เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2754: เท่าเทียมกัน
ตอนที่ 2754: เท่าเทียมกัน
ค่ายกลของเมืองร้อยเซียนนั้นแตกต่างจากค่ายกลปกติ เนื่องจากมีข้อ จำกัดที่สุดขีดซึ่งมันขึ้นอยู่กับสิ่งที่สามารถนำเข้าสู่โลกดาวทมิฬได้ อย่างมากที่สุดวัตถุเซียนสามารถอยู่ใน นระดับสูงสุด สมบัติสวรรค์และทรัพยากรต่าง ๆ มากมายได้รับความเดือดร้อนจากข้อจำกัดเดียวกันเช่นกัน
เป็นผลให้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องใช้วิธีการพิเศษเพื่อสร้างค่ายกลขนาดมหึมาที่สามารถป้องกันการโจมตีของขอบเขตตั้งต้นภายใต้ข้อจำกัดเหล่านี้ นอกจากนี้ยังนำไปสู่การสร้างค่ายกลที ประกอบด้วยวัตถุเซียนคุณภาพเยี่ยมต่าง ๆ และค่ายกลขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนภายใต้ความช่วยเหลือของ ปรมาจารย์ค่ายกลและปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่ยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของโลกเซียน อย่าง งไรก็ตาม มันจะซับซ้อนกว่ามากในการเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์เมื่อเทียบกับค่ายกลในโลกภายนอก
สิ่งที่เรียกว่าจุดสำคัญของค่ายกลเหล่านี้เป็นเหมือนกุญแจสำคัญในการกระตุ้นค่ายกลมากกว่าสิ่งอื่นใด ค่ายกลจะถูกเปิดใช้งานโดยใช้กุญแจเหล่านี้พร้อมกับทักษะที่เกี่ยวข้อง ตอนนี กุญแจถูกปิดผนึกโดยผู้เชี่ยวชาญของเผ่าดาวทมิฬ เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดใช้งานค่ายกลที่ปกป้องเมือง
มันส่งผลให้บรรดาผู้นำขององค์กรต่าง ๆ ที่เพิ่งคลายความกังวลเริ่มกลับมาเคร่งเครียดอีกครั้งหลังจากได้รับข่าว
พวกเขานำทหารพลีชีพจำนวนมากมาด้วย ซึ่งเมื่อรวมตัวกันในค่ายกลจะเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นหลายสิบคน แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเหล่านี้มีเพียงพลังงานเท่านั้น ไม่ใช่ก กฎของขอบเขตตั้งต้น พวกเขายังคงแตกต่างจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นอยู่วันยังค่ำ พลังเช่นนี้เพียงพอที่จะจัดการกับผู้เชี่ยวชาญระดับชั้นสวรรค์ที่ 1 หรือชั้นสวรรค์ที่ 2 พวกเขาใช้ ประโยชน์จากจำนวนคนที่มากกว่า
อย่างไรก็ตามหากพวกเขาพบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่แข็งแกร่งกว่าของเผ่าดาวทมิฬ พวกเขาก็จะพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
ด้วยเหตุนี้ เมืองร้อยเซียนจึงเป็นสิ่งที่พวกเขาพึ่งพามากที่สุดในการต่อต้านเผ่าดาวทมิฬ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางสุดท้ายของการหลบหนี
“ค่ายกลส่งตัวทางไกลที่เชื่อมต่อกับทางเข้าในภูเขาโลกาแฝดถูกเผ่าดาวทมิฬปิดผนึกเช่นกัน…”
ข่าวอีกชิ้นมาถึง ซึ่งทำให้ทุกคนใจสั่นไปกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามพวกเขาตอบสนองอย่างรวดเร็วมาก องค์กรหลายสิบแห่งแยกตัวออกไปทันที พวกเขามุ่งหน้าไปยังจุดสำคัญหลายสิบจุดพร้อมด้วยทหารพลีชีพซึ่งเป็นราชาเทพของพวกเขา พวกเขาสั่งให้รา าชาเทพเข้าสู่ค่ายกลและปลดปล่อยพลังของขอบเขตตั้งต้นเพื่อโจมตีค่ายกลที่เผ่าดาวทมิฬติดตั้งไว้
