เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2835 : วันแห่งพิธีการ - novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

ตอนที่ 2835 : วันแห่งพิธีการ

“น่าเสียดายที่ข้ายังไม่ใช่คู่มือของจักรพรรดิดาวทมิฬ ด้วยความแข็งแกร่งที่มีในตอนนี้นอกซะจากว่าวิถีกระบี่จะทะลวงผ่านขึ้นไปยังความสำเร็จบางส่วนของอมตะกระบี่ได้” เจี้ยนเฉินตาเ เป็นประกายขึ้นมา

หากเขาทำความเข้าใจมันตามปกติแล้ว การทะลวงผ่านแน่นอนว่าต้องยาก เขาต้องพบกับโชคและใช้ความเข้าใจจำนวนมหาศาลรวมไปถึงเวลาที่ยาวนานด้วย

แต่หากเขามีผลแห่งวิถีฟื้นฟูขั้นเทพระดับสูงแล้ว งั้นการขึ้นไปจากความสำเร็จขั้นต้นไปยังความสำเร็จบางส่วนของอมตะกระบี่นั้นก็จะเป็นเรื่องง่ายดาย

“ดูเหมือนว่าต้องเอาผลแห่งวิถีฟื้นฟูมาให้ได้ไม่ว่าจะเสียอะไรไปก็ตาม”

ในเสี้ยวพริบตาก็ผ่านไปอีก 7 วัน เขาใช้เวลาทั้งหมดหมกตัวอยู่กับหญ้าราชาเทพในห้องลับ สุดท้ายเจี้ยนเฉินก็ได้รับข่าวดี

เหลยหยุนจากตระกูลสายฟ้าสวรรค์ได้กลับมายังเมืองร้อยเซียนพร้อมกับหยกที่มีกฎเวลา 30 ชิ้น หยกสีขาวบริสุทธิ์ทั้ง 30 ชิ้นภายในกล่องนี้ถูกส่งให้กับมือของเจี้ยนเฉิน

ทันทีที่เขาได้กล่องมา เจี้ยนเฉินก็เปิดมันออกทันที หยก 30 ชิ้นวางอยู่ในกล่องเงียบ ๆ ทั้งหมดมีพลังกฎเวลาที่บริสุทธิ์อย่างมาก

แค่มอง เจี้ยนเฉินก็พบว่าหยกทั้ง 30 ชิน้นี้คือหยกที่เหมือนกับที่เหลยหยุนเอาออกมาในโถงศักดิ์สิทธิ์แพนธีออน แม้แต่กฎเวลาด้านในก็ยังเหมือนกัน

“ยอดเยี่ยม ! วิเศษไปเลย ! ด้วยหยกพวกนี้ ข้าก็สามารถทำให้ผลแห่งวิถีฟื้นฟูสุกเมื่อไหร่ก็ตามที่ข้าต้องการได้” เจี้ยนเฉินแอบดีใจ เขาได้เตรียมพลังงานที่ผลแห่งวิถีฟื้นฟูต้อง งการในการพัฒนาเอาไว้แล้วและเรื่องเวลาก็จะถูกแก้โดยหยกทั้ง 30 ชิ้นนี้ ในสายตาของเขาแล้ว ผลแห่งวิถีฟื้นฟูนั้นกำลังจะตกเป็นของเขา

“ส่งดินศักดิ์สิทธิ์บรรพชน 1 ตำลึงให้กับตระกูลสายฟ้าสวรรค์ในเมืองร้อยเซียน ! นี่คือสิ่งที่ข้ารับปากกับพวกเขาเอาไว้ เมื่อพวกเขาทำตามที่ข้าต้องการได้ ชัดแล้วว่าข้าก็ไม่อาจจ จะมองข้ามพวกเขาได้ นอกจากนี้ก็ให้หญ้าราชาเทพระดับต้นพันก้านให้กับตระกูลสายฟ้าสวรรค์ด้วย” ภายใต้ความยินดีนั้น เจี้ยนเฉินก็ได้ให้รางวัลกับตระกูลสายฟ้าสวรรค์ด้วยหญ้าราชาเทพ พันก้าน

