เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2783 : ภายในเมืองกำเนิดดารา
ตอนที่ 2783 : ภายในเมืองกำเนิดดารา
ยอดฝีมือขั้นบรรพกาลได้มารวมตัวกันผ่านช่องทางหลายสิบคน พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันแต่พวกเขาเลือกที่จะพักรึจับตาดูไปที่ช่องทางตรงหน้า ราวกับว่าพกวเขาต้องการมองผ่านวังวนพลังงานและดูว่ามีอะไรอยู่ด้านในแน่นอนว่ามันมีพวกยอดฝีมือขั้นอสงไขยรวมตัวกันรอบ ๆ มากกว่าคนกลุ่มแรก โถงศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่ด้านหลังพวกนั้น โถงศักดิ์สิทธิ์ทุกอันต่างก็แผ่พลังของวัตถุเทพและแสงสดใสออกมา
มันมีโถงศักดิ์สิทธิ์หลายสิบอัน ทั้งหมดต่างก็อยู่ขั้นกลาง มันถึงกับมีโถงศักดิ์สิทธิ์สองอันที่อยู่ขั้นสูงวัตถุเทพขั้นสูงปกติแล้วเป็นของอัครสูงสุด เพราะแบบนั้นแม้แต่อัครสูงสุดขั้นต้นก็ไม่ได้มีวัตถุเทพเช่นนี้ พวกเขาถือว่ามันเป็นสมบัติที่มีค่าในโลกเซียน
องค์กรชั้นนำบางกลุ่มถึงกับกล้าใช้วัตถุเทพขั้นสูงเป็นสมบัติของตระกูล
ยอดฝีมือขั้นบรรพกาลที่รวมตัวกันอยู่โดยรอบช่องทางมองไปยังวัตถุเทพขั้นสูงทั้งสองอันอยู่ตลอด นอกจากความกลัวและหวั่นเกรงในสายตาแล้วพวกเขาก็ยังพยายามซ่อนความโลภเอาไว้ด้วย
ชัดแล้วว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนี้เป็นที่สนใจของคนมากมายแต่ไม่มีใครคิดจะขโมยมัน นั่นเพราะวัตถุเทพขั้นสูงทั้งสองนี้เป็นของเผ่าหมาป่าหายนะและตระกูลเฮา
เพื่อความปลอดภัยของนายน้อยของตน จินหง เผ่าหมาป่าหายนะจึงถึงกับส่งบรรพชนคนหนึ่งมากับเขาด้วย ตอนนี้เขาได้พำนักอยู่โถงศักดิ์สิทธิ์
สำหรับโถงศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเฮานั้น มันไม่ได้มีบรรพชนเหมือนกับเผ่าหมาป่าหายนะ แต่มันไม่มียอดฝีมือจากโลกเซียนเลยแม้แต่คนเดียวที่คิดจะชิงมันไปจากตระกูลเฮา
หากองค์กรทั้งหมดที่กระจายอยู่โดยรอบร่วมมือกัน มันอาจจะมีหลายร้อยกลุ่ม มันมีองค์กรชั้นนำที่มีอัครสูงสุดที่ถือว่าเป็นองค์กรชั้น 1 ที่ต้องพึ่งพวกขั้นบรรพกาล
พวกเขาได้มารวมตัวกันโดยรอบเพื่อฟังข่าวจากโลกดาวทมิฬ บางคนได้แสดงสีหน้ากังวลออกมาพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกดาวทมิฬรึไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ การเชื่อมต่อของพวกเขากับโลกดาวทมิฬนั้นได้เสียหายไปแล้ว แม้แต่ตอนที่พวกเขาได้ส่งคนเข้ามาเพิ่ม พวกเขาก็จะถูกขังไว้ที่ทางเข้าเพราะค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ไม่อาจจะใช้งานได้
ยอดฝีมือขั้นอสงไขยหลายคนรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติจากเรื่องนี้ โลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่นเกี่ยวข้องโดยตรงกับผลประโยชน์ของพวกเขา ดังนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ มันก็จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับพวกเขา ตระกูล และนิกายของพวกเขาเอง
