เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2718: พายุในเมืองอัศวินทมิฬ (2)
ตอนที่ 2718: พายุในเมืองอัศวินทมิฬ (2)
เสียงดังกึกก้องดังออกมาจากเมืองอัศวินทมิฬหลังจากนั้นแรงกดดันที่ทรงพลังก็ปะทุขึ้นจากสถานที่ต่าง ๆ ในเมือง คลื่นพลังหลายสิบหรือหลายร้อยทำให้สภาพแวดล้อมรอบ ๆ สั่นสะเทือนร ราวกับมีพายุก่อตัวขึ้นในเมืองโบราณที่มีความสงบสุขมายาวนาน
ในเวลาต่อมาราชาเทพเผ่าดาวทมิฬมากกว่าร้อยคนได้บินออกมา พวกเขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าขณะที่พวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธและเต็มไปด้วยจิตสังหารขณะบินไปทางประตูเม มือง
ที่นี่เป็นของเผ่าดาวทมิฬของพวกเขา ไม่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับเมืองเลย พวกเขาเคยชินกับพฤติกรรมของคนนอกที่นี่ ตอนนี้มีใครบางคนที่ทำตัวหยิ่งผยอง มันเกินกว่าที่เขาจะทนรับไหว
เมื่อคนนอกเห็นว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปอย่างไรแถว ๆ ประตูเมือง พวกเขาทั้งหมดก็เครียดเป็นอย่างมาก
“ไม่นะ มันเกินกว่าจะควบคุมได้ ไปเถอะ ไปกันเถอะ รีบออกไปจากที่นี่ไม่อย่างนั้นราชาเทพเผ่าดาวทมิฬจะหันมาลงกับเราเพื่อระบายความโกรธของพวกเขา….”
“ใช่ ไปเร็ว ไม่งั้นเราอาจโดนลากเข้าไป….”
…
บุคคลภายนอกที่อยู่ใกล้เคียงพูดกันอย่างลับ ๆ พวกเขาทั้งหมดกังวลใจอย่างมาก ไม่มีใครกล้าอยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว ทั้งหมดออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในพริบตาคนนอกทั้งหมดหายไปจากประตูเมืองเหลือเพียงเจี้ยนเฉินที่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างไม่เกรงกลัวและอยู่คนเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับการล้อมกรอบของราชาเทพกว่าร้อยคน เขายังคงนิ่ งสงบเหมือนเดิม
“กำลังเสริมของเราอยู่ที่นี่ เจ้าตายแน่ นับประสาอะไรกันกับราชาเทพช่วงกลางอย่างเจ้า แม้แต่ราชาเทพช่วงสูงสุดก็ยังต้องแย่ในวันนี้….”
“เมื่อเจ้าตายจะตัดหัวเจ้าและแหวนไว้ที่กำแพงเมือง เจ้าสามารถกลายเป็นสุดยอดคนโง่ จนกว่าเจ้าจะตายเพราะซากสัตว์อสูรกลืนชีวิต แม้แต่ตอนนี้มันจะสายไปแล้วที่เจ้าจะทำอะไรได้…”
ราชาเทพทั้งสองที่เฝ้าประตูเมืองต่างกัดฟันอยู่ข้างหลังเจี้ยนเฉิน พวกเขามองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างอาฆาตและโกรธเกรี้ยว ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่ได้อะไรจากสถานการณ์นี้เลย เจี้ยนเฉิน ยังทำลายวัตถุเซียนขั้นสูงของพวกเขาได้ ความสูญเสียนี้เพียงพอที่ทำให้พวกเขาทุกข์ใจอย่างยาวนาน
“ข้าควรจะตายเพราะคนเหล่านี้ใช่หรือไม่ ? นั่นเป็นไปได้ยากที่จะเอาหัวของข้าไป บางทีแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างจักรพรรดิดาวทมิฬของพวกเจ้าก็ไม่อาจทำอย่างนั้นได้” เจี้ยนเฉินกล่าว วอย่างสงบและง่าย ๆ เขาไม่ปล่อยให้เสียงของเขาแพร่ออกไปไกล มีเพียงราชาเทพทั้งสองเท่านั้นที่ได้ยินเช่นนี้
ราชาเทพทั้งสองต่างหัวเราะเยาะกับคำตอบของเจี้ยนเฉิน พวกเขาเคยเห็นคนที่เย่อหยิ่งมากมาย แต่พวกเขาไม่เคยเห็นคนนอกที่ยโสเช่นนี้มาก่อนเลย นับประสาอะไรกับการได้เห็นคนแบบเขา า เขายังไม่แม้แต่ได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เขาเป็นแค่ราชาเทพช่วงกลางที่น่ากลัว แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขาจะเท่ากับราชาเทพช่วงปลาย แต่เขาคิดว่าเขาเยี่ยมยอดมากจนแ แม้แต่จักรพรรดิดาวทมิฬก็ไม่อาจสังหารเขาได้ ?
