เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2741: แทนที่
ตอนที่ 2741: แทนที่
การโจมตีเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นการคุกคามต่อเจี้ยนเฉิน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคุกคาม มันไม่พอจะทำให้เจี้ยนเฉินกระพริบตาด้วยซ้ำ
เขาทำให้การโจมตีของคุนเทียนเป็นโมฆะด้วยการปล่อยเส้นปราณกระบี่ออกมาอย่างไม่เป็นทางการ ทักษะการต่อสู้ระดับเทพที่คุนเทียนใช้ล้มเหลวในการ รสร้างความเสียหายต่อคู่ต่อสู้
คุนเทียนตะลึง เขาเฝ้าดูทั้งหมดนี้ด้วยความไม่เชื่อ
แม้ว่าจะมีหลายสิ่งที่เขาลืมไป เขาก็ได้ตอบสนองด้วยสัญชาตญาณของเขาอย่างสมบูรณ์ เขาไม่ใช่คนโง่เง่า เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกได้ว่าการโจมตีของเข ขาน่าตกใจเพียงใด ทักษะการต่อสู้ระดับเทพที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้จะมีเพียงพลังที่ด้อยค่าเช่นนี้ได้อย่างไร ?
“เป็นไปได้ยังไง ? เป็นไปไม่ได้ที่การโจมตีของข้าจะอ่อนแอขนาดนี้ ทำไมมันถึงรู้สึกว่ามันหมดพลังในตอนท้าย ? ” คุนเทียนพึมพำ เขาสงสัย แม้จะใ ใช้สมองอย่างหนัก แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ถ้าชายที่อยู่ข้างหน้าเขาทำอะไรบางอย่าง อย่างน้อยที่สุดเขาต้องสัมผัสได้ อย่างไรก็ตามเขากลับสัมผัสอะไรไม่ได้เลย
การเคลื่อนไหวของเจี้ยนเฉินหยุดลงชั่วขณะเช่นกัน ผลของ เจตจำนงของสุดยอดวิถีกระบี่กระตุ้นความตื่นเต้นของเขา โดยพื้นฐานแล้วเขามีความสุขอย่างม มากเพราะเขาค้นพบว่าเขาไม่ได้สูญเสียพลังจำนวนมากโดยเฉพาะในการทำให้ทักษะการต่อสู้ระดับเทพเป็นโมฆะ อย่างมากมันจะทำให้เขาเสียพลังบางอย่างใน วิญญาณ
ความเสียหายเช่นนั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่สำคัญสำหรับเขา
“ ข้าไม่เคยคิดมาก่อน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าทักษะการต่อสู้ระดับเทพนั้นเชื่อมโยงกับเจตจำนงของโลกและการเชื่อมต่อจะอ่อนแอขนาดนี้ กระบี่แหลมคมที ควบแน่นจาก เจตจำนงของสุดยอดวิถีกระบี่ของข้าสามารถตัดการเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย”
“แต่ข้าสงสัยว่ามันจะใช้ได้ผลกับทักษะการต่อสู้ระดับเทพประเภทเดียวที่คุนเทียนใช้หรือกับทักษะการต่อสู้ระดับเทพทั้งหมด ถ้ามันสามารถเอาชนะทั กษะการต่อสู้ระดับเทพทั้งหมดได้ในลักษณะเดียวกันนี้ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องกลัวทักษะการต่อสู้ระดับเทพอีกต่อไป เมื่อการต่อสู้ของข้ากับผู้เชี่ยวชาญ ญขอบเขตตั้งต้นของเผ่าดาวทมิฬปะทุขึ้น…”
“อย่างไรก็ตาม โลกดาวทมิฬนั้นแตกต่างจากโลกเซียน โลกใบหนึ่งเป็นโลกใบใหญ่ที่สมบูรณ์สร้างขึ้นตามธรรมชาติ ในขณะที่อีกโลกหนึ่งเป็นโลกใบเล็ก กที่ถูกสร้างขึ้นจากสัตว์อสูรบนดาวเคราะห์ เจตจำนงของสุดยอดวิถีกระบี่ของข้าสามารถทำลายทักษะการต่อสู้ระดับเทพในโลกดาวทมิฬ แต่นั่นไม่ได้ หมายความว่าข้าจะทำแบบเดียวกันในโลกเซียนได้”