ตอนนั้นมีวังวันพลังงานขนาดใหญ่บนท้องฟ้าก็แผ่พลังงานออกมาเล็กน้อยจนแทบมองข้ามได้
แต่ทุกคนที่ไปรวมตัวกันที่นั่นต่างก็อยู่ขั้นขั้นอสงไขยเป็นอย่างน้อย การรับรู้ของพวกเขาแข็งแกร่ง พลังงานเล็กน้อยนี้ไม่อาจจะหลบพ้นการรับรู้ของพวกเขาได้
ในพริบตานั้นยอดฝีมือขั้นอสงไขยที่รวมตัวกันอยู่โดยรอบต่างก็พากันลืมตาขึ้น พวกเขาจับจ้องไปที่วังวนพลังงานทันที
ด้านหลังพวกเขามีหลายร่างได้โผล่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ พลังของพวกนั้นมหาศาลราวกับมหาสมุทรซึ่งแข็งแกร่งอย่างมาก
ต่อมาก็มีผู้บ่มเพาะคนหนึ่งร่วงลงมาจากช่องทางนั้นสายตาของยอดฝีมือขั้นบรรพกาลเป็นประกายขึ้นมาทันทีด้วยการกลับมาของอีกฝ่ายถึงอีกฝ่ายไม่ใช่สมาชิกที่พวกเขาส่งไปสำรวจก็ตาม แต่การกลับมาของอีกฝ่ายนั้นหมายความว่าเขาต้องมีข่าวเกี่ยวกับเผ่าดาวทมิฬแน่ กลุ่มคนที่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ต่างก็เคลื่อนที่เข้าไปใกล้ช่องทางในก้าวเดียว แต่ตอนที่พวกเขากำลังจะถามผู้บ่มเพาะที่โผล่ออกมา มันก็มีคนมากมายร่วงออกมาจากช่องทาง
ในพริบตานั้นก็มีคนนับไม่ถ้วนกลับมาจากโลกแห่งสัตว์อสูรที่ร่วงหล่น พวกนั้นต่างก็ร่วงลงมาจากช่องทาง ไม่นานจำนวนคนเหล่านั้นก็มากกว่าหมื่นคน แต่มันกลับไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลงไปเลย
ยอดฝีมือขั้นบรรพกาลตะลึงเมื่อเห็นแบบนั้น พวกเขาใช้เวลารออยู่ที่นี่มาหลายเดือน ตะกี้นี้พวกเขายังภาวนาให้มีใครคนกลับออกมาเพื่อที่พวกเขาจะได้รู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านในในหมู่เผ่าดาวทมิฬ แค่คนเดียวก็ถือว่าเพียงพอแล้วแต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนมากมายกลับมาเช่นนี้ซึ่งทำให้พวกเขาสับสน
แต่พวกเขาก็พบว่าคนของตัวเองอยู่ในคนกลุ่มนี้ด้วยน ดังนั้นด้วยการกวาดแขนออกไป พลังอันน่ากลัวของพกวเขาก็กวาคนตของตัวเองก่อนจะหายไปในโถงศักดิ์สิทธิ์
การกลับมาของคนเหล่านี้ได้มาพร้อมกับข่าวล่าสุด องค์กรที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างเมืองร้อยเซียนรึไม่ได้เกี่ยวข้องนั้นไม่ได้รับผลกระทบมากที่สุดแต่คนจากองค์กรชั้นนำของเมืองร้อยเซียนต่างก็พากันคิ้วขมวดเมื่อได้ยินข่าวนี้ ยอดฝีมือขั้นบรรพกาลบางคนถึงกับสบถออกมา
“ ฮึ่ม พวกนั้นมาจากที่เล็กจ้อยแต่กลับหยิ่งทะนงแบบนี้ได้ หากข้าเข้าไปได้ ข้าคงทำลายทั้งเผ่าดาวทมิฬ…”
“ อะไรนะ ? เผ่าดาวทมิฬได้ฆ่าลูกหลานของตระกูลเราไปมากมายรึ ? พวกนั้นกล้าดียังไง ! พวกนั้นแค่เผ่าเล็ก ๆ แต่กลับกล้าหาเรื่องตระกูลดาราของเรา…”
“เผ่าดาวทมิฬทำเกินไปแล้ว ไอ้ศาลาเทพที่เจ็ดนั้นสมควรตายและศาลาเทพที่ห้านั่น พวกเขากลับเรียกร้องหยาบคายเช่นนี้ได้ พวกเขาคิดว่าพวกเขายิ่งใหญ่รึไง ? พวกเขาไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าพกเขาทันทีที่พวกเขาออกมาได้ในอนาคตรึ..”
