เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2834 : เก็บตัว
ตอนที่ 2834 : เก็บตัว
“หากยอดฝีมือขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ดูดซับผลแห่งวิถีฟื้นฟูระดับสูงเข้าไป พวกเขาก็จะมีโอกาสกว่า 8 ใน 10 ส่วนที่จะขึ้นไปเป็นขั้นบรรพกาลได้”
“ผลแห่งวิถีฟื้นฟูนั้นเพียงพอที่จะสร้างขั้นบรรพกาลได้ ตอนนี้ผลแห่งวิถีฟื้นฟูอยู่ระดับกลาง ดังนั้นมันจึงทำได้แค่ให้ราชาเทพช่วงสูงสุดขึ้นเป็นขั้นอสงไขยได้ ด้วยระดับการบ่ม มเพาะของข้าในตอนนี้แล้ว ข้ายังห่างจากขั้นบรรพกาลอยู่เล็กน้อย หากข้าต้องการจะทะลวงผ่านด้วยวิถีกระบี่ของข้าแล้ว ผลแห่งวิถีฟื้นฟูระดับกลางก็อาจจะไม่เพียงพอ…”
“ผลก็คือข้าได้แต่รอจนกว่าผลแห่งวิถีฟื้นฟูจะขึ้นไปถึงระดับสูง ตอนนั้นข้าก็มั่นใจได้เต็มที่ว่าข้าจะทะลวงผ่านได้…”
ในสายตาของเจี้ยนเฉินแล้ว ผลแห่งวิถีฟื้นฟูที่เผ่าดาวทมิฬได้ดูแลมาหลายสิบล้านปีนั้นเป็นของเขาแล้ว ค่ายกลที่มีทหารทำงานเตือนครอบคลุมโดยรอบมันไว้ที่ซึ่งสามารถแจ้งกับจักรพ พรรดิดาวทมิฬโดยตรงทันทีที่โดนโจมตีหรือแตะต้อง
แต่มันยังต้องใช้เวลากว่าที่จักรพรรดิดาวทมิฬจะมาที่นี่จากเมืองหลวง แม้ว่ามันจะใช้เวลาไม่นานนัก แต่เจี้ยนเฉินก็สามาถฉีกค่ายกลออกและเก็บผลแห่งวิถีฟื้นฟูได้ก่อนที่จักรพรรดิ ดาวทมิฬจะมาถึง
“เผ่าดาวทมิฬ เมื่อพวกเจ้ากล้าทำให้จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ต้องขับแก่นเลือดออกมาและถึงกับคิดจะบูชายัญเขา งั้นก็อย่าโทษข้าที่โหดร้ายแบบนี้” เจี้ยนเฉินคิด สายตาเขาสะท้อน ความเย็นชาออกมา
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็หยุดสนใจเรื่องเมืองร้อยเซียน ด้วยการที่เหอเฉียนเฉียน, จินหง และคนของตระกูลเฮาได้หนีออกจากเมืองไปหมดแล้ว เขาก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก
สำหรับศาลาเทพที่ขัดขวางเจี้ยนเฉินแล้ว พวกนั้นไม่อาจจะสั่งการให้ล้อมเมืองร้อยเซียนเอาไว้เพราะหัวหน้าศาลาทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าคุนเทียนนั้นเด็ดขาดแค่ไหนในการปกป้องเมืองร ร้อยเซียน หากไม่มีผลประโยชน์ก้อนใหญ่เพียงพอทำให้พวกเขาเสียสติแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีใครกล้าทำให้หัวหน้าศาลาที่ห้าโกรธเพราะเหรียญผลึกจำนวนนี้จนต้องสู้เอาเป็นเอาตายกับหัวหน้าศาล ลาที่ห้า
ยิ่งกว่านั้นคุนเทียนในตอนนี้ก็เหนือกว่าหัวหน้าศาลาส่วนมากในด้านความแข็งแกร่ง โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครรับมือเขาได้นอกจากหัวหน้าศาลาที่หนึ่งที่ซึ่งเป็นยอดฝีมือขั้นอสงไขยชั้นส สวรรค์ที่ 7
2-3 วันต่อมา เจี้ยนเฉินได้ขังตัวเองไว้ในห้องลับ เขาไม่ทำอะไรอื่นนอกจากแสร้งว่าศึกษาหญ้าราชาเทพระดับสูงจากศาลาเทพทั้งสิบ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงข้อสงสัยใด ๆ ชัดแล้วว่าเขาจ จึงแสร้งทำต่อไป