เมื่อทั้งสองต้องการโต้กลับ ขวานขนาดใหญ่ก็ปรากฏอยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินไม่อาจนำวัตถุเทพติดตัวมาด้วยในการเดินทางมายังโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นแห่งนี้ แต่เขาก็ได้นำวัตถุเซียนมาด้วยควบคู่ไปกับแหวนมิติจำนวนมากที่เขาเก็บได้จาก ศพของทหารพลีชีพ เขายังมีวัตถุเซียนคุนภาพสูงสุดและวัตถุเซียนคุณภาพสูงมาอีกด้วย
เจี้ยนเฉินใช้ขวาoสองมือ ใบขวานที่ใหญ่พอ ๆ กับโล่ มันเข้ากันกับร่างปลอมที่เป็นชายกำยำ ในขณะที่กฏแห่งความแข็งแกร่งหมุนรอบตัวของเขา ทันใดนั้นเขาก็เหวี่ยงขวานขนาดใหญ่แ และทิ้งรอยสีขาวไว้บนมิติ
คราวนี้เมื่อเขาโจมตี เขาโจมตีเพื่อหวังเอาชีวิต ด้วยการบ่มเพาะและความเข้าใจของเขาในราชาเทพช่วงกลาง บวกกับเศษเสี้ยวแห่งความแข็งแกร่งจากทางกายภาพของร่างบรรพกาล พลังของ ขวานของเขาก็ออกมาอย่างเต็มที่ในระดับของราชาเทพที่ยังไปไม่ถึงขอบเขตตั้งต้นได้
หากเขาใช้เพียงการบ่มเพาะและความเข้าใจของราชาเทพช่วงกลาง เขาคงไม่น่ากลัวขนาดนี้ แต่ถ้ารวมกับความแข็งแกร่งของร่างบรรพกาล แม้ว่ามันจะเป็นแค่เศษเสี้ยวเล็ก ๆ การโจมตีของ เขาก็น่ากลัวมากในระดับราชาเทพ
พรวด !
พรวด !
แรงกดดันมหาศาลทำให้ราชาเทพทั้งสองถูกตรึงเอาไว้ก่อนที่ถูกขวานของเจี้ยนเฉินฟัน พวกเขาไม่อาจหลบได้ ไม่ต้องพูดถึงการตอบโต้ มีเลือดสีแดงสาดกระเซ่นและหัวของเขาก็หลุดลอยเพ พราะถูกขวานฟัน พลังของขวานได้บดขยี้วิญญาณของเขาราวกับใบไม้แห้ง
“ความเข้าใจกฎของความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจริง ๆ ” หลังจากฆ่าทั้งสองไปแล้วดวงตาของเจี้ยนเฉินก็เบิกกว้าง
มรดกกฏแห่งความแข็งแกร่งของเขามาจากหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดที่ถูกผนึกไว้ใต้ดินบนที่ราบรกร้าง แกนสีทองที่ควบแน่นจากกฏแห่งความแข็งแกร่งยังคงอยู่ในจิตวิญญาณของเขา เม มื่อเขาดูดซับแกนสีทองที่ควบจากกฏได้อย่างสมบูรณ์ กฏแห่งความแข็งแกร่งคงจะไปถึงขอบเขตตั้งต้น
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อเขาใช้กฏแห่งความแข็งแกร่งของเขาที่ได้ทำความเข้าใจจนถึงราชาเทพช่วงกลาง เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาไดดูดซับเศษเล็ก ๆ ของแกนสีทองของกฏ
“การต่อสู้อย่างเต็มกำลังโดยใช้กฎแห่งความแข็งแกร่งทำให้ข้าเข้าใจมันมากขึ้น ? ” เจี้ยนเฉินคิด เขาเหลือบมองขวานในมือของเขาและร่างปลอมโดยสัญชาติญาณ ดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไร บางอย่าง
“อย่างนั้นหรือ ? วัตถุเซียนที่ข้าใช้อยู่ตอนนี้และสถานะของข้าเหมาะสมกับการบ่มเพาะที่ใช้กฏแห่งความแข็งแกร่ง พวกมันเข้ากันอย่างสมบูรณ์กับกฏแห่งความแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ใช ช้กฏแห่งความแข็งแกร่งได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าในอดีตข้าจะใช้กฏแห่งความแข็งแกร่ง แต่นั้นก็อยู่ในสภาพที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงไม่รู้สึกแบบนี้” เจี้ย ยนเฉินคิด
“เจ้ารนหาที่ตาย ! ”
เสียงตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นไปบนท้องฟ้า ราชาเทพของเผ่าดาวทมิฬหลายสิบคนได้มาถึงกำแพงเมืองแล้ว ทุกคนต่างแสดงพลังออกมาและมีจิตสังหาร ขณะที่แรงกดดันของพวกเขาท่ วมท้นโดยรอบ พวกเขาสวมชุดเกราะ ทั้งยังพร้อมโจมตีจากระยะไกลโดยใช้วัตถุเซียนคุณภาพสูงหรือสูงสุด
ท้องฟ้าสว่างขึ้น ปราณกระบี่ ปราณดาบ หอกแห่งแสงและการโจมตีด้วยพลังงานอื่น ๆ อีกมากมายที่ตกลงมาราวกับพายุทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่เจี้ยนเฉิน
ในขณะเดียวกันท้องฟ้าก็ปล่อยแรงกดดันที่เกิดจากโลกที่เต็มไปด้วยพลังพุ่งสูงขึ้น ราชาเทพเผ่าดาวทมิฬต่างใช้ออกด้วยทักษะการต่อสู้
เจี้ยนเฉินกระโดดขึ้นพร้อมกับบรรยากาศที่สั่นอย่างรุนแรง หลังจากนั้นแผ่นหินขนาดใหญ่กว่าสามร้อยเมตรก็ลอยขึ้นบนผืนดิน การโจมตีที่ทรงพลังทั้งหมดได้ตกลงบนชั้นหินที่ลอยขึ้น มาและแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ จนกลายเป็นผุยผง
เจี้ยนเฉินใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในการบินไปด้านหน้าและหลบการโจมตีทั้งหมดอย่างรวดเร็วและปรากฏอยู่ด้านล่างราชาเทพทั้งหมด หลังจากนั้นเขาก็พุ่งขึ้นไปบนอากาศราวกับกระสุนปืนให หญ่พร้อมกับขวานขนาดใหญ่ในมือขณะฟันไปที่ราชาเทพช่วงกลาง เขาฟันออกไปด้วยแรงของกฏแห่งความแข็งแกร่งและเหวี่ยงลงไป
พรวด !
เจี้ยนเฉินโจมตีด้วยความเร็วดุจสายฟ้า พลังในขวานนั้นน่ากลัวว่าอย่างมาก เพียงแค่ฟันทีเดียวเขาก็ทำลายเกราะเซียนคุณภาพสูงของราชาเทพรวมถึงม่านป้องกันของเขาจนขาดออกเป็นส สองส่วน หลังจากขวานผ่านร่างของเขา เศษเล็ก ๆ ของกฏแห่งความแข็งแกร่งก็ยังคงลอยอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายของเขาหยุดนิ่ง แต่ยังทำให้วิญญาณของเขาสั่นเป็นชิ้น ๆ
ในฟันครั้งเดียว ราชาเทพช่วงกลางถึงแก่ความตาย !
การตายของราชาเทพช่วงกลางถือเป็นการโจมตีทางจิตใจอย่างหนักของเผ่าดาวทมิฬ มันน่าตกใจมากกว่า การตายของราชาเทพช่วงต้นทั้งสาม ซึ่งทำให้ราชาเทพหลายคนตกตะลึง ผลที่ตามมาพวก กเขาลังเลขณะที่พวกเขาถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
ท้ายที่สุดแล้วการฆ่าราชาเทพช่วงต้นในการโจมตีเดียวนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการฆ่าราชาเทพช่วงกลางในการโจมตีเดียว
“เจ้าจะกลัวอะไร ? เขามีคนเดียว เราจะควรจะกลัวเขางั้นหรือ ? พวกเรามีกันหลายคน ทุกคนเข้าไปพร้อมกัน เขามีพลังมาก เราจึงไม่อาจปล่อยเขาไปได้ เมื่อเขาฆ่าเราเขาได้ หัวหน้าศาล ลาเจ็ดจะให้รางวัลกับเราอย่างแน่นอน” ราชาเทพขั้นกลางจากเผ่าดาวทมิฬตะโกนออกมาจากฝูงชน