เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2866: ตอบแทน
ตอนที่ 2866: ตอบแทน
อินทรียักษ์ร่อนลงมาที่พื้นด้านหน้าและพบว่าเป็นเจี้ยนเฉินที่อยู่ด้านหน้าต้นไม้ที่ตายแล้ว ขณะที่มองเพียงแว่บเดียว สายตาของนกอินทรียักษ์จ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินเหมือนกับปกติ มันจ้องมาที่เขาตรง ๆ
เจี้ยนเฉินลอยตัวอยู่บนอากาศในระดับเดียวกับนกอินทรียักษ์ เขาจ้องมองไปที่นกอินทรีด้วยความประหลาดใจและยิ้มจาง ๆ ก่อนที่จะพูดว่า “ข้าไม่คิดว่า ข้าจะได้พบเจ้าอีกและเจ้าก็ทะลวง งไปยังขอบเขตตั้งต้นได้แล้ว ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะยังจำข้าได้อยู่หรือไม่ ? ” เมื่อมองไปที่นกอินทรี เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงสัตว์อสูรกลืนชีวิตราชาเทพที่ครั้งหนึ่งเขาใช้ มันเดินทางในภูเขา พวกเขาพบกับหลังจากที่เขาก้าวเท้าออกจากกลุ่มคนที่เข้ามาในภูเขาโลกาแฝดเป็นครั้งแรก
ซึ่งตอนนี้มันก็คือสัตว์อสูรกลืนชีวิตราชาเทพ อินทรีทองตัวยักษ์ด้านหน้าของเขาตัวนี้
ตอนนี้พวกเขาพบกันอีกครั้ง นกอินทรีทองได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตตั้งต้นแล้ว ทำให้เจี้ยนเฉินประหลาดใจมาก
นกอินทรียักษ์ไม่ทำให้เจี้ยนเฉินผิดหวัง มันจำผู้เชี่ยวชาญมนุษย์ที่เคยช่วยเหลือมันไว้ก่อนหน้าได้ในไม่ช้า หากไม่ใช่เพราะสมองสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นที่เจี้ยนเฉินมอบให้มั น มันก็ไม่สามารถทะลวงขอบเขตไปเป็นขอบเขตตั้งต้นได้เร็วขนาดนี้
ในเวลาต่อมา นกอินทรีได้ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความยินดี หัวของมันที่ใหญ่กว่าตัวเจี้ยนเฉินหลายเท่าได้เขยิบเข้าหาเขาอย่างช้า ๆ
เจี้ยนเฉินเผยรอยยิ้มที่หาได้ยาก เขาใช้มือลูบหัวนกอินทรี ขนสีทองที่ให้ความรู้สึกถึงโลหะ พวกมันแข็งมาก “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะจำข้าได้”
อินทรียักษ์ส่งเสียงร้องกังวานราวกับว่ามันกำลังสื่อสารโดยใช้ภาษาของมันเอง จากนั้นมันก็หันไปรอบ ๆ ทันทีพร้อมกับสอดใต้เท้าของเจี้ยนเฉิน หลังจากที่เจี้ยนเฉินไม่ทันได้บอกอะไร มัน นก็กระพือปีกโผทะยานและแรงลมจากปีกพัดกวาดไปรอบข้าง มันทะยานสู่ท้องฟ้าโดยมีเจี้ยนเฉินอยู่ด้านหลัง
นกอินทรียักษ์ทะยานขึ้นอย่างมีความสุขท่ามกลางท้องฟ้าที่มีหมอกปกคลุม มันมองผ่านแนวภูเขาที่อยู่ด้านล่างอย่างภูมิใจด้วยท่าทีสำรวจ มันส่งเสียงร้องกังวานครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับมัน นกำลังแนะนำอาณาเขตของมันให้กับเจี้ยนเฉินด้วยภาษาที่เขาไม่อาจเข้าใจ
ระหว่างทางมันปล่อยแรงกดดันขอบเขตตั้งต้น ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใดสัตว์อสูรกลืนชีวิตทั้งหมดก็สั่นสะท้านอยู่บนพื้นราวกับว่ามันกำลังแสดงท่าทางเคารพอย่างสูงสุดต่อราชาของพวกมัน
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนหลังของนกอินทรีและยิ้มจาง ๆ เขาเลี้ยงนกอินทรีตัวนี้ให้เชื่องเหมือนกับสัตว์ที่เขาชอบในอดีต หลังจากนั้นเมื่อเขาฆ่าสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งตั้นและ ะมอบสมองให้กับมัน เขาก็ไม่ได้คิดมากนัก อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าการกระทำของเขาในอดีตจะสร้างราชาในภูเขาโลกาแฝดได้ในเวลาสั้น ๆ
ท้ายที่สุดแล้วนกอินทรียักษ์ก็ได้พาเจี้ยนเฉินกลับไปยังรังของมัน มันเป็นต้นมงกุฏขนาดใหญ่มากและต้นไม้ก็ยังมีสัตว์อสูรกลืนชีวิตที่อยู่ในขั้นราชาเทพสูงสุดแล้วด้วย
นกอินทรียักษ์ร่อนลงบนยอดไม้ตามธรรมชาติ หลังจากนั้นไม่นานกิ่งต้นไม้มากมายก็เลื้อยขึ้นมา แต่ละกิ่งได้ขังสัตว์อสูรกลืนชีวิตที่อ่อนแอหลายตัว ซึ่งทั้งหมดถูกส่งมาป้อนให้ถึงปาก กของนกอินทรี
ทั้งหมดนี้เป็นอาหารของนกอินทรี !
