เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2744: ข่าว
ตอนที่ 2744: ข่าว
กงรุ่ยซึ่งถูกหมัดจากจินหงลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก เขาเช็ดเลือดออกจากมุมปากและคำรามใส่จินหงอย่างโกรธเกรี้ยว “จินหง หยุดโง่เง่าซะที * ! ! ใครบอกว่าเราต้องการทำลายเศษเสี้ยวแห่งพลังจากวิญญาณของหยางยู่เทียน ? เราแค่ต้องการยืนยันว่าหยางยู่เทียนเสียชีวิตในห้วงลึกของภูเขาโลกา าแฝดแล้วหรือไม่ ? จู่ ๆ เจ้ากลับทำให้ข้าบาดเจ็บ เจ้าคิดว่าจะเหยียบย่ำตระกูลกงของเราได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นเลยหรือ ? ”
เมื่อไปถึงที่นั่น พลังแห่งการมีอยู่ของกงรุ่ยก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นเขาก็มองไปข้างหลังเขาและตะโกนออกมาว่า “ทหารพลีชีพที่ภักดี ต่อตระกูลกง ของเราอยู่ที่ไหน ? ”
หลังจากนั้นพลังแห่งการมีอยู่ของราชาเทพหลายร้อยคนก็ปะทุขึ้นทันทีจากด้านหลัง ทหารพลีชีพของตระกูลกงทุกคนลุกขึ้นมารวมตัวกันที่ด้านหลังกงร รุ่ย
ทหารพลีชีพหลายร้อยคนเหล่านี้เป็นที่มาของความมั่นใจอันยิ่งใหญ่ของกงรุ่ยเพราะพวกเขาเข้าใจค่ายกลทั้งหมดที่ตระกูลกงได้ส่งต่อมาถึงพวกเขา ค่า ายกลที่ประกอบด้วยทหารพลีชีพหลายร้อยคนสามารถต่อสู้กับขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 1 ได้
“จินหง ข้าถูกตระกูลส่งเข้ามาสู่โลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น ดังนั้นข้าจึงเป็นตัวแทนตระกูลกงของเรา เจ้าทำร้ายข้าโดยประมาทและทำให้ข้าบาดเจ็ บด้วย เจ้าได้ยั่วยุศักดิ์ศรีของตระกูลกงของเราอย่างรุนแรง ข้าสามารถเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าเจ้ายังคงขวางทางข้าอยู่ เจ้าจะมาโทษข้า ว่ามองข้ามภาพรวมที่ใหญ่กว่าไม่ได้” กงรุ่ยพูดอย่างเย็นชา ตอนนี้เขาออกมาจากภูเขาโลกาแฝด เขาก็ปลอดภัย เขาไม่เชื่อว่าเขาต้องการความช่วยเหล ลือจากใครอีกต่อไป ดังนั้นความมั่นใจของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าตัวตนของจินหงในฐานะผู้สืบทอดของจอมปราชญ์สูงสุดจะทำให้เขาได้รับความเคารพอย่างสูง แต่เขาก็ยังไม่เติบโตไปถึงจุดที่ตระกูลกงต้องให้คว วามสำคัญกับเขาอย่างจริงจัง ถ้าจินหงไม่ได้ตั้งใจเข้ามาขวางเขา มันก็เห็นได้ชัดว่าจินหงจะได้รับความนับถือ แต่ตอนนี้จินหงทำร้ายกงรุ่ย เขาจะ ะไม่นิ่งเฉยต่อความอัปยศอดสูอีกต่อไป
จินหงไม่ได้โกรธเคืองกับความหยิ่งผยองของกงรุ่ย สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลงเลย แต่รัศมีของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น เขาพูดอย่างเมินเฉย “มองข้ามภ ภาพรวมที่ใหญ่กว่าหรือ ? กงรุ่ย ข้าไม่ได้ข่มขู่เจ้า ข้าแค่อยากจะบอกให้เจ้าเข้าใจอย่างชัดเจนว่าถ้าเจ้าลืมภาพรวมที่ใหญ่กว่าและทำลายทุกอย่าง ของพวกเราทุกคนเพราะเรื่องส่วนตัวของเจ้า ข้า จินหง จะปลิดชีวิตของเจ้าด้วยตัวเองโดยไม่ลังเลเลย” จินหงเป็นคนตรงไปตรงมา เขาไม่อ้อมค้อมและพูดด้ วยความแน่วแน่ เขามีรัศมีของผู้มีอำนาจ