ไม่งั้นแล้วหากเขาที่มีหญ้าราชาเทพและดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนจากศาลาเทพทั้งสิบโดยที่ไม่ทำอะไร งั้นมันก็ชัดแล้วว่าเขากำลังทำแผนการบางอย่างอยู่ มันคงง่ายที่เขาจะทำให้คนอื น ๆ สงสัย
แน่นอนว่าเขาติดต่อกับศาลาอื่น ๆ อีกเพื่อขอดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนเพิ่ม
แม้ว่าดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนนั้นแตกต่างจากหญ้าราชาเทพ แต่ศาลาเทพทั้งสิบก็มักจะได้รับเหรียญผลึกขั้นสูงสุดจำนวนมากตอนที่พวกเขาขายมันให้กับคนนอก หากศาลาเทพขาดเหรียญผลึกที่ ต้องให้กับสวนโอสถ พวกเขาก็จะใช้ดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนแลกเปลี่ยนกับคนภายนอก
“ปิงหยวน แจ้งทุกศาลาเทพว่าต้องการดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนจำนวนมากเพื่อศึกษาหญ้าราชาเทพ เราจะซื้อมันจากพวกเขาด้วยราคา 500 ล้านเหรียญผลึกระดับสูงสุดต่อตำลึง” เมื่อไม่มีทางเลือก อื่น เจี้ยนเฉินก็ได้แต่ต้องซื้อมันด้วยเหรียญผลึก
เขาพึ่งจะได้รับเหรียญผลึกจำนวนมหาศาลเมื่อไม่นานมานี้จากเมืองร้อยเซียน เขาถือว่ารวยจริง ๆ แม้แต่หลังจากที่เติมเหรียญผลึกให้กับทั้งสามเขตแล้ว เขาก็ยังเหลือมันอยู่จำนวนมาก
ยิ่งกว่านั้นเหรียญผลึกเหล่านี้ก็มีค่าจนไม่อาจจะคาดคิดได้สำหรับเผ่าดาวทมิฬตอนที่พวกเขาขาดแคลนเหรียญผลึก เมื่อเขาเอามันกลับไปที่โลกเซียน ค่าของมันจะลงดลงไปอย่างมาก
นั่นเพราะสมบัติสวรรค์มากมายไม่อาจจะซื้อหาได้ด้วยเหรียญผลึกในโลกเซียน โดยพื้นฐานแล้วพวกมันจะแลกเปลี่ยนด้วยของที่มีค่าทัดเทียมกัน ดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนนั้นคือหนึ่งในของที ล้ำค่าเหล่านั้น
แม้ว่าเขาจะซื้อมันด้วยเหรียญผลึก แต่ส่วนมากแล้วพวกมันจะใช้แลกกับเหรียญผลึกหลากสีซึ่งมีค่าอย่างมาก
ปิงหยวนได้แจ้งข้อความของเจี้ยนเฉินต่อศาลาอีก 9 แห่งอย่างรวดเร็ว โดยพื้นฐานแล้วทั้งหมดนอกจากศาลาที่สี่และเจ็ดไม่ได้ขาดพลังงานในการเติมให้กับสวนโอสถนั้นได้ทำการแลกเปลี่ยน ดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนกับเจี้ยนเฉิน
ศาลาที่เจ็ดถึงกับเสนอดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนในจำนวนต่าง ๆ กันไปแต่โดยรวมแล้วมันมี 35 ตำลึง
“แค่ 35 ตำลึงเองรึ ? นั่นไม่ใกล้เคียงกับคำว่าเพียงพอเลย ดูเหมือนว่าค่าของดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนจะเหนือกว่าหญ้าราชาเทพ” เจี้ยนเฉินไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้ ศาลาที่ห้าให้ถึง 1 ชั่ งครึ่ง ศาลาเทพอีก 7 แห่งให้เขาแค่ 3 ชั่งครึ่งซึ่งไม่ได้ใกล้เคียงกับที่เขาคาดไว้เลย
“ปิงหยวนบอกศาลาเทพอื่น ๆ ว่าจักรพรรดิได้สั่งการเองว่าศาลาเทพทั้งสิบต้องให้การสนับสนุนข้าอย่างเต็มที่ในการศึกษาหญ้าราชาเทพ ข้าต้องการดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนจำนวนมากในการศึกษ ษาหญ้าราชาเทพ นี่ยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าเพียงพอเลย”
