เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2717: พายุในเมืองอัศวินทมิฬ (1)
ตอนที่ 2717: พายุในเมืองอัศวินทมิฬ (1)
เหมียวเว่ยเป็นเพียงเหนือเทพ แม้จะถือแหวนมิติเอาไว้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยื้อมันโดยไม่ให้เจี้ยนเฉินที่เป็นขั้นอสงไขยได้ เขารู้สึกเพียงแค่ว่าจู่ ๆ มือของเขาก็ว่างเ เปล่า เขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าแหวนมิติถูกเอาไปได้อย่างไร
“เจ้ากล้าที่จะขโมยของข้าต่อหน้าผู้คนได้อย่างไร ! เจ้ารนหาที่ตายงั้นหรือ ? ” เหมียวเว่ยโกรธมาก เขาตะโกนใส่ราชาเทพทั้ง ๆ ที่เขาเป็นแค่เหนือเทพโดยไม่มีความเคารพเลยแม้แต่น้ อย
นั่นเป็นเพราะว่าเขาเป็นคนของเผ่าดาวทมิฬ ในขณะที่โลกนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของเผ่าดาวทมิฬอย่างสมบูรณ์ เป็นผลทำให้เหมียวเว่ยไม่ใช่คนเดียวที่มีท่าทีเช่นนี้ โดยพื้นฐานแล้ว คนจากเผ่าดาวทมิฬไม่แสดงความเคารพต่อบุคคลภายนอกเหล่านี้
“มันเป็นของข้าตั้งแต่แรก ข้าเพียงแค่เอาของ ๆ ข้ากลับคืนมา มันกลายเป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? เจ้าเป็นแค่เหนือเทพ เจ้ากล้าตะโกนใส่ข้า ข้าคิดว่าเจ้าต่างหากที่หาเรื่อง งตาย” เจี้ยนเฉินพูดอย่างไม่แยแส เขามองไปที่เหมียวเว่ยโดยรู้สึกโกรธขึ้นมาและมีจิตสังหารวาบผ่านดวงตาของเขา
ทันใดนั้นพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังก็โถมลงมา ราชาเทพทั้งสามบนกำแพงเมืองต่างลงมาแล้ว สายตาของพวกเขาทั้งหมดเย็นชาขณะที่พวกเขาล้อมรอบเจี้ยนเฉินเป็นรูปสามเหลี่ยม หนึ่งนั้น พูดอย่างจริงจังว่า “ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายกับเจ้า ทิ้งแหวนมิติไว้และเจ้าก็ออกไปได้ คนนอกสามารถสังหารสัตว์อสูรกลืนชีวิตได้ง่ายกว่าเรามาก ด้วยการบ่มเพาะของเจ้าที่เป็นรา าชาเทพช่วงกลาง การฆ่าสัตว์อสูรกลืนชีวิตราชาเทพช่วงต้นนั้นไม่ได้ยากนัก แล้วทำไมเจ้าต้องการที่จะตายอย่างไร้สาระแบบนี้ ? ”
ทั้งสามคนยังคงมีความหวังสุดท้ายที่จะเกลี้ยกล่อมเจี้ยนเฉินได้ ไม่อย่างนั้นไม่พวกเขาเริ่มต่อสู้และดึงดูความสนใจผู้คนมากขึ้น ส่วนแบ่งของพวกเขาจะน้อยลงแม้ว่าเขาจะได้แหวนมิติม มาอยู่กับพวกเขา
“เจ้าคือคนที่จะตาย ไม่ใช่ข้า” เจี้ยนเฉินหมดความอดทนแล้ว ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เย็นชาในขณะที่เขาหัวเราะอย่างเหยียดหยาม
เขาตัดสินใจไล่ล่า กฎแห่งความแข็งแกร่งหมุนรอบ ๆ ตัวของเขาในขณะที่เขาเหวี่ยงหมัดใส่ราชาเทพตรงหน้าของเขา หมัดดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่มีความลึกลับของกฏแห่งความแข็งแกร่ง ดังนั นความแข็งแกร่งของหมัดนี้จึงน่าอัศจรรย์มาก แม้แต่อากาศก็ระเบิดออกมาด้วยหมัด ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นราวกับฟ้าร้อง….
