เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2867: กินผลแห่งวิถีฟื้นฟู
ตอนที่ 2867: กินผลแห่งวิถีฟื้นฟู
ไม่เพียงแต่เขาจะทะลวงเส้นทางกระบี่ในครั้งนี้ เขายังทะลวงขั้นของร่างบรรพกาลอีกด้วย หากเขาทะลวงติด ๆ กันแม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะสร้างความวุ่นวายหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงต้องหา สถานที่ปลอดภัย
อาณาเขตของเผ่าดาวทมิฬนั้นไม่มีข้อจำกัด เขาสามารถพบได้ตลอดเวลา หากเขาสามารถดึงดูดจักรพรรดิดาวทมิฬในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ผลที่ตามมามันจะเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง
ในทางกลับกัน ภูเขาโลกาแฝดดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่สุด เผ่าดาวทมิฬไม่กล้าพอที่จะเข้ามาที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาณาเขตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนกอินทรียักษ์ มันสามารถยับยั้งสัตว ว์อสูรกลืนชีวิตอื่น ๆ จำนวนมากไม่ให้มารบกวนเขาได้
อย่างไรก็ตามเขาก็กังวลเช่นกันว่าหากการทะลวงด่านของเขาก่อให้เกิดความวุ่นวายมากเกินไป มันจะดึงดูดให้สัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดในภูเขาโลกาแฝดมา แม้ว่านกอินทรีจะอ อยู่ในขอบเขตตั้งต้นเช่นกัน แต่มันก็เพิ่งจะทะลวงขอบเขตได้มา มันอยู่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 1 มันไม่อาจหยุดยั้งสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นตัวอื่น ๆ ได้
“ไม่ว่าข้าจะคิดอย่างไง สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือทางเข้าที่เชื่อมระหว่างโลกวิญญาณและโลกดาวทมิฬ เนื่องจากมันตั้งอยู่ในส่วนลึกของภูเขาโลกาแฝดและถูกล้อมด้วยกำแพงที่ทรงพลัง ง ไม่มีสัตว์อสูรกลืนชีวิตตัวใดผ่านเข้ามาได้ แม้แต่คนของเผ่าดาวทมิฬก็ไม่อาจไปถึงที่นั่นได้เช่นกัน”
“สถานที่แห่งนั้นเป็นพื้นที่พิเศษที่มีเพียงคนนอกเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้” เจี้ยนเฉินคิด อย่างไรก็ตามมันมีปัญหาเดียว คือเขาไม่รู้ว่าทางเข้านั้นอยู่ที่ไหน ท้ายที่สุดแล้วภูเข ขาโลกาแฝดนั้นมีขนาดใหญ่เกินไปเกือบจะมีขนาดเท่ากับพื้นที่ภายใต้การควบคุมของเผ่าดาวทมิฬและภูมิประเทศที่นี่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าเขาเดินทางเป็นเส้นตรง มันก็มีความเป็นไปได้ว่าเขา าอาจจะเดินทางเป็นวงกลม
ด้วยเหตุนี้หากเขาไม่มีตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำ มันก็บอกได้ว่ามันจะยากแค่ไหนในการหาทิศทางที่ถูกต้องของทางเข้าพื้นที่ขนาดใหญ่
ในภูเขาโลกาแฝด เจี้ยนเฉินไม่กลัวที่จะพบกับโลกดาวทมิฬ หลังจากที่เขาอยู่ในโลกดาวทมิฬมาเป็นเวลานาน เขาได้ทิ้งเครื่องหมายไว้มากกว่าหนึ่งแห่ง ตามสถานที่ต่าง ๆ เมื่อนานมาแล้ว เขารู้สึกถึงตำแหน่งของเครื่องหมายและเขาสามารถหาทางออกได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ทิ้งเครื่องหมายไว้ที่ทางเข้าระหว่างสองโลก เนื่องจากเขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์เมื่อเขาเข้ามายังที่นี่เป็นครั้งแรก