“ข้ายอมแลกมันกับเหรียญผลึกเผื่อว่าพวกเขาต้องการใช้มันกับผลแห่งวิถีฟื้นฟู หากพวกเขาพลาดวันนี้ไปแล้ว งั้นพวกเขาก็จะไม่ได้รีบเหรียญผลึกแม้แต่เหรียญเดียวถึงแม้ว่าจะให้ดินศั กดิ์สิทธิ์บรรพชนกับข้าในอนาคต อย่าให้พวกนั้นพลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป”
“ศาลาที่สี่และเจ็ดก็ด้วย พวกเขาเองก็ต้องให้ดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนกับข้าเช่นกัน การวิจัยหญ้าราชาเทพคือเรื่องใหญ่ที่ต้องทำร่วมกันในหมู่พวกระดับสูงในเผ่าเรา ไม่มีใครตัดตั วเองออกไปได้ ทุกคนต้องช่วยกัน …”
“ขอรับ หัวหน้าศาลา ข้าจะบอกทั้งเก้าศาลาเดี๋ยวนี้” ปิงหยวนรับคำสั่งและออกไปทันที
หลังจากที่ปิงหยวนออกไปแล้ว เจี้ยนเฉินก็เริ่มกังวลขึ้นมา จำได้ว่าเผ่าดาวทมิฬนั้นมีปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งอยู่ เขาสงสัยว่าการกระทำของเขานั้นจะดึงดูดความสนใ ใจของปราชญ์ผู้เที่ยงธรรมแห่งสวรรค์หรือไม่
“มันเสี่ยงเล็กน้อย แต่บางอย่างที่ล้ำค่าอย่างดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนก็คู่ควรที่จะเสี่ยง อีกอย่างแล้วมันก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่จักรพรรดิดาวทมิฬก็ยังเงียบอยู่ ปราชญ์ผู้เที่ย ยงธรรมแห่งสวรรค์ไม่โผล่มาให้เห็นเช่นกัน ดังนั้นพวกนั้นก็ไม่น่าจะรู้เรื่องตัวตนที่แท้จริงของข้า” เจี้ยนเฉินคิด ในเวลาเดียวกันเขาก็ตัดสินใจที่จะเก็บตัวจนกว่าวันจัดพิธีจะมาถึง
สองวันต่อมา เจี้ยนเฉินก็ได้ทำการแลกดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนกว่า 6 ชั่งจากศาลาทั้งเก้าด้วยราคา 500 ล้านเหรียญผลึกขั้นสูงสุดต่อตำลึง เพราะแบบนั้นเขาจึงใช้เหรียญผลึกไปกว่า 35,000 0 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ 5,000 ล้านเหรียญก็เป็นของเฟิงสือ หัวหน้าศาลาที่สิบ
ตอนนี้ดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนที่เจี้ยนเฉินมีนั้นมีกว่า 7.5 ชั่งแล้ว ซึ่งสุดท้ายก็ทำให้เจี้ยนเฉินพอใจขึ้นมาแน่นอนว่าดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนและหญ้าราชาเทพระดับสูงนั้นไม่ใช่แค่หายาก กในเผ่าดาวทมิฬ มันยังมีวัสดุล้ำค่าอื่น ๆ ที่มีแค่เผ่าดาวทมิฬที่มีได้ แต่พวกมันด้อยกว่าเมื่อเทียบกับดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชน
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความสงสัยใด ๆ เจี้ยนเฉินก็เริ่มเก็บตัวหลังจากที่รวบรวมดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชนได้มากพอ เขาไม่ได้หมายตาวัตถุดิบอื่น ๆ เลย
“ทรัพยากรที่ข้าได้มาต่างก็มีชื่อเสียงในเผ่าดาวทมิฬ สมบัติที่มีค่าน่าตกใจของเผ่าดาวทมิฬ” เจี้ยนเฉินมองไปที่เพดาน สายตาของเขาเหมือนกับมองทะลุห้องลับและมองไปยังโถงศักดิ์ส สิทธิ์ดาวทมิฬที่ลอยอยู่ด้านลน เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงพลังของจักรพรรดิดาวทมิฬที่กว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทร