เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2771 : เงื่อนไขการปลดผนึก
ตอนที่ 2771 : เงื่อนไขการปลดผนึก
“แก่นเลือดนั่นต้องเอามาให้ได้” เก็ตตี้พูดขึ้นมาอย่างไร้เรี่ยวแรง แก่นเลือดนั้นสำคัญอย่างมาก มันคือสิ่งที่ส่งผลต่อโชคชะตาทั้งเผ่าของเขา เก็ตตี้ไม่อาจจะทนรับผลที่ตามมาได ด้หากไม่ได้มันกลับมา
ยังไงซะเขาก็รับหน้าที่ดูแลมันมากว่าล้านปี หากแก่นเลือดนี้หายไปในตอนที่เขาปกครองอยู่ งั้นเขาก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ !
แต่การขโมยแก่นเลือดกลับมาจากสัตว์อสูรกลืนชีวิตที่เป็นราชาเจ้าถิ่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่จัดการดี ๆ แล้วก็เป็นไปได้ที่เก็ตตี้จะต้องตาย
“หัวหน้าศาลา เราควรรายงานเรื่องนี้ต่อจักรพรรดิดีหรือไม่ ? ด้วยสถานการณ์ตอนนี้แล้วเราควรขอให้จักรพรรดิเข้ามาช่วย หากจักรพรรดินำยอดฝีมือของโถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบของเราเข้าไ ไปที่ภูเขาโลกาแฝด เราต้องทวงมันคืนกลับมาได้แน่” รองหัวหน้าศาลาได้พูดขึ้นมา
เก็ตตี้ส่ายหน้า เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกังวล “เจ้าใช่ว่าจะไม่รู้ว่าจักรพรรดิกำลังทำเรื่องสำคัญอยู่ในตอนนี้ การรบกวนจักรพรรดินั้นเป็นการตัดสินใจที่แย่ที่สุด ยิ่งกว่านั้นหาก จักรพรรดินำหัวหน้าศาลาทั้งสิบไปยังภูเขาโลกาแฝด หัวหน้าศาลาคนอื่น ๆ ต้องแค้นเราในเรื่องนี้” เก็ตตี้ตัดความคิดนี้ทิ้งโดยไม่ลังเล เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีอย่าง มาก เขาไม่มีทางทำอะไรที่ดูหมิ่นตัวเองยกเว้นว่าหมดทางเลือกจริง ๆ
เขาไม่ต้องการทะเลาะกับหัวหน้าศาลาคนอื่น ๆ ไม่งั้นแล้วพวกนั้นอาจจะตราหน้าเขาว่าไร้ค่าหรือเป็นขยะ
“หัวหน้าศาลา ทูตจากศาลาที่ห้ามาเยี่ยม ! ” ตอนนั้นเองทหารราชาเทพคนหนึ่งก็ได้รีบวิ่งเข้ามาคุกเข่าลงตรงหน้าและรายงานออกมา
“ทูตจากศาลาที่ห้ารึ ? ” เก็ตตี้ คิ้วขมวด เขาลุกขึ้นยืนทันที เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ 5 มันมีความขัดแย้งกันมาโดยตจอลดและความแค้นนี้ก็มีแต่จะเพิ่มข ขึ้นจากความไร้เหตุผลของหัวหน้าศาลาที่ห้า คุนเทียน กับพฤติกรรมหลังจากที่เสียความทรงจำไป ผลก็คือทันทีที่เขาได้ยินว่ามีทูตจากศาลาที่ห้ามาเยี่ยม เขาก็ได้สั่งการให้ทหารไล่อ อีกฝ่ายกลับไปทันที
แต่สุดท้ายเก็ตตี้ก็เลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น ไม่งั้นแล้วเขาจะดูเป็นคนใจแคบเกินไป เขาได้ผายมือบอกให้ทหารเชิญทูตเข้ามา
ทูตที่ศาลาที่ห้าส่งมานั้นเป็นชายแก่ระดับราชาเทพ เขาแต่งตัวดีหน้าตาดูเฉลียวฉลาด ชัดแล้วว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ
“คารวะหัวหน้าศาลาที่เจ็ด รองหัวหน้าศาลา ข้า หวูหมิง ผู้จัดการงานภายนอกของศาลาที่ 5 ! ” หวูหมิงโค้งให้อย่างสุภาพ แม้ว่าเขาจะรู้แล้วว่าหัวหน้าศาลาของเยาจะไม่ได้มีความสัมพ พันธ์ที่ดีกับเก็ตตี้ นักแต่เขาก็รู้ว่าความขัดแย้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ราชาเทพอย่างเขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
“หากเจ้ามีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา หากเจ้าเสร็จธุระแล้วก็รีบไปซะ คนของศาลาที่ห้านั้นไม่มีสิทธิอยู่ในอาณาเขตของข้า” เก็ตตี้พูดด้วยท่าทีหมดความอดทน หากไม่เพราะความจริงที่ว่าค คนอื่น ๆ จะเอาเขาไปนินทา เขาก็คงไม่ต้องการพบกับทูตของศาลาที่ห้า
หวูหมิงยังคงแสดงท่าทีสุภาพดังเดิม เขาได้พูดขึ้นทันที “หัวหน้าศาลาที่เจ็ดได้มอบหมายมา ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของหัวหน้าศาลา เขาได้สั่งการให้ศาลาที่เจ็ดลบผนึกค่ายกลเคลื่อนย้ ายและอนุญาตให้คนนอกเดินทางเข้าออกได้อย่างอิสระ” หวูหมิงได้เตรียมใจกับปัญหาที่จะตามมาจากสิ่งที่เขาพูดไป
เขาเองก็หมดหนทาง เขาไม่ต้องการที่จะเป็นแพะรับบาป แต่ผู้นำของเขาได้สั่งการของเขาให้บอกสิ่งที่ผู้นำต้องการบอกกับเก็ตตี้ ผลก็คือเขาก็ได้แต่ต้องทำตาม
อย่างที่คาดเอาไว้ สีหน้าของเก็ตตี้เปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น สายตาองเขาดูมีอคติขึ้นมาทันที เขาหรี่ตาลงราวกับกระบี่ที่แหลมคมซึ่งทำให้หวูหมิงตัวสั่นไปทั้งตัว เก็ตตี้ได ด้ขัดขึ้นมา “เจ้าว่ายังไงนะ ? สั่งการ ? คุนเทียน กล้าสั่งการข้าคนนี้น่ะรึ ? “
เก็ตตี้ ไม่อาจจะยั้งความโกรธที่มีได้ เขาตบที่พักแขนอย่างแรงจนทำให้ทั้งศาลานั้นสั่นไหว เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธ “เขาทำเกินไปแล้ว คุนเทียนทำเกินไปแล้ว เขาคิดว่าเขาเหน นือกว่าข้าเพราะว่าเขาทะลวงผ่านสวรรค์ชั้น 6 รึไง ? เขาเย่อหยิ่งเกินไป เขาไม่เห็นหัวข้าด้วยซ้ำ ! ”
“ทหาร โยนทูตนี่ออกไป ! ไม่สิ ผนึกการบ่มเพาะของเขาและโยนเขาออกไปจากโถงศักดิ์สิทธิ์ ! ให้เขานอนอยู่ที่ถนนเมืองหลวงอย่างไร้เรี่ยวแรง ! คุนเทียน ข้าสู้อุตส่าห์มองข้ามเรื่อง ของเจ้ามาตลอดหลายปี เจ้าคิดจริง ๆ รึว่าข้ากลัวเจ้า เจ้าคิดจะสั่งการข้าเลยรึ ? ” สีหน้าของเก็ตตี้หม่นลงเรื่อย ๆ พร้อมกับความโกรธที่พรั่งพรูออกมา เขาไม่อาจจะใจเย็นลงได้จนเว วลาผ่านไปได้สักพัก
