เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2758: กอบกู้เมืองร้อยเซียน (3)
ตอนที่ 2758: กอบกู้เมืองร้อยเซียน (3)
ทหารรอบ ๆ ค่ายกลทุกคนมองไปที่ร่างทั้งสามในค่ายกลส่งตัวทางไกลด้วยความสงสัยและความอยากรู้อยากเห็น แต่ในไม่ช้า เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ดูเหมือนผู้นำที่นั่นก็เปลี่ยนไปในทันทีเพร ราะเขาสามารถจดจำหนึ่งในนั้นได้ เขาคือปิงหยวน รองหัวหน้าศาลาห้าจากศาลาเทพทั้งสิบ !
หัวหน้าก็ตัวสั่นทันทีเมื่อจำเขาได้ เขาโค้งคำนับด้วยความเคารพอย่างสูงสุดและพูดว่า “คารวะรองหัวหน้าศาลา ข้าน้อยคือเล่อเฟย รองผู้บัญชาการทหารรักษาเมืองแห่งเมืองอัศวินทมิฬ ! ”
เสียงของเขาดังมากราวกับว่าเขากำลังเตือนทหารที่อยู่รอบ ๆ
ตามที่คาดไว้ทหารคนอื่น ๆ รอบค่ายกลส่งตัวทางไกลก็เปลี่ยนไปจากสิ่งที่รองผู้บัญชาการเล่อเฟยพูด พวกเขารีบโค้งคำนับตามเล่อเฟยโดยไม่ลังเลอีกต่อไป จิตใจของพวกเขากำลังปั่นป่วน
รองหัวหน้าศาลาของศาลาเทพทั้งสิบ บุคคลที่ไม่มีสถานะหรือตัวตนในระดับหนึ่งจะไม่สามารถพบกับบุคคลที่สูงส่งเช่นนี้ในตลอดชีวิต พวกเขาสงสัยว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น อย่างแรกหัวหน้า าศาลาเจ็ดได้มาที่เมืองอัศวิทมิฬและตอนนี้รองหัวหน้าศาลาห้าก็มาเช่นกัน
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงวันเดียวบุคคลสำคัญมากมายได้มาที่เมืองอัศวินทมิฬ สิ่งนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยในประวัติศาสตร์ของสามสิบหกเมืองใหญ่ของเผ่าดาวทมิฬ
“ข้าขอถามได้หรือไม่ว่ามีวิธีใดที่ผู้ต่ำต้อยคนนี้จะปรนนิบัติท่านได้ รองหัวหน้าศาลา” เล่อเฟย ถามอย่างระมัดระวัง เขามองผ่านคนอีกสองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ปิงหยวนด้วยความเคารพแ และสงสัย เขาค่อนข้างหนักใจเพราะไม่แน่ใจว่าพวกเขาเป็นใคร
นี่เป็นเพราะเขารู้จักปิงหยวนจากบรรดารองหัวหน้าศาลา 3 คนของศาลาเทพที่ห้าเท่านั้น
ในช่วงที่ศาลาเทพที่ห้ามีหน้าที่ควบคุมดูแล มีเพียงปิงหยวนที่อ่อนแอที่สุดในบรรดารองหัวหน้าศาลาทั้งสามคนเท่านั้นที่เดินทางไปทำธุระทุกที่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผู้นำและผู้บัญชาการ หลายคนจำปิงหยวนได้
“ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าช่วยอะไรในตอนนี้ แค่ทำงานที่เจ้าได้รับมอบหมายให้ดีก็พอ” ปิงหยวน พูดอย่างเมินเฉยก่อนที่จะไปกับทารอทและโตววูจิน
“รองผู้บัญชาการ ทั้งสองคนที่อยู่ข้าง ๆ รองหัวหน้าศาลาคือใคร ? ดูเหมือนว่าพวกเขามีสถานะค่อนข้างสูงมาก” ทหารบางคนถามอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่ทั้งสามคนจากไป.
