เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2824 - ห้าหัวหน้าศาลารวมตัว - novel-lucky

ตอนที่ 2824 – ห้าหัวหน้าศาลารวมตัว

เห็นได้ชัดว่าเจี้ยนเฉินไม่รู้เลยว่าเงื่อนไขในการปกป้องที่เขาเสนอนั้นจะทำให้ขั้นบรรพกาลจำนวนมากในซากปรักหักพังของโลกจิตวิญญาณวิ่งไปหาเหรียญผลึกด้วยตัวเองเหมือนกับที่เขาอยู่ ในโลกดาวทมิฬตอนนี้ เขากำลังเดินทางกลับไปที่ศาลาเทพที่ห้า

“ท่านหัวหน้าศาลา ข้าอยากรู้มาก ชิ้นส่วนของหยกแห่งกาลเวลามีความสำคัญมากถึงขนาดที่หัวหน้าศาลาเต็มใจที่จะไม่เอาผลแห่งเลือดศักดิ์สิทธิ์จากพวกเขาเลยหรือ ? ” ปิงหยวนไม่สามารถระงั บความสงสัยและได้ถามเจี้ยนเฉินอยู่ข้าง ๆ

ในเวลาเดียวกัน เขาก็กังวลเล็กน้อยและพูดต่อ “และสีหวู่ฉิงก็เช่นกัน เขาเป็นรองหัวหน้าศาลา ท่านได้ทำให้เขาอับอายในเมืองร้อยเซียน ท่านหัวหน้าศาลา ศาลาเทพที่หกอาจไม่ปล่อยให้ เรื่องนี้ให้ผ่านไป”

“ศาลาเทพที่หกค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าศาลาเทพที่ห้าของเราเล็กน้อย แม้แต่ศาลาเทพที่เจ็ดก็ยังแข็งแกร่งน้อยกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับศาลาเทพที่หก กล่าวกันว่าเออร์วิน หัวหน้าศาล ลาที่หกได้มาถึงจุดสูงสุดของชั้นสวรรค์ที่ 6 แล้ว เขาใช้เวลาสองสามปีที่ผ่านมาในการฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ เพื่อมุ่งสู่การก้าวไปสู่ชั้นสวรรค์ที่ 7 อย่างเห็นได้ชัด”

“สำหรับความแข็งแกร่งของเขา เออร์วินนั้นแข็งแกร่งกว่าเก็ตตี้ หัวหน้าศาลาที่เจ็ดแน่นอน ! ”

ทันทีที่เขานึกถึงความแข็งแกร่งของศาลาเทพที่หก ปิงหยวนก็เต็มไปด้วยความกังวล “ภายในโถงของเรามีเพียง อาร์นา หัวหน้าศาลาที่สองเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับเออร์วินได้ และแม้ว่าเร ราจะไม่สนใจเออร์วิน หัวหน้าศาลาที่หก แต่สีหวู่ฉิงก็ไม่ใช่คนเดียวที่อยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 4 พี่ชายของเขา สีหวู่หมิง ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นสวรรค์ที่ 4 เช่นกัน ศาลาเทพที่ห้าขอ องเราไม่มีโอกาสต่อต้านพวกเขาด้วยความแข็งแกร่งที่พวกเขามี”

เจี้ยนเฉินบินไปในอากาศโดยเอามือไพล่หลังขณะที่เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าได้รับพลังที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยสัตว์อสูรในภูเขาโลกาแฝด มันอาจไม่เพียงพอสำหรับ ข้าที่จะทะลวงผ่านไปยังชั้นสวรรค์ที่ 7 แต่ข้าไม่คิดว่าข้าจะกลัวเออร์วินตราบเท่าที่เขายังอยู่ที่ชั้นสวรรค์ที่ 6”

“สำหรับชิ้นส่วนของหยกแห่งกาลเวลา …โดยปกติ ข้ามีวิธีใช้ประโยชน์สำหรับพวกมัน … ”

…

บนศาลาเทพที่ห้าที่ลอยอยู่เหนือเมืองหลวงของเผ่าดาวทมิฬ ค่ายกลส่งตัวที่สร้างขึ้นในจัตุรัสด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์เปล่งแสงในพริบตา เมื่อพลังของค่ายกลส่งตัวรวมตัว เจี้ยนเฉิน และปิงหยวนก็ปรากฏตัวที่นั่น

“คำนับท่านหัวหน้าศาลา ! คำนับท่านรองหัวหน้าศาลา ! ”

ราชาเทพ ผู้พิทักษ์ค่ายกลส่งตัวแสดงความเคารพทันทีที่เขาเห็นร่างที่ปรากฏในค่ายกลส่งตัวโดยการโค้งคำนับอย่างสุภาพ

เจี้ยนเฉินก้าวออกจากค่ายกลส่งตัวโดยไม่สนใจราชาเทพ อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาปรากฏตัวขึ้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาเหลือบมองผ่านศาลาเทพรอบตัวเขาอย่างสบายใจและมุมริมฝีปา ากของเขาก็โค้งงอเป็นรอยยิ้มเยาะจาง ๆ

ในขณะนี้ ออร่าอันยิ่งใหญ่ก็ได้ปะทุขึ้นอย่างกะทันหันราวกับภูเขาไฟจากทิศทางของศาลาเทพที่หกท่วมไปยังศาลาเทพที่ห้าและบดขยี้ลงเหมือนมาจากผู้ปกครองที่ยืนอยู่เหนือสุด

ทันใดนั้นท้องฟ้าที่สงบก็เต็มไปด้วยพายุที่รุนแรง เมฆหนาที่รวมตัวกันบนท้องฟ้าถูกลบหายไปภายใต้การปรากฏพลังตัวตนอันยิ่งใหญ่

แม้แต่ศาลาเทพที่ห้าที่ลอยอยู่ในอากาศก็เริ่มสั่นเล็กน้อยสั่นเบา ๆ

“คุนเทียน ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว เจ้าทำให้ข้าต้องรอ ” เสียงอันดุร้ายดังออกมาจากศาลาเทพที่หก ทันใดนั้นหัวหน้าศาลา เออร์วินก็บินออกจากศาลาเทพอย่างรวดเร็ว เขาเปล่งประกายด ด้วยพลังตัวตนที่น่ากลัวมาตลอดทางจนมาถึงจัตุรัสขนาดใหญ่ของศาลาเทพที่ห้าในพริบตาและจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเย็นชา

รองหัวหน้าศาลาทั้งสามคนของศาลาเทพที่หกตามมาติด ๆ และมาถึงที่จัตุรัสของศาลาเทพที่ห้า พวกเขายืนเคียงข้างกันอยู่ข้างหลังเออร์วิน

บาดแผลของสีหวู่ฉิงยังไม่ได้รับการเยียวยามากนัก เขาได้รับการเยียวยาส่วนสำคัญเพียงเล็กน้อยเพื่อให้สามารถยืนได้ บางทีเพื่อให้เป็นหลักฐาน บาดแผลบนใบหน้าของเขายังคงเหมือนเดิม แก ก้มทั้งสองของเขาถูกตบจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและยังมีรอยแตกที่กะโหลกศีรษะของเขา มันเป็นภาพที่หนาวสั่นทันทีที่ได้เห็น

ในฐานะรองหัวหน้าศาลา สีหวู่ฉิงเป็นบุคคลที่น่านับถือ การบังคับให้เขาอยู่แบบนี้ต่อไปในสายตาของสาธารณชน มีแต่จะเพิ่มความทรมานภายในของเขา ทำให้เขารู้สึกเสียใจ

แต่เพื่อเป็นการแก้แค้น เพื่อให้หัวหน้าศาลาที่ห้าชดใช้การกระทำของเขาและเพื่อประโยชน์ในการได้รับความเห็นใจมากขึ้น เขารู้ว่าเขาต้องทำเช่นนี้

“หัวหน้าศาลาที่ห้า เจ้าทำเกินไปแล้ว แม้ว่าน้องชายของข้าจะเป็นคนโง่เขลา แต่เจ้าก็ไม่ควรทำให้เขาอับอายเช่นนี้” สีหน้าของพี่ชายของสีหวู่ฉิง สีหวู่หมิง มืดครึ้มลงในขณะที่เขา พูดอย่างเย็นชา ไม่มีความเคารพในน้ำเสียงของเขาเลย เขาออกมาเพื่อประณามศาลาเทพที่ห้าเท่านั้น

ด้วยการมาถึงของศาลาเทพที่หก มีพลังตัวตนเกิดขึ้นจากศาลาเทพที่สาม สี่ เจ็ดและเก้า หัวหน้าศาลาของศาลาเทพอื่น ๆ อีก 4 แห่งปรากฏตัวในเวลาเดียวกันโดยก้าวผ่านอากาศและมาถึงเหนือศ ศาลาเทพที่ห้าในก้าวเดียวโดยรวมตัวกับศาลาเทพที่หก

“คุนเทียน เจ้าทำเกินไป จริง ๆ แล้วการกระทำของเจ้าในการเดินทางครั้งนี้…” หัวหน้าศาลาที่เจ็ดเป็นคนแรกที่พูดขณะที่แสงเย็นยะเยือกกระพริบผ่านดวงตาของเขา

“ไม่ใช่แค่ใบหน้า รู้หรือไม่ ? อย่าลืมว่าสีหวู่ฉิงยังคงเป็นรองหัวหน้าศาลา หากเขาดูหมิ่นเจ้า การลงโทษเพียงเล็กน้อยก็ไม่เป็นที่ตำหนิอย่างแน่นอน แต่ความอัปยศอดสูเช่นนี้…เฮ้อ คุ นเทียน เจ้าทำเกินไปแล้ว” หัวหน้าศาลาที่เก้าซึ่งเป็นขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 5 กล่าว

หัวหน้าศาลาที่สี่กล่าวว่า “คุนเทียน แม้ว่าเจ้าจะได้รับความทรงจำเกี่ยวกับสัตว์อสูรที่สามารถใช้ประโยชน์จากหญ้าราชาจากภูเขาโลกาแฝดได้ แม้ว่าเจ้าจะมีส่วนร่วมอย่างมากในเผ่าของเ เรา แต่มันยังไม่ใช่เหตุผลที่เจ้าจะทำอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา”

“พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ? หัวหน้าศาลาทั้งห้าได้รวมตัวกันที่ศาลาเทพที่ห้า เจ้าคิดว่าตอนนี้ศาลาเทพทั้งสี่ของเราเป็นเป้าหมายของการล่วงละเมิดเพียงเพราะเราสูญเสียเสิ่นหราน ไปหรือ” ในขณะนี้ผู้หญิงคนหนึ่งร้องออกมา หัวหน้าศาลาที่สิบ เฟิงสือ มาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินที่ยืนอย่างเยือกเย็น โดยนางยืนอยู่ข้างเจี้ยนเฉินเพื่อเผชิญหน้ากับหัวหน้าศาลาทั้งห้า า

ทันใดนั้น หัวหน้าศาลาทั้งหมด 7 คนได้มารวมตัวกัน นอกเหนือจากตอนที่พวกเขาเข้าพบจักรพรรดิแล้วสิ่งนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นในโลกดาวทมิฬ

เมื่อสถานการณ์พัฒนาไปไกล โดยพื้นฐานแล้วมันก็กลายเป็นการเผชิญหน้าระหว่างสองฝ่ายในสิบศาลาเทพ อาร์นา หัวหน้าศาลาที่สองซึ่งยืนอยู่ฝั่งเดียวกับศาลาเทพที่ห้าก็เห็นได้ชัดว่าไม ม่สามารถนั่งอยู่ได้เช่นกันและบินออกมาจากศาลาเทพของเขา

มีเพียงศาลาเทพที่แปดเท่านั้นที่ไม่ปรากฏขึ้น หลังจากสูญเสียหัวหน้าศาลาไปแล้วจึงเป็นเรื่องยากสำหรับรองหัวหน้าศาลาสองคนที่ไม่มีพลังมากพอแม้จะถือรองเท้าของเสิ่นหราน

ที่จัตุรัสของศาลาเทพที่ห้า ทั้งสองฝ่ายได้เว้นระยะห่างของทั้งสองฝ่าย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากัน อย่างไรก็ตามด้านหนึ่งมีศาลาเทพ 5 ศาลา ในขณะที่อีกด้านมีเพียง 3 ศาลา มีความแตกต่าง อย่างมากไม่ว่าจะเป็นอย่างไร

“เฮ้อ คุนเทียนไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรเลย เหตุใดเขาจึงล่วงเกินศาลาเทพที่หกเพียงเพราะเมืองร้อยเซียนที่วุ่นวาย ข้าหวังว่าเขาจะได้สติในเร็ว ๆ นี้” อาร์นา หัวหน้าศาลาที่ สองรู้สึกสิ้นหวังอย่างมากหลังจากได้รู้เรื่องราวทั้งหมด

มีเพียงเฟิงสือเท่านั้นที่ไม่คำนึงถึงเหตุผล ไม่ว่าเขาจะถูกหรือผิด นางก็จะยืนอยู่เคียงข้าง “คุนเทียน” อย่างเด็ดเดี่ยว นางกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “สีหวู่ฉิงได้แต่ต้องตำหนิตัวเอ องในสิ่งที่เขาทำไป ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้หรือว่าเมืองร้อยเซียนแห่งโลกดาวทมิฬจะถูกลูบหน้าเมื่อนานมาแล้ว หากไม่ใช่เพราะการปกป้องของคุนเทียน เมืองร้อยเซียนเป็นดินแดนของคุนเทีย ยนมาตั้งแต่แรก สีหวู่ฉิงเข้ามาในดินแดนของคุนเทียนเพื่อรีดไถเหรียญผลึกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา เขาไม่ได้แสดงความเคารพต่อผู้มีอำนาจ เขาสมควรถูกทุบตี ! ”

“คุนเทียน เจ้าต้องให้คำอธิบายที่น่าพอใจสำหรับเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นเราจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป ! ” เออร์วินหัวหน้าศาลาที่หกกล่าวด้วยเสียงที่มืดครึ้ม

“แล้วถ้าเจ้าไม่ปล่อยเรื่องนี้ล่ะ ? เจ้ากำลังมองหาการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมหรือ ? เจ้ารู้สึกว่าเราควรจะกลัวเจ้าเพียงเพราะเราไม่มีเสิ่นหรานงั้นหรือ ? ” เฟิงสือกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว โดยไม่มีความกลัว