เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2808: จักรพรรดิแห่งความเยาว์วัย
ตอนที่ 2808: จักรพรรดิแห่งความเยาว์วัย
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก หัวหน้าศาลา ท้ายที่สุดเราก็พบท่านแล้ว ท่านต้องคิดไม่ถึงแน่ ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้เรากังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าศาลา เฟิงสือ ขอ องศาลาสิบ นับตั้งแต่ที่นางรู้ว่าท่านเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝดเพียงลำพัง นางก็แทบจะถลกหนังของพวกเราทั้งสามด้วยความโกรธ” โตววูจินเข้ามาหาเจี้ยนเฉินในพริบตา เมื่อเห็ นหัวหน้าศาลาที่อยู่ในชุดเกราะยังอยู่ดี จิตใจที่ตึงเครียดของเขาก็สงบลง
“ทำไมนางมาอยู่ที่นี่ ? และยังมีผู้เชี่ยวชาญกำลังสู้กับสัตว์อสูรกลืนชีวิตจากระยะไกล นั่นใช่จักรพรรดิของเราหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉิน เขาเดาได้แล้วว่าเผ่าดาวทมิฬอาจจะระดัมผู้เช ชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งหมด แม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็เป็นอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามเขาไม่ควรรู้เรื่องนี้ด้วยพลังของเขาในฐานะคุนเทียน
“ทั้งหมดนี้เริ่มจากการกระทำที่รุนแรงในภูเขาโลกาแฝด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราได้รับข่าวว่าการปรากฏตัวของราชาสัตว์อสูรกลืนชีวิตหลายสิบตัวปรากฏขึ้นในส่วนลึกของภูเขาโลกา าแฝดพร้อม ๆ กัน สิ่งเดียวที่จะกำจัดราชาสัตว์อสูรกลืนชีวิตเหล่านี้ในภูเขาโลกาแฝดได้คือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นของเผ่าเรา”
“ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่สามารถทำให้การเดินทางของท่านไปยังส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝดเป็นความลับได้อีกต่อไป ศาลาเทพทั้งสิบจะพบในไม่ช้า และมีการค้นพบว่าท่านไม่ใช่คนเดียวที่เข้ามาใน ส่วนลึกนี้ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเสิ่นหราน หัวหน้าศาลาที่แปดก็เข้ามาในส่วนลึกด้วย”
“ถ้าภูเขาโลกาแฝดยังสงบอยู่ก็เป็นอย่างนั้น แต่มีเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งหมายความว่าท่านถูกเปิดเผยแล้วและได้ดึงดูดความสนใจของราชาสัตว์อสูรกลืนชีวิตในภูเขาโลกาแฝด หล ลังจากนั้นเรารออีกสองสามวันด้วยหวังว่าท่านจะกลับมาอย่างปลอดภัย”
“แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่มีข่าวใด ๆ จากท่านหรือหัวหน้าศาลาเสิ่นหราน ดังนั้นเราจึงไม่มีทางเลือกอื่น สิ่งที่เราทำได้คือการรายงานเรื่องนี้ต่อจักรพรรดิ เป็นผลทำให้จักรพรรดินำหัวหน้ าศาลาและรองเจ้าศาลาทั้งสิบเข้ามาในส่วนลึก” โตววูจินบอกกับเจี้ยนเฉินว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เขาออกจากศาลาเทพที่ห้า เมื่อเจี้ยนเฉินรู้ว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งหมด ดของสิบศาลาเทพออกมา มันทำให้เขาตกใจอย่างมาก
เพื่อหาคุนเทียนหรือเสิ่นหราน ทั้งสิบศาลาของเผ่าดาวทมิฬได้เดินทางไกล รวมทั้งจักรพรรดิดาวทมิฬก็เดินทางมาด้วยตัวเอง
“โอ้ ใช่ ท่านเคยเห็นหัวหน้าศาลาเสิ่นหรานหรือไม่ ? ” โตววูจินถาม หลังจากนั้นเขาก็ใช้ทักษะลับเพื่อถ่ายทอดข่าวที่เขาพบหัวหน้าศาลาของเขาให้คนอื่นทราบทันที