นกอินทรียักษ์อ้าปากและดูดอาหารทั้งหมดก่อนที่จะแสดงสีหน้าพึงพอใจ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่ามันจะนึกอะไรขึ้นได้บางอย่าและเปิดมุมหนึ่งของรังออกด้วยจงอยปากเผยให้เห็นของเหลว สีเขียวขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยพลังชีวิตที่หนาแน่น มันใช้หัวของมันดันเจี้ยนเฉินไปยังแอ่งของเหลวสีเขียวนี้
เจี้ยนเฉินจำของเหลวสีเขียวนี้ได้อย่างชัดเจน มันคือน้ำแห่งชีวิตที่ควบแน่นจากพลังชีวิตที่หนาแน่น มันมีผลที่น่าอัศจรรย์มากไม่ว่าจะเป็นการรักษาหรือหลอมยา และเป็นสิ่งที่คนนอก กทั้งหมดต้องการ
น้ำแห่งชีวิตเป็นสิ่งของที่พิเศษของโลกดาวทมิฬ แต่จะปรากฏเฉพาะในภูเขาโลกาแฝด ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งเผ่าดาวทมิฬไม่อาจควบคุมได้
ขณะที่เขามองไปแอ่งน้ำแห่งชีวิตและวิเคราะห์การกระทำของนกอินทรี เจี้ยนเฉินก็เข้าใจเจตนาของมันได้อย่างรวดเร็ว เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มและแสดงท่าทีเกี่ยวกับมัน “เจ้าต้องการให้น้ำ แห่งชีวิตกับข้า ? ”
ดูเหมือนว่านกอินทรีจะไม่เข้าใจคำพูดของเจี้ยนเฉิน แต่มันเข้าใจท่าทางของเจี้ยนเฉิน ดังนั้นมันจึงพยักหน้า
“เอาล่ะ เช่นนั้นข้าขอรับน้ำแห่งชีวิตแล้วกัน” เจี้ยนเฉินไม่ได้สงวนท่าทีใด ๆ เขาหยิบขวดหยกออกมาทันทีและเก็บน้ำแห่งชีวิตออกไป น้ำแห่งชีวิตมีไม่มากนัก มีเพียงประมาณหนึ่งถึงหน นึ่งลิตรครึ่ง แต่ก็มีราคาที่น่าประทับได้เลย
“พลังชีวิตหนาแน่นมาก คงเป็นเรื่องยากมาที่จะพบน้ำแห่งชีวิตคุณภาพสูงเช่นนี้ในโลกเซียน อาจมีเพียงภูเขาโลกาแฝดเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่ที่จอมปราชญ์จิตวิญญาณแห่งไม้สร้างขึ้นเท่านั้น นที่จะสามารถผลิตน้ำแห่งชีวิตคุณภาพสูงได้” เจี้ยนเฉินคิด เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าน้ำแห่งชีวิตนี้หายากและล้ำค่าเพียงใดในโลกเซียน
ในโลกเซียน น้ำแห่งชีวิตเป็นของหายากแต่ใช่ว่าจะหาไม่ได้ ความจริงแล้วผู้เชี่ยวชาญบางคนที่เข้าใจกฏที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่จะสามารถผลิตน้ำแห่งชีวิตได้ด้วยพลังของพวกเขา อย่ างไรก็ตามคุณภาพของมันเทียบไม่ได้กับสิ่งที่อยู่ในภูเขาโลกาแฝด
หลังจากที่เจี้ยนเฉินได้ส่งสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ที่มีจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่เพื่อตรวจสอบบาดแผลของมัน ไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วทันที
จักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นยังหมดสติ แต่เจี้ยนเฉินสัมผัสได้ถึงพลังสายเลือดสองสายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกำลังทำสงครามกันเองและปะทะกัน
หนึ่งคือสายเลือดจากจอมปราชญ์เผ่าดาวทมิฬ ที่ตอนนี้พลังของสายเลือดดาวทมิฬมาจากแก่นโลหิตที่ทรงพลังมากกว่าสายเลือดเดิมของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ถึงกว่าเก้าในสิบส่วน