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังสนั่นผ่านเมืองร้อยเซียน ความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นหลายสิบคนปะทุขึ้นภายใน ก่อให้เกิดพายุพลังงานทำลายล้างที่สั่นสะเทือนไปทั่วเมือง พื้นดินส สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม เมืองนี้มีความแข็งแรงมาก ดังนั้นมันจึงต้องทนต่อการกักเก็บพลังงาน วัตถุเซียนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ประกอบเมืองขึ้นมาสว่างโชติช่วงขึ้น ภายใต้ค่ายกลที่ลึกซึ้ง วัตถุเซ ซียนเหล่านี้เชื่อมต่อกัน กลายเป็นร่างกายที่ไร้ที่ติและเชื่อมโยงพลังงานเข้าด้วยกัน กระจายความเสียหายไปทั่วโครงสร้างทั้งหมด
“เร็วเข้า ทุกคนปลดปล่อยพลังออกมาให้เต็มที่ ในช่วงเวลาเช่นนี้ เราไม่สามารถยั้งมือได้อีก เราต้องเปิดค่ายกลในเมืองร้อยเซียนก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่แข็งแกร่งกว่า ของเผ่าดาวทมิฬจะมาถึง…”
อัจฉริยะหลายคนตะโกนอย่างกระวนกระวายเมื่อพวกเขาโจมตีค่ายกล พวกเขาจะฟาดฟันอย่างเต็มกำลังขณะที่พวกเขากระตุ้นคนอื่น ๆ
นี่เป็นเพราะพวกเขาทุกคนเข้าใจว่ามีเพียงเส้นบาง ๆ แบ่งระหว่างชีวิตและความตายสำหรับพวกเขาภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การที่พวกเขาจะอยู่รอดได้นั้นขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาสามารถเปิดใ ใช้งานค่ายกลได้ทันเวลาหรือไม่
อย่างไรก็ตามค่ายกลปิดผนึกซึ่งเผ่าดาวทมิฬวางไว้ก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน แม้จะมีความแข็งแกร่งของขอบเขตตั้งต้นจากค่ายกลของทหารพลีชีพ พวกเขาก็ยังคงพยายามที่จะทำลายค่ายกลเหล่านี อย่างยากลำบาก
หลังจากผ่านไป 2 เค่อ ในที่สุดค่ายกลก็ยุบตัวลงเองเนื่องจากหมดพลังงานภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของพวกเขา เผยให้เห็นจุดสำคัญที่ถูกปิดผนึกไว้ที่นั่น
จุดสำคัญเพียงจุดเดียวก็เพียงพอ หากพวกเขาต้องการเปิดใช้งานค่ายกลอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจำเป็นต้องใช้จุดสำคัญทั้งหมดร่วมกัน
นั่นคือ 99 จุดสำคัญ !
นอกจากนี้ยังมีคนโจมตีค่ายกลปิดผนึกรอบค่ายกลส่งตัวทางไกล มีองค์กรทั้งหมด 4 องค์กรที่มารวมตัวกันที่นั่น ทำให้เกิดพลังระดับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งสี่ พวกเขาพยายามทำลายค่า ายกลปิดผนึก
อย่างไรก็ตามค่ายกลปิดผนึกแข็งแกร่งขึ้นมากอย่างชัดเจน แม้ว่าจะอยู่ภายใต้สิ่งที่เทียบเท่ากับการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น 4 คน มันก็ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์เป็นเวลานาน น
เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ภายใต้ความกังวลใจของทุกคน ในไม่ช้า ครึ่งชั่วยามผ่านไปและไม่ถึงหนึ่งในสิบของ 99 จุดสำคัญถูกเปิดเผย ถึงกระนั้นข่าวดีก็มาถึงในไม่ช้า
ค่ายกลปิดผนึกรอบ ๆ ค่ายกลส่งตัวทางไกลถูกทำลาย
“ตรวจสอบค่ายกลส่งตัวทางไกลเดี๋ยวนี้ จากนั้นเปิดใช้งานมันทันที ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่ายกลส่งตัวทางไกลพร้อมใช้งานตลอดเวลา…”
“ด่วน ส่งคนไปตรวจสอบ หากเราไม่สามารถเปิดใช้งานค่ายกลหลักในเมืองร้อยเซียนได้ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่แข็งแกร่งกว่าของเผ่าดาวทมิฬจะมาถึง เราต้องรีบออกไปโดยใช้ค่า ายกลส่งตัวทางไกลทันที…”
มีการออกคำสั่งทีละคำสั่งและผู้คนรอบ ๆ ค่ายกลส่งตัวทางไกลก็เริ่มดำเนินการทันที
