เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2747: สวนสมุนไพร
ตอนที่ 2747: สวนสมุนไพร
“คุนเทียน เจ้าลืมข้าไปแล้วหรือ ? ลองคิดดูให้ดี พยายามอีกครั้ง” หัวหน้าศาลาสิบ เฟิงสือ กล่าวอย่างเศร้าโศก นางทำใจไม่ได้ที่จะเชื่อว่าคุนเทียนเพิ่งสูญเสียความทรงจำ
นี่เป็นเพราะนี่คือโลกดาวทมิฬ โลกดาวทมิฬไม่ใช่โลกที่สมบูรณ์ มันเป็นเพียงโลกขนาดเล็กที่ก่อตัวขึ้นภายในสัตว์อสูรอวกาศ ทรัพยากรการบ่มเพาะที่หลากหลายที่มันสามารถผลิตได้นั นไม่ได้อุดมสมบูรณ์เท่ากับโลกเซียน ตามความเป็นจริง เนื่องจากสภาพแวดล้อม สมบัติสวรรค์พิเศษบางอย่างไม่สามารถเติบโตได้ในโลกดาวทมิฬ
โลกดาวทมิฬขาดแคลนสมบัติสวรรค์ที่มีอิทธิพลต่อวิญญาณ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะผลิตสมบัติสวรรค์เช่นนั้น พวกเขาต้องพึ่งพาบุคคลภายนอกเท่าในการนำสมบัติสวรรค์เข้ามา
อย่างไรก็ตาม ระดับของสมบัติสวรรค์ทั้งหมดที่ถูกนำเข้ามาจากภายนอกจะถูกจำกัดอย่างมาก
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น สมบัติสวรรค์ปกติไม่เพียงพอสำหรับคุนเทียน เห็นได้ชัดว่าเฟิงสือกังวลอย่างมากว่าคุนเทียนจะฟื้นตัวได้อย่างไร
หลังจากนั้นหัวหน้าศาลาสอง อาร์นา, หัวหน้าศาลาสิบ เฟิงสือ และรองหัวหน้าศาลา 3 คนของคุนเทียนต่างพยายามใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูความทรงจำของคุนเทียน แต่ผลลัพธ์ก็ทำให้พวก กเขาผิดหวัง
พวกเขาพบว่าความทรงจำของคุนเทียนถูกลบล้างออก นอกเหนือจากการจดจำแดนทำลายวิญญาณได้แล้ว เขายังลืมทุกสิ่งทุกอย่างอย่างแท้จริง เขาลืมแม้กระทั่งสิ่งที่เขาเคยยึดมั่นในอดีต
ผู้คนในศาลาเทพต่างถอนหายใจเมื่อเห็นภาพนี้ เดิมทีหัวหน้าศาลาสองและหัวหน้าศาลาสิบต้องการแสดงความยินดีกับคุนเทียนอย่างเหมาะสมกับการตัดผ่านที่ประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้พวกเขา าต้องเลิกความคิดนั้น
หัวหน้าศาลาสองและหัวหน้าศาลาสิบไม่ได้อยู่นาน พวกเขาจากไปหลังจากนั้น
เมื่อพวกเขาจากไป มีเพียง ปิงหยวน, ทารอท และโตววูจิน เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในโถงใหญ่ของศาลาเทพที่ห้า
เจี้ยนเฉินที่ปลอมตัวเป็นคุนเทียนลดศีรษะลงและจมลงในความคิด ในขณะที่ปิงหยวน, ทารอท และโตววูจินยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรในตอนนี้ หัวหน้าศ ศาลาของพวกเขาไม่สามารถจำอะไรในอดีตได้เลย
“พวกเจ้าทั้งสามคนเคยเป็นลูกน้องของข้าหรือเปล่า ? ” เจี้ยนเฉินจบลงด้วยการเป็นคนทำลายความเงียบ เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำเหมือนว่าเขาไม่รู้และไม่เข้าใจอะไรเลยขณะที่เขาถา ามทั้งสามคน
“ขอรับหัวหน้าศาลา ! ” โตววูจินตอบ ภายในเผ่าดาวทมิฬ รองหัวหน้าศาลาทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าศาลา ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
“หัวหน้าศาลารึ ? หัวหน้าศาลานี้เกี่ยวกับอะไร ? ช่วยบอกเรื่องราวในอดีตให้ข้าฟังหน่อย ข้าจำอะไรไม่ได้เลย…” เจี้ยนเฉินพูดด้วยสีหน้าทุกข์ใจ
ปิงหยวน, ทารอท และ โตววูจิน มองหน้ากัน ก่อนที่จะร่วมใจกันพูดแทรก พวกเขาเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับอดีตของคุนเทียน พวกเขาใช้เวลานานมาก โดยทั่วไปพวกเขาสาธยายทุกสิ่งที่พวกเขารู เกี่ยวกับคุนเทียนไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ให้เจี้ยนเฉินฟัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาจะลงรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมมากเมื่อนึกถึงเรื่องที่พวกเขาเชื่อว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับคุนเทียน พวกเขาพยายามใช้เรื่องสำคัญเหล่านี้กระตุ้นความคิดของหัว วหน้าศาลาเพื่อปลุกความทรงจำที่หายไป
อย่างไรก็ตามความพยายามของพวกเขาจะไร้ผลอย่างแน่นอน