“ของที่เผ่าดาวทมิฬเรียกร้องนั้นเป็นของขั้นเทพ เรามียาและทรัพยากรระดับนั้นมากมายในตระกูลและเราเสนอมันให้จำนวนมากได้ แต่แค่ว่ามันไม่มีชิ้นไหนเลยที่เอาเข้าไปได้…”
“ตระกูลข้าไม่อาจจะเสียฐานในเผ่าดาวทมิฬได้ ไม่งั้นแล้วมันจะเสียหายต่อตระกูลอย่างมาก ชัดแล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่เราแก้ไขได้ มันจะดีกว่าหากเรารายงานเรื่องนี้ไปยังบรรพชน…”
ยอดฝีมือขั้นบรรพกาลพากันพูดขึ้นมา นอกจากความหงุดหงิดแล้ว พวกเขารู้สึกหมดหนทางด้วย สุดท้ายพวกเขาก็ได้ส่งข่าวนี้กลับไปยังตระกูลเพื่อให้บรรพชนตัดสินใจเรื่องนี้
แม้แต่บรรพชนของเผ่าหมาป่าหายนะก็พูดขึ้นมา “เผ่าหมาป่าหายนะมีสิ่งที่ศาลาเทพที่ห้าเรียกร้องอยู่จริง แต่เราไม่อาจจะเอามันเข้าไปได้ มันคงไม่เป็นไรหากเผ่าของข้ายอมทิ้งธุรกิจในเผ่าดาวทมิฬ ตราบใดที่นายน้อยของเรากลับมาได้อย่างปลอดภัย”
ที่ราบน้ำแข็งขั้วโลกภายในเผ่ากระเรียนสวรรค์ บรรพชนของพวกนั้นมีแสงสีขาวอาบไปทั่วบดบังรูปลักษณ์เอาไว้ พวกเขาได้ตอบกลับ “ติดต่อไปยังคนของตระกูลในหมู่เผ่าดาวทมิฬและบอกพวกเขาให้รู้ว่าเผ่านั้นไม่อาจจะทำตามที่ศาลาเทพที่ห้าเรียกร้องได้ ในเวลาเดียวกันก็ให้พวกเขาทำอะไรก็ได้เพื่อรวบรวมของที่จำเป็น …”
หลังจากที่พูดจบบรรพชนก็ได้ถอนหายใจออกมา “แหล่งน้ำแห่งวิถีนั้นเกิดขึ้นแค่ในที่ที่จอมปราชญ์สูงสุดได้ตายไปหลังจากที่ผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมาย หากไม่มีแหล่งน้ำแห่งวิถี เราคงไม่อาจจะใช้การทำงานในหมู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ากระเรียนสวรรค์ของเราในการหล่อเลี้ยงผู้เยาวน์ได้ นี่ถือว่าเสียหายต่อตระกูล..”
“และดินแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์เองก็เช่นกัน เราพบมันได้ที่โลกดาวทมิฬเท่านั้น มันเป็นวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับการปรุงยาโลหิตบรรพชน หากไม่มีมันแล้ว ผลของยาก็จะลดลงถึง 3 ใน 10 …”