เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2796 - ตกอยู่ในวงล้อม
ตอนที่ 2796 – ตกอยู่ในวงล้อม
มีหลายคนที่เข้าใจกฎแห่งมิติในโลกแห่งเซียนและอีกมากมายที่เข้าใจกฎแห่งเวลา อย่างไรก็ตามโดยพื้นฐานแล้วคนเหล่านี้ทั้งหมดเข้าใจกฎเพียงข้อเดียว มีผู้ฝึกฝนเพียงไม่กี่คนในโลก กแห่งเซียนที่เข้าใจทั้งกฎแห่งเวลาและกฎแห่งมิติ การอธิบายว่าพวกเขาเป็นคนในตำนานไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด
นี่เป็นเพราะมีการเชื่อมต่อเล็กน้อยระหว่างกฎแห่งมิติและกฎแห่งกาลเวลาในระดับหนึ่ง เมื่อเข้าใจกฎทั้งสองข้อแล้ว ความยากในการทำความเข้าใจก็จะทบทวีคูณบางครั้งมากถึงหลายสิบหร รือหลายร้อยเท่า
แต่ตอนนี้เจี้ยนเฉินได้พบกับผู้ฝึกฝนที่เข้าใจทั้งกฎแห่งเวลาและกฎแห่งมิติ และการบ่มเพาะของเขาก็มาถึงขั้นราชาเทพที่น่าประทับใจ
หากนี่เป็นผู้บ่มเพาะเผ่าโลกดาวทมิฬ เจี้ยนเฉินก็คงไม่แปลกใจนักเพราะผู้ฝึกฝนเผ่าโลกดาวทมิฬมีเวลาเหลือเฟือในการทำความเข้าใจอย่างช้า ๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือคนที่เข้า าใจทั้งกฎแห่งมิติและกฎแห่งเวลาคือบุคคลภายนอก
นี่หมายความว่าอย่างไร นั่นหมายความว่าเขาอายุน้อยกว่าหนึ่งพันปี มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถก้าวเข้าสู่โลกดาวทมิฬได้
ในหนึ่งพันปี เขาได้ยกระดับความเข้าใจทั้งกฎแห่งเวลาและกฎแห่งมิติไปสู่ความเป็นราชาเทพ ความยากลำบากนั้นไม่มีใครเทียบได้ในการทำความเข้าใจกฎอื่น ๆ ความสามารถของเขาถือได้ว่าเป ป็นประวัติการณ์อย่างแท้จริง
“เขาเป็นราชาเทพช่วงต้นแล้ว แต่มิติที่เขาสร้างขึ้นนั้นแข็งแกร่งมากจนแม้แต่ราชาเทพช่วงกลางก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อทำลายมัน การผสมผสานระหว่างกฎแห่งมิติและกฎแห่งเวลานั้นทร รงพลังจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินถอนหายใจด้วยความชื่นชม จากการสังเกตของเขา มิตินั้นเพียงพอแล้วที่จะดักจับราชาเทพช่วงปลาย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการได้อย่างทั่วไป
“ท่านมีความเข้าใจที่น่าประทับใจ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะได้เห็นความแข็งแกร่งของโลกแห่งฟ้าดินของข้าก่อนที่ข้าจะทำอะไรเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามท่านยังคงประเมินโลกแห่งฟ้าดินข ของข้าต่ำเกินไป เพื่อให้ถูกต้องมากขึ้น แม้แต่ราชาเทพช่วงปลายก็ยังดิ้นรนเพื่อทำลายโลกแห่งฟ้าดินของข้า สำหรับราชาเทพช่วงกลาง ไม่มีใครสามารถผ่านมันไปได้ เว้นแต่พวกเขาจะเป็น นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ของราชาเทพช่วงสูงสุดและสามารถท้าทายผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าได้”
เสียงเรียบ ๆ ดังออกมา ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวปรากฏตัวต่อหน้าเจี้ยนเฉินจากที่ใดที่หนึ่งไม่ถึงร้อยเมตร เขาดูไม่แก่ อายุราว ๆ สิบแปดหรือสิบเก้าเท่านั้น เขามีใบหน้าที่ดีและดู เหมือนว่าเขายังไม่มีประสบการณ์ในตอนแวบแรก
