เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2809: ศาลาเทพดาวทมิฬ
ตอนที่ 2809: ศาลาเทพดาวทมิฬ
“คารวะ ฝ่าบาท ! ”
บรรดาหัวหน้าศาลาต่าง ๆ รวมถึงรองหัวหน้าศาลาต่างก็โค้งคำนับต่อจักรพรรดิดาวทมิฬ เพื่อไม่ให้โดดเด่น เจี้ยนเฉินจึงทำตามพวกเขาและเล่นไปตามน้ำ
จักรพรรดิดาวทมิฬไม่ได้พูดอะไร เขายังคงมีสีหน้าปกติบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ขณะที่เขากวาดสายตามองอย่างเย็นชาก่อนที่จะจับจ้องไปที่เจี้ยนเฉินในท้ายที่สุด
ตอนนี้พลังแห่งการมีอยู่ของเขาเพิ่มมากกว่าตอนที่เจี้ยนเฉินสัมผัสได้จากภูเขาโลกาแฝด
นั่นเป็นเพราะความแข็งแกร่งของจักรพรรดิดาวทมิฬถูกปราบปรามในภูเขาโลกาแฝด ทำให้เขาไม่อาจปลดปล่อยความแข็งแกร่งของเขาได้ทั้งหมด ตอนนี้เขาออกจากภูเขาโลกาแฝดแล้ว เขาสามารถแสดงพลังของเขาได้อย่างเต็มที่
สำหรับเจี้ยนเฉิน พลังแห่งการมีอยู่ของเขาตอนนี้ทรงพลังมากจนเกินกว่าขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 1 ซึ่งเพิ่งทะลวงผ่านในโลกเซียน
“เขาสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้ได้อย่างไรในขณะที่อยู่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 จักรพรรดิดาวทมิฬก็เป็นอัจฉริยะที่หายากเช่นกัน” เจี้ยนเฉินคิด ในอดีต ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับจักรพรรดิดาวทมิฬนั้นมีจำกัดตามข่าวลือเท่านั้น ตอนนี้เมื่อเขาเห็นอีกฝ่ายด้วยตาของตัวเอง เขาก็พบว่าจักรพรรดิดาวทมิฬนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้
เขาเริ่มสงสัยว่าจักรพรรดิดาวทมิฬมีพลังมากพอที่จะรับมือขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 2 ได้แล้ว
เมื่อเทียบกับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนั้น เจี้ยนเฉินจะไม่เป็นคู่ต่อสู้ของเขา แม้ว่าเขาจะอยู่ในจุดสูงสุดของเขาก็ตาม
“จักรพรรดิ หัวหน้าศาลาเสิ่นหรานอยู่ที่ไหน ? ทำไมข้าไม่เห็นหัวหน้าศาลาเสิ่นหราน ? อย่าบอกนะว่าหัวหน้าศาลาเสิ่นหรานยังติดอยู่ในภูเขาโลกาแฝด ? ” รองหัวหน้าศาลาแปดมองไปรอบ ๆ และพบว่ามีเพียงศาลาเทพของเขาเท่านั้นที่ไม่มีหัวหน้าศาลา เขาเริ่มกังวลทันที
หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาคนอื่น ๆ ก็ไม่เห็นเสิ่นหรานเช่นกัน หลายคนสับสน พวกเขาประสบโชคร้ายงั้นหรือ
“ทุกคน กลับไปที่ศาลาเทพดาวทมิฬ ! ” จักรพรรดิดาวทมิฬละสายตาจากเจี้ยนเฉินและออกคำสั่งไปอย่างไม่แยแสก่อนที่จะนำพวกเขาออก เพียงก้าวเดียวก็เคลื่อนที่ผ่านกว่าพันกิโลเมตรและกลับไปยังเมืองหลวงของเผ่าดาวทมิฬ
หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากมองหน้ากันและกัน เมื่อพวกเขาเห็นว่าจักรพรรดิดาวทมิฬหลีกเลี่ยงหัวข้อของรองหัวหน้าศาลาแปดอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เห็นเสิ่นหรานโผล่ออกมาจากภูเขาโลกาแฝดซึ่งนำไปสู่ลางร้ายแล้ว ด้วยพฤติกรรมของจักรพรรดิดาวทมิฬในตอนนั้นมันยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ พวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่รุนแรงขึ้นเพียงเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของรองหัวหน้าศาลาของศาลาแปดได้เปลี่ยนไปอย่างมากแล้ว หลังจากนั้นเขาก็รีบกลับไปเมืองหลวงด้วยอารมณ์ที่ไม่สบายใจ
หลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นหลายสิบคนได้ระดมพลจากศาลาเทพทั้งสิบต่างก็ลุกขึ้นและพากันไปยังเมืองหลวงพร้อมกับคนต่าง ๆ
ระหว่างทางเหล่าหัวหน้าศาลาต่าง ๆ ก็แอบถามเจี้ยนเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์ของเสิ่นหรานตลอดจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในภูเขาโลกาแฝดเมื่อเร็ว ๆ นี้
เจี้ยนเฉินคาดการณ์ไว้แล้วว่าพวกเขาจะถามเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดซ้ำสิ่งที่บอกกับโตววูจินเมื่อเขาเห็นอีกฝ่ายครั้งหรือสองครั้ง
พวกหัวหน้าศาลาทั้งหมดต่างก็เงียบลง
“สถานการณ์อาจไม่เลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิด เสิ่นหร่านอาจออกจากภูเขาโลกาแฝดไปนานแล้ว ถ้าเขาไม่อยู่ที่นั่น เราไม่พบเขาแน่นอน” เฟิงสือกล่าวเบา ๆ นางพยายามที่จะเชื่อว่าเสิ่นหรานตายไปแล้ว ท้ายที่สุดแล้วเขาไม่เพียงแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเท่านั้น แต่เขายังเป็นหัวหน้าศาลาอีกด้วย
การตายของหัวหน้าศาลาหรือไม่ใช่มาจากคนของศาลาอื่น ๆ ต่างเป็นเหตุการณ์ใหญ่มากพอที่จะทำให้เผ่าของพวกเขาได้สั่นไหวได้
นับประสาอะไรกับหัวหน้าศาลาสักคน แม้แต่การตายของรองหัวหน้าศาลาก็ทำให้ทั้งเผ่าสั่นคลอนได้
นั่นเป็นเพราะสงครามยังไม่เคยเกิดขึ้นในโลกดาวทมิฬ ความขัดแย้งเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เกิดการนองเลือดคือมาจากกลุ่มคนนอก ทำให้ราชาเทพที่ตายนั้นล้วนเป็นเหตุการณ์ปกติในเผ่าดาวทมิฬ อย่างไรก็ตามการตายของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นนั้นแทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยตลอดประวัติศาตร์ของพวกเขา
สิบศาลาเทพลอยอยู่สูงเหนือเมืองหลวงซึ่งเป็นตัวแทนของสถานที่ของผู้มีอำนาจในเผ่าดาวทมิฬ
เหนือศาลาเทพทั้งสิบมีวังหลวงอีกแห่งหนึ่งที่อยู่เหนือพวกเขาอย่างภาคภูมิราวกับว่ามันกำลังจ้องกลุ่มขุนศึกแม้กระทั่งการเหยียบย่ำศาลาเทพทั้งสิบเพื่อแสดงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าดาวทมิฬ
วังหลวงแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของเผ่าดาวทมิฬ นั่นก็คือ ศาลาเทพเผ่าดาวทมิฬ !
ในสายตาของคนนอก มันคือวังหลวงของจักรพรรดิของเผ่าดาวทมิฬ ซึ่งเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิของพวกเขาอาศัยอยู่
แต่สำหรับเผ่าดาวทมิฬ มันเป็นเสาหลักในการสนับสนุนของเผ่าและยังเป็นจิตวิญญาณของเผ่าทั้งหมดอยู่ มันได้รีบการขนานนามว่า ศาลาเทพเผ่าดาวทมิฬ !
ปัจจุบันหัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาทั้งหมดรวมตัวกันใจศาลาเทพดาวทมิฬ ซึ่งมีที่นั่งเรียงกันตามศาลาเทพทั้งสิบ ทุกคนต่างก็นั่งตามที่นั่งพิเศษนี้
ในกลางห้องโถงมีที่นั่งมากกว่า 40 ที่นั่ง นอกเหนือจาก 6 ที่นั่งที่ว่างเปล่าแล้ว ที่เหลือต่างมีคนนั่งอยู่
ไม่มีเครื่องหมายหรือชื่อใด ๆ บนที่นั่ง มีแค่บอกว่าหัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลของโตววูจิน, ปิงหยวนและทารอท เจี้ยนเฉินก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุนเทียนนั่งอยู่ที่ไหน
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนที่นั่งของเขา สายตาของเจี้ยนเฉินกวาดผ่านไปยังที่นั่งว่างทั้งหกอย่างสบาย ๆ เขาทราบคร่าว ๆ เกี่ยวกับเจ้าของที่นั่งเหล่านี้แล้ว นอกเหนือจากที่นั่งด้านหน้าสุดที่เป็นของเสิ่นหรานแล้ว ที่นั่งว่างด้านหลังก็ควรจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นอีก 5 คนของเผ่าดาวทมิฬ
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งห้านี้ไม่ได้มีตำแหน่งใด ๆ อย่างเป็นทางการภายในศาลาเทพทั้งสิบ แต่พวกเขาทำหน้าที่เป็นเจ้าเมืองสำหรับ 5 เมืองใหญ่จากทั้งสามสิบเมืองของเผ่าดาวทมิฬ
จักรพรรดิดาวทมิฬนั่งขัดสมาธิอยู่บนบัลลังก์เหนือศาลา บัลลังก์อยู่ชิดกับกำแพง เขามองเจี้ยนเฉินอย่างสงบและถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกดดันที่ไม่อาจท้าทายว่า “คุนเทียน ทำไมเจ้าถึงไปยังภูเขาโลกาแฝด แม้ว่าเจ้าจะเสียความทรงจำและลืมเกี่ยวกับอันตรายของภูเขาโลกาแฝด แต่รองหัวหน้าศาลาทั้งสามของศาลาห้าของเจ้าก็ได้บอกเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วไม่ใช่หรือ ? ” จักรพรรดิดาวทมิฬพูดอย่างดุดัน หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาสองสามคนที่คุ้นเคยกับอารมณ์ของจักรพรรดิดาวทมิฬสัมผัสได้ถึงความโกรธที่ซ่อนอยู่ภายในน้ำเสียงอันเคร่งขรึมของจักรพรรดิดาวทมิฬ
คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าความโกรธนั้นมาจากความเดือดดาล
ปิงหยวน,ทารอทและโตววูจินมีสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขามองกันและกันอย่างลุกลี้ลุกลน พวกเขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าจักรพรรดิดาวทมิฬกำลังมีความโกรธที่หาได้ยากมาก
“ฝ่าบาท เหตุผลที่ข้าเข้าไปในภูเขาโลกาแฝด แม้ว่าจะมีอันตรายก็เพราะข้าได้รับเศษเสี้ยวความทรงจำของสัตว์อสูรอวกาศเพราะโชคดีในแดนทำลายวิญญาณ แม้ว่าเนื้อหาของความทรงจำจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยังชี้ให้ไปยังส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝด ข้าเข้าไปในภูเขาโลกาแฝดเพื่อตรวจสอบความทรงจำเหล่านี้” เจี้ยนเฉินกล่าว
“อย่างนั้น เสิ่นหรานล่ะ ? เขาก็เข้าไปในภูเขาโลกาแฝดกับเจ้า นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบว่ามีอะไรอยู่ในความทรงจำของสัตว์อสูรอวกาศอีกหรือ ? ” จักรพรรดิดาวทมิฬยังถามต่อเนื่องด้วยน้ำเสียงที่ค่อย ๆ กดดัน
“ฝ่าบาท ข้าเข้าไปในภูเขาโลกาแฝดคนเดียว ทำไมหัวหน้าศาลาเสิ่นหรานถึงเข้าสู่ภูเขาโลกาแฝดด้วย ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด ถ้าหัวหน้าศาลาเสิ่นหรานไม่เผยพลังแห่งการมีอยู่ของเขาในภูเขาโลกาแฝด ข้าคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ที่นั่น” เจี้ยนเฉินตอบอย่างสงบ