เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2777 : การตายของเสิ่นหราน (2)
ตอนที่ 2777 : การตายของเสิ่นหราน (2)
ตรงหน้าเสิ่นหราน ร่างของเจี้ยนเฉินได้ปรากฏตัวขึ้นมาเงียบ ๆ ราวกับว่าเขารอคอยอยู่ที่นั่นมานานแล้ว
ทันใดนั้นวิญญาณของเสิ่นหรานก็หยุดชะงักไปในทันที เขามองไปที่เจี้ยนเฉินซึ่งยืนขวางหน้าอยู่ด้วยความกลัวและรีบหันกลับไปอีกฝั่งทันที
การหนีในครั้งนี้รวดเร็วกว่าเดิม วิญญาณของเขาเหมือนจะกลายเป็นลูกไฟ ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก วิญญาณชัดแล้วว่าอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
ตอนนั้นเขาได้ใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อหนีเอาตัวรอด เขาได้ใช้ทักษะลับเพื่อเผาผลาญวิญญาณแลกกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นมา
ทันใดนั้นวิญญาณของเสิ่นหรานก็หนีไปได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ความเร็วนี้ยังไม่มากพอ มันมีสัตว์อสูรกลืนชีวิตหลายสิบตัวไล่ตามด้านหลังไป
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเย้ยออกมา เขาไม่ได้ไล่ตามไปทางที่อีกฝ่ายหนี แต่มิติรอบตัวเขากลับผันผวนเล็กน้อย ตอนที่พลังมิติแผ่ออกมาเต็มที่ ร่างของเขาก็ได้หายไปจากที่นั่ น
“อ่ะ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เจ้า…เร็วกว่าข้าได้ยังไง…”
ต่อมาในป่าห่างไกลออกไปหลายร้อยลี้ วิญญาณได้ร้องออกมาด้วยความแปลกใจ, ตะลึงและสิ้นหวังตรงหน้าเขานั้นมีเจี้ยนเฉินลอยอยู่ตรงหน้า เขากอดอกและแสดงท่าทีสบายใจออกมา
“เสิ่นหราน อย่าคิดเรื่องหนีต่อหน้าข้า นี่ไม่ตองนับภูเขาโลกาแฝดเลย แม้แต่ในอาณาเขตเผ่าดาวทมิฬของเจ้า หากข้าต้องการจะฆ่าเจ้า เจ้าก็ไม่อาจะมีหวังที่จะหนีได้” เจี้ยนเฉินพูด ด้วยน้ำเสียงเฉยเมย ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไปจับวิญญาณเอาไว้
หากเขามีกายเนื้อ เขาก็สามารถทำลายการแช่แข็งมิติรอบตัวเขาได้ แต่หากเขาเสียกายเนื้อไป เขาเองก็จะเสียพลังสำรองไปมากเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงอยู่ภายใต้มิติที่จำกัดไว้ของเจี้ ยนเฉิน เขาได้กลายเป็นปลาในบ่อที่รอถูกฆ่า“กฎมิติ เจ้าเชี่ยวชาญกฎมิติด้วยรึ ! ” ตอนนั้นเสิ่นหรานรู้แล้วว่าทำไมเจี้ยนเฉินถึงได้ไล่ตามตนมาและปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าตนได้ ความเ เร็วนี้มันมากกว่าการเผาผลาญวิญญาณเสียอีก
เขาถึงกับต้องการหนีต่อหน้ายอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นที่เชี่ยวชาญกฎมิติ นี่มันเป็นความพยายามที่ไร้ค่า
