เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2782 : ปลดผนึก
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ถามเหอเฉียนเฉียนต่ออีกเล็กน้อย หลัก ๆ แล้วคือเรื่องสถานการณ์เกี่ยวกับโถงเทพจันทราและศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติก
โชคร้ายที่เนางรู้ข้อมูลจำกัด ยังไงซะข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอาร์กติกและโถงเทพจันทรานั้นก็เป็นความลับ บางทียอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นอาจจะรู้มากกว่านี้เล็กน้อย แต ต่มันคงยากที่เหอเฉียนเฉียนจะได้รับรู้ถึงข้อมูลเหล่านี้เมื่อดูจากความแข็งแกร่งที่นางมี
“หยางยู่เทียน เจ้าสนใจจะเข้าร่วมเผ่ากระเรียนสวรรค์ของเราหรือไม่ ? ดูจากที่เจ้าสนใจที่ราบน้ำแข็งขั้วโลก ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าแล้ว แน่นอว่าเจ้าต้องได้รับการสนับสนุนอย่างมากเมื อเข้าร่วมเผ่ากระเรียนสวรรค์ แม้แต่ขั้นบรรพกาลนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาของเจ้าอีกต่อไปในอนาคต” เหอเฉียนเฉียนมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาสั่นไหว นางไม่ได้โง่ นางรู้แล้วว่าเจี้ยนเฉินม มีพรสวรรค์มากแค่ไหนในภูเขาโลกาแฝด ด้วยพรสวรรค์ของเขาแล้ว คงมีหลายตระกูลและองค์กรในโลกเซียนที่พยายามดึงเขาเข้าร่วม
นั่นเพราะคนแบบเขานั้นอาจจะเป็นเสาหลักของตระกูลได้ในอนาคตหาดูแลให้ดี เขาอาจจะเติบโตจนสนับสนุนทั้งตระกูลได้
เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาและพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้มีแผนจะเข้าร่วมองค์กรไหนในตอนนี้ ถึงอย่างนั้นข้าก็หวังที่จะได้ไปเห็นที่ราบน้ำแข็งขั้วโลก ข้าอยากเห็นกับตาตัวเอง ยังไงซะไม่ใช่แค ค่ที่ราบน้ำแข็งขั้วโลกเคยเป็นหนึ่งในที่ราบศักดิ์สิทธิ์ ข้าก็ยังเคยได้ยินมากว่ามันเต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งตลอดทั้งปี การบ่มเพะในสภาพหนาวเย็นเช่นนั้นจะยั้งการเติบโตของปิศาจภ ภายใน ไม่ให้เสี่ยงกับการบาดเจ็บจากการบ่มเพาะผิดพลาด “
ตอนที่เจี้ยนเฉินและเหอเฉียนเฉียนพูดคุยกันอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีชายแก่ขั้นเหนือเทพของเผ่ากระเรียนสวรรค์รีบรุดเข้ามาด้านใน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ
“นายหญิง นายหญิง มีข่าวดี มันเป็นข่าวที่วิเศษ ศาลาเทพที่เจ็ดได้ลบผนึกของค่ายกลเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว เราทุกคนสามารถใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระแล้ว” ชายแก่พูดขึ้นมา าด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของเขาแดงก่ำชัดแล้วว่าเขาตื่นเต้นแค่ไหน
เมื่อได้ยินข่าวนี้ เหอเฉียนเฉียนก็ตะลึงไป แต่ไม่นานนางก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน ก่อนจะถามออกมาว่า “ เจ้าว่ายังไงนะ ? ผนึกของค่ายกลเคลื่อนย้ายถูกปลดแล้วรึ ? เจ้ ามั่นใจนะ ? ”
“ข้ามั่นใจ นายหญิง ข้ามั่นใจ มันไม่ผิดพลาดแน่ แน่นอนว่าต้องไม่ผิดพลาด มันมีคนที่ออกจากโลกดาวทมิฬผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายมา” ชายแก่ตอบกลับด้วยท่าทีมั่นใจ
เหอเฉียนเฉียนดีใจขึ้นมาทันที ค่ายกลเคลื่อนย้ายในเมืองร้อยเซียนถูกปิดซ่อมแซมอยู่ เพราะแบบนั้นแม้ว่าเผ่าดาวทมิฬจะไม่ได้ลบผนึกค่ายกลเคลื่อนย้ายออกไป แต่เมืองร้อยเซียนก็ไม่ ได้รับผลกระทบ เมื่อพวกเขาต้องการใช้มัน พวกเขาก็สามารถใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายในเมองร้อยเซียนเดินทางตรงไปยังทางเข้าของโลกได้
แต่นี่ไม่ใช่ความหมายที่แท้จริงของการปลดผนึกค่ายกลเคลื่อนย้าย ที่สำคัญที่สุดคือท่าทีจากศาลาเทพที่เจ็ด เมื่อศาลาเทพที่เจ็ดยอมเปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายให้กับพวกเขาเดินทางเข้า าออกได้อย่างอิสระ มันก็หมายความว่าศาลาเทพที่เจ็ดนั้นไม่ได้เล็งเป้าหมายมาที่เมืองร้อยเซียนอีก
อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็ปลอดภัยไปได้สักระยะ
ในเวลาเดียวกันมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าศาลาเทพที่ห้านั้นจะปกป้องพวกเขา มันทำให้พวกเขาเข้าใจถึงพลังของศาลาเทพที่ห้า