แต่ในไม่ช้าผู้คนที่กำลังตรวจสอบค่ายกลส่งตัวทางไกลก็ร้องตะโกนว่า “ให้ตายสิ ! ไอ้ชั่วเผ่าดาวทมิฬ ! พวกเขาได้รื้อถอนองค์ประกอบที่สำคัญของค่ายกลส่งตัวทางไกลออกไปแล้ว การนำ กลับมารวมกันจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน…”
เมื่อพวกอัจฉริยะได้ยินเช่นนั้น จิตใจของพวกเขาก็จมดิ่งลง ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวอย่างหมดหนทาง
ค่ายกลส่งตัวทางไกลเป็นเส้นทางเดียวของพวกเขาในการหลบหนี ตอนนี้มันไม่สามารถใช้งานได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถออกจากที่นี่ได้อีกต่อไป
“มีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้นที่รอเราอยู่ ซึ่งก็คือการเข้าควบคุมเมืองร้อยเซียนอย่างสมบูรณ์ นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เราอยู่รอดในโลกนี้ได้” เสียงของจินหงดังขึ้น
“ต้องใช้เวลา 1 เดือนกว่าค่ายกลส่งตัวทางไกลจะสามารถใช้งานได้ แม้ว่าเราจะเปิดใช้งานค่ายกลหลักของเมือง พวกเขาก็จะไม่สามารถอยู่ได้ถึงหนึ่งเดือนเมื่อต้องเจอกับการโจมตีของผู เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่แข็งแกร่งกว่าของเผ่าดาวทมิฬ” ไป่หานเซียงจากตระกูลร้อยสงครามร้องตะโกน เดิมทีเขาเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถควบคุมค่ายกลอย่างอิสระหลังจากยึดเมืองร้อย เซียนกลับมาได้ แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเผ่าดาวทมิฬจะเก่งกาจกว่าที่เขาคิด เผ่าดาวทมิฬได้ทำสิ่งต่าง ๆ มากมายกับเมืองร้อยเซียนให้เป็นอันตรายต่อพวกเขา
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดคุยเรื่องนี้ เราต้องมุ่งเน้นความพยายามทั้งหมดของเราไปที่การทำลายค่ายกล ข้าหวังว่าเราจะทำสำเร็จ…”
ไม่มีใครรู้เหตุผลว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่แข็งแกร่งกว่าของเผ่าดาวทมิฬยังไม่มาถึง พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะมีใครบางคนถ่วงเวลาเขาไว้ที่อื่น มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่ม มีโอกาสได้เข้าไปในเมืองร้อยเซียนอย่างแน่นอน
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่มาถึงจะหยุดพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้ามาในเมือง
ในขณะเดียวกัน การต่อสู้ที่สามารถอธิบายได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนในเผ่าดาวทมิฬกำลังเกิดขึ้นในพื้นที่รกร้างห่างจากเมืองหลวงหลายล้านกิโลเมตร
เจี้ยนเฉินที่ปลอมตัวเป็นคุนเทียนต่อสู้กับเก็ตตี้หัวหน้าศาลาเจ็ดอย่างดุดัน พลังงานกวาดไปทั่วบริเวณโดยรอบขณะที่เส้นปราณกระบี่ที่แหลมคมและกฏแห่งโลหะที่เปล่งประกายปะทะกันค ครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงยังมีร่องรอยของกฏแห่งไฟที่แผดเผา
ทุกครั้งที่ปะทะ ทุกครั้งที่พลังงานของพวกเขาประสานกัน มันเหมือนกับเสียงฟ้าร้อง ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง พลังงานที่รุนแรงสร้างหลุมอุกกาบาตหลายโหลในพื้นดินด้านล่าง มันทำให้พื้นท ที่มีรูพรุน
“เก็ตตี้ ดูเหมือนว่านี่คือพลังทั้งหมดที่เจ้ามี ในอดีตข้าอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า แต่ตอนนี้ข้าก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้า” เจี้ยนเฉินหัวเราะดังสนั่น กระบี่ในมือของเขาส่องแสง พราว หลังจากที่เขาแกว่งมันไปรอบ ๆ มันก็สว่างขึ้นทันที พื้นที่ทั้งหมดที่นั่นเต็มไปด้วยปราณกระบี่เส้นเล็ก ๆ ซึ่งกวาดเข้าหาคุนเทียน
