เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2714: ความแข็งแกร่งของเผ่าดาวทมิฬ
ตอนที่ 2714: ความแข็งแกร่งของเผ่าดาวทมิฬ
อย่างก็ตามทันทีที่พวกเขาคิดถึงความแข็งแกร่งที่กู่ฉีแสดงออกมาเมื่อเขาสังหารราชาเทพของเผ่าดาวทมิฬ ทั้งสองคนของตระกูลเฮาก็ไม่พบว่ามันแปลกอีกต่อไป ท้ายที่สุดแล้วด้วยความ แข็งแกร่งของเขา เขาแทบไม่เคยเผชิญกับอันตรายที่คุกคามถึงชีวิตเลย หากเขาหลีกเลี่ยงส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝด แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ แต่เขาก็ยังวิ่ งหนีได้
“หลังจากใช้เวลาหลายปีในภูเขาโลกาแฝดความเข้าใจของพี่กู่ฉีเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกคงมีจำกัดจนถึงตอนนั้น ในตอนนี้โลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น ไม่สิ ข้าควรจะพูดว่าเมืองร้อย เซียน สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก” เฮาหร่านกล้าวอย่างเคร่งเครียดและเศร้าโศก
“เปลี่ยนไปมาก ? เกิดอะไรขึ้นกับเมืองร้อยเซียน ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างประหลาดใจขณะที่เขาทำเป็นไม่รู้เรื่องราว
“องค์กรชั้นสูงหลายแห่งจากโลกเซียนของเราทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเมืองร้อยเซียน มันเป็นฐานที่มั่นของเราในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น แต่ครึ่งปีผ่านมา ผู้คนจากเผ่าดาวท ทมิฬจู่โจมเมืองร้อยเซียน จากนั้นเขาก็ประกาศสงครามกับองค์กรหลายสิบแห่งในเมืองพร้อมกัน”
“เผ่าดาวทมิฬมีถิ่นกำเนิดที่นี่ ไม่เพียงแต่มีราชาเทพมากมาย แต่ยังมีขั้นอสงไขยอีกเล็กน้อย ในทางกลับกัน ทุกคนที่เข้ามาจากภายนอกต้องมีอายุต่ำกว่าพันปี อย่างไรก็ตามแม้แต่องค์กร รชั้นนำที่มีชื่อเสียง ก็มีไม่กี่คนที่สามารถบรรลุถึงราชาเทพได้ภายใน 1,000 ปี ดังนั้นแม้ว่าองค์กรระดับสูงหลายสิบองค์กรรวมตัวกันในเมืองร้อยเซียน แต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้กับ เผ่าดาวทมิฬ ตอนนี้เมืองร้อยเซียนตกอยู๋ในเงื้อมมือของเผ่าดาวทมิฬแล้ว” เฮาหร่านถอนหายใจยาวที่จุดนี้ เขามองไปในทิศทางของเมืองร้อยเซียน ในขณะที่มีความไม่เต็มใจที่จะยอม มแพ้แสดงออกมา
ในโลกเซียน องค์กรอย่างเผ่าดาวทมิฬจะไม่อยู่ในสายตาของตระกูลเฮาเลย ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเฮาสามารถจัดการพวกเขาได้
อย่างไรก็ตามนี่คือโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น แม้ว่าตระกูลเฮาจะมีอำนาจมากในโลกเซียน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้กับเผ่าดาวทมิฬได้
“เราได้ส่งคนออกไปเพื่อขอกำลังเสริมเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ข้าสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่กำลังเสริมจะมากัน” เฮาเฉินพูดขณะที่มองไปที่ภูเขาโลกาแฝด
“กำลังเสริม ! ” เฮาหร่านรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขากล่าวอย่าวยากลำบาก “ค่ายกลเคลื่อนย้ายในเมืองร้อยเซียนได้ตกอยู่ในมือของเผ่าดาวทมิฬแล้ว พวกเขาได้ปิดกั้น นค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างโลกอื่นกับภายในเมือง มีค่ายกลเผ่าดาวทมิฬเท่านั้นที่เดินทางไปมาระหว่างเมืองได้ ไม่มีใครเข้ามาจากทางเข้าได้ พวกเขาได้พบและทำลายค่ายกลลับที่ขอ องเราทิ้ง เราไม่อาจขอกำลังเสริมได้อีกต่อไป”
“โลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นกลายเป็นอันตรายไปแล้ว หรือแม้แต่องค์กรใหญ่ ๆ ก็ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องระวังในอนาคต แม้ว่าข้าจะไม่คิดว่าตัวเองอ่อนแอ แต่การ รรุกรานของเผ่าดาวทมิฬมีแต่จะทำให้ข้าตาย” เจี้ยนเฉินกล่าว
“ผู้อาวุโส แต่ท่านเพิ่งจะฆ่าราชาเทพเผ่าดาวทมิฬ ท่านได้ทำให้พวกเขาโกรธแค้นแล้ว พวกเขาจะไม่มีวันปล่อยท่าน ท่านอาจจะเป็นเหมือนพวกเราเช่นกัน ผู้อาวุโส จำนวนของมันนั้นมากมาย ยเหลือเกิน” เหนือเทพกล่าวอย่างมีความหวังจากด้านหลังของเฮาหร่าน เนื้อตัวของนางเต็มไปด้วยเลือดและมีสิ่งสกปรกอยู่เต็มใบหน้าของนาง มันทำให้รูปลักษณ์ของนางไม่น่ามองอย่างมาก แต่เสียงของนางก็ยังชัดแจ๋วและสบายหู
“นั่นไม่อาจใช้ได้กับข้า แม้ว่าข้าจะฆ่าเผ่าดาวทมิฬ แต่ก็ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ นอกจากเจ้าที่นี่ พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าสังหารพวกเขาไป” เจี้ยนเฉินยิ้มเหมือนไม่สนใจ หลังจากน นั้นสายตาของเขาก็มองไปที่กลุ่มของเฮาหร่านอยู่พักหนึ่งและเขาก็พูดว่า “ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่พูดเรื่องนี้หรอกใช่หรือไม่ ? ”
“ท่านล้อเล่นแล้ว พี่กูฉี ท่านช่วยชีวิตเรา ในฐานะที่เราเป็นคนของตระกูลเฮา เราต้องทำตัวให้เหมาะสมแม้ว่าโลกจะทอดทิ้งหรือบรรพชนไม่สนใจ เราก็ยังคงมีศีลธรรมของเราเอง เรา จะทำบางสิ่งที่ไร้สำนึกได้อย่างไร ? ” เฮาหร่านและเฮาเฉินกล่าวอย่างจริงจัง
“สิ่งที่ดีคือตอนนี้ราชาเทพเผ่าดาวทมิฬตายไปแล้ว เราต้องรีบออกจากที่นี่ ไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนเห็น ในอดีตข้าเคยอยู่ในเมืองร้อนเซียนมาตลอด แต่ตตอนี้มันอยู่ใต้เงื้อนม มือของเผ่าดาวทมิฬแล้ว ข้าจะไม่ไปที่นั่นอีกต่อไป หาไม่ใช่เพราะข้ามีเรื่องต้องจัดการ ข้าจะไม่ไปที่เมืองร้อยเซียนเลย ในโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น ข้าไม่รู้เกี่ยวกับเมือง อื่น ๆ เจ้าบังเอิญมีแผนที่ของโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นหรือไม่ ข้าจะได้ไปที่อื่น ? ” เจี้ยนเฉินถาม
เห็นได้ชัดว่าเฮาหร่านและคนอื่น ๆ มีแผนที่ของโลกแห่งอสูรที่ร่วงหล่น ทันทีที่เขาได้ยินเจี้ยนเฉินพูด เขาก็มอบสำเนามันให้ทันทีอย่างไม่ลังเล ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ให้หยกบั นทึกสถานการณ์ของโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น
ท้ายที่สุดเฮาเฉินก็มอบแหวนมิติให้กับเจี้ยนเฉินซึ่งมีเหรียญผลึกระดับสูงสุดกว่าล้านชิ้นและสมบัติสวรรค์จำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินไม่รับของเหล่านั้น เขาเอาแค่แผนที่อ อย่างเดียว
“น่าเสียดายที่ไม่มีข่าวใด ๆ เกี่ยวกับจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าสงสัยว่าเฮาหร่าและเฮาเฉินไม่ได้ออกไปด้านนอกเป็นเวลานานหรือสถานะของพวกเขาต่ำเกินไปจนไม่รู้จักจักรพรรดิ พยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์” เจี้ยนเฉินกล่าว เขายังคงแรงกดดันของราชาเทพขั้นกลางในขณะที่เขาบินเลียดพื้น เขาตรวจสอบแผนที่และแผ่นหยกที่เขาได้รับขณะบิน
แผนที่และแผ่นหยกมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับเผ่าดาวทมิฬ แผนที่แสดงเมืองทั้งหมด 38 เมือง นอกจากเมืองร้อยเซียนแล้ว เมืองอื่น ๆก็อยู่ภายใต้เงื้อมมือของเผ่าดาวทมิฬ พวกเขาสร้าง เมืองใหญ่ 36 เมืองและเมืองหลวง 1 แห่ง
เมืองใหญ่ทั้งสามสิบหกเมืองสร้างเป็นวงแหวนล้อมรอบเมืองหลวง จากวิธีการสร้างแล้ว มันดูเหมือนเป็นค่ายกลขนาดใหญ่
เมืองเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนอยู่รอบ ๆ เมืองใหญ่