“ศาลาเทพที่ห้าทำได้จริง ๆ ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าศาลาเทพที่ห้านั้นจะทำให้ศาลาเทพที่เจ็ดเปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายได้เร็วแบบนี้” เหอเฉียนเฉียนพึมพำออกมาแต่จู่ ๆ นางก็นึกถึงบา างอย่าง ความดีใจที่มีได้หายไปในทันที นางแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “สำหรับสิ่งที่ศาลาเทพที่ห้าเรียกร้อง เท่าที่ข้าทำได้คือส่งขอความให้ตระกูลตัดสินใจในเรื่องนี้”
ตอนนั้นเหอเฉียนเฉียนไม่ได้สนใจเจี้ยนเฉินอีกต่อไป นางได้เอาขนนกออกมาจากแหวนมิติก่อนจะกรีดนิ้วตัวเองหยดเลือดงไปที่ขนนก
นี่คือวิธีสื่อสารพิเศษของเผ่ากระเรียนสวรรค์ที่รวมข้อความกับหยดเลือดโดยใช้ขนนกเป็นตัวส่งข้อความ มันคือวิธีที่ไม่อาจจะมีใครเลียนแบบได้
“ส่งคนเอาข้อความนี้กลับไปที่ตระกูล” เหอเฉียนเฉียนส่งขนนกให้กับชายแก่และสั่งการออกมา
ชายแก่ตอบกลับด้วยความสุภาพก่อนจะทำตามคำสั่ง
ในเวลาเดียวกันองค์กรชั้นนำหลายแห่งในเมืองก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน หลังจากที่ดีใจแล้วพวกเขาก็ทำการส่งข้อความให้กับตระกูลของตน
มันมีหลายองค์กรที่เขียนข้อความลับหลายอันขึ้นมา
ในพริบตาผู้บ่มเพาะกว่าหมื่นคนก็ได้เดินทางออกไปจากเมืองร้อยเซียน ทุกคนนต่างก็มีข้อความลับกับตัว พวกเขารีบมุ่งหน้าไปที่เมืองอัศวินทมิฬโดยเร็วที่สุดก่อนที่จะเดินทางออกไปผ่า านค่ายกลเคลื่อนย้ายที่นั่น
ในเขตลึกของภูเขาโลกาแฝด วังวนพลังงานขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า วังวนพลังงานนี้คือช่องทางที่เชื่อมต่อระหว่างสองโลก
ช่องทางนี้อยู่ในเขตที่ปลอดภัยภายในภูเขาโลกาแฝด มันห่อหุ้มด้วยพลังงานที่แข็งแกร่งซึ่งกันหมอกหนาและสัตว์อสูรกลืนชีวิตทั้งหมด
ที่นี่คือที่ซึ่งจอมปราชญ์สูงสุดสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง มันมีกฎที่ถูกวางไว้โดยจอมปราชญ์สูงสุดซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมที่นี่ถึงไม่เคยพังลงตลอดหลายปีมานี้
ตอนนั้นเองค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณอันหนึ่งที่ไม่ทำงานมานานก็ได้เปล่งแสงขึ้นมาใกล้ๆกับช่องทาง มันมีผู้บ่มเพาะมากมายโผล่ออกมาจากที่นั่นทีละคน ๆ
พวกเขาทำการสังเกตรอบตัวก่อน เมื่อพวกเขาเห็นช่องทางบนท้องฟ้า พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความดีใจ
“เราเดินทางออกมาได้สำเร็จ วิเศษจริง ๆ ในที่สุดเราก็ออกมาได้ “
“คนของเผ่าดาวทมิฬไม่อาจจะมาที่นี่ได้ พวกเขาจะถูกฆ่าโดยพลังของมิติตอนที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ซึ่งหมายความว่าตอนนี้ปลอดภัย นี่ไม่ใช่แผนการของเผ่าดาวทมิฬแน่ พวกเขาให้เรา ากลับมาจริง ๆ “
ในหมู่ผู้บ่มเพาะ ส่วนหนึ่งได้ถูกส่งจากเมืองร้อยเซียน ส่วนอีกส่วนหนึ่งไม่ได้มาจากเมืองร้อยเซียน พวกเขาคือคนที่เดินทางมาที่นี่จากเมืองอื่นของเผ่าดาวทมิฬ
ยังไงซะองค์กรชั้นนำหลายสิบแห่งในเมืองร้อยเซียนก็เป็นแค่ส่วนน้อยของคนนอกในหมู่เผ่าดาวทมิฬ ส่วนมากแล้วมาจากองค์กรอื่น ๆ ในโลกเซียน มันมีทั้งคนจากองค์กรที่อ่อนแอและผู้บ บ่มเพาะไร้สังกัดด้วย
หลังจากที่ยินดีกันเสร็จ พวกเขาก็พุ่งขึ้นบนท้องฟ้าโดยไม่ลังเลก่อนจะหายตัวไปในช่องทางมิติ
ในอีกด้านของช่องทางมิติคือหนึ่งในห้าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของโลกจิตวิญญาณ ทวีปกำเนิดดารา ตอนนั้นเมืองกำเนิดดาราในทวีปกำเนิดดาราได้มีคนจำนวนหนึ่งลอยอยู่ในอากาศทั้งยืน และนั่ง พวกเขาอยู่รอบวังวนพลังงานที่คล้ายกันซึ่งอยู่บนท้องฟ้า วกเยาได้รวมตัวกันรอบช่องทางที่แผ่พลังมหาศาลออกมาคนเหล่านี้คือยอดฝีมือที่ขึ้นมาถึงขั้นบรรพกาลและพวกเขาก็ค ค่อนข้างก้าวหน้าในฐานะบรรพกาล ส่วนมากแล้วเหนือกว่าชั้นสวรรค์ที่ 5 มีน้อยคนนักที่ต่ำกว่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นใครเมื่อเข้าไปในโลกดาวทมิฬ พวกเขาก็จะเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานซึ่งสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ มันถึงกับมีบางคนที่แม้แต่จักรพรรดิดาวทมิฬก็ไม่อาจจะเป็นคู่มือไ ได้