เจี้ยนเฉินสามารถรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากจากพวกเขา ส่วนหนึ่งรวมถึงข้อมูลที่ว่านอกเหนือจากศาลาเทพที่เจ็ดแล้ว ศาลาเทพที่สี่ก็ไม่เป็นมิตรกับศาลาเทพที่ห้าของพวกเขาด้ว วยเช่นกัน
นอกจากนี้เขายังสามารถสรุปได้จากรายละเอียดเล็กน้อยว่าหัวหน้าศาลาสิบ เฟิงสือ นั้นมีความสัมพันธ์พิเศษเป็นมากกว่าเพื่อนกับคุนเทียนหัวหน้าศาลาห้า
แน่นอนว่าเจี้ยนเฉินไม่ใช่คุนเทียน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของคุนเทียนและเฟิงสือว่า เป็นอย่างไรหรือถึงระดับใด
นอกเหนือจากนั้น เขายังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของแดนขุมทรัพย์ภายในเผ่าดาวทมิฬ ซึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเท่านั้นที่รู้
แดนขุมทรัพย์นี้เป็นสถานที่ปลูกสมบัติสวรรค์หรือที่รู้จักกันในโลกภายนอกว่าเป็นสวนสมุนไพร
เผ่าดาวทมิฬถือว่าสวนสมุนไพรว่าเป็นทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา แม้แต่จักรพรรดิดาวทมิฬเองก็มีส่วนร่วมในการสร้างสวนสมุนไพรด้วยตัวเอง โดยใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลในสร้าง ค่ายกลป้องกันที่ทรงพลังอย่างยิ่งในเขตชานเมืองอันห่างไกล
“แล้วเลือดนี่เกี่ยวกับอะไร ? ข้ารู้สึกว่านี่ไม่ใช่เลือดที่เผ่าพันธุ์ของเราครอบครอง” เจี้ยนเฉินพลิกมือ เขาหยิบแก่นเลือด 15 หยดออกมาจากแหวนมิติของคุนเทียน
เจี้ยนเฉินปล่อยจิตสังหารอันหนักหน่วงและความโกรธที่รุนแรงไหลผ่านตัวเขาด้วยพลังแห่งการมีอยู่ของแก่นเลือด อย่างไรก็ตาม เขาซ่อนมันไว้อย่างดี มันจึงไม่มีสิ่งใดปรากฏบนพื้นผิว
เพียงแค่หัวหน้าศาลาเช่นคุนเทียนมีแก่นเลือด 15 หยด เผ่าดาวทมิฬมีทั้งหมด 10 ศาลา มันชัดเจนมากว่าหัวหน้าศาลาอีก 9 คนจะต้องมีแก่นเลือดของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเช่นกัน
ตามความเป็นจริงจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีแก่นเลือดมากมาย ตอนนี้เขาสูญเสียไปมาก เจี้ยนเฉินเริ่มกังวลเรื่องความปลอดภัยของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ เลือด 12 หยดจาก 15 หยดที่คุนเทียนมีก็ได้รับการกลั่นอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาไม่สามารถสัมผัสถึงพลังแห่งการมีอยู่ของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ในแก่นเลือดได้อีกต่อไป มันมีเพียงพลังแห่งการมีอยู่ที่หนักหน่วงของเผ่าดาวทมิฬ
ราวกับว่าแก่นเลือดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกดาวทมิฬไปแล้วโดยได้รับการประทับจากเผ่าดาวทมิฬ
“หัวหน้าศาลา มันเป็นแก่นเลือดของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิได้ดำเนินการเป็นการส่วนตัวในอดีต เขาจับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามาจากภายนอก จักรพรรดิเคยกล่าวไว้ว่าพลังของสายเล ลือดของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นั้นยิ่งใหญ่มาก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อพิธีแห่งเผ่าพันธุ์ของเรา … ”
รองหัวหน้าศาลาทั้งสามบอกเขาทุกอย่างที่พวกเขารู้และตอบทุกคำถามของเจี้ยนเฉินโดยละเอียด เมื่อพวกเขารู้สึกว่าเจี้ยนเฉินสับสนในส่วนใดส่วนหนึ่ง พวกเขาจะอธิบายให้เขาฟังโดยอัตโนมั ติก่อนที่เขาจะถามเกี่ยวกับเรื่องนั้นเสียอีก
นี่เป็นเพราะพวกเขาทั้งสามคนเชื่ออย่างสุดซึ้งว่าเขาคือคุนเทียนโดยไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเขาเลย พวกเขาไม่ได้คิดสงสัยว่าเขาเป็นตัวปลอม
นั่นเป็นเพราะหัวหน้าศาลาที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น ตามหลักการด้วยความแข็งแกร่งที่เขาครอบครอง ข้อบ่งชี้ต่าง ๆ ล้วนบ่งบอกว่าเขาคือคุนเทียนที่เพิ่งตัด ดผ่านไปถึงชั้นสวรรค์ที่ 6
ภายในเผ่าดาวทมิฬ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นมีไม่มาก พวกเขาคุ้นเคยกับทุกคน บวกกับความจริงที่ว่ามีเพียงกลุ่มเดียวที่สามารถเข้าถึงชั้นสวรรค์ที่ 6 ได้ก็คือหัวหน้าศาลา ด้วยเหตุ นี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีตัวปลอมแอบอ้างขึ้นมา