เมืองหลวง, เมืองหลักสามสิบหกเมือง, และร้อยหอคอยแล้วแต่ขนาด นี่คือแผนที่ของเผ่าเมืองดาวทมิฬทั้งหมด แน่นอนว่านั้นไม่รวมถึงเมืองร้อยเซียน
จากแผ่นหยก เจี้ยนเฉินได้รับความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับแข็งแกร่งโดยรวมของเผ่าดาวทมิฬและการกระจายอำนาจ
จักรพรรดิดาวทมิฬเป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุดในเผ่าดาวทมิฬ เขาควบคุมโลกดาวทมิฬทั้งหมดและสามารถควบคุมชีวิตของคนจากเผ่าดาวทมิฬได้อย่างสมบูรณ์ เขาเป็นผู้ปกครองที่ไม่มีปัญหาใด ๆ
ภายใต้จักรพรรดิดาวทมิฬมีศาลาศักดิ์สิทธิ์ 10 ศาลา ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสิบเป็นบุคคลสำคัญรองจากจักรพรรดิดาวทมิฬ ทุก ๆ คนล้วนแต่เป็นขั้นอสงไขย
โดยปกติจักรพรรดิดาวทมิฬได้ละมือจากการปกครองเผ่าดาวทมิฬแล้ว เขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องใด ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกเลย โดยพื้นฐานแล้วเรื่องทั้งหมดของโลกว่าจะใหญ่น้อยมาจากไหนจะ ถูกตัดสินใจจากศาลาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบ
อำนาจของศาลาศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนไปทุก ๆ พันปี ศาลาศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่งจะมีอำนาจควบคุมและอำนาจเรื่องอื่น ๆ ต่างกันไปของโลกดาวดาวทมิฬ ทุก ๆ พันปีจะเปลี่ยนผู้คุมอำนาจ ตอนนี้ ถึงคราวผู้อาวุโสศาลาเจ็ด
แผ่นหยกยังมีคำอธิบายคร่าว ๆ เกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นคนอื่น ๆ ของโลกดาวทมิฬ
จักรพรรดิดาวทมิฬและผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสิบ ไม่ได้เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นในโลกดาวทมิฬ รองผู้อาวุโสประจำศาลาบางคนก็เป็นขั้นอสงไขยเช่นกัน
แม้แต่ขุนนางในเมืองบางคนจาก 36 เมืองหลักก็อยู่ในขั้นอสงไขย แผ่นหยกระบุเฉพาะขุนนางทั้งห้าเมืองเท่านั้นที่เป็นขั้นอสงไขย ส่วนที่เหลืออีก 31 คนเป็นราชาเทพทั้งหมด
ท้ายที่สุดก็มีการแนะนำราชาเทพบางส่วนในเมืองดาวทมิฬรวมถึงโซนอันตรายบางส่วน
หลังจากดูทั้งหมดแล้ว สีหน้าของเจี้ยนเฉินก็ย่ำแย่ เผ่าดาวทมิฬแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เฉพาะแค่ขั้นอสงไขยของพวกเขาก็มีถึงยี่สิบกว่าคน
ยิ่งไปกว่านั้นนั่นเป็นการประมาณแบบง่าย ๆ ใครจะรู้ว่าแผ่นหยกมีบันทึกข้อมูลมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดหรือไม่
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจกับราชาเทพมากนัก เขาเข้าใจสุดยอดวิถีกระบี่แล้ว ดังนั้นทุกคนที่อยู่ภายใต้ขอบเขตตั้งต้นจึงกลายเป็นมดสำหรับเขา !
“ถ้าจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ถูกจับได้ในเมืองหลวง” สายตาของเจี้ยนเฉินจับจ้องไปที่ตำแหน่งของเมืองหลวงบนแผนที่ หลังจากปลอมตัวเขาก็บินไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดทันที
โลกดาวทมิฬไม่ได้ใหญ่หรือเล็ก ถ้าเขาบินด้วยความเร็วสูงสุด เขาจะใช้เวลาไม่นานนักในการข้ามโลกทั้งใบ อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาอยู่ในดินแดนของเผ่าดาวทมิฬ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต ต้องซ่อนตัวให้ดี แม้ว่าเขาจะปกคลุมพื้นดิน เขาก็ไม่สามารถเปิดเผยความแข็งแกร่งของขอบเขตตั้งต้นได้ จะต้องใช้เวลาพอสมควรหากเขาเดินทางด้วยความเร็วของราชาเทพช่วงกลาง
ทำให้เขาต้องใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายเพื่อไปยังเมืองหลวงเท่านั้น