ด้วยเหตุนี้ สีหน้าของกงรุ่ยไม่เพียงแต่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แต่สีหน้าของอัจฉริยะเกินครึ่งก็ตกตะลึงเช่นกัน
ในช่วงสองสามเดือนที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ทุกคนเข้าใจจินหงมากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักนิสัยของจินหงเป็นอย่างดี พวกเขารู้ว่าจินหงไม่ใช่คน นขี้โม้และเขาจะจริงจังกับทุกสิ่งที่เขาพูด โดยพื้นฐานแล้วทุกคำพูดที่ออกจากปากของเขาคือเรื่องจริง
เนื่องจากเขาบอกว่าเขาจะฆ่ากงรุ่ย นั่นหมายความว่าเขามีความตั้งใจจริงที่จะทำเช่นนั้น เขาไม่ได้แค่พยายามเขย่าขวัญ
ปิงยี่เชิงจากนิกายกระบี่จักรพรรดิบงกชกล่าวเช่นกันว่า “กงรุ่ย อย่าลืมเกี่ยวกับตัวตนของตัวเอง ถ้าข้าจำไม่ผิด บุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสาขาขอ องตระกูลของเจ้าขึ้นอยู่กับคือผู้อาวุโสสูงสุด ซึ่งเขาเป็นขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 8 ใครจะรู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดมีผู้สืบเชื้อสายจากเขานับไม่ถ้ วนซึ่งรวมถึงเจ้า ส่วนที่น่าตลกคือแม้แต่บรรพชนของสาขาของเจ้าก็ไม่สามารถเป็นตัวแทนของตระกูลกง ได้ แล้วเจ้ามีสิทธิอะไร ? ”
ปิงยี่เชิงหยุดชั่วคราวก่อนจะพูดต่อว่า “สิ่งที่ข้าพูดอาจจะไม่รื่นหู แม้ว่าข้าจะฆ่าเจ้าที่นี่ บรรพชนของเจ้าจะทำอะไรกับข้ารึ ? เขาควรจะฆ่าข้า เพื่อแก้แค้นหรือ ? ”
สีหน้าของกงรุ่ยมืดลง เขาจ้องปิงยี่เชิงอย่างเย็นชา แต่นั่นคือทั้งหมดที่เขาทำได้ เขาไม่สามารถแย้งได้
ในแง่ของสถานะ เขามีระดับที่ต่ำกว่าปิงยี่เชิง อย่างแน่นอน เพราะบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสาขาของเขาเป็นเพียงผู้อาวุโสสูงสุดเช่นเดียวกับที่ปิ งยี่เชิงได้กล่าวไว้ ในตระกูลกง ผู้อาวุโสสูงสุดยังคงต้องปฏิบัติตามการเตรียมการของบรรพชนขั้นอัครสูงสุดของพวกเขา
สำหรับปิงยี่เชิง เขาเป็นศิษย์โดยตรงของผู้นำนิกายกระบี่จักรพรรดิบงกชคนปัจจุบัน ผู้นำของนิกายกระบี่จักรพรรดิบงกชอาจไม่ได้มีอำนาจมากเป็นพิเศษ ษ แต่หัวหน้าของเขาเป็นบรรพชนขั้นอัครสูงสุดของนิกาย กระบี่จักรพรรดิบงกช
บรรพชนที่อยู่เบื้องหลังกงรุ่ยเป็นผู้อาวุโสสูงสุดขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 8 ในขณะที่ปรมาจารย์ของปิงยี่เชิงคือขั้นอัครสูงสุด ไม่มีประเด็นในกา ารเปรียบเทียบสถานะ
“จริงอยู่ที่กงรุ่ยเพียงคนเดียวไม่สามารถทำให้เจ้าหวาดกลัว แต่ถ้ารวมพวกเราล่ะ ? ” จากนั้นคงเฟยหยิน, ฉู่เจี๋ย, โจวจื้อ และเส้าเหวินปิน ต่างก ก็เดินไปยืนเรียงแถวกับกงรุ่ย