ราชาเทพทั้งสามเตรียมพร้อมมานานแล้ว เพราะทันทีที่เขาออกจากกำแพงเมือง พวกเขาก็พร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อ ทำให้เจี้ยนเฉินโจมตีลงไปบนเกราะที่ปรากฏขึ้นของทั้งสาม ชุดเกราะเป็น วัตถุเทพขั้นสูงทั้งหมด
“โอหังนัก วันนี้เราจะฆ่าเจ้าที่ประตูเมืองและแขวนหัวของเจ้าไว้บนกำแพงเมืองถึงหมื่นปี” ราชาเทพที่อยู่ด้านหน้าของเจี้ยนเฉินตะโกนออกมา ขวานวัตถุเซียนขั้นสูงขนาดใหญ่ฟันลงมาที หมัดของเจี้ยนเฉิน พลังของขวานนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง
ตูม !
หมัดของเจี้ยนเฉินปะทะกับขวานด้วยพลังทีน่ากลัวอย่างเหลือเชื่อ หลังจากนั้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือเกิดขึ้น ขวานได้หักลงราวกับทำมาจากดินกระเบื้องที่เปราะบาง จริง ๆ แล้ วมันแตกเป็นเสี่ยง ๆ ภายใต้หมัดของเจี้ยนเฉิน หลังจากนั้นมันก็ระเบิด
หมัดของเจี้ยนเฉินยังคงพุ่งต่อไปและทำให้ชุดเกราะของราชาเทพแตกเป็นเสี่ยง ๆ และยังคงไม่หยุด พลังของมันกดดันทำให้ร่างของราชาเทพนั้นหายไปเหลือเพียงศีรษะของเขาเท่านั้น
ใบหน้าของราชาเทพเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เติมที่เขาคิดว่าการที่มีทั้งสามคนร่วมมือกันพวกเขาจะสามารถต่อสู้กับราชาเทพขั้นกลางได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจเอาชนะได้ อย่างไรก็ตามเ เขาไม่คิดเลยว่าเจี้ยนเฉินจะมีพลังมากกว่าที่พวกเขาคิด เขาไม่อาจรับหมัดของเจี้ยนเฉินได้แม้แต่หมัดเดียว
“หยุด อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า…” ตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับความตายอย่างแท้จริงและเริ่มรู้สึกหวาดกลัว เขาอ้อนวอนของชีวิตของเขาอย่างลับ ๆ ด้วยความหวาดกลัว
เพียงหมัดเดียว เจี้ยนเฉินได้ทำลายราชาเทพขั้นต้น ความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมาทำให้ผู้ชมที่อยู่ใกล้ ๆ ประตูเมืองแทบจะหยุดหายใจด้วยความตกใจ
เจี้ยนเฉินไม่สนใจคำอ้อนวอนของราชาเทพที่เต็มไปด้วยความยโสโอหังของเผ่าดาวทมิฬ เขาต้องสังหารพวกเขา
เพียงการสะบัดมือเบา ๆ กฏแห่งความแข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้นจนมองเห็นได้ขยายออกไปบนอากาศทำให้หัวของราชาเทพสั่นสะเทือนและแหลกเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับทำลายวิญญาณของเขา
ในเวลาเดียวกันพลังที่เหลือจากกฎแห่งความแข็งแกร่งยังคงพุ่งไปที่กำแพงเมืองภายใต้พลังที่น่ากลัว ทหารเหนือเทพหลายสิบคนที่อยู่ใกล้ประตูต่างก็ปลิวไปหมด ขณะที่เขากระอักเลือ อดออกมาจากปากของพวกเขา กำแพงเมืองเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ในเวลาต่อมารอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนกำแพงเมืองซึ่งใครจะรู้ว่ามันใช้เวลานานแค่ไหน
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังที่ยิ่งใหญ่ปกป้องกำแพงเมือง มันคงจะกลายเป็นซากภายใต้ระลอกคลื่นจากการต่อสู้มานานแล้ว
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จากช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินโจมตีออกไปจนถึงตอนที่ราชาเทพตาย มันใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที ในตอนนั้นการโจมตีจากราชาเทพอีก 2 คนก็ทำได้เพียงเข้าใกล้เจ จี้ยนเฉินเท่านั้น
เจี้ยนเฉินไม่ได้ใช่เล่ห์เหลี่ยมใด ๆ เขาหันกลับมาและชกไปอีก 2 หมัด มันตรงไปตรงมาอย่างมาก หมัดนั้นแข็งแกร่งมากมีกฏแห่งความแข็งแกร่งที่ควบแน่นอย่างมาก เขาทำลายวัตถุเซียนค คุณภาพสูงอีก 2 ชิ้นอย่างง่ายดายอีกครั้ง
ราชาเทพทั้งสองไม่อาจทำอะไรได้ขณะที่เขามองไปที่วัตถุเซียนซึ่งถูกทำลายในมือของพวกเขา พวกเขารู้ดีว่าวัตถุเซียนคุณภาพสูงนั้นแข็งแค่ไหน นับประสาอะไรกับราชาเทพช่วงกลาง แ แม้แต่ราชาเทพช่วงปลายก็ต้องใช้พลังมากนิดหน่อยเพื่อที่จะทำลายมัน
มีเพียงราชาเทพช่วงสูงสุดเท่านั้นที่จะถือได้ว่าสามารถทำอย่างนี้ได้
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้หมายความว่าคนนอกที่พวกเขาได้พบนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าราชาเทพเลยแม้แต่น้อยในบรรดาคนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างราชาเทพช่วงสูงสุด ?