“อย่างไรก็ตามมันก็เกินพอแม้ว่ามันจะอยู่ในโลกดาวทมิฬเท่านั้น…” เจี้ยนเฉินคิดอย่างรวดเร็ว เขาวางแผนที่จะหาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเพื่อทดส สอบ
การมีผลกับทักษะการต่อสู้ระดับเทพประเภทเดียวไม่ได้หมายความว่าจะมีผลกับทักษะการต่อสู้ระดับเทพทั้งหมด ท้ายที่สุดทักษะการต่อสู้ระดับเทพก็มีหลา ายประเภท ดังนั้นเขาจึงยังคงต้องทดลอง
“เจ้าใช้กลอุบายอย่างลับ ๆ หรือเปล่า ? ” คุนเทียนจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยความประหลาดใจขณะที่เขาถามด้วยความสงสัย โชคดีที่เขาไม่มีความทรงจำที่สมบูร รณ์ มิฉะนั้นจิตใจของเขาอาจจะปั่นป่วนในตอนนี้
นี่เป็นเพราะผู้บ่มเพาะเกือบทั้งหมดรู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นกับทักษะการต่อสู้ระดับเทพหลังจากที่ใช้มัน เป็นไปไม่ได้ที่มันจะคำ ำรามด้วยพลังในช่วงเวลาหนึ่ง ปราบปรามสิ่งรอบข้างด้วยพลังของโลกก่อนที่จะสูญเสียพลังทั้งหมดในช่วงเวลาถัดไป,มันกลายเป็นการโจมตีที่ธรรมดาที่สุด ด
เห็นได้ชัดว่าคุนเทียนปฏิเสธที่จะเชื่อ พลังงานพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาในขณะที่เขาใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเทพอีกประเภท “ ทักษะราชวงศ์ดาวทมิฬ ฬ—กลับสู่ความว่างเปล่า ! ”
เจี้ยนเฉินต้องการทดสอบว่าสุดยอดวิถีกระบี่ของเขามีผลกับทักษะการต่อสู้ระดับเทพประเภทอื่น ๆ หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงมีความสุขเป็นอย่างยิ่งที่ได้ เห็นคุนเทียนใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเทพแบบที่สอง.
ในฐานะที่เป็นขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 6 เห็นได้ชัดว่าคุนเทียนใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเทพได้รวดเร็วมาก โดยทั่วไปเขาทำมันเสร็จทันที ทันใดนั นพลังแห่งการมีอยู่ก็ท่วมท้นไปรอบ ๆ และทักษะการต่อสู้ระดับเทพอีกชนิดก็ควบแน่น มันบดขยี้เข้าหาเจี้ยนเฉินด้วยพลังเพียงพอที่จะทำลายทุกสิ่ง
ทักษะการต่อสู้ระดับเทพในครั้งนี้มีพลังมากกว่าครั้งล่าสุด แท่นขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในอากาศแผ่ออกไปด้วยแรงกดดันอย่างหนัก ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ใด ด มิติจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ และเกิดความวุ่นวาย
ดวงตาของเจี้ยนเฉินเปล่งประกายอย่างมาก เขารู้สึกกระสับกระส่ายมาสักพักแล้ว ด้วยความกระตือรือร้นและความเร่งด่วนบางอย่าง เขาจึงควบแน่นกระบี่ที่ม มองไม่เห็นอีกครั้งและเฉือนมันลงไป
แท่นที่ควบแน่นจากทักษะการต่อสู้ระดับเทพล้มลงอย่างรวดเร็วมาก แต่ เจตจำนงของสุดยอดวิถีกระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วกว่า หลังจากความรู้สึกที่ คลุมเครือนั้น กระบี่ล่องหนได้ตัดการเชื่อมต่อระหว่างทักษะการต่อสู้ระดับเทพกับโลกอีกครั้ง