ตอนนั้นเสิ่นหรานไม่มีความหวังในใจเลยแม้แต่น้อย เขารู้ว่าถึงแม้ว่าเขาจะเร็วกว่านี้หลายเท่า แต่เขาก็ไม่น่าจะหนีจากยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นที่เชี่ยวชาญกฎมิติได้
“กู่ฉี ด้วยความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ที่เจ้ามีแล้ว แม้ว่าเจ้าจะอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็อาจจะเป็นอัจฉริยะที่ไร้เทียมทานซึ่งหาตัวจับยาก ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าถึงต้องพยา ายามและเสี่ยงอย่างมากในการแฝงตัวเข้ามาในเผ่าดาวทมิฬของเรา มันเพราะทรัพยากรต่าง ๆ ที่เจ้าต้องการรึ ? ” เสิ่นหรานถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เขารู้ว่าเขาไม่อาจจะหนีได้ ก่อนที เขาจะตายเขาหวังว่าจะเข้าใจคำตอบได้บ้าง
รอบ ๆ ตัวนั้นพลังจากสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นเริ่มใกล้เข้ามา พลังของมันบ้าคลั่ง พลังของเขาแผ่ออกมาราวกับตัวชี้ทางให้กับสัตว์อสูรกลืนชีวิตซึ่งทำให้สัตว์อสูรกลืน ชีวิตทุกตัวนั้นแห่กันมาในที่ที่เขาอยู่
แค่ไม่กี่อึดใจ เสิ่นหรานก็ถูกล้อมโดยสัตว์อสูรกลืนชีวิตหลายสิบตัว
“เมื่อเจ้าอยากรู้มากขนาดนั้น งั้นข้าก็จะบอกเจ้าก่อนที่เจ้าจะตาย”
“จำสัตว์เทพที่เผ่าของเจ้าจับกุมไว้ก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ ? สัตว์เทพนั่นคือเพื่อนสนิทของข้า เผ่าของเจ้าต้องการใช้เขาเป็นเครื่องบูชายัญ ข้ามาที่ดินแดนดาวทมิฬในครั้งนี้ก็เพื อทำลายพิธีของพวกเจ้าและช่วยสัตว์เทพนั่น” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นและตอนที่เขาพูดถึงการทรมานพยัคฆ์ปีกเทวะ เขาก็รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมา เมื่อได้ยินแบบนั้น เสิ่นหรานก็เงียบไปแต่ สายตาเขาสะท้อนความเศร้าออกมา หลังจากนั้นสักพักเขาก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพึมพำกับตัวเอง “คิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงเลย ข้าเตรียมการมาหลายปีแต่สุดท้ายแล้วก็เพราะสัตว์เทพนั่นที ทำให้พิธีของเราถูกทำลาย…”
นี่คือเสียงสุดท้ายของเสิ่นหราน หลังจากที่พูดจบ มิติรอบตัวก็กลับเป็นปกติ เจี้ยนเฉินที่ลอยอยู่ตรงกันข้ามนั้นได้ปกปิดพลังของตัวเองและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทันทีที่เจี้ยนเฉินหายตัวไป ลิงยักษ์ซึ่งสูงกว่า 100 ฟุต ตัวใหญ่ราวกับขุนเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเสิ่นหราน มันคำรามออกมาดังก้องและได้จับเสิ่นหรานเอาไว้
ตอนที่ลิงยักษ์นั่นโจมตี ในอีกทางก็มีเงาสัตว์อสูรตัวใหญ่อีก 3 ตัวปรากฏขึ้น มันได้ล็อคเป้ามาที่วิญญาณของ เสิ่นหรานที่แผ่พลังของเผ่าดาวทมิฬออกมาและทำการโจมตีเข้ามาพร้อ อมกัน