เวลาผ่านไปช้า ๆ พร้อมกับเจี้ยนเฉินที่รออย่างอดทน สุดท้ายหัวหน้าศาลาทั้งสิบก็ได้รับข่าวเรื่องวันพิธีที่จะมาถึงใน 15 วันต่อมา

พิธีจะจัดขึ้นอีก 3 เดือน

ไม่นานหลังจากที่รู้วันที่แน่นอนแล้ว จักรพรรดิดาวทมิฬก็ได้เรียกรวมหัวหน้าศาลาทั้งสิบ ดังนั้นหัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาได้กลับไปรวมตัวกันที่โถงศักดิ์สิทธิ์ดาวทมิฬอีกครั้ง

“ศพสัตว์อสูรกลืนชีวิตระดับราชาเทพที่เรามีสำหรับพิธีตอนนี้ยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าเพียงพอ หากเราพึ่งคนนอกในการล่ามันในภูเขาโลกาแฝดแล้ว เราคงไม่อาจจะได้ทันเวลา ผลก็คื อเพื่อที่จะมีศพมากพอโดยเร็วที่สุด ข้าตัดสินใจจะพาพวกเจ้าไปฆ่าพวกมันในภูเขาโลกาแฝด” จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความสูงส่ง

หัวหน้าศาลาคนอื่น ๆ ต่างก็มองหน้ากัน ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าต้องแสดงท่าทียังไงออกมา ด้วยฐานะพวกเขาในเผ่าดาวทมิฬแล้ว พวกเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองที่เป็นหัวหน้าศาลาและรองหัวหน้า าศาลาต้องเคลื่อนพลเข้าไปยังภูเขาโลกาแฝดเพื่อศพสัตว์อสูรกลืนชีวิตระดับราชาเทพ

แน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในประวัติศาสตร์เผ่าดาวทมิฬ

“เพราะพิธีครั้งนี้ต่างจากในอดีต ไม่ใช่แค่เราต้องการศพสัตว์อสูรกลืนชีวิตระดับราชาเทพมากขึ้น แต่เรายังต้องการศพของสัตว์อสูรกลืนชีวิตที่เป็นราชาเขตซึ่งขึ้นไปถึงขอบเขตตั้ง งต้นด้วย เราต้องรวบรวมศพพวกนั้นให้ได้ในครึ่งเดือน” จักรพรรดิดาวทมิฬแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาซึ่งแสดงว่าสิ่งที่เขาพูดมานี้ไม่ใช่เรื่องตลก เขาตัดสินใจว่าจะพายอดฝีมือขอบเขตบ บรรพกาลเข้าไปยังภูเขาโลกาแฝดเพื่อล่าสัตว์อสูรกลืนชีวิตระดับราชาเทพ

ทันทีที่ได้ยินเกี่ยวกับศพสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้น หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาต่างก็พากันเปลี่ยนสีหน้ากันทันที

ครั่งหนึ่งสมาชิกของเผ่าดาวทมิฬของพวกเขาได้เข้าไปยังภูเขาโลกาแฝด ไม่ใช่แค่พลังที่ถูกยับยั้งเอาไว้ที่กันไม่ให้ใช้พลังออกมาได้เต็มที่ แต่แค่คลื่นพลังที่รั่วไหลออกไปจะทำให ห้สัตว์อสูรกลืนชีวิตทั้งหมดในภูเขาโลกาแฝดต้องตื่นตัวซึ่งนำไปสู่การล้อมพวกเขาเอาไว้

หากพวกเขาเริ่มสู้ในภูเขาโลกาแฝด งั้นไม่ใช่แค่ถูกยั้งพลังเอาไว้ แต่พวกไม่อาจจะฟื้นฟูได้เต็มที่เช่นกัน และพลังชีวิตของพวกเขาก็จะถูกกลืนกินไปโดยสัตว์อสูรกลืนชีวิตอย่างต่อ อเนื่อง

ในทางกลับกันแล้ว สัตว์อสูรกลืนชีวิตนั้นแทบมีพลังไม่รู้จบเพราะสภาพแวดล้อมที่พิเศษของภูเขาโลกาแฝดที่อวยพรพวกมัน พวกมันสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ในเวลาอันสั้นโดยไม่ว่าบาดแผลจ จะหนักหนาแค่ไหนก็ตาม ด้วยข้อได้เปรียบและเสียเปรียบเหล่านี้แล้ว ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายที่แม้ว่จะมีพลังทัดเทียมกันแต่ก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ความต่างแบบนี้ไม่อาจจะมีอะไรมา าทดแทนได้

