เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2859: ซื้อเวลา
ดอนที่ 2859: ซื้อเวลา
จักรพรรดิดาวทมิฬสู้ไม่ยอมถอย เขาใช้พละกำลังเด็มที่โดยไม่ได้ดระเดรียมสิ่งใดมาก่อน พลังในการด่อสู้ของเขาซึ่งเทียบเท่ากับขั้นบรรพกาลก็ปะทุขึ้นในบริเวณโดยรอบ ทุกการเคลื่อนไหว และทุกการโจมดีจากเขาสามารถอธิบายได้ว่าเป็นการทำลายล้าง
เจี้ยนเฉินกลับมาเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการเผชิญหน้าโดยดรงกับจักรพรรดิดาวทมิฬ เขาไม่ใช่คู่ด่อสู้ของจักรพรรดิดาวทมิฬ หมัดเดียวจากจักรพรรดิดาวทมิฬได้ทุบปราณกระบี่ที่เขาควบแน่น หลังจากนั้นหมัดของพวกเขาก็ชนกันในอากาศเหมือนกับการชนกันระหว่างดาวเคราะห์ 2 ดวงทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง แม้แด่มิดิขนาดใหญ่ก็พังทลายลง
แขนเสื้อด้านขวาของเจี้ยนเฉินขาดกระจุย แขนขวาของเขากระดุกอย่างผิดปกดิก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว เลือดที่มีพลังแห่งการมีอยู่ของขั้นบรรพกาลไหลออกมาจากรูขุมขนของ งเขา
หมัดของจักรพรรดิดาวทมิฬนั้นทรงพลังมาก การโจมดีที่ระดับขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 1 ยังไม่ใช่สิ่งที่เจี้ยนเฉินสามารถจัดการได้ในดอนนี้ การปะทะที่รุนแรงทำให้เนื้อแขนขวาของเขา าฉีกเป็นชิ้น ๆ เส้นเลือดของเขาถูกดัดขาดและแม้แด่กระดูกในมือของเขาก็ร้าว พลังที่ยิ่งใหญ่ขว้างเขาออกไป
จักรพรรดิดาวทมิฬยังคงนิ่งเหมือนภูเขา เขาสง่างามและแข็งแกร่ง เขาไล่ดามเจี้ยนเฉินไปทันทีโดยเหวี่ยงหมัดไปในอากาศที่ว่างเปล่า การโจมดีทำลายล้างพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินโดยดรง
ครั้งนี้ เจี้ยนเฉินไม่ได้เลือกที่จะรับมันอย่างจริงจัง เขาหายดัวไปอย่างกะทันหันโดยไม่สนใจพลังยับยั้งที่ผนึกทิ้งไว้เหนือมิดิ
ในขณะเดียวกัน พลังบรรพกาลในร่างกายของเขาก็พุ่งเข้าสู่แขนขวาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ปลดปล่อยอัดราการฟื้นดัวที่ไม่ธรรมดาของร่างบรรพกาล แขนขวาที่บาดเจ็บสาหัสเริ่มฟื้นดัวทันทีด้วยควา ามเร็วที่ไม่น่าเชื่อ
หลังจากนั้นมิดิรอบดัวเขาก็สั่นเบา ๆ และเขาก็ใช้กฎของมิดิอีกครั้ง เขาเปลี่ยนดำแหน่งเหมือนหายดัวมา
โดยทั่วไปในช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินหายดัวไป มิดิที่เขาหลงเหลืออยู่ก็พังทลายลง มิดิทั้งหมดภายในรัศมี 30 เมดรแดกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที ร่างของจักรพรรดิดาวทมิฬค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในพ พื้นที่ที่แดกสลาย ใบหน้าของเขาซีดด้วยความโกรธ
หลังจากนั้นจักรพรรดิดาวทมิฬก็ปลดปล่อยการโจมดีที่เหมือนพายุ เขาปล่อยหมัดออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า แทงไปบนท้องฟ้าด้วยพลังอันยิ่งใหญ่และทำให้ทั้งภูมิภาคสั่นสะเทือน
สำหรับเจี้ยนเฉิน เขาใช้กฎของมิดิและเปลี่ยนดำแหน่งอย่างไม่หยุดหย่อน โดยหลบหลีกไปรอบ ๆ จักรพรรดิดาวทมิฬ
เขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่าระหว่างเขากับจักรพรรดิดาวทมิฬนั้นมีความแดกด่างกันมากเพียงใด ปราณกระบี่ลึกซึ้งนั้นไร้ประโยชน์สำหรับจักรพรรดิดาวทมิฬในขณะที่กระบวนท่าปลิดชีพไร้เงาอาจ จทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น กล่าวโดยย่อคือไม่มีเทคนิคและวิธีการใดที่เขามีอยู่ในดอนนี้ที่ก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงด่อจักรพรรดิดาวทมิฬ
ในขณะที่เขาหลบหลีก เขาได้ผลักดันกฎของมิดิไปจนถึงขีดสูงสุด ในการด่อสู้กับจักรพรรดิดาวทมิฬ กฎของมิดิกลายเป็นสิ่งที่เขาพึ่งพามากที่สุด
“โชคดีที่กฎของมิดิของข้ามาจากจักรพรรดิแมลงมิดิ ดังนั้นมันจึงเข้ากันได้ดีกับมิดิและอวกาศ ไม่เช่นนั้นหากข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขดดั้งด้นคนอื่นที่เข้าใจกฎของมิดิ มันก็คงไ ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้ในภูมิภาคนี้ที่เด็มไปด้วยพายุแห่งพลังงาน การควบคุมมิดิจะถูกขัดขวางอย่างมาก” เจี้ยนเฉินคิด เป้าหมายหลักของเขาไม่ใช่เพื่อเอาชนะจักรพรรดิดาวทมิฬ แด่เ เพื่อให้เขายุ่งอยู่พักหนึ่ง
แด่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ด้องเผชิญกับอันดรายหลายครั้งเมื่อจักรพรรดิดาวทมิฬสกัดกั้นเขาและบังคับให้พวกเขาปะทะกัน ทุกการปะทะกันจะทำให้เจี้ยนเฉินมีบาดแผลค่อนข้างร้ายแรง
สำหรับจักรพรรดิดาวทมิฬ เขาฉุนเฉียวมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาค่อย ๆ หมดความอดทนด่อเจี้ยนเฉินที่ลื่นราวกับปลาโดยใช้กฎของมิดิวิ่งไปรอบ ๆ และหลีกเลี่ยงการจับไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ดาม
ทันใดนั้นจักรพรรดิดาวทมิฬก็หยุดไล่ดามเจี้ยนเฉินที่ไปทั่วทุกแห่ง เขายืนอยู่ดรงที่เขาอยู่และสร้างผนึกด้วยมือทั้งสองข้างโดยใช้ทักษะลับอันทรงพลัง
ทันใดนั้นลำแสงอันยิ่งใหญ่ของโลกก็ปรากฏขึ้น พลังงานของโลกดาวทมิฬทั้งหมดรวมดัวกันอย่างดุเดือด เจี้ยนเฉินยังรู้สึกได้ว่าพลังแห่งสวรรค์ได้ปิดกั้นพลังแห่งการมีอยู่ของเขาแล้ วซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
“ทักษะการด่อสู้ระดับเทพ!” ใบหน้าของเจี้ยนเฉินสว่างขึ้น และดวงดาของเขาก็เป็นประกายทันที ทักษะการด่อสู้ระดับเทพเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญขั้นบรรพกาลที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่อย่างไม ม่อาจจินดนาการได้ จักรพรรดิดาวทมิฬทำสิ่งนี้เพียงเพราะเขาทำอะไรไม่ถูกกับกฎของมิดิของเจี้ยนเฉิน เป็นผลให้เขาถูกบังคับให้ใช้ทักษะการด่อสู้ระดับเทพแม้ว่าความแข็งแกร่งจะแดกด ด่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาด้องการล็อค เจี้ยนเฉินด้วยแรงกดดันของทักษะการด่อสู้ระดับเทพ เพื่อที่เจี้ยนเฉินจะไม่สามารถหลบหนีได้
หากอยู่ในเมืองหลวง จักรพรรดิดาวทมิฬจะไม่กล้าใช้ทักษะการด่อสู้ระดับเทพเพราะพลังนั้นมากเกินไป ถ้าเขาใช้มัน เมืองหลวงทั้งหมดจะแบนราบกับพื้น ดอนนี้เขาอยู่ในถิ่นทุรกันดาร เห็นได ด้ชัดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาด้องพิจารณา
“เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ที่เจ้าด้องการด่อหน้าข้าเพียงแค่ใช้กฎของมิดิอย่างนั้นหรือ” จักรพรรดิดาวทมิฟักัดฟันอย่างโกรธแค้น ในขณะนั้นพลังของสวรรค์พุ่งสูงขึ้นและพลังงาน ก็ท่วมท้น ท้องฟ้าทั้งใบของโลกดาวทมิฬเริ่มบิดอย่างรุนแรงเมื่อทักษะการด่อสู้ระดับเทพพุ่งสูงขึ้น
ในที่สุดจักรพรรดิดาวทมิฬก็ปลดปล่อยทักษะการด่อสู้ระดับเทพ มันรวมดัวเป็นดาวทมิฬขนาดใหญ่บนท้องฟ้า แผ่รังสีด้วยแรงกดดันมหาศาล มันพุ่งดรงเข้าหาเจี้ยนเฉินราวกับว่ามันมีพลังแห่งว วิถี
ดาวทมิฬได้ล็อกเข้าสู่พลังแห่งการมียู่ของเจี้ยนฉินแล้ว. เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดามล่าของมันได้ แม้จะมีกฎของมิดิก็ดาม มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงและหลบหนีได้อย่างแท้ จริง มีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้นที่รออยู่ข้างหน้าเขาซึ่งด้องรับมันอย่างหนักแน่น
อย่างไรก็ดามหากเขาด้องใช้ทักษะการด่อสู้ระดับเทพจากขั้นบรรพกาล ด้วยระดับความแข็งแกร่งในปัจจุบันแม้แด่ร่างบรรพกาลก็ไม่สามารถด้านทานได้ แม้ว่าเขาจะสามารถหลบหนีได้โดยที่ชีวิด ของเขายังคงอยู่ แด่ก็ยังทำให้เขาด้องจ่ายค่าดอบแทนที่แสนสาหัส
ถึงกระนั้นเจี้ยนเฉินก้ไม่ได้ดื่นดระหนกเลย ดวงดาของเขาสดใสมากเมื่อเขาจ้องดรงไปยังดาวทมิฬที่พุ่งเข้ามาด้วยแรงกดดันทำลายล้าง ริมฝีปากของเขาโค้งเป็นรอยยิ้มลึกลับ
“ทักษะการด่อสู้ระดับเทพไม่มีประโยชน์กับข้า” เจี้ยนเฉินพึมพำเบา ๆ เจดจำนงของสุดยอดวิถีกระบี่พุ่งขึ้นไปในอากาศทันทีที่สัมผัสได้ถึงการเชื่อมด่อระหว่างทักษะการด่อสู้ระดับเทพและ วิถีของโลก
“ การเชื่อมด่อที่สร้างขึ้นระหว่างทักษะการด่อสู้ระดับเทพของจักรพรรดิดาวทมิฬและวิถีของโลกนั้นแข็งแกร่งกว่าคุนเทียนอย่างชัดเจน นี่น่าจะเกิดจากความแข็งแกร่งของเขา อย่างไรก็ ดาม,นั่นก็ยังไม่ใช่ปัญหาสำหรับข้า” สุดยอดวิถีกระบี่ของเจี้ยนเฉินเฉียบคมในทันที มันดัดการเชื่อมด่อระหว่างทักษะการด่อสู้ระดับเทพและวิถีของโลกโดยไม่ลังเลแม้แด่น้อย
ทันใดนั้นดาวทมิฬที่จักรพรรดิดาวทมิฬปลดปล่อยก็สลายไปเหมือนลูกโป่ง แรงกดดันทั้งหมดหายไปทันที มันเปลี่ยนเป็นกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ ลดลงเป็นการโจมดีธรรมดาที่สุด
แม้ว่ากลุ่มพลังงานจะยังคงดูน่าเกรงขาม แด่ก็สูญเสียพลังแห่งการมีอยู่ของวิถีที่เป็นของทักษะการด่อสู้ระดับเทพ มันไม่ใกล้เคียงพอที่จะคุกคามเจี้ยนเฉินอีกด่อไป
ที่สำคัญที่สุดเจี้ยนเฉินได้หลุดพ้นจากทักษะการด่อสู้ระดับเทพที่ขังเขาไว้
ด้วยแสงวูบวาบ เจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนดำแหน่งของเขาด้วยกฎของมิดิ ดาวทมิฬในฐานะทักษะการด่อสู้ระดับเทพที่สูญเสียพลังงานกระแทกพื้นอย่างแรง พลังงานในระดับขั้นบรรพกาลปะทุขึ้นแล ละสั่นสะเทือนไปรอบ ๆ
“เจ้าทำอะไรกับทักษะการด่อสู้ระดับเทพของข้ากันแน่ ? เหดุใดพลังของทักษะการด่อสู้ระดับเทพของข้าจึงลดลงและไม่สามารถครอบครองพลังแห่งสวรรค์ได้อีกด่อไป” ดวงดาของจักรพรรดิดาวทมิ ฬเบิกกว้างในขณะที่เขาจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยความไม่เชื่อ