เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2832 : จัดการกับศาลาเทพที่เจ็ด
ตอนที่ 2832 : จัดการกับศาลาเทพที่เจ็ด
หน้าผากของเหลยหยุนชุ่มไปด้วยเหงื่อทันที เขารีบพูดขึ้นมา “ท่านหัวหน้าศาลา ราคาหยกท่านต้องการนั้นต่างจากเหรียญผลึกขั้นสูงสุดอย่างสิ้นเชิง จริง ๆ แล้วเหตุผลว่าทำไมทุกคนที่ นี่ถึงได้รวบรวมเหรียญผลึกมากมายในสามวันนี้ก็เพราะเหรียญผลึกเหล่านี้ไม่ได้มาจากองค์กรในโลกเซียน กลับกันแล้วพวกเขายืมมันมาจากองค์กรต่าง ๆ ในโลกจิตวิญญาณ ไม่งั้นแล้วมันคงเ เป็นไปไม่ได้ที่จะเสนอเหรียญผลึกได้ถึง 5 พันล้านเหรียญในสามวันนี้”
“สำหรับหยกที่ท่านต้องการแล้ว ข้าอาจจะไม่รู้มูลค่าที่แท้จริงของมัน แต่พวกมันเป็นของที่ล้ำค่าอย่างมาก แม้แต่ตระกูลสายฟ้าสวรรค์ของเราก็ไม่มีของเช่นนั้น ผู้อาวุโสของตระกูล เราได้มันมาผ่านช่องทางอื่น ผลก็คือหากตระกูลเราต้องการรวบรวมหยก 30 ชิ้นตามที่ท่านต้องการ แน่นอนว่าเราต้องใช้เวลา ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะยืดเวลาออกไปได้อีก”
มันพอมีเหตุผลสำหรับ เจี้ยนเฉิน เขารู้ดีว่าส่วนที่เหลือของโลกจิตวิญญาณและโลกเซียนนั้นต่างกันอย่างมาก แม้ว่าเขาจะมองข้ามองค์ประกอบอื่น ๆ และเดินทางผ่านช่องทางระหว่างส่วนที่เห หลือของโลกจิตวิญญาณและโลกเซียนแต่ก็ยังต้องใช้เวลนาอยู่บ้าง
ยิ่งกว่านั้นพวกเขาก็ยังต้องเดินทางตัดโลกเซียนที่กว้างอย่างมากเพื่อกลับไปยังตระกูลของพวกเขา มันต้องใช้เวลาอยู่ช่วงหนึ่ง
ย้อนกลับไป เด็กไร้หัวใจได้พาเขามาที่นี่ ด้วยระดับการบ่มเพาะของเด็กไร้หัวใจที่เขาได้แต่เงยหน้ามอง อีกฝ่ายขึ้นไปถึงระดับที่น่ากลัวจนมองข้ามระยะห่างมิติในระดับหนึ่งได้ตอ อนที่เดินทาง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงใช้เวลาเดินทางไม่ได้มากนัก
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้นที่มีระดับการบ่มเพาะเท่ากับเด็กไร้หัวใจ ผลก็คือการที่ตระกูลสายฟ้าสวรรค์จะทำภารกิจนี้สำเร็จใน 3 วันนั้นจึงดูไม่อาจเป็นจริงได้
เมื่อคิดแบบนี้ เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้เร่งอะไรต่อ เขาได้พูดขึ้น “งั้นข้าจะให้เวลาเจ้าอีก 7 วัน ใน 7 วันนี้ตระกูลของเจ้าจะอยู่หรือไปก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ได้พูดถึงเรื่องการดูแลกับคนอื่น ๆ ก่อนจะออกจากเมืองร้อยเซียนไปพร้อมกับปิงหยวน ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้เอาแหวนมิติ 50 วงไปกับตัวด้วย
แหวนทุกวงมีเหรียญผลึกขั้นสูงสุอย่างน้อย 5 พันล้านเหรียญ มันมีหลายอันที่มีมากกว่านั้น นี่ถือว่าเป็นเหรียญผลึกจำนวนมากสำหรับเผ่าดาวทมิฬที่เพียงพอจะปกปิดช่องว่างของสวนโอสถ ได้หมด
ปิงหยวนที่อยู่ข้างเจี้ยนเฉินอยากจะถามแต่ก็ลังเล เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าศาลาถึงไม่ยอมรับเหรียญผลึกทั้งหมด
มันต่างกันรึที่ปกป้อง 50 องค์กรกับปกป้องทุกองค์กร ? พวกเขาจะได้เหรียญผลึกเป็นแสนล้านเหรียญเพิ่มโดยไม่ยากลำบาก ใครกันในเผ่าดาวทมิฬที่จะเต็มใจปล่อยโอกาสดี ๆ แบบนั้นหลุด ดลอยไปบ้าง ?