เมื่อเจี้ยนเฉินเหลือบมองไปที่นกอินทรียักษ์โดยไม่รู้ตัว ดวงนาของเขาก็เบิกกว้างทันที นกอินทรรียักษ์ไม่เพียงแต่เป็นสัตว์อสูรกลืนชีวิตเท่านั้น มันยังคงเกิดและเติบโตในภูเขาโ โลกาแฝดอีกด้วย มันเข้าถึงขอบเขตตั้งต้นและกลายเป็นหนึ่งในราชาของภูมิภาคทั้งหลายในภูเขาโลกาแฝด มันยังมีอาณาเขตเป็นของตัวเอง เจี้ยนเอฉินเลยสงสัยว่ามันจะรู้ว่าทางเข้าอยู่ท ทางทิศไหนหรือไม่
เขาลงมือทันทีที่คิดเสร็จ เจี้ยนเฉินเริ่มสื่อสารกับนกอินทรียักษ์ทันที แต่เนื่องจากนกอินทรียักษ์เป็นสัตว์อสูรกลืนชีวิตมันเลยไม่ค่อยฉลาดนักแม้จะมีสติปัญญาก็ตาม มันมีปัญหามาก กมายในการสื่อสารกับมัน
ท้ายที่สุด เจี้ยนเฉินก็ลองใช้วิธีการต่าง ๆ และใช้ความพยายามอย่างมากก่อนที่จะทำให้นกอินทรีเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
นกอินทรียักษ์เงยหน้าขึ้นราวกับว่ามันคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะส่งเสียงร้องในเวลาต่อมาและบอกให้เจี้ยนเฉินขึ้นหลังมัน ทันทีที่เจี้ยนเฉินขึ้นหลังก็เกิดแรงลมกรรโชกจากร่างขนาดใ ใหญ่ของมัน มันหายลับเข้าไปในหมอกในพริบตา
นกอินทรียักษ์ทะยานผ่านหมอกหนาไปอย่างรวดเร็ว มันเปลี่ยนทิศทางอยู่ตลอดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงอาณาเขตของสัตว์ขอบเขตตั้งต้นตัวอื่น ๆ และเข้าไปยังบริเวณตอนกลางของภูเขาโลกาแฝดอย่าง งรวดเร็ว
ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครรู้ว่าผ่านมากี่กิโลเมตรแล้วจนกระทั่งนกอินทรียักษ์ร่อนลงบนพื้นที่แห่งหนึ่งที่มีหมอกบางกว่า มันจ้องมองไปข้างหน้าด้วยความหวาดกลัวที่เห็นได้อย่างชัดเจนใน นสายตาของมัน มันกลัวเกินกว่าจะก้าวไปไกลกว่านี้
“ข้าไม่คิดเลยว่าจะพบสถานที่แห่งนี้เร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าข้าไม่ได้ให้สมองของสัตว์อสูรกลืนชีวิตขอบเขตตั้งต้นไปอย่างเสียเปล่า” เจี้ยนเฉินผ่อนคลาย สัมผัสวิญญาณของเขาพุ่งสูงข ขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของม่านพลังที่อยู่ห่างออกไป 100 กิโลเมตร ภายในกำแพงนั้นเป็นทางเชื่อมระหว่างสองโลก
เจี้ยนเฉินกระโดดลงจากหลังนกอินทรียักษ์ หลังจากที่ร่ำลานกอินทรีแล้ว เขาก็ปรากฏอีกทีห่างออกไปหลายกิโลเมตรและมาอยู่ด้านหน้าม่านพลัง
ม่านพลังนั้นกั้นไม่ให้สัตว์อสูรกลืนชีวิตและหมอกทั้งหมดเข้ามา แต่มันไม่ปิดกั้นคนนอก
เจี้ยนเฉินนั้นเดินผ่านเข้าไปในม่านพลัง และเห็นการหมุนวนของพลังปราณขนาดใหญ่อยู่ในมิติกลางอากาศห่างออกร้อยกิโลเมตรตั้งแต่แว่บแรก
นั่นคือทางเชื่อมระหว่างสองโลก โดยการเดินผ่างกระแสพลังปราณเหล่านั้นเท่านั้น ถึงจะไปถึงโลกจิตวิญญาณได้ตรง ๆ
“มีเพียงคนนอกเท่านั้นที่จะสามารถย่างกลายเข้ามาที่นี่ได้ แต่คนนอกเหล่านั้นต้องมีการบ่มเพาะแค่ราชาเทพเท่านั้น ดังนั้นการเลือกที่จะทะลวงขอบเขตที่นี่จึงปลอดภัยที่สุด” เจี้ยนเฉิน นคิด เขาไม่ได้เข้าใกล้ม่านพลัง เขาหาสถานที่ที่ห่างไกลแต่ก็ไม่ใกล้ม่านพลังและโยนม่านพลังมิติลง
ม่านพลังมิติมีการป้องกันในระดับหนึ่งและสามารถป้องกันสัมผัสวิญญาณของคนที่อยู่ต่ำว่าขอบเขตตั้งต้นได้ แน่นอนว่าประโยชน์สูงสุดของมันคือการหักเหแสง ดังนั้นมันจึงสามารถหลอกตาเป ปล่าได้
ในขณะที่ม่านพลังมิติถูกสร้างขึ้น เจี้ยนเฉินก็หายไปทันที แสงบริเวณใกล้ๆที่เขายืนอยู่ได้ถูกหักเหไปแล้ว ด้วยเหตุนี้หากมีบุคคลภายนอกผ่านทางเดินพวกเขาก็จะไม่สามารถมองเห็นเจี้ยนเ เฉินได้ด้วยตาเปล่า
ม่านพลังมิติอาจขวางกั้นสัมผัสวิญญาณได้ แม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับราชาเทพ ม่านพลังที่ล้อมรอบนี้สามารถขวางกั้นสัมผัสวิญญาณไ ได้และเจี้ยนเฉินก็อยู่ใกล้กับม่านพลังมิติ
เช่นเดียวกัน แม้ว่าม่านพลังมิติจะป้องกันสัมผัสราชาเทพ พวกเขาก็จะเข้าใจผิดว่าเป็นม่านพลังมิติของที่นี่
เจี้ยนเฉินนั่งลงในม่านพลังมิติและทำการฟื้นฟูต่อ ก่อนที่เขาจะกินผลแห่งวิถีฟื้นฟู เขาต้องแน่ใจว่าเขาจะอยู่ในสภาพสูงสุดเพื่อที่เขาจะได้อยู่ในด้านที่ปลอดภัย
หลายวันต่อมา เจี้ยนเฉินค่อย ๆ ลืมตาขึ้น บาดแผลของเขาฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้วและแม้กระทั่งพลังของวิญญาณที่ใช้ปราณกระบี่ลึกซึ้งก็ได้รับการเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ ผ่านการกินสมบั ติสวรรค์ระดับเทพในเผ่าดาวทมิฬ
“ถึงเวลาแล้วที่ข้าต้องทำการทะลวงด่าน ! ” เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าลึก เพียงการโบกมือ ผลแห่งวิถีฟื้นฟูระดับเทพก็ปรากฏขึ้นทันที ทันทีที่มันปรากฏ กฎและวิถีก็โอบล้อมลอยวนอ อยู่รอบ ๆ ผลของมัน
ในเวลานั้นเจี้ยนเฉินรู้สึกได้ทันทีว่าเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในความลึกของหมอกบาง ๆ ลำดับวิถีที่เข้าใจยากก็ชัดเจนขึ้นทันที ทำให้ผู้คนมองเห็นได้ง่ายขึ้น
ด้วยผลแห่งวิถีฟื้นฟูที่อยู่ในมือ แม้ว่าเขาจะไม่ได้กินมันตรง ๆ แต่การบ่มเพาะข้าง ๆ มันก็จะช่วยให้เข้าใจกฏและวิถีได้ง่ายขึ้น
ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ผลแห่งวิถีฟื้นฟู เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นก่อนที่เขาจะกลืนสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดลงไปในปากเพียงการกัดไม่กี่ครั้ง
ในขณะที่ผลแห่งวิถีฟื้นฟูไหลลงมาถึงหน้าอกของเขา มันก็กลายเป็นแรงกดดันที่หนาแน่นแผ่นซ่านไปทั่วร่างกายของเจี้ยนเฉิน เขารู้สึกราวกับว่าอาศัยอยู่ในทะเลแห่งกฏในทันที มีกฏมากมา ายไม่สิ้นสุดโอบล้อมตัวเขาและทำให้เขาจมดิ่งลงไปอย่างสมบูรณ์
การอยู่ภายในทะเลแห่งกฏ ปราณวิถีที่โดยปกติแล้วเขาจะพยายามอย่างมากเพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนและตอนนี้มันชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้นอย่างฉับพลัน ในขณะที่เขาเข้าใจพวกมัน มันก็ให้ผลล ลัพธ์กับเขาถึงสองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว มันไม่อาจอธิบายความเร็วของเขาได้อีกต่อไป
โดยปกติพื้นที่ที่ขวางกั้นความก้าวหน้าของเจี้ยนเฉินนั้นทำให้เขาไม่อาจทำความเข้าใจได้อย่างละเอียด ตอนนี้เพียงแค่เขาต้องการ เขาก็ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยในการเข้าใจ ด้วยเหตุนี้ เขารู้สึกเหมือนกับได้บรรลุรู้แจ้งขึ้นมาทันที เขาเข้าใจทุกส่วนของมันอย่างชัดเจน
ตอนนี้ เจี้ยนเฉินได้ทำความเข้าใจกฎของกระบี่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทุกวินาที ๆ ที่ผ่านไป
ระยะห่างระหว่างการทะลวงความสำเร็จขั้นต้นของกระบี่อมตะและบรรลุความสำเร็จบางส่วนของอมตะกระบี่นั้นสั้นลงเรื่อย ๆ โดยพื้นฐานแล้วเขาสามารถสัมผัสขอบที่มองไม่เห็นระหว่างขอบเขตได้ แล้ว