เมื่อตระหนักถึงสิ่งนั้น ราชาเทพทั้งสองก็ไม่อาจตกใจได้อีก พวกเขาถอยกลับอย่างไม่ลังเลและตะโกนขอกำลังเสริมทันที
พวกเขาไม่ได้คิดถึงซากสัตว์อสูรกลืนชีวิตอีกต่อไป ในตอนนี้พวกเขาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นนี้ แต่พวกเขากำลังพิจารณาเพื่อความปลอดภัยส่วนตัวของพวกเขา
มันยากที่จะซ่อนการปะทะกันระหว่างราชาเทพ มีผลกระทบไปไกลมาก ความวุ่นวายจากการต่อสู้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองในทันที ทำให้ราชาเทพทั้งหมดในเมืองรู้ถึงสถานการณ์ที่ทางเข้า ทัน นใดนั้นสัมผัสวิญญาณมากมายก็ไหลมารวมกัน
ใช่ มันเป็นคลื่นขนาดใหญ่เพราะมีสัมผัสวิญญาณมากเกินไป พวกเขามีราชาเทพอย่างน้อยกว่าพันคน
เจี้ยนเฉินไม่พบว่ามันแปลกเลยที่เมืองอัศวินทมิฬมีราชาเทพมากมาย เขาได้ปล่อยสัมผัสล้อมทั้งเมืองและพบว่ามีราชาเทพไม่มากนักที่มาจากองค์กรชั้นสูงจากโลกเซียน ส่วนมากไม่เป็ นหนึ่งคนไม่ก็สองสามคน
ท้ายที่สุดแล้วนี่คือโลกที่ปิดผนึกที่ถูกควบคุมโดยเผ่าดาวทมิฬจึงไม่เคยมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ในเวลาเดียวกันผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือขั้นอสงไขยเท่านั้น ดังนั้นในช่วงเวลาหลาย ปีที่ผ่านมาผู้บ่มเพาะจำนวนมากติดอยู่ที่ขั้นราชาเทพ
ราชาเทพเผ่าดาวทมิฬนั้นมีอายุมากกว่าราชาเทพจากโลกเซียน มีราชาเทพจำนวนมากที่มีชีวิตอยู่เป็นเวลาหลายล้านปี มีกระทั่งคนที่มีอายุมากกว่าสิบล้านปี
ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องยากมากที่จะบุกเข้าไปในขอบเขตตั้งต้นในสภาพแวดล้อมเช่นโลกดาวทมิฬ เว้นแต่พวกเขาจะมีความสามารถสูงสุด เว้นแต่พวกเขาจะเป็นคนที่โชคดีอย่างที่ไม่เคยป ปรากฏขึ้นมาก่อน พวกเขาไม่สามารถข้ามประตูที่จะนำไปสู่ขอบเขตตั้งต้น
“กล้าดีอย่างไง ! คนนอกมาที่เมืองดาวทมิฬของเราและยังฆ่าคนของเรา เจ้าสมควรตายเป็นพัน ๆ ครั้ง…..”
“เจ้ากล้าสังหารราชาเทพเผ่าดาวทมิฬของเราจริง ๆ เจ้าไม่อาจประมาทได้มากกว่านี้อีกแล้ว….”
“การที่คิดว่าราชาเทพช่วงกลางมีความสามารถต่อสู้เช่นนี้ มันน่าประทับใจจริง ๆ เราต้องฆ่าเขาในวันนี้ ไม่อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นตัวปัญหาสำหรับเราในอนาคต….”