“ช้าก่อน หัวหน้าศาลา ข้ามีความคิดแต่ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลรึไม่” รองหัวหน้าศาลา ดัฟฟ์ พูดขึ้นมา “ศาลาที่ห้าต้องการให้ท่านลบผนึกของค่ายกลเคลื่อนย้ายไม่ใช่รึ ? ท่านหัวหน้าศาลา ควรใช้โอกาสนี้ในการร้องขอศาลาที่ห้าในการทวงคืนของในภูเขาโลกาแฝดให้กับเราก็ได้ โดยมีเงื่อนไขคือการปลดผนึกของค่ายกลเคลื่อนย้าย”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เก็ตตี้ก็เลิกหงุดหงิดขึ้นมาทันที ต่อมาความโกรธที่มีก็หายไป ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดี เขาปรบมือด้วยตาที่เป็นประกาย “ใช่ ใช่แล้ว นี่เป็นความคิดที่ด ดี เอาตามนี้แหละ”
หลังจากนั้นเก็ตตี้ก็ได้บอกเงื่อนไขของเขาและส่งตัวหวูหมิงกลับไป
ในศาลาที่ห้า เจี้ยนเฉินได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ผู้นำโดยมี ปิงหยวน, ทารอท และโตววูจิน อยู่ด้านล่าง หวูหมิงเดินเข้าด้านหลังพวกนั้นแล้วคุกเข่าลงกับพื้น
หวูหมิงได้รายงานเงื่อนไขของเก็ตตี้ให้กับเจี้ยนเฉินฟังทุกคำพูด
ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะได้พูดอะไร ปิงหยวนก็ได้ฮึดฮัดออกมา “ฮึ่ม เก็ตตี้ต้องคิดมาดีแล้วแน่ ๆ เขาได้เสียแก่นเลือดระหว่างที่เขาครองบัลลังก์ไป ดังนั้นศาลาที่เจ็ดจึงควรรับผิดชอบในกา ารทวงคืนมันมา แต่เก็ตตี้กลับกลัวตายและเขาก็กลัวจะทวงมันคืนมาจากราชาเจ้าถิ่นสัตว์อสูรกลืนชีวิต ดังนั้นเขาจึงอยากให้ศาลาที่ห้าจัดการกับเรื่องนี้ เขาคิดใช้ศาลาที่ห้าเป ป็นเครื่องมือรึไงกัน ? ”
ส่วนทารอทและโตววูจินยังคงเงียบอยู่ ทั้งสองคนเองก็ฮึดฮัดออกมาเช่นกัน พวกเขาได้ล้อเลียนความโง่ของเก็ตตี้ที่พยายามหลอกใช้ศาลาที่ห้าให้ไปเสี่ยงกับเรื่องแบบนั้นแลกกับการ รปลดผนึกค่ายกลเคลื่อนย้าย
หากนี่ไม่เรียกว่าโง่แล้วจะเรียกว่าอะไรได้ ?
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนบัลลังก์เงียบ ๆ เขาไม่ได้ปฏิเสธทันที กลับกันแล้ว เขากลับครุ่นคิดอยู่ มันไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“หวูหมิง เจ้าไปได้ เจ้าไม่ต้องสนใจเงื่อนไขของศาลาที่เจ็ด” ปิงหยวนโบกมือและไล่หวูหมิง กลับไป มันไม่จำเป็นต้องถกเถียงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างก็รู้ว่าภูเขาโลกาแฝดนั้ นเสี่ยงแค่ไหน
“ช้าก่อน หวูหมิง เจ้าบอกศาลาที่เจ็ดว่าข้าตกลงกับเงื่อนไขพวกเขา แต่พวกเขาต้องปลดผนึกในทันที” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น
ปิงหยวน, ทารอท และโตววูจิน ต่างก็พากันสะดุ้ง สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที พวกเขารีบพูดขึ้น “ท่านหัวหน้า ไม่ได้ ! ท่านไม่อาจจะตกลงกับเงื่อนไขนี้ได้ ! อันตรายของภูเขาโล ลกาแฝดนั้นไม่อาจจะคาดถึงได้ นอกจากจักรพรรดิแล้ว ยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นของเผ่าเรานั้นรวมไปถึงหัวหน้าศาลาทั้งสิบต่างก็เผชิญฺหน้ากับความเสี่ยงที่อาจมีอันตรายถึงชีวิตที่นั่นได ด้”