แต่เมื่อคิดถึงการที่หัวหน้าศาลาหงุดหงิดอย่างมากภายใต้การรบกวนของสัตว์อสูรอวกาศตั้งแต่ที่เขาไปยังภูเขาโลกาแฝด ปิงหยวนก็ข่มความอยากรู้เอาไว้และไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาได้ แต่เสียดายเหรีญผลึกที่หลุดมือไป
เจี้ยนเฉินและปิงหยวนได้กลับไปยังศาลาที่ห้า ในตอนที่เจี้ยนเฉินนั่งลงไปนั้น สายตาของเจี้ยนเฉินก็สั่นไหวก่อนจะมองไปในทิศทางของศาลาที่เจ็ด เขาได้แผ่การรับรู้วิญญาณออกไปโดย ไม่คิดจะปกปิดเลยแม้แต่น้อย
ในศาลาที่เจ็ดนั้น หัวหน้าศาลาที่เจ็ด เก็ตตี้ เองก็นั่งอยู่ที่บัลลังก์ของตัวเอง เขากำลังลังเลอยู่ เขาถึงกับขมวดคิ้ว
เขารู้มาว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองร้อยเซียนและเขาก็รู้ว่ามีหลายสิบองค์กรในเมืองร้อยเซียนที่คุนเทียนได้ปฏิเสธไปตะกี้ โดยที่พวกนั้นได้เสนอเหรียญผลึกหลายพันล้านเหรียญเพื อขอการปกป้อง
แม้แต่เก็ตตี้ก็ยากที่จะรวบรวมสติให้มั่นคงได้ต่อหน้าเหรียญผลึกจำนวนมากแบบนั้น เขาร้อนใจเพราะหากศาลาที่เจ็ดได้เหรียญผลึกเหล่านั้นมา มันคงเพียงพอที่จะแก้ปัญหาเร่งด่วนที่พว วกเขาเผชิญอยู่ตอนนี้ได้
แต่เขาเริ่มกลัวคุนเทียนแล้ว ตั้งแต่ที่คุนเทียนได้ปะทะกับเออร์วินเมื่อสามวันก่อน ความกลัวนี้ก็มากขึ้นกว่าเก่า
ทันใดนั้นเอง สีหน้าของเก็ตตี้ก็เปลี่ยนไป สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้นมาทันที เขาได้พูดกับมิติตรงหน้า “คุนเทียน เจ้าบุกรุกเข้ามาถึงศาลาเทพที่เจ็ดด้วยการรับรู้วิญญาณของเจ้าโดยไม ม่มีเหตุผลที่ดี เจ้าต้องการอะไร ? ”
“ชัดแล้วว่าข้ามีข้อเสนอมาตกลงกับเจ้า” การรับรู้วิญญาณของเจี้ยนเฉินได้ไปถึงศาลาที่เจ็ดและได้สื่อสารกับเก็ตตี้โดยตรง
“ตกลง ? ข้อตกลงอะไรที่เราต้องพูดคุยกัน ? ” สีหน้าของเก็ตตี้เย็นชา น้ำเสียงเขาเองก็เย็นชาราวกับเขาไม่คิดจะตกลงกับใคร
มันจริง ตั้งแต่มีความขัดแย้งระหว่างศาลาที่ห้าและเจ็ดนั้น พวกเขาก็รักษาระยะห่างกันมาหลายปี พวกเขาไม่เคยที่จะมีข้อตกลงร่วมกันเลย
“แน่นอนข้ารู้ว่าศาลาที่เจ็ดนั้นจะหมดเหรียญผลึกที่ให้การสนับสนุนสวนโอสถในอีกไม่กี่วัน เมื่อเจ้าไม่อาจจะมีเหรียญผลึกตามที่สวนโอสถต้องการซึ่งส่งผลต่อกรพัฒนาของผลแห่งวิถีฟ ฟื้นฟู งั้นผลกระทบที่ตามมานั้นคงไม่ใช่สิ่งที่ศาลาที่เจ็ดจะรับได้” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นช้า ๆ
