เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2738: สูญเสียความทรงจำ
ตอนที่ 2738: สูญเสียความทรงจำ
หัวหน้าศาลาห้ายังอยู่ในแดนทำลายวิญญาณเป็นเวลากว่าสามปี เขาหมดหวังที่จะทะลวงผ่าน จึงต้องมุ่งหน้าเข้าสู่แดนอันตรายแห่งนี้เพียงเพื่อจะได้หล่อหลอมรวมกับพลังวิญญาณของสัตว์ อสูรอวกาศที่ทิ้งไว้ ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาในท้ายที่สุด จิตใจของเขาจมอยู่กับความขัดแย้งอย่างรุนแรงและพลังวิญญาณของสัตว์อสูรอวกาศก็ทำให้เขาอยู่ในสภาพที่บ้าคล ลั่ง
และพลังของเขาก็ไม่มั่นคง พลังปราณของเขาที่อยู่ในขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 เริ่มผันผวนอย่างรุนแรงในร่างกายของเขา มันพลุ่งพล่านราวกับน้ำเดือด
แม้ว่าพลังจะเป็นของชั้นสวรรค์ที่ 5 แต่ก็มีพลังมากกว่าคนที่อยู่ในขอบเขตเดียวกันของโลกเซียนเสียเป็นส่วนใหญ่
นี่เป็นเพราะพลังมันบริสุทธิ์เกินไป ดูเหมอืนว่าจะเป็นแก่นแท้ที่เข้มข้นและไม่มีสิ่งใดเจือปนแม้แต่น้อย
ต้องใช้เวลานานมากในการบ่มเพาะที่ขมขื่นพร้อมทั้งการปรับแต่งพลังปราณให้อยู่ในระดับดังกล่าว ความยาวนานเหล่านี้อาจต้องใช้เวลากว่าสิบล้านปี
“อ้าก ! ”
คุนเทียนคำรามออกมาอย่างต่อเนื่อง เขากระแทกพื้นด้วยมือของเขาอย่างบ้าคลั่ง บางครั้งเขาก็กุมหัวของเขากลิ้งไปมา ซึ่งหากคนอื่นมาเห็น มันแสดงให้เห็นว่าเขาเจ็บปวดมากแค่ไหน
ความเจ็บปวดเหล่านี้กินเวลา 3 ชั่วยามซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นขีดจำกัดที่เขาจะทานทนได้ เขาส่งเสียงคำรามขึ้นฟ้าและพลังปราณของเขาก็ปล่อยออกมาอย่างไร้การควบคุม พลังปราณที่รุนแร รงซึ่งเต็มไปด้วยพลังของขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 หรือแท้แต่เทียบเท่ากับชั้นสวรรค์ที่ 6 บ้างเป็นบางครั้งปะทุออกมาจากร่างกายของเขาและทำลายผืนดินรอบ ๆ ของแดนทำลายวิญญาณร ราวกับเกิดพายุขึ้นมา
ในขณะที่พลังปราณกำลังผันผวนและกวาดล้างไปทั่วผืนดินของแดนทำลายวิญญาณ ทำให้ดูเหมือนกับว่ามันเกิดการถาโถมเข้ามาของทะเลอย่างน่าตกใจ มันสั่นสะเทือนผืนดินอย่างหนัก แม้แต่เศ ศษเสี้ยวเจตจำนงที่อยู่เต็มสถานที่เหล่านี้ก็เกินการผิดปกติ
หลังจากที่ระบายออกมาเช่นนี้ หัวหน้าศาลาห้าก็ค่อย ๆ สงบลงจากความบ้าคลั่ง ความบ้าคลั่งในดวงตาของเขาค่อย ๆ จางหายไป ขณะที่พลังที่พลุ่งพล่านของเขาค่อย ๆ สงบลง
หลังจากนั้นเขาก็ล้มพับลงทั้งตรงนั้นราวกับว่าเขาหมดสติอย่างฉับพลัน
แน่นอนว่าเขายังไม่ตาย พลังชีวิตของเขาไม่ได้อ่อนลงเลย แต่กลับกันมันค่อย ๆ แข็งแกร่งและคงที่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับพลังแห่งการมีอยู่ที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ใกล้ทางเข้าเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาได้ลืมตาขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง การจ้องมองของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและแหลมคม ในช่วงเวลานั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง การจ้องมองของเขาทะลุมิติลงไปยังส่วนลึกของแดนทำลายวิญญาณทันที