ทันใดนั้นทักษะการต่อสู้ระดับเทพที่แผ่ออกมาด้วยพลังแห่งการมีอยู่และพลังทำลายล้างก็ยุบเหมือนลูกโป่ง พลังทั้งหมดหายไปโดยเปลี่ยนทักษะการต่อ อสู้ระดับเทพที่น่าตกใจให้เป็นการโจมตีด้วยพลังงานธรรมดา
“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้…” คราวนี้คุนเทียนพูดไม่ออก เป็นไปได้ว่าความล้มเหลวครั้งแรกของเขาเกิดจากการทำผิดพลาดที่ไหนสักแห่งในระหว่างกระบ บวนการนี้ แต่เขาพยายามมากขึ้นเมื่อลงมือครั้งที่สอง เขาใช้ทุกอย่างที่มี แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน เป็นผลให้เขารู้สึกงุนงงอย่างที่สุดแม้จะใช้สม มองอย่างหนักก็ตาม
นี่เป็นเพราะเขาสามารถบอกได้ว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้ทำอะไรเลย ทักษะการต่อสู้ระดับเทพของเขาพังทลายลงอย่างน่าแปลกประหลาด
ทักษะการต่อสู้ระดับเทพของเขาไม่ใช่สิ่งเดียวที่พังทลาย ดังนั้นเขาจึงมีความมั่นใจ
ท้ายที่สุดแล้วการใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเทพนั้นค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายที่ต้องแลกมาในการใช้ การใช้ทักษะการต่อสู้ระดับเทพ 2 ครั้งและการล้มเหลว ทั้งสองครั้งนั้นมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ซึ่งแม้แต่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 6 ก็ไม่อาจเพิกเฉยได้
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสุข เขาประสบความสำเร็จเป็นครั้งที่สอง เขาประสบความสำเร็จ 2 ครั้งติดต่อกันซึ่งทำให้เขาเชื่อมั่นในควา ามเป็นจริงว่า เจตจำนงของสุดยอดวิถีกระบี่ของเขาสามารถปราบปรามทักษะการต่อสู้ระดับเทพได้
เขาจะไม่เสียเวลาอีกต่อไปหลังจากนี้ เขาโจมตีคุนเทียนทันที
หากไม่มีทักษะการต่อสู้ระดับเทพ ภัยคุกคามของคุนเทียนต่อเจี้ยนเฉินก็ลดลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ถึงจะเป็นอย่างนั้น พลังในการต่อสู้ของเขาก็ยั งคงยอดเยี่ยมมาก เขาใช้วัตถุเทพทั้งสองเข้าร่วมในการต่อสู้ที่มีความรุนแรงสูงกับเจี้ยนเฉินในดินแดนแห่งการทำลายล้างวิญญาณ
เจี้ยนเฉินไม่รีบร้อนที่จะฆ่าคุนเทียน เขาให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับวิธีการต่อสู้ของคุนเทียนรวมถึงแง่มุมบางอย่างที่เขาถนัด อย่างไรก็ตาม เมื่ อการต่อสู้ดำเนินต่อไป เขาก็ค้นพบว่าเจตจำนงสุดยอดวิถีกระบี่ของเขามีผลเฉพาะกับทักษะการต่อสู้ระดับเทพเท่านั้น มันไม่มีประโยชน์กับทักษะลับข ของเผ่าดาวทมิฬเลย
ผ่านไปสักพัก เจี้ยนเฉินและคุนเทียนก็ได้ต่อสู้กันมา 2 ชั่วยามแล้ว พวกเขาข้ามหมื่นกิโลเมตรในระหว่างนี้ ดินแดนแห่งการทำลายล้างวิญญาณปั่นป่วน นไปกับการต่อสู้ของพวกเขา เศษเสี้ยวแห่งจิตใต้สำนึกจากสัตว์อสูรที่สร้างความหายนะให้กับสิ่งรอบข้างวิ่งเข้ามาในหัวของพวกเขาเป็นระยะ ๆ และระดม มยิงวิญญาณของพวกเขา
อ้าก !
ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็ตัวแข็งทื่อ เสียงคำรามที่อึกทึกดังขึ้นในหัวของเขา มันทำให้วิญญาณของเขาสั่นไหวราวกับเปลวเทียนในสายลม
เขาถูกโจมตีด้วยเศษเสี้ยวแห่งจิตใต้สำนึกอีกครั้งและมันทรงพลังกว่าครั้งก่อนมาก มันทำให้จิตใต้สำนึกของเขามึนงงไปชั่วขณะ
ในเวลาเดียวกันเจี้ยนเฉินรู้สึกถึงอันตราย เขาถอยกลับทันทีโดยไม่คิดทบทวน กฎแห่งมิติสั่นไหวรอบตัวเขาและเขาก็ถอยห่างออกไป 100 เมตรทันทีเหมือนห หายตัวไป
โดยพื้นฐานแล้วในช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินหายตัวไป มีเส้นแสงที่ส่องประกายตัดผ่าน มันปัดผ่านหน้าผากของเขา เขารีบหลีกออกจากอันตรายที่ตรงเข้ามา า
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะหลบได้สำเร็จ แต่ปราณกระบี่ที่แหลมคมก็พุ่งเข้าใส่ร่างกายของเขา ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกเข็มแทง หน้ากากบนใบหน้าของเขาแ แตกสลายภายใต้ปราณกระบี่ เผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ค่อนข้างคุ้นเคยและเหมือนจะไม่คุ้นเคย คุนเทียนก็แสดงความสงสัย อย่างไรก็ตามเขายังคงร้องออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า “ดัฟฟ์คือ อเจ้าจริง ๆ ! เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นไปไม่ได้ ! เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นเพียงขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 2 ! จู่ ๆ เจ้าก็มีพลังมากขนาดนี้ได้อย่างไร ? ”
“ยะ- อย่าบอกนะว่าเจ้าซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองมาตลอดหลายปี ? ”
รูปลักษณ์ปัจจุบันของเจี้ยนเฉินไม่ใช่ของเขาเอง แต่มันคือขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 2 ที่เขาเคยเห็นในเมืองหลวงของเมืองอัศวินทมิฬผ่านค่ายกลส ส่งตัวทางไกล
“ดัฟฟ์” ในสายตาของคุนเทียนเริ่มยิ้มอย่างแปลกประหลาดและพูดอย่างมีเลศนัยว่า “หัวหน้าศาลาไม่จำเป็นต้องรู้มากนัก”
ด้วยเหตุนี้ปราณกระบี่ในมือของเจี้ยนเฉินก็แทงเข้าหาคุนเทียนจากระยะไกล เมื่อเขาเริ่มการโจมตี ปราณกระบี่พร้อมกับแขนส่วนหนึ่งของเขาก็หาย ไป ราวกับว่ามันหลอมรวมเข้าในมิติที่นั่น
“ทักษะการจู่โจมไร้ร่องรอย ! ”
คุนเทียนก็สั่นสะท้านก่อนที่จะหน้าซีดทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความไม่เชื่อความสับสนความสงสัยและอื่น ๆ เลือดพุ่งออกมาจากปากพร ร้อมกับชิ้นส่วนอวัยวะของเขา
สิ่งที่เขารู้สึกได้ก็คือเส้นปราณกระบี่ที่ทรงพลังอย่างยิ่งที่ฉีกผ่านการป้องกันของชุดเกราะวัตถุเทพของเขา มันปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในร่า างกายของเขาและปะทุขึ้นตรงนั้น มันทำลายพลังงานสำคัญส่วนใหญ่ของเขาและทำให้เขาบาดเจ็บอย่างหนักในทันที
นั่นไม่ใช่ทั้งหมดปราณกระบี่ที่ปรากฏขึ้นในร่างกายของเขาก็ไหลขึ้นด้านบนหลังจากทำลายอวัยวะของเขา แล้วพุ่งตรงไปที่วิญญาณในหัวของเขา ไม่ว่ าปราณกระบี่จะผ่านไปทางใด ร่างกายของเขาจะถูกโจมตีจนเลือดท่วม
“ไม่ ! ” ในขณะนั้น คุนเทียนผู้ช่ำชองในการต่อสู้ก็เริ่มคลั่ง ไม่สามารถความคุมอารมณ์ได้ เขาแสดงความกลัว เพราะปราณกระบี่นั้นทรงพลังมากและเร ร็วเกินไป เขาระดมพลังทั้งหมดในร่างกายเพื่อขัดขวางมัน แต่ปราณกระบี่ก็แทงทะลุทั้งหมด แม้ว่าเขาต้องการทำอย่างอื่น ปราณกระบี่ก็เร็วเกินไป ป ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำมันได้ทันเวลา