อย่างที่คิดภาพเอาไว้ วิญญาณที่เปราะบางของเสิ่นหรานไม่อาจจะต้าทานต่อหน้าสัตว์อสูรกลืนชีวิตได้เลยแม้แต่น้อย ต่อหน้าสัตว์อสูรกลืนชีวิตแล้ว เขาตายง่ายดายไม่ต่างอะไรจากมด
เสิ่นหรานได้ตายไป ยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นระดับสูงที่มีฐานะสูงส่งในเผ่าดาวทมิฬได้ตายไปในภูเขาโลกาแฝดอย่างง่ายดาย การตายของเขานั้นไม่มีใครรู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
สำหรับสัตว์อสูรกลืนชีวิตหลายสิบตัวที่ล้อมรอบ บางทีพวกนั้นอาจจะรับรู้ได้ว่ายอดฝีมือเผ่าดาวทมิฬได้ตายไปแล้วและบางตัวก็ยังมาไม่ถึง พวกนั้นได้หยุดก่อนจะเงยหน้าคำรามขึ้น บนท้องฟ้าราวกับจะบอกถึงการเฉลิมฉลอง
ตอนนั้นในส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝด เสียงคำรามอันน่ากลัวของสัตว์อสูรได้กระจายก้องไปทั่วทั้งภูเขาและป่า มันถึงกับดังไปถึงเขตนอกซึ่งทำให้ยอดฝีมือหลายคนที่ทำการล่าสัตว์อสูรในเ เขตนอกถึงกับต้องลนลานและกังวล พวกเขาไม่รู้เรื่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่สิ่งที่เจี้ยนเฉินไม่รู้คือเหนือจุดที่เสิ่นหรานตายไป มันกลับมีร่างพร่ามัวลอยอยู่สูงขึ้นไปกว่าหมื่นเมตร เขาดูเหมือนกับหลอมรวมกับโลกนี้ พลังของเขาดูเหมือนจะเข้ากับกฎข ของโลก แม้แต่ในสภาพแวดล้อมพิเศษแห่งนี้ก็ไม่ได้ดูผิดปกติแต่อย่างใด
ไม่รู้เลยว่าเขาปรากฏตัวขึ้นมาตอนไหนกัน สัตว์อสูรกลืนชีวิตทั้งหมดรวมถึงเจี้ยนเฉินไม่รู้ถึงตัวตนของร่างนี้เลย แม้ว่าการรับรู้วิญญาณของเจี้ยนเฉินจะเฉียบคม แต่เขากลับไม่รับรู้ สิ่งผิดปกติเลยแม้แต่น้อย
“หัวหน้าศาลา 2 คนของเผ่าดาวทมิฬได้ตายไปแล้ว หัวหน้าศาลา 2 คนได้หายตัวไป พิธีก็ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้เจี้ยนเฉินก็เป็นหมากที่เคลื่อนไหวเบื้องหลังคอยสร้างปัญหาในตอนวิกฤต ไ ไม่ต้องเดาเลยว่าพิธีของเผ่าดาวทมิฬนั้นต้องล้มเหลว…”
ร่างนั้นหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ ดูเหมือนว่าเขาอยากจะให้พิธีของเผ่าดาวทมิฬนั้นล้มเหลว ดูเหมือนว่านี่เป็นเรื่องสำคัญต่อเขาอย่างมาก
ทันใดนั้นหลังจากที่เงานั้นก้าวออกไป จู่ ๆ โลกก็เปลี่ยนแปลงไป ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์กลับสลับที่กันในหมู่เมืองหลักทั้ง 36 เมืองของเผ่าดาวทมิฬ เมืองอัศวินทมิฬที่อยู่ใกล้ภูเขา โลกาแฝดมากที่สุด ระยะทางที่เขาเดินทางได้นั้นไกลหลายสิบล้านกิโลเมตรเป็นอย่างน้อย แม้ด้วยความเร็วที่เจี้ยนเฉินมีก็ต้องใช้เวลาอยู่สักพัก แต่ตอนนี้ร่างลวงตานั้นกลับก้าวเพีย ยงก้าวเดียวก็เดินทางผ่านระยะทางนี้ได้ ความเร็วอันน่ากลัวของเขาชัดแล้วว่าไม่เคยมีมาก่อน
และจากท่าทีสบายและผ่อนคลายของเขาที่ทำราวกับเดินเล่นแล้ว ชัดแล้วว่านี่อาจจะไม่ใช่ขีดจำกัดของเขา