ผลก็คือหัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาทั้งหมดต่างก็พากันเคร่งเครียดขึ้นมาเมื่อได้ยินว่าพวกเขาต้องเข้าไปยังภูเขาโลกาแฝดเพื่อล่าสัตว์อสูรกลืนชีวิต

“ ฆ่าราชาเขตสัตว์อสูรกลืนชีวิตที่อ่อนแอนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้า ปล่อยเรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง ที่พวกเจ้าต้องทำคือล่าสัตว์อสูรกลืนชีวิตระดับราชาเทพให้ได้มากที่สุด” จักรพรรดิดาวทมิฬพูดขึ้นมาด้วยท่าทีผ่อนคลาย ตอนที่เขาพูดถึงการฆ่าสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นนั้น สีหน้าเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยราวกับพูดเรื่องเล็กน้อยอยู่

แต่เจี้ยนเฉินรู้ว่าจักรพรรดิดาวทมิฬมีความสามารถเช่นนั้นจริง ๆ ในครั้งที่แล้วที่เขาเข้าไปในภูเขาโลกาแฝด จักรพรรดิดาวทมิฬได้แสดงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าทุกอย่างออกมา หากเ เขาลอบโจมตีสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นที่อ่อนแอแล้ว เขาก็ฆ่ามันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวก่อนที่จะถอยกลับมาได้ง่าย ๆ

ระหว่างเช้าวันต่อมา เจี้ยนเฉินก็ได้นำรองหัวหน้าศาลาที่ห้าทั้งสามคนเข้าไปยังภูเขาโลกาแฝดพร้อมกับยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดจากศาลาอีก 9 แห่งและจักรพรรดิดาวทมิฬด้วย

งานของพวกเขานั้นตกลงกันไว้อย่างชัดเจนแล้ว อย่างแรก จักรพรรดิดาวทมิฬจะดึงความสนใจจากสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นโดยที่หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาที่เหลือจะกระจายตัวไ ไปโดยรอบเพื่อฆ่าสัตว์อสูรกลืนชีวิตระดับราชาเทพ

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงคำรามดังขึ้นในส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝดพร้อมกับเสียงคำรามของสัตว์อสูรอื่น ๆ ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จักรพรรดิดาวทมิฬได้ระเบิดคลื่นพลังของตัวเองออกมาทัง งหมดซึ่งทำให้เขาเหมือนกับดวงอาทิตย์ในภูเขาโลกาแฝด เขาได้ดึงความสนใจจากสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดได้ในทันที

ครั้งนี้ จักรพรรดิดาวทมิฬไม่ได้สู้กับสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นเหมือนครั้งที่แล้ว กลับกันแล้ว เขากลับใช้ทักษะเคลื่อนที่ในการควบคุมเพื่อเข้าไปยังส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝด และทำการล่อสัตว์อสูรกลืนชีวิตโดยรอบ

เพราะแบบนั้นเขาจึงใช้พลังงานน้อยลงกว่าเดิม ชัดแล้วว่าเขาอยู่ในส่วนลึกได้นานกว่าเดิมด้วย

หัวหน้าศาลาและรองหัวหน้าศาลาได้กระจายตัวไปโดยรอบเพื่อฆ่าสัตว์อสูรกลืนชีวิตระดับราชาเทพทีละตัวโดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้โดยให้เกิดความวุ่นวายน้อยที่สุด

ทันใดนั้นจำนวนสัตว์อสูรกลืนชีวิตระดับราชาเทพในภูเขาโลกาแฝดก็ลดฮวบลง สัตว์อสูรกลืนชีวิตที่ไล่ตาม จักรพรรดิดาวทมิฬไปโดยรอบนั้นราวกับเล่นแมวไล่จับหนู เพราะความฉลาดที่จ จำกัดนั้นพวกมันจึงไม่อาจจะมองแผนของจักรพรรดิดาวทมิฬออกในทันที