ขณะที่ปราณกระบี่กำลังจะเข้าถึงวิญญาณของคุนเทียน คุนเทียนก็ตัดสินใจโดยไม่มีทางเลือกอื่น เขาทิ้งร่างของเขาทันทีและโผล่ออกมาพร้อมกับวิญญา าณของเขา หลังจากนั้นเขาไม่ได้อยู่เฉย ๆ เขาหนีไปทางเข้าดินแดนแห่งการทำลายล้างวิญญาณอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตอนนี้เขาไม่มีเวลาคิดอะไรเพิ่มเติม ปฏิกิริยาทั้งหมดของเขาเป็นไปตามสัญชาตญาณของเขา
ราวกับว่าในช่วงเวลาเช่นนี้มีเพียงเส้นทางเดียวที่วางอยู่ตรงหน้าเขา นี่เป็นปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณที่ฝังอยู่ในส่วนลึกของวิญญาณของเขา
“ดูสิว่าเจ้าอ่อนแอแค่ไหนหลังจากละทิ้งร่างกายไป” เจี้ยนเฉินถอนหายใจอย่างมีอารมณ์ เนื่องจากคุนเทียนละทิ้งร่างกายของเขา มีแต่ความตายเท่านั้นท ที่รอเขาอยู่ แม้ว่าจักรพรรดิดาวทมิฬจะอยู่ที่นี่ แต่ก็จะไม่สามารถช่วยเขาได้
ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิดาวทมิฬ แม้ว่าจะมีขั้นอัครสูงสุดที่นี่ แต่ความตายก็รอคุนเทียนอยู่ ตราบใดที่วิญญาณของเขาไม่ได้รับการปกป้องจากพลัง
“ทำลาย” เจี้ยนเฉืนกล่าวเบา ๆ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่วิญญาณของคุนเทียนที่หนีไปแล้วหลายสิบกิโลเมตรส่งเสียงร้องอย่างน่าสังเวชก่อนท ที่จะจางหายไป
เจตจำนงของสุดยอดวิถีกระบี่ของเจี้ยนเฉินจะครอบคลุมพื้นที่ 100,000 กิโลเมตร ในช่วงรัศมีนั้น เขาสามารถควบคุมโลกราวกับว่าเขาเป็นผู้ปกครองที่แท ท้จริงที่นั่น ด้วยความคิดเพียงครั้งเดียว เขาสามารถกำหนดชะตากรรมของราชาเทพจำนวนนับไม่ถ้วนได้
นั่นเป็นเพราะราชาเทพไม่สามารถต่อต้านเจตจำนงของสุดยอดวิถีกระบี่ของเจี้ยนเฉินได้
หากร่างกายของคุนเทียนยังคงอยู่ เจี้ยนเฉินก็ไม่สามารถใช้เจตจำนงสุดยอดวิถีกระบี่ทำอะไรกับเขาได้ อย่างไรก็ตาม เขาอ่อนแอมากในฐานะวิญญาณ ราช ชาเทพทั่วไปสามารถทำลายวิญญาณของเขาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงเพียงแค่ควบแน่นปราณกระบี่หนึ่งเส้นจากอากาศด้วยพลังของสุดยอดวิถีกระบ บี่เพื่อสังหารเขาอย่างเรียบง่าย
“แม้ว่าเจ้าจะตาย ข้าจะทำให้เจ้าตายด้วยความสับสน” เจี้ยนเฉินสัมผัสใบหน้าของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเขาปลอมตัวเป็นดัฟฟ์โดยเจตนาเพื่อฆ่าคุนเทียน เขายังไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับวิธีการของเผ่าดาวทมิฬ ดังนั้นในกรณีนี้เขาจึงต้องใช้ความระมัดระวัง
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็มาถึงข้างหน้าศพของคุนเทียน เขาถอดชุดเกราะและกระบี่ออกโดยไม่ลังเลเลย เห็นได้ชัดว่าแหวนมิติของคุนเทียนจบลงที่น นิ้วของเจี้ยนเฉินเช่นกัน
เจี้ยนเฉินศึกษารูปลักษณ์และความสูงของคุนเทียนอย่างรอบคอบ หลังจากนั้นรูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเขาก็ปลอมต ตัวกลายเป็นคุนเทียน
ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ของเขา แม้แต่ความสูงของเขาก็ยังเหมือนเดิม เขาดูเหมือนคุนเทียนที่ยังมีชีวิตโดยไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่น้อย
หลังจากทำลายศพและร่องรอยการต่อสู้ เจี้ยนเฉินก็นั่งลงเพื่อตรวจสอบชุดเกราะและกระบี่
เขารู้ว่าวัตถุเทพทั้งสองนี้โดยพื้นฐานแล้วเป็นสัญลักษณ์ของคุนเทียน ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องเข้าใจมัน