อัจฉริยะกว่าครึ่งหนึ่งในปัจจุบันเฝ้าดูราวกับว่าทั้งหมดเป็นเพียงการแสดง ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับกงรุ่ย และความคับข้องใจส่วนตัวของคนอื่น ๆ ที่มี ต่อหยางยู่เทียน ตลอดจนการปฏิบัติต่อจินหง. พวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่ง
เป็นผลให้พวกเขาทั้งห้ารวมตัวกันเป็นกลุ่ม เมื่อรวมกับทหารพลีชีพราชาเทพซึ่งอยู่เบื้องหลังพวกเขา มันจึงกลายเป็นกองกำลังขนาดใหญ่
จินหงยังคงไม่สะทกสะท้าน เขามองผ่านฉู่เจี๋ย, กงรุ่ย, คงเฟยหยิน, เส้าเหวินปินและโจวจื้อ การจ้องมองของเขาที่ยังคงเฉยเมยอยู่ตลอดเวลาแต่ตอ อนนี้ส่องประกายด้วยความเย็นเยือก
“เหอเฉียนเฉียน ทำไมเจ้าไม่มอบโถงศักดิ์สิทธิ์ให้ข้าถือในตอนนี้ล่ะ ? ข้าอยากเห็นว่าใครกล้าพอที่จะแย่งของจากข้าไป” ทันใดนั้นจินหงก็พูดกับ เหอเฉียนเฉียน เสียงของเขาค่อนข้างฉุนเฉียว
เห็นได้ชัดว่าเหอเฉียนเฉียนไม่ได้ปฏิเสธเขา นางตกลงที่จะมอบโถงศักดิ์สิทธิ์ให้เขา เพราะถ้าโถงศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ในมือของนาง นางจะเสียเปรียบแ และทั้งห้าคนจะเอาชนะนางได้อย่างง่ายดายหากพวกเขายืนกรานที่จะเอามันไปจากนาง
น้ำเสียงของจินหงทำให้เหอเฉียนเฉียนเข้าใจว่าเขาโกรธ จินหงที่ดูสบายใจตลอดเวลาแสดงท่าทีหมดอารมณ์เป็นครั้งแรก
“ไม่นะ ! ไม่นะ ! มีข่าวร้าย ! ” ในขณะนี้เสียงคลั่งดังขึ้น ทหารพลีชีพคนหนึ่งที่ถูกส่งไปรวบรวมข่าวกลับมา ทันทีที่เขาเห็นจินหงและคนอื่น ๆ เ เขาก็รายงานทันทีว่า “มีข่าวร้าย เผ่าดาวทมิฬได้ยึดครองเมืองร้อยเซียนอย่างสมบูรณ์ ตัวแทนของตระกูลของเราที่ประจำการอยู่ในเมืองร้อยเซียนถู กสังหาร”
ข่าวดังกล่าวเป็นเหมือนวัตถุระเบิดที่เขย่าหัวใจของทุกคน สีหน้าของอัจฉริยะทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างมาก
แม้ว่าพวกเขาจะรู้แล้วว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเมืองร้อยเซียน แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะย่ำแย่ขนาดนี้ เมืองร้อยเซียนถูกครอบครองโดยเผ่ าดาวทมิฬ ผู้คนขากตระกูลของพวกเขาที่ประจำการอยู่ที่นั่นถูกสังหารทั้งหมดหรือ ? เผ่าดาวทมิฬวางแผนที่จะประกาศสงครามกับพวกเขาหรือ ?
“นั่นเป็นไปไม่ได้ เราไม่มีเรื่องบาดหมางใด ๆ กับเผ่าดาวทมิฬ ทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนั้น ? ”
อัจฉริยะหลายคนเริ่มตกตะลึง พวกเขารู้สึกลำบากใจในการยอมรับความเป็นจริง แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมใจไว้ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าสถานการณ์จะรุนแรงขนาดนี้
ข่าวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันรบกวนจิตใจของทุกคน ในขณะนั้นไม่มีใครสนใจหยางยู่เทียนอีกต่อไป มีเพียงข้อความเดียวที่ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา า เมืองร้อยเซียนถูกเผ่าดาวทมิฬยึดครอง