สีหน้าของเก็ตตี้บูดบึ้ง เขาดูเหมือนจะได้เปรียบในขณะที่เขาปะทะกับเจี้ยนเฉิน แต่เขาดูไม่มีความสุขเลย
นี่เป็นเพราะก่อนที่คุนเทียนจะตัดผ่าน เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเก็ตตี้เลย เก็ตตี้สามารถเอาชนะคุนเทียนได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้เขาพบว่า ‘คุนเทียน’ ที่เพิ่งตัดผ่านนั้นแข็งแกร ร่งกว่าที่เขาคิดไว้มาก คุนเทียนเพิ่งมาถึงชั้นสวรรค์ที่ 6 เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ก็สามารถเป็นคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกับเขาได้ ซึ่งเขาเองใช้เวลาหลายล้านปีในชั้นสวรรค์ที่ 6
“ปราณกระบี่ของคุนเทียนนั้นคมกว่าแต่ก่อน และการใช้กฎแห่งกระบี่ของเขาก็ดีขึ้นเช่นกัน การตัดผ่านและการสูญเสียความทรงจำในครั้งนี้มีประโยชน์มหาศาล ช่างโชคดีอะไรอย่างนั้น” เก ก็ตตี้แอบแค้นในใจ ใบหน้าของเขามืดลง แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าจะสามารถเอาชนะคุนเทียนได้ หากเขาใช้ความแข็งแกร่งเต็มที่ คุนเทียนเพิ่งมาถึงชั้นสวรรค์ที่ 6 เมื่อ เร็ว ๆ นี้ ดังนั้นจึงมีช่องว่างมากมายสำหรับการเติบโตสำหรับเขา เขาสามารถเอาชนะคุนเทียนได้ตอนนี้ก็จริง แต่ในอนาคตล่ะ ?
“หัวหน้าศาลาของเราแข็งแกร่งมากจริง ๆ แต่วิธีการต่อสู้ของหัวหน้าศาลาดูเหมือนจะแตกต่างจากเมื่อก่อนเล็กน้อย…”
“เจ้าสังเกตหรือไม่ว่านับตั้งแต่ที่หัวหน้าศาลาของเรามาถึงชั้นสวรรค์ที่ 6 ความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเชิงคุณภาพ…”
“ฮ่าฮ่าฮ่า อย่าลืมว่าหัวหน้าศาลาของเราอยู่ในแดนทำลายวิญญาณเป็นเวลา 3 ปีเต็ม เขาคงต้องพบเจอกับโชคลาภ สมบัติโดยบังเอิญในช่วง 3 ปี หรือเขาอาจจะได้เรียนรู้กลวิธีการต่อสู้บาง งอย่างจากจิตสำนึกของสัตว์อสูรอวกาศ … ”
ปิงหยวน, ทารอท และโตววูจินที่เฝ้ามองจากระยะไกลต่างก็มีความสุขมาก หัวหน้าศาลาห้าของพวกเขามักจะมีเรื่องบาดหมางกับหัวหน้าศาลาเจ็ดและพวกเขาเคยถูกกลั่นแกล้งนับไม่ถ้วนก่อนหน้ านี้ หลายครั้งที่พวกเขาต้องยอมรับมันอย่างเงียบ ๆ เพราะพวกเขาอ่อนแอกว่า การไร้ความสามารถและความผิดหวังที่พวกเขาประสบนั้นเป็นเรื่องน่าขัน
ในที่สุดวันที่พวกเขาอดทนรอคอยก็มาถึง หลังจากไปถึงชั้นสวรรค์ที่ 6 หัวหน้าศาลาของพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าผู้เชี่ยวชาญที่ไปถึงชั้นสวรรค์ที่ 6 เมื่อหลายล้านปีก่อน เขาสามารถย ยืนหยัดต่อสู้กับเก็ตตี้ได้ พวกเขาไม่ต้องทนทุกข์กับการล่วงละเมิดจากศาลาเทพที่เจ็ดอีกต่อไป
ปิงหยวน, ทารอท และโตววูจินต่างรู้สึกอิ่มเอมใจ พวกเขาตื่นเต้นและดีใจมาก
ในอีกด้านหนึ่ง สีหน้าของรองหัวหน้าศาลา 2 คนของศาลาเทพที่เจ็ด คาซอลและอันเล่ยไม่ได้ดีไปกว่าเก็ตตี้ ทั้งคู่วนเวียนอยู่ห่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ พวกเขาแสดงความรู้สึกที่ตรงกันข้าม มกับรองหัวหน้าศาลาอีกฝ่ายอย่างสิ้นเชิง
“ฮึ่ม ข้าต้องเอาชนะคุนเทียนให้ได้ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร” สัมผัสทางวิญญาณของเก็ตตี้กวาดไปรอบ ๆ และเขาสังเกตเห็นสีหน้าของรองหัวหน้าศาลาจากศาลาเทพทั้งสอง ดวงตาของเขาเย็นลงทันที