สายตาของรองผู้บัญชาการยังคงจับจ้องไปที่ร่างทั้งสามในระยะไกลในขณะที่เขาพูดอย่างเคร่งเครียด,“ ข้าไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อน แต่เมื่อข้าเห็นว่าพวกเขายืนอย่างเท่าเทียมข้างรองหัวหน น้าศาลา,มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดจะอยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน ข้าคิดว่าพวกเขาคงจะเป็นรองหัวหน้าศาลาของศาลาเทพที่ห้าเช่นกัน”
“อะไร ? พวกเขาทั้งหมดเป็นรองหัวหน้าศาลาของศาลาเทพที่ห้าหรือ ? ศาลาเทพที่ห้ามีรองหัวหน้าศาลาเพียง 3 คนเท่านั้น ? โอ้ ใช่ มีใครอีกคนที่จากไปทันทีที่เขามาถึง เขาเป็นใคร ? ” ทหารกล่าวด้วยความประหลาดใจ
รองผู้บัญชาการตกใจ ดูเหมือนเขาจะเดาตัวตนของคนที่ออกไปก่อนได้ จิตใจของเขาเริ่มสั่นไหว
จำนวนจุดสำคัญที่ยังคงปิดผนึกในเมืองร้อยเซียนลดลง ในขณะที่อัตราที่ถูกเปิดเผยก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มันเหลือ 20 จุด, 10 จุด, 5 จุด …
ในที่สุดหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ค่ายกลทั้งหมดในเมืองร้อยเซียนที่เผ่าดาวทมิฬติดตั้งไว้ก็ถูกทำลายลง ตอนนี้องค์กรต่าง ๆ ได้ควบคุมจุดสำคัญสำหรับการเปิดใช้งานค่ายกลของเม มืองร้อยเซียน
พวกเขาไม่ได้หยุดรอ หลังจากที่สามารถควบคุมจุดสำคัญทั้งหมด ผู้คนจากองค์กรเหล่านี้ก็เติมเต็มด้วยเหรียญผลึกทันที เหรียญผลึกเหล่านี้ไม่ได้มีขนาดเท่าหัวแม่มืออีกต่อไป แต่เป็นก้อ อนขนาด 1 เมตร
เหรียญผลึกระดับสูงสุดแต่ละก้อนมีขนาดเป็น 1 ลูกบาศก์เมตร เพียงหนึ่งก้อนก็เทียบเท่ากับเหรียญผลึกระดับสูงสุดหนึ่งล้านชิ้น
ทุกจุดที่สำคัญทั้งเก้าสิบเก้าจุดถูกเติมเต็มไปด้วยเหรียญผลึกระดับสูงสุดหลายร้อยก้อน
หากมันถูกเปลี่ยนเป็นมาตรฐานปกติ จุดสำคัญแต่ละจุดจะมีเหรียญผลึกหลายร้อยล้านชิ้น
มันเป็นผลรวมทางการคำนวน
อย่างไรก็ตามเบื้องหลังเมืองร้อยเซียนมีองค์กรระดับสูงสุดของโลกเซียนหลายสิบแห่ง เป็นผลให้ในขณะที่จำนวนมหาศาลของเหรียญผลึกที่เข้าไปใช้ในการกระตุ้นค่ายกลโดยพื้นฐานแล้วมันก็ เหมือนกับหยดน้ำเล็ก ๆ ในมหาสมุทรในสายตาขององค์กรระดับสูงสุดเหล่านี้
ตามความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เทียบเท่ากับหยดน้ำเล็ก ๆ ในมหาสมุทรสำหรับบางคนเลยด้วยซ้ำ
“เราได้เติมเต็มจุดสำคัญด้วยเหรียญผลึกอย่างเพียงพอ ดังนั้นจงใช้สายเลือดของพวกเจ้าและเปิดใช้งานค่ายกล ! ” อัจฉริยะร้องออกมาด้วยความสุขแห่งชัยชนะ
เมื่อค่ายกลของเมืองร้อยเซียนถูกเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะปลอดภัย โดยพื้นฐานแล้วจะไม่มีภัยคุกคามต่อชีวิตของพวกเขาอีกต่อไป
ค่ายกลของเมืองร้อยเซียนเพียงพอที่จะหยุดขั้นอสงไขยที่แข็งแกร่งของเผ่าดาวทมิฬได้ชั่วคราว
ในช่วงที่ค่ายกลถ่วงเวลาให้กับพวกเขา มันคงเพียงพอที่พวกเขาจะสามารถซ่อมแซมค่ายกลส่งตัวทางไกลในเมือง ทำให้พวกเขาหนีออกไปได้หากต้องการ