เจี้ยนเฉินส่ายหัว “ข้าไม่เห็นเสิ่นหราน แต่ข้ารู้สึกถึงพลังแห่งการมีอยู่ของเขาเมื่อสองสามวันก่อน เราไม่ได้ติดต่อกันขณะที่อยู่ในภูเขาโลกาแฝด ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาซ่อนตัว วอยู่ที่ไหนตอนนี้”
“ดูเหมือนว่าหัวหน้าศาลาเสิ่นหรานจะเป็นคนทำให้เกิดการกระทำที่รุนแรงเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าสงสัยว่าหัวหน้าศาลาเสิ่นหรานจะเป็นอย่างไรตอนนี้” โตววูจินกล่าวด้วยความกังวล
ในเวลานั้น เกิดเสียงร้องมาจากระยะไกล สิ่งนี้มาจากจักรพรรดิดาวทมิฬ มันเป็นเสียงกู่ร้องที่ทะลุทะลวงจนสร้างระลอกคลื่นเสียงกระจายไปทั่วทิศทาง มันกระจายออกไปภายในภูเขาโลกาแฝดเป ป็นเวลานานทีเดียว
เมื่อได้ยินเสียงร้อง สีหน้าของโตววูจินก็เปลี่ยนไปราวกับว่าเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาพูดกับเจี้ยนเฉินว่า “หัวหน้าศาลา จักรพรรดิกำลังบอกให้เราถอนกำลังออกจากภูเขาโลกาแฝด พวกเขาอาจจะพบหัวหน้าศาลาเสิ่นหรานแล้ว ออกไปโดยเร็ว จักรพรรดิจะประหยัดพลังได้มากเมื่อเราออกไปได้เร็ว”
เจี้ยนเฉินและโตววูจินเริ่มออกเดินทางจากภูเขาโลกาแฝดด้วยการบิน ในขณะที่ขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดของสัตว์อสูรกลืนชีวิตในภูเขาโลกาแฝดดึงความสนใจ มันจึงทำให้โตววูจินไม่ต้องระมั ดระวังขณะเดินทางกลับ พวกเขาใช้ความเร็วอย่างเต็มที่เพื่อออกจากหมอกอย่างรวดเร็วและกลับไปยังดินแดนของเผ่าดาวทมิฬ
“เฮือก ! ท้ายที่สุดเราก็ออกมาได้ ส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝดยับยั้งความแข็งแกร่งของเรามากเกินไป มันอึดอัดมาก ข้าไม่อยากมาที่นี่อีกแล้ว ให้ตายสิ” โตววูจินสูดลมหายใจจากโลกดาวท ทมิฬเข้าเต็มปอดด้วยความพึงพอใจ
“คุนเทียน เจ้าไม่อยากมีชีวิตต่อไปอีกแล้วหรือ ? เจ้าเข้าไปส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝดโดยประมาท ! เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่าข้างในมันอันตรายขนาดไหน ? เจ้าไม่ทราบหรือว่าสถานที่นี้เป็นสถา านที่ต้องห้ามของคนเผ่าดาวทมิฬ เราไม่อาจแม้แต่จะก้าวขาได้ ? ! ” ทันใดนั้นเสียงตะโกนที่ดังออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้น มันเป็นของเฟิงสือ หัวหน้าศาลาที่สิบขณะที่พุ่งออกมา าจากภูเขาโลกาแฝดอย่างรวดเร็วจนมาถึงด้านหน้าของเจี้ยนเฉินด้วยใบหน้าถมึงทึง สายตาที่เฉียบแหลมของนางเต็มไปด้วยความโกรธที่แทบไม่อาจตวบคุมได้ นางดุด่าเจี้ยนเฉินอย่างรุนแรงทันทีท ที่นางเห็นเขา
เพราะว่าปลอมเป็นคุนเทียน เจี้ยนเฉินจึงไม่ตอบอะไรขณะที่เขาพบว่าเฟิงสือกำลังโกรธ แต่กลับเป็นกังวลแทน เขารู้สึกหมดหนทาง อย่างไรก็ตามเมื่อมีผู้คนออกมาเพิ่มมากขึ้น เฟิงสือก็อดไม ม่ได้ที่จะลดเสียงดุด่าของนางลง นางยืนอยู่อีกด้านอย่างเงียบ ๆ
ไม่นาน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทุกคนที่เข้าสู่ภูเขาโลกาแฝดก็กลับมายังดินแดนของเผ่าดาวทมิฬ เจี้ยนเฉินมองพวกเขาผ่าน ๆ และพบว่านอกจากเสิ่นหรานแล้ว ยังมีหัวหน้าศาลาและรองห หัวหน้าศาลาทั้งหมดต่างก็อยู่ที่นี่ แม้แต่เก็ตตี้จากศาลาเจ็ดก็อยู่ท่ามกลางพวกเขา
อย่างไรก็ตามมันไม่อาจเห็นพวกเขาได้ง่าย ๆ แต่พวกเขาก็มารวมตัวกันที่นี่และจ้องไปที่ส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝด
นั่นเป็นเพราะเสียงกู่ร้องและอึกทึกของสัตว์อสูรกลืนชีวิตยังอยู่โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จักรพรรดิดาวทมิฬยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับสัตว์อสูรกลืนชีวิต การต่อสู้ของพวกเขาเ เป็นการทำลายล้างอย่างแน่นอน แม้จะอยู่ห่างออกไปสิบล้านกิโลเมตรหรือหลายร้อยล้านกิโลเมตร แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงแผ่นดินที่สั่นสะเทือนภายในส่วนลึกของภูเขา
“ทำไมจักรพรรดิยังอยู่ที่นั่น ? เขาได้ต่อสู้กับราชาสัตว์อสูรกลืนชีวิตหลายตัวเพียงลำพัง มันต้องใช้พลังงานของเขาไปมากมาย ส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝดไม่เพียงแต่ระงับความแข็งแกร่งขอ องเรา แต่เราก็ไม่สามารถฟื้นฟูพลังงานของเราได้เช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไป แม้แต่จักรพรรดิก็ตาม ความสามารถพิเศษของเขาก็ไม่อาจอยู่ได้ในไปกว่าราชาท้องถิ่นเหล่านี้” รองหัวหน้าศาลาท ที่สิบกล่าว เขากังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของจักรพรรดิ
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นหลายสิบคนยืนอยู่ที่นั่นด้วยความเคร่งเครียดกันทุกคน บรรยากาศเริ่มน่าอึดอัด ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนได้รวบรวมพลังอย่างลับ บ ๆ และพร้อมที่จะเข้าไปในภูเขาโลกาแฝดเพื่อช่วยเหลือจักรรพดิดาวทมิฬได้ทุกเมื่อ
จักรพรรดิดาวทมิฬทรงพลังมาก เขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าดาวทมิฬ แต่ตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรกลืนชีวิตทั้งหมดของภูเขาโลกาแฝด ทำให้หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาที่ อยู่ที่นั่นต่างไม่แน่ใจ
พวกเขากังวลเพียงไม่นาน ผ่านไปเกือบหนึ่งนาที ท้ายที่สุดเสียงกู่ร้องจากส่วนลึกก็หยุดลง ไม่นานร่างที่มีพลังแห่งการมีอยู่ที่พลุ่งพล่านก็ออกมาจากภูเขาโลกาแฝดราวกับสายฟ้า
เขาคือจักรพรรดิดาวทมิฬ เขาออกมาจากภูเขาโลกาแฝดแล้ว แม้ว่าการเคลื่อนที่ของเขาจะเร็วมาก แต่เขาก็ยังสงบนิ่ง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการถอยเพราะไม่ใช่ว่าเขาไม่อาจจัดการกับสัตว์ อสูรกลืนชีวิตได้ แต่เป็นเพราะเขาลังเลว่าจะทำต่อไปจนกว่าจะมีใครคนใดคนหนึ่งตาย
“จักรพรรดิ ! ”
ในตอนนี้จักรพรรดิดาวทมิฬได้ปรากฏขึ้น บรรดาหัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาที่กังวลก็เปี่ยมไปด้วยความยินดี ท้ายที่สุดพวกเขาก็คลายความกังวล
เจี้ยนเฉินมองไปที่จักรพรรดิดาวทมิฬ เขาเคยได้ยินชื่อเกี่ยวกับจักรพรรดิดาวทมิฬและชื่อเสียงของเขามามากแล้ว ก่อนที่เขาจะเข้าสู่โลกดาวทมิฬ เขาได้รู้เกี่ยวกับการคงอยู่ของจักรพ พรรดิดาวทมิฬจากเด็กไร้หัวใจแล้ว อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นจักรพรรดิดาวทมิฬด้วยตาตนเอง แม้ว่าเขาจะใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในโลกดาวทมิฬแล้วก็ตาม
จักรพรรดิดาวทมิฬดูเหมือนจะไม่แก่เลย เขายังคงมีความอ่อนเยาว์ด้วยอายุประมาณ 20 ปี เขาสวมชุดคลุมสีดำและใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็เต็มไปด้วยความเย็นชา เขายังคงจริงจังและขึงขัง ง
อย่างไรก็ตาม เขามีผมสีเทาแซมและคิ้วที่เป็นสีขาวราวกับหิมะ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วสิ่งนี้จะปรากฏในผู้สูงอายุซึ่งตรงกันข้ามกับลักษณะที่อ่อนเยาว์ของเขาอย่างสิ้นเชิง