สำหรับเขาที่เป็นคนนอก พวกเขาไม่เคยคิดแบบนั้นแม้แต่ในจินตนาการ
“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ? ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจี้ยนเฉินก็ดูเหมือนจะสนใจทันที แต่เขาก็ทำเหมือนว่าเขาไม่รู้อะไรเลย หลังจากที่ได้เรียนรู้อย่างละเอียดแล้วว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เป็น นอย่างไรจากรองหัวหน้าศาลาทั้งสาม ในที่สุดเขาก็ถามว่า “สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ถูกขังอยู่ที่ไหน ? ข้าเองก็อยากเห็นมันด้วยตาตัวเอง”
รองหัวหน้าศาลาทั้งสามคนยิ้มอย่างขมขื่นกับสิ่งนั้น โตววูจินกล่าวว่า “หัวหน้าศาลา สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ถูกจักรพรรดิขังเป็นการส่วนตัว ซึ่งขณะนี้จักรพรรดิทำการบ่มเพาะอยู่เช่นกัน ดั งนั้นเราอาจไม่สามารถตอบสนองคำขอของท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเองเคยเห็นสัตว์อสูรตัวนี้มาก่อนในอดีต ไม่มีอะไรให้ดูมากนัก มันเป็นเพียงสัตว์อสูรที่มีสายเลือดที่แข็งแกร่ง งกว่าเล็กน้อยและมีพละกำลังที่น่าสมเพชแค่นั้นเอง”
“และจักรพรรดิได้ระบายแก่นเลือดที่สำคัญออกมากเกินไปจากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นตอนนี้มันจึงอยู่ในช่วงลมหายใจสุดท้าย มันมีชีวิตอยู่ได้เนื่องจากสมบัติสวรรค์บางอย่าง สัตว์ศักด ดิ์สิทธิ์คงอยู่ได้จนถึงวันทำพิธี จักรพรรดิคงไม่ยอมปล่อยมันออกมาง่าย ๆ ”
เจี้ยนเฉินรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยกับสิ่งนั้น ความกังวลที่สุดของเขาคือ จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์จะตายก่อนที่เขาจะช่วยได้ทัน
แต่ดูเหมือนตอนนี้จะไม่มีภัยคุกคามต่อชีวิตของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อยก็จนถึงวันพิธีใหญ่ แม้ว่าเขาจะสูญเสียเลือดแก่นเลือดไปมากก็ตาม
ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตอยู่ ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงแค่ไหน เขาก็สามารถฟื้นตัวจากอาการเหล่านี้ได้
ในขณะนี้สีหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไป เพราะเขารู้สึกได้ว่าตราประทับ สั่นอย่างรุนแรงในแหวนมิติของคุนเทียนและมันก็ส่องแสงจ้า
ในขณะเดียวกัน สีหน้าของปิงหยวน, ทารอท และโตววูจิน ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ตราประทับที่คล้ายกันปรากฏขึ้นในมือของพวกเขา ทุกชิ้นสั่นและส่องแสงเช่นกัน
“มันเป็นคำเตือนจากค่ายกล มีบางอย่างเกิดขึ้นใกล้กับสวนสมุนไพร จากระดับการเตือน ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเหมือนอย่างเคย” รองหัวหน้าศาลาทั้งสามคนต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป โตวว วูจิน ประสานกำปั้นไปทางเจี้ยนเฉินทันที “หัวหน้าศาลา มีบางอย่างเกิดขึ้นใกล้กับสวนสมุนไพร เราต้องรีบดำเนินการทันที”
“งั้นไปกันเลย”
เจี้ยนเฉินออกจากศาลาเทพที่ห้าโดยไม่ลังเลใจพร้อมกับรองหัวหน้าศาลาทั้งสาม เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับสวนสมุนไพรจากรองหัวหน้าศาลาทั้งสาม มันเป็นสิ่งที่เผ่าดาวทมิฬมองว่าเป็นสมบัติล้ ำค่าที่สุดของพวกเขา มันตรงกับความต้องการพอดิบพอดี เขาก็อยากตรวจสอบดูเช่นกัน
เมื่อเจี้ยนเฉินโผล่ออกมาจากศาลาเทพที่ห้า เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองศาลาเทพอีก 9 ศาลา เขาค้นพบว่าไม่ใช่แค่ศาลาเทพที่ห้าของพวกเขาเท่านั้น แต่หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศา าลาของศาลาเทพอื่น ๆ อีก 9 ศาลาก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดเดินไปยังค่ายกลส่งตัวทางไกลที่ตั้งอยู่ที่จัตุรัสหน้าศาลาเทพของพวกเขา
ศาลาเทพทั้งสิบมีค่ายกลส่งตัวทางไกลเป็นของตัวเอง