“พลังแห่งการมีอยู่ของขอบเขตตั้งต้นกำลังปะทุขึ้นจากทางนั้น พลังที่อยู่รอบ ๆ นั้นเป็นขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 มันจะต้องเป็นคุนเทียนหัวหน้าศาลาห้าอย่างแน่นอน” เจี้ยนเ เฉินคิด
แดนทำลายวิญญาณเต็มไปด้วยเศษเสี้ยวจิตสำนึกของสัตว์อสูรอวกาศ เมื่อเขาปล่อยสัมผัสวิญญาณของเขา เขาก็จะต้องปะทะกับเศษเสี้ยวจิตสำนึกของมัน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องดีที่เขา จะปล่อยสัมผัสวิญญาณของเขาในแดนทำลายวิญญาณ ในเวลาเดียวกันภายใต้อำนาจของเศษเสี้ยววิญญาณนั้นก็ทำให้สัมผัสที่เขาปล่อยออกมานั้นเบาบางเป็นอย่างมาก
หากปราศจากความสามารถเหล่านี้ มันก็ยากพอ ๆ กับการหาเข็มในกองหญ้า เพื่อที่จะทำให้เขาพบใครบางคนในแดนทำลายวิญญาณ
But it was perfect now. Just when he worried about finding the fifth hall master, Kun Tian would actually create a disturbance like this for him, allowing Jian Chen to locate him immediately.
แต่ตอนนี้มันประจวบเหมาะพอดี เมื่อเขากังวลว่าเขาจะหาหัวหน้าศาลาห้าอย่างไร คุนเทียนก็ราวกับจะบ่งบอกทิศทางให้กับเจี้ยนเฉินได้ทันที
“ในเมื่อข้ารู้ตำแหน่งของเขา มันก็จะง่ายกว่ามากที่จะหาเขาเจอ ไม่ต้องรีบร้อน หัวหน้าศาลาห้า เมื่อวิญญาณของข้าฟื้นฟูเต็มที่แล้ว มันก็ถึงเวลาของเจ้าที่เจ้าจะต้องตาย” จ จิตสังหารแว่บผ่านสายตาของเจี้ยนเฉิน
แดนทำลายวิญญาณเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบหากจะฆ่าใครสักคน เนื่องจากมันมีสภาพแวดล้อมที่พิเศษ มันจึงเป็นข้ออ้างที่วิเศษตามธรรมชาติในการทำกิจกรรมอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับ บการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความวุ่นวายมากนักและอาจจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้กับเมืองหลวงของเผ่าดาวทมิฬเมื่อเขาได้มีการต่อสู้กันท ที่นี่
“บางทีข้าอาจจะหาทางดึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นคนอื่น ๆ ของเผ่าดาวทมิฬออกมาทีละคนและฆ่าพวกเขาเรียงตัว ข้าเริ่มข้องใจกับเผ่าดาวทมิฬแล้ว ดังนั้นความขัดแย้งจึงเป็นสิ่งที่ หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากพวกเขาสูญเสียผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นไปเพียงไม่กี่คน มันจะช่วยลดความกดดันของข้าเพื่อที่จะช่วยจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์” เจี้ยนเฉินคิด ทันใดนั้นก็มีร่ างหนึ่งแว่บเข้ามาในหัวของเขา
นั่นก็คือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่อยู่ในศาลาเจ็ดและคนที่กำลังไปเมืองอัศวินทมิฬ ดัฟฟ์ !
If he killed him by surprise in the Two World Mountains, would he be able to push the responsibility of Duff’s death onto the Primordial realm Life-devouring Beasts within the Two World Mountains once more?
ถ้าเขาฆ่าอีกฝ่ายอย่างไม่ทันตั้งตัวในภูเขาโลกาแฝด เขาจะสามารถผลัดดันการตายของดัฟฟ์ให้สัตว์อสูรกลืนวิญญาณขอบเขตตั้งต้นในภูเขาโลกาแฝดได้อีกครั้งหรือไม่ ?