ตอนนี้พวกเขายืนหยัดอย่างมั่นคงในเมืองร้อยเซียน
อัจฉริยะหลายโหลลอยอยู่ในอากาศ พลังงานเพิ่มขึ้นจากพวกเขาเมื่อพวกเขาสร้างผนึกด้วยมือทั้งสองข้าง โดยใช้ทักษะลับเพื่อกระตุ้นค่ายกลป้องกันของเมืองร้อยเซียน
ในเวลาเดียวกัน หยดแก่นเลือดก็ไหลออกมาจากพวกเขา แต่ละหยดแบ่งออกเป็น 99 ส่วนและตกลงบนจุดสำคัญ 99 จุด
ค่ายกลป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองร้อยเซียนไม่สามารถเปิดใช้งานได้โดยบุคคลทั่วไป นอกเหนือจากการใช้ทักษะลับที่เกี่ยวข้อง มันยังต้องการแก่นหยดเลือดจากสายเลือดที่ค่ายกล ลสามารถจดจำได้เช่นกัน
ค่ายกลไม่สามารถถูกเปิดใช้งานได้หากขาดองค์ประกอบแม้แต่ชิ้นเดียว
ในขณะที่พวกเขาใช้ทักษะลับ จุดสำคัญ 99 จุดที่อยู่ทั่วทั้งเมืองก็ปะทุขึ้นทันทีด้วยแสงสว่างจ้า จุดสำคัญได้เปิดใช้งานแล้ว เหรียญผลึกจำนวนมหาศาลที่ถูกวางอยู่ในนั้นหายไปในอัตรา าที่ไม่น่าเชื่อ มันกลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์มหาศาลซึ่งถูกดูดซับโดยจุดสำคัญ
จุดสำคัญ 99 จุดเป็นเหมือนกุญแจ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดค่ายกลป้องกันของเมืองร้อยเซียน
การเปิดใช้งานจุดสำคัญเหล่านี้เทียบเท่ากับการหมุนกุญแจ ราวกับว่ามันกำลังปลดผนึกบางแห่งที่ซ่อนอยู่ในเมือง
ทันใดนั้นทั้งเมืองก็สั่นสะท้าน ทะเลพลังงานขนาดมหึมาที่อยู่ลึกลงไปใต้เมืองดูเหมือนว่าจู่ ๆ ก็ถูกปลดปล่อยจากน้ำแข็ง กลายเป็นแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากซึ่งซึมผ่านไปทั่วทั้งเมือง เมื องทั้งเมืองสว่างขึ้นทันที มันเปล่งออกมาด้วยกระแสคลื่นพลังอันแข็งแกร่งอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน ชั้นบนชั้นของม่านพลังโปร่งใสเริ่มก่อตัวขึ้นเหนือเมือง โดยพาดลงและห่อหุ้มสถานที่ทั้งหมด
มีม่านพลังก่อตัวขึ้นหลายชั้น ในช่วงเวลาสั้น ๆ ม่านพลังมากกว่าหนึ่งโหลปรากฏตัวขึ้น และนั่นไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อเวลาผ่านไป ม่านพลังก็ยิ่งก่อตัวขึ้นทีละน้อย ในเวลาเพียงไม่กี วินาที ม่านพลังกว่าห้าสิบชั้นได้ถูกสร้างขึ้น
เหล่าอัจฉริยะที่ยืนอยู่ในเมืองร้อยเซียนทุกคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มขณะที่พวกเขามองดูม่านพลังปรากฏขึ้นในอากาศอย่างรวดเร็ว ในที่สุดจิตใจที่ตึงเครียดของพวกเขาก็ผ่อนคลายลง
“พวกเจ้ากล้ามาก ! พวกเจ้าฆ่าพรรคพวกของข้าไปมากมาย ! ข้าจะไม่มีวันยอม…”
ในขณะนี้เสียงอันโหดเหี้ยมก็ดังขึ้น น้ำเสียงเยือกเย็นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าและความโกรธเกรี้ยวอย่างมาก เพียงแค่คลื่นเสียงที่ทรงพลังสามารถเขย่าม่านพลังที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ร ราวกับว่าพวกมันถูกโจมตีด้วยพลัง