สตาร์กแอบดีใจ “เขาเป็นไอ้หน้าโง่จริง ๆ ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเจ้าจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับราชาเทพช่วงต้น ปรากฏว่าเจ้าอ่อนแอมาก”
แต่ไม่นานสีหน้าของสตาร์กก็เปลี่ยนไปอย่างมาก มันเปลี่ยนเป็นความตกใจ เข็มของเขาไม่สามารถเจาะอะไรได้เมื่อมันโดนหน้าผากของเจี้ยนเฉิน แต่กลับรู้สึกเหมือนโดนอะไรบางอย่างแทน แรงสะท้อนกลับมาทำให้แขนของเขาด้านชา
“เป็นไปได้อย่างไร? ” สตาร์กตกตะลึงเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินยังสบายดี
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะมีเวลาตอบโต้ เจี้ยนเฉินก็ชกออกไป หมักของเขามีกฏแห่งความแข็งแกร่งและความโหดร้าย แม้แต่อากาศก็ระเบิด
ปัง !
หมัดของเขาพุ่งใส่หัวของสตาร์กและระเบิดร่างกายของเขาไปพร้อมกับวิญญาณ