ขณะที่เขาคิด พลังวิญญาณของเจี้ยนเฉินก็ฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้มันรวดเร็วยิ่งขึ้นเขายังเอาสมบติสวรรค์ที่มีความสามารถในการฟื้นฟูวิญญาณออกมาจากแหวนมิติของเขาและก กินเข้าไป
แน่นอนว่าไม่มีสมบัติสวรรค์ชิ้นไหนที่ไม่เป็นระดับเทพ พวกมันไม่ได้มีประสิทธิ์ภาพโดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย มันสามารถเร่ งการฟื้นฟูได้เล็กน้อย
เกือบหนึ่งวันต่อมาพลังวิญญาณของเจี้ยนเฉินก็ฟื้นฟูสู่สภาพสูงสุดถึงเก้าในสิบส่วน ก่อนที่มันจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ เขารีบเดินทางไปยังทิศทางของหัวหน้าศาลาห้าทันที
เจี้ยนเฉินบินเหนือพื้นดิน 10 เมตร กฎมิติของเขาสั่นสะเทือนรอบ ๆ ตัวของเขา ดังนั้นเขาจึงเคลื่อนที่เร็วมาก มันบินไปในระยะทาง 1,000 กิโลเมตรในแต่ละครั้ง
เห็นได้ชัดว่าเขาพบว่าความเร็วนี้ช้าเล็กน้อยสำหรับคนที่เข้าใจกฏมิติ อย่างไรก็ตามนี่คือแดนทำลายวิญญาณ มันเป็นสถานที่พิเศษที่เศษเสี้ยวจิตสำนึกของสัตว์อสูรอวกาศส่งผลกระทบ ตรง ๆ มันเต็มไปด้วยความอันตราย ดังนั้นเขาจึงต้องเดินทางอย่างระมัดระวัง
คุนเทียนอยู่ห่างออกไปหลายล้านกิโลเมตรก็ค่อยฟื้นสติขึ้นมาบนพื้นดิน เขาลืมตาและมองไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดที่ปกคลุมไปด้วยเมฆสีเทา มีการสั่นไหวในดวงตาของเขา
เขาพบว่าท้องฟ้านั้นทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย
“นี่มันที่ไหน ? ” คุนเทียนค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง เขามองดูรอบ ๆ ด้วยดวงตาที่สับสนของเขาอย่างหนัก
จู่ ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้คือที่ไหน แต่เขารู้สึกคุ้นเคยที่นี่
แต่ไม่นานหลังจากที่เขาพูด คุนเทียนก็รู้สึกตัวและตะโกนออกมาอย่างยินดี เขาตะโกนออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งรอบ ๆ ของเขาอีกต่อไป “ข้าทะลวง ทะลวงแล้วจริง ๆ ! ในที่สุดข้าก็ทะลวง จากชั้นสวรรค์ที่ 5 ไปยังชั้นสวรรค์ที่ 6 อย่างสมบูรณ์แล้ว ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ! ”
คุนเทียนหัวเราะเสียงดัง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นฟ้า เขาดีใจมาจนกระโดดโลดเต้นไปมารอบ ๆ จิตใจของเขาเปี่ยมสุขจนล้นปรี่
แต่ทันใดนั้น เขาก็ดูเหมือนจะตะหนักได้ถึงสิ่งหนึ่ง เขาสงบลงอย่างรวดเร็วและเขาก็เริ่มสับสน”คุนเทียน คุนเทียน คุนเทียนเป็นใคร ? ทำไมข้าถึงเรียกตัวเองว่าคุนเทียน ? ขะ-ข้าคือคุนเทียน ? แต่ทำไมข้าจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ ? ”
“ข้าเป็นใคร ? ข้าชื่ออะไร ? ข้าเป็นใคร ? ข้าเป็นใครกันแน่ ? ทำไมข้าถึงอยู่ที่นี่ ? แล้วที่นี่คือที่ไหน ? ”
“ข้าดูเหมือนจะรู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่ข้าไม่อาจจำมันได้ ? ”
ความสุขของเขาที่ทะลวงไปยังชั้นสวรรค์ที่ 6 ผ่านได้หายไปในพริบตา คุนเทียนนั่งลงบนพื้นด้วยความหดหู่ ขณะที่เขาทุบหัวตัวเองอย่างแรงและครุ่นคิดอย่างหนัก
จู่ ๆ เขาก็ไม่แน่ใจอีกต่อไปว่าเขาเป็นใคร นอกจากที่รู้ว่าเขาทะลวงการบ่มเพาะไปเป็นชั้นสวรรค์ที่ 6 ที่เขาโหยหามานานแล้ว เขาก็ไม่อาจจำอะไรได้อีกแล้ว