อีกสายเลือดนั้นเป็นของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งน่าจะเป็นของพยัคฆ์ปีกเทวะที่ดูอ่อนแอกว่ามาก มันเหมือนกับเรือลำน้อยที่กำลังแล่นอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรมีเกิดมรสุมจากสายเ เลือดเผ่าดาวทมิฬและกำลังตกอยู่ในอันตราย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่สายเลือดที่เป็นของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นอ่อนแอมาก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความดื้นรั้นที่ไม่อาจจินตนาการได้ ภายใต้การกดดันและการดูดซึมที่ทรงพลังของสา ายเลือดเผ่าดาวทมิฬ มันเหมือนกับเทียนที่อยู่กลางพายุและอาจดับได้ทุกเมื่อ แต่มันก็ยังคงส่องแสงต่อไป
“นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย ย้อนกลับไป เผ่าดาวทมิฬจัดพิธียิ่งใหญ่และพลังของสายเลือดของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ข้ารู้สึกได้อย่างชัดเจนมาก แต่เมื่อ อข้าช่วยจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์พลังสายเลือดเดิมของเขาควรจะไม่มีอยู่แล้ว” เจี้ยนเฉินผงะ เขาเริ่มศึกษาจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างใกล้ชิดทันทีโดยพบความประหลาดใจหลังจากนั้ นไม่นาน เลือด เนื้อ อวัยวะ เส้นเอ็น กระดูก หรือแม้แต่หนังของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ ส่วนนั้นต่างแผ่พลังลึกลับออกมา มันรวมตัวกันเป็นเกลียวโดยกระจัดกระจายก่อนที่จะหลอม มรวมเข้าด้วยกันกับพลังที่อ่อนแอของสายเลือดของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์
นี่คือพลังที่เป็นของสายเลือดดั้งเดิมของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ !
“หยดแก่นโลหิตของจอมปราชญ์เผ่าดาวทมิฬไม่สามารถลบล้างสายเลือดของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้ทั้งหมด ? ” เจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าเขาจะพบมัน เขาก็ไม่อาจ จทำอะไรได้เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ได้ตรวจสอบวิญญาณของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์แต่ก็พบว่ามันยุ่งเหยิง เจี้ยนเฉินไม่อาจทำสำเร็จได้โดยเฉพาะกับวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจระบุสถานการณ์แน่นอน นได้ในทันที
“ดูเหมือนทั้งหมดที่ข้าทำได้คือขอให้ขั้นบรรพกาลหรือแม้แต่อัครสูงสุดช่วยดูเมื่อข้าออกไป” เจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้ แม้ว่าเขาจะช่วยจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว แต่เขา ก็ไม่มีพลังมากพอกับสถานการณ์ปัจจุบันของจักรพรรดิพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์
ท้ายที่สุดสิ่งนี้ได้สัมผัสกับสายเลือดจอมปราชญ์ มันต้องมีระดับความเข้าใจที่สูงมาก มันไม่ใช่สิ่งที่ขั้นอสงไขยอย่างเขาจะเข้าไปยุ่งได้
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เริ่มพิจารณาปัญหาที่จะเกิดขึ้น บาดแผลส่วนใหญ่ของเขาหายไปเป็นปกติแล้ว แม้ว่าเขาจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่เขาก็ใกล้หายดีแล้ว ตอนนี้เขาต้องหาสถานที่ซึ่ง งเขาจะทะลวงขั้นต่อไป