เก็ตตี้ขมวดคิ้วและฮึดฮัดออกมา “ศาลาที่เจ็ดของเราอาจจะไม่ได้มีเหรียญผลึกเหลืออยู่มาก แต่มันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าไม่อาจจะสนับสนุนสวนโอสถได้ องค์กรที่ร่วมมือกับศาลาที่เจ จ็ดของเราจะส่งเหรียญผลึกให้กับเราทุกวัน เขตของเราในสวนโอสถนั้นยังไม่ถึงระดับที่เราต้องให้เจ้าบอกว่าเราต้องทำอะไร”
“เหรียญผลึกเหล่านั้นไม่เพียงพอที่จะให้พลังงานผลแห่งวิถีฟื้นฟูที่จะจำเป็นในการพัฒนา เก็ตตี้ เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว” เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาและพูดขึ้น “นี่เป็นโอกาสที่จะเจ้าจะได้ ตัดความกังวลของศาลาที่เจ็ดในเรื่องการขาดเหรียญผลึก จากวันนี้ไปศาลาที่ห้าจะรับผิดชอบเรื่องเหรียญผลึกที่พวกเจ้าส่งให้กับสวนโอสถจนกว่าผลแห่งวิถีฟื้นฟูจะสุกจริง ๆ ”
เก็ตตี้ตาเป็นประกายขึ้นมา ครั้งนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธเจี้ยนเฉิน ข้อเสนอของเจี้ยนเฉินเมื่อตะกี้นี้ทำให้เขานิ่งไปสักพัก สุดท้ายเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ “เจ้าต้องการแลกอะไรกับเรา า ? ”
“แลกรึ ? ไม่ใช่แบบนั้น สำหรับเจ้าแล้วมันอาจจะเป็นแค่คำพูด เจ้าไม่ต้องแลกอะไรด้วยซ้ำ…”
…
เจี้ยนเฉินดึงการรับรู้วิญญาณกลับมา เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มแต่รอยยิ้มนี้ดูลึกลับ เขาได้บอกกับปิงหยวนที่อยู่ด้านล่าง “จากวันนี้ไปเหรียญผลึกที่ศาลาที่เจ็ดรับผิดชอบนั้นเราจะดูแ แลเอง “
“อ่ะ ! อะ อะไรนะ ? ” ปิงหยวนอึ้ง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ในเวลาเดียวกัน เก็ตตี้ก็ได้สั่งการออกมา เขาได้ส่งรองหัวหน้าศาลาที่อยู่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 4 อันเล่ย พาสองกองทัพของเผ่าดาวทมิฬไปยังเมืองร้อยเซียน
กองทัพนี้เดินหน้าไม่ได้เร็วนัก ดังนั้นเมืองร้อยเซียนจึงรู้ข่าวนี้ก่อนที่พวกนี้จะมาถึง มันทำให้ผู้คนในเมืองต่างก็พากันกลัว
“ไม่ดีแล้ว ท่าจะไม่ดีแล้ว เผ่าดาวทมิฬจะทำการโจมตีครั้งใหญ่กับเรา ครั้งนี้พวกนั้นมียอดฝีมือขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 4 นำทัพ…”
“พวกเขามาจากศาลาที่เจ็ด พวกนั้นคิดจะทำลายเมืองร้อยเซียนของเรารึ ….”
“ไม่ต้องกลัวไป เราอยู่ภายใต้การปกป้องของศาลาที่ห้า เราต้องส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าศาลาที่ห้า…”
ค่ายกลปกป้องของเมืองร้อยเซียนได้ทำงานเต็มกำลังอีกครั้ง ทั้งเมืองได้รับการปกป้อง ในเวลาเดียวกันองค์กรที่อยู่ภายใต้การปกป้องของศาลาที่ห้าก็เริ่มส่งคนตัวเองไปยังเมืองหลวงเพื่อ ติดต่อไปยังศาลาที่ห้า