เขาให้แสดงตัวตนอย่างสงบเพียงพอที่จะนำความสงบสุขมาสู่สภาพแวดล้อมซึ่งทำให้ตัวตนของเขาผสานเข้ากับโลกรอบตัว ราวกับว่าร่างกายของเขาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งรอบข้าง เขาได้บรรลุ “การ เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ” อย่างแท้จริง
“โลกแห่งฟ้าดิน? เจ้าเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่าโลกแห่งฟ้าดิน ? ” เจี้ยนเฉินถาม อย่างไรก็ตาม เขาเข้าใจว่าการเรียกสิ่งนี้ซึ่งประกอบด้วยกฎแห่งมิติและกฎแห่งเวลาว่า “โลก” นั้นมีความหมายที สมบูรณ์แบบ เนื่องจากมิติได้กลายเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์แล้วเช่นเดียวกับโลกขนาดเล็กที่แท้จริง การไหลเวียนของเวลาที่นี่ได้แยกออกจากโลกดาวทมิฬโดยสิ้นเชิง
“ถูกต้อง สำหรับข้า เวลาคือฟ้าและมิติคือดิน การผสมผสานระหว่างเวลาและมิติทำให้เกิดโลก ดังนั้นโลกนี้ของข้าจึงถูกเรียกว่าโลกแห่งฟ้าดิน” ชายหนุ่มกล่าวด้วยความสงบ เขายืนกอดอก กและลอยอยู่ที่ระดับความสูง 1,000 เมตร เขาไม่ได้ดำเนินการใด ๆ
“ตระกูลฉู่ ตระกูลกง ตระกูลเส้า ตระกูลคังเฉียงและนิกายหยูเจียง ส่งเจ้ามาจัดการกับข้าหรือ ? เจ้ามั่นใจจริง ๆ หรือว่าจะทำให้ข้าติดอยู่ในโลกแห่งฟ้าดินของเจ้าได้” เจี้ยนเฉินจ้อง งมองไปที่ชายหนุ่มและสายตาของเขาก็ค่อย ๆ คมกล้าขึ้น
ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธเรื่องนั้น เขาพยักหน้าเบา ๆ “ หยางยู่เทียน ข้าเคยได้ยินมาว่าเจ้ามีความสามารถในการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาซึ่งมากพอที่จะแข่งขันกับนายน้อยของเผ่าหมาป่าหายนะที่ได้ร รับมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด แม้ว่าโลกแห่งฟ้าดินของข้าจะไม่สามารถทำให้เจ้าติดอยู่กับที่เป็นเวลานานได้ แต่การทำให้เจ้าติดอยู่ชั่วขณะก็ไม่เป็นปัญหา”
“ตามปกติแล้วไม่มีผลดีใด ๆ เกิดขึ้นกับผู้ที่ต่อต้านข้า เจ้าเคยพิจารณาถึงผลของการต่อต้านข้าหรือไม่ ? แม้จะอยู่ในโลกแห่งเซียน เจ้าก็ยังเป็นคนที่น่ามหัศจรรย์ที่สามารถเข้าใจทั งกฎแห่งเวลาและกฎแห่งมิติขั้นราชาเทพได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ถ้าเจ้าตายไป นั่นก็น่าเสียดายมาก ถ้าเจ้าจากไปในตอนนี้ ข้าจะลืมทุกอย่างที่เจ้าทำ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเย็นชา
“ขอโทษ ข้าแค่ทำตามคำขอของใครบางคน เนื่องจากข้าได้ตกลงไปแล้ว ข้าจึงต้องรักษาคำพูดของข้า ” เมื่อเขาไปถึงที่นั่น ชายหนุ่มก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินเหมือนกำลัง งมองไปที่คนตายและพูดว่า “ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเจ้าจะเอาชนะข้าได้ เจ้าก็จะไม่ได้รับโอกาสราวกับว่าไม่มีอะไรผิดพลาดวันนี้ เจ้าไม่น่าจะออกไปได้”
“โลกแห่งฟ้าดิน – เปิด!” ชายหนุ่มก็กางแขนทันที แขนขาทั้งหมดของเขาแผ่กิ่งก้านสาขาออกไป กฎแห่งเวลาและกฎแห่งมิติโคจรรอบตัวเขารวมเข้าด้วยกันและรบกวนมิติรอบตัวเขา จนทำให้พื้น นที่ที่เขาอาศัยอยู่กลายเป็นโลกขนาดเล็กแห่งใหม่ ทันใดนั้นโลกขนาดเล็กก็ขยายออกไปด้านนอกพร้อมกับเสียงร้องของเขาและเพิ่มพื้นที่ขึ้นหลายเท่าในช่วงเวลานั้น
ในขณะที่โลกขนาดเล็กขยายตัวและดูดซับพื้นที่มากขึ้นผู้คนที่เดิมอยู่บนขอบของโลกจิ๋วดั้งเดิมก็ถูกห่อหุ้มโดยธรรมชาติเช่นกัน
คนเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็นห้ากลุ่มจำนวนเกือบสี่พันคน ทุกคนเปล่งประกายด้วยออร่าของราชาเทพ
กลุ่มคนทั้งห้าคือทหารพลีชีพราชาเทพของตระกูลฉู่ ตระกูลกง ตระกูลเส้า ตระกูลคังเฉียง และนิกายหยูเจียง ในขณะที่ผู้นำที่นำพวกเขาก็คือ ฉู่เจี๋ย, กงรุ่ย, เส้าเหวินปิน, คงเฟย หยิน และโจวจื้อ
ทันทีที่พวกเขาเห็นเจี้ยนเฉิน ดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉู่เจี๋ย ไม่เพียงแต่ดวงตาของเขาระเบิดด้วยจิตสังหาร แต่ความเกลียดชังของเขารุนแรงมากจนท ทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว มันทำให้เขาดูดุร้ายเป็นพิเศษ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ หยางยู่เทียน ในที่สุดเราก็มีโอกาสจับเจ้าได้แล้ว ! ตอนนั้นเจ้าไม่ได้หยิ่งผยองเหมือนในภูเขาโลกาแฝดหรือ ? ทำไมตอนนี้เจ้าถึงกลัวล่ะ ? เจ้ารู้สึกกลัวอยู่ข้างในใช่หรือไม่ ? ” ฉู่เจี๋ยยืนอยู่ท่ามกลางทหารพลีชีพราชาเทพและหัวเราะด้วยความยินดี ราวกับว่าในที่สุดเขาก็มีโอกาสแลกตัวเองจากความอัปยศอดสูในอดีต
“หยางยู่เทียน เจ้าคงไม่เคยคิดว่าจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ใช่หรือไม่ ? มีเพียงชะตากรรมเดียวที่รอคอยผู้ที่ทำให้เราขุ่นเคือง นั่นก็คือความตาย…”
“หยางยู่เทียน เจ้าไม่ใช่เคยน่าประทับใจในภูเขาโลกาแฝดหรอกหรือ ? ข้าอยากจะดูว่าเจ้าสามารถโจมตีได้กี่ครั้งต่อหน้าค่ายกลของเรา…”
“วันนี้ เจ้าทำเพื่อ…”
“ไม่มีใครช่วยเจ้าได้…”
กงรุ่ย, คงเฟยหยิน, โจวจื้อ และเส้าเหวินปิน ต่างก็หัวเราะเยาะเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเสียใจที่พลุ่งพล่านรวมทั้งความเกลียดชังที่ลึกซึ้งมาก
ความเกลียดชังความคับแค้นใจนี้ล้วนมาจากความอัปยศอดสูที่พวกเขาได้รับมาแต่เดิม
พวกเขาได้รับความอับอายต่อหน้าสาธารณชน !
ย้อนกลับไปในภูเขาโลกาแฝด ทั้งห้าคนได้สูญเสียทหารพลีชีพราชาเทพไปมากมาย แม้แต่พวกเขาเองก็เกือบตายด้วยน้ำมือของหยางยู่เทียน ตอนนี้พวกเขาทั้งห้าคนเต็มไปด้วยความมั่นใจราวกับว ว่าชัยชนะอยู่ในมือพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับหยางยู่เทียนอย่างจริงจังเลย เนื่องจากพวกเขาได้เข้าสู่ค่ายกลแล้ว
ตอนนี้พลังของพวกเขาและพลังของทหารพลีชีพราชาเทพจำนวนมากได้รวมเข้าด้วยกันผ่านการผสาน พวกเขาทั้งหมดเป็นราชาเทพ แต่พวกเขามีความสามารถในการต่อสู